บ่วงวิวาห์ ภรรยาตราบาป พันธะร้าย เจ้าสาวสีดำ - บทที่ 72
บ่วงวิวาห์ ภรรยาตราบาป พันธะร้าย เจ้าสาวสีดำ บทที่ 72
มาเดลีนสายตาที่พร่ามัวเห็นเพียงรองเท้าหนังสีดำราคาแพงคู่หนึ่งกำลังเดินเข้ามาใกล้ ด้วยขาที่ยาว เธอเงยหน้าขึ้น และในสภาพสะลึมสะลือ เธอมองเห็นใบหน้าที่คุ้นเคยปรากฏในสายตาก่อนที่เธอจะหมดสติไป
มาเดลีนรู้สึกตัวอีกที เธอพบว่าเธอกำลังอยู่ที่โรงพยาบาล โดยมีเอวานั่งอยู่ข้างๆเตียงเธอ
เอวาเห็นมาเดลีนลืมตาขึ้นแต่กระนั้นเธอยังไม่หายกังวลใจ “แมดดี้ เธอไม่รู้สภาพร่างกายตัวเองเหรอ? ทำไมถึงออกไปกลางสายฝนและทำให้ตัวเองตกอยู่ในสภาพเช่นนี้?”
มาเดลีนมองเห็นเอวาน้ำตาไหลจากความเป็นห่วง ดวงตาของเธอเป็นสีแดงและมุมริมฝีปากของเธอสั่นเล็กน้อย
“ดูสิตอนนี้ฉันตื่นขึ้นมาแล้วไง ไม่ใช่เหรอ?” มาเดลีนยิ้มสู้ สถานการณ์ตรงหน้า เธอรู้สึกตัวลึกๆ ว่าร่างกายของเธออาจแย่ลงมากกว่าที่เเธอคิด อีกทั้งเธอไม่ต้องการที่จะใช้สมองกับเรื่องนี้อีกต่อไป
ก่อนหน้านี้เธอจำได้แม่นว่าเธอใช้ชีวิตโดยสาบานทุกอย่างกับเจเรมี่ อาจเพราะชีวิตของเธอกำลังจะจบลงในไม่ช้า ดังนั้นคำสัญญาว่าจะตายจากความตายที่น่าสยดสยองจึงกลายเป็นเรื่องตลกและน่าขบขันที่สุดสำหรับเธอในตอนนี้
“ใครเป็นคนพาฉันมาที่นี่?”
มาเดลีนนึกถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นก่อนหน้าที่เธอจะหมดสติไป เธอจำได้ลางๆว่าเห็นใบหน้าที่คุ้นเคย
“ฉันไม่รู้ พยาบาลบอกว่าเป็นผู้ชายที่หล่อและเป็นสุภาพบุรุษมาก เออใช่ แล้วเสียงของเขาก็ฟังดูดีด้วยนะ เขาเป็นคนโทรตามให้ฉันมาที่นี่เขาใช้โทรศัพท์เธอโทรมา” เอวาพูดพร้อมกับรอยยิ้มที่น่าสนใจบนใบหน้าของเธอ เธอผลักไหล่ของมาเดลีนคล้ายอาการแซวเล็กน้อย “แมดดี้ เขาจะเป็นแฟนของเธอได้ไหมนะ?”
มาเดลีนหัวเราะเยาะเย้ยตัวเอง “ผู้หญิงอย่างฉันจะไปมีคนมาชอบได้ยังไง?”
“ทำไมล่ะเธอมีอะไรไม่ดี? เธอสวยมากไปด้วยความสามารถ เธอมีผู้ชายคอยเข้าแถวเพื่อให้เธอเลือกแต่เธอดันตาบอดเพราะความรักบ้าๆพวกนั้นและนั่นคือเหตุผลว่าทำไมคุณถึงยังคงหลงรักผู้ชายห่วยแตกคนนั้นอยู่”
นั่นสิเธอยังรักเจเรมี่อยู่หรือเปล่า?
มาเดลีนยังคงไม่แน่ใจ
หลังจากพักผ่อนไปสองสามวันในที่สุด มาเดลีนได้รู้สึกมีแรงกลับคืนมา
เจเรมี่ไม่ได้มาสร้างความเดือดร้อนให้เธอในช่วงนี้
แม้จะมีเวลาไม่มาก มาเดลีนไม่เคยคิดอยากยอมแพ้กับตัวเอง
เธอยังไม่ได้แก้แค้นลูกสาวเลย ดังนั้นเธอจะไม่ยอมให้ตัวเองตายเร็วขนาดนี้ เธอส่งเรซูเม่ไปตามที่ต่างๆจำนวนมากและในที่สุด มีบริษัทหนึ่งก็เรียกเธอไปสัมภาษณ์
มาเดลีนคาดหวังค่อนข้างมากกับโอกาสนี้ ดังนั้นเธอจึงเลือกสวมชุดสำนักงานที่เรียบง่าย
บริษัทตั้งอยู่ใจกลางเมืองและห่างจากบริษัทวิทแมนเพียงหนึ่งถนน
เมื่อมาเดลีนเดินเข้าบริษัท สิ่งไม่คาดคิดมักเกิดขึ้นกับมาเดลีนเสมอจังหวะที่เธอเดินเข้าไปเป็นจังหวะเดียวกันกับที่เมเรดิธเดินออกมา บางทีอาจเพราะเมเรดิธเองตั้งใจจะไปพบเจเรมี่ที่บริษัทวิทแมนก่อนหน้านั้นและหล่อนคงตัดสินใจแวะซื้อกาแฟระหว่างทางที่นั่น เมื่อหล่อนเห็นมาเดลีน ใบหน้าของหล่อนก็ก้มลง
“มาเดลีน เธอมันชั้นต่ำกว่าที่ฉันคิดไว้ด้วยซ้ำ! เธอไม่ปล่อยให้ท่านปู่วิทแมนมีความเป็นอิสระ! เธอต้องวางยาท่านอาวุโสคนนั้นอย่างแน่นอนและนั่นคือสาเหตุที่เขาปกป้องคุณ!”
คำพูดของเธอค่อนข้างทำให้เจ็บ แต่มาเดลีนไม่ต้องการโต้เถียงกับหล่อนที่นี่
“เมเรดิธ โปรดระวังคำพูดที่ออกมาจากปากของเธอ นี่คิดว่าทุกคนต่ำช้าและชั่วร้ายเหมือนตัวเธอเองงั้นหรอ? คุณปู่เป็นคนฉลาด เขาจึงมองหล่อนออกอย่างทะลุปรุโปร่งตั้งแต่เเรกแล้วล่ะ”
“ป๊ะ!” เมเรดิธโกรธมาก “มาเดลีน ยัยสารเลว! เธอทำให้ตัวเองดูเหมือนคนไร้เดียงสา ถ้าเธอไม่ได้เป็นคนพูดกรอกหูเจเรมี่เกี่ยวกับอดีตที่ผ่านมาทั้งเรื่องเก่าทั้งหลาย แล้วทำไมเจเรมี่ถึงต้องการตรวจสอบอดีตของฉันในทันทีกันห้ะ?”
สิ่งนี้เกินความคาดหมายของเมดาลีน เธอคิดไม่ถึงว่าเจเรมี่จะฟังในสิ่งที่เธอพูดจริงๆ
“อย่ารู้สึกมั่นใจและยินดีกับตัวเองมากนักเลย มาเดลีน ฉันจะบอกเธอไว้ว่า เจเรมี่จะไม่มีทางพบอะไรเกี่ยวกับสิ่งที่เธอกรอกหูเขามาทั้งหมด!” เมเรดิธกัดฟันร้องเสียงหลง แม้ว่าเธอจะพูดเหมือนว่าเธอเตรียมพร้อมรับมือกับเรื่องนี้ แต่มาเดลีนกำลังรู้สึกว่าเจเรมี่เริ่มสงสัยเมเรดิธขึ้นมาแล้วจริงๆ อาการของเธอคล้ายคนจะระเบิดถ้าเธอรับมือมันได้จริงๆ ถ้าไม่ ทำไมเธอถึงมีอาการร้อนรนขนาดนี้?
“ยัยสารเลว!” เธอตะโกนใส่มาเดลีนด้วยความโกรธ หลังจากนั้นครู่หนึ่ง หล่อนก็มองไปที่ชุดของมาเดลีน ก่อนจะกลับมามองที่บริษัทด้านหน้าทางเข้าของหล่อน “เหอะ เธอกำลังหางานอยู่หรือเปล่าเอ่ย? ฉันล่ะอยากเห็นใครกล้าจ้างคุณอีก!”
สิ้นเสียงนั้น หล่อนเหวี่ยงมือขวาของหล่อนและสาดกาแฟร้อนใส่ชุดของมาเดลีนด้วยความฉับไว