บ่วงวิวาห์ ภรรยาตราบาป พันธะร้าย เจ้าสาวสีดำ - บทที่ 722
บ่วงวิวาห์ ภรรยาตราบาป พันธะร้าย เจ้าสาวสีดำ บทที่ 722
‘ฉันทำอะไรกับเขาจริง ๆ เหรอ?’
เมเดลีนรู้สึกว่าเริ่มมีไอร้อนออกมาใบหูของเธอ เมื่อเดินไปส่องดูตนเองในกระจก ทันใดนั้นเธอก็สังเกตเห็นรอยแปลก ๆ บริเวณซอกคอ
เมื่อล้างเนื้อล้างตัวเร็จเรียบร้อย เธอเดินออกมาและเห็นกระดาษแผ่นเล็ก ๆ ที่เจเรมี่ทิ้งไว้ ซึ่งมีข้อความสั้น ๆ เขียนอยู่บนนั้น [ลินนี่ ผมกำลังจะส่งแจ็คไปโรงเรียน คุณนอนพักอยู่ที่นี่อีกสักหน่อยก็ได้]
เขาไม่ได้เอ่ยถึงเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อคืนนี้เลย และให้ความรู้สึกเหมือนไม่เกิดอะไรขึ้น
เมเดลีนมองดูกระดาษที่เจเรมี่ทิ้งเอาไว้และเริ่มกวาดตามองอย่างถี่ถ้วน
เธอมองลายมือที่เรียบร้อยของเขา และทันใดนั้น เธอพลันนึกถึงคำสารภาพที่เธอเคยเห็นในสมุดบันทึกที่ร้านอาหารใกล้กับมหาวิทยาลัยเกลนเดล [เมเดลีน ครอว์ฟอร์ด ผมชอบคุณ]
ตอนนี้ เมเดลีนก็รู้เสียทีว่าเจเรมี่เป็นคนที่เขียนข้อความที่ไม่ระบุชื่อคนเขียนนี้เอง
เขาชอบเธอตั้งแต่ที่เธอเข้ามาเรียนปีแรกแล้ว
แต่ว่าเขาพยายามที่จะปกปิดความรู้สึกที่มีต่อเธอเอาไว้
ตอนที่เมเรดิธพยายามที่จะเลียนแบบพฤติกรรมของเธอ เขาทำได้เพียงแค่ห้ามตนเองไม่ให้ไล่ตามเธออีกเพราะว่าสัญญาที่เขาเคยให้ไว้ตั้งแต่ตอนเด็ก
เมเดลีนออกมาจากโรงแรม และเมื่อก้าวขาออกมาจากตัวอาคาร เฟลิเป้ก็โทรเข้ามาหาเธอ
เขาเอ่ยถามว่าเมื่อคืนนี้เกิดอะไรขึ้น จากนั้นเขาก็บอกกับเธอด้วยเหมือนกันว่าหลังจากที่เธอเมาไม่ได้สติ เจเรมี่ก็บุกเข้ามาพาตัวเธอไป และเขารู้สึกเป็นกังวลมากแค่ไหน
เมา
เมเดลีนรู้ว่ามีบางอย่างไม่ชอบมาพากลในแก้วไวน์แดงที่เธอดื่มเข้าไป
เป็นไปไม่ได้หรอกที่เธอจะไม่รู้สึกตัวขนาดนั้น ทั้ง ๆ ที่ดื่มไปเพียงสองแก้ว
ตอนนั้นเอง ในขณะที่เฟลิเป้กำลังเพลิดเพลินอยู่กับอาหารเช้าในสวน ทันใดนั้น มีบางคนเดินเข้ามาและบอกกับเขาว่าเมเดลีนอยู่ที่นี่
เขาก้มหน้าลงเพื่อครุ่นคิดบางอย่าง จากนั้นจึงเงยหน้าขึ้นอีกครั้ง เขาเห็นเมเดลีนกำลังเดินตรงมาหาเขา
เขาวางช้อนส้อมลงและยิ้มให้กับเมเดลีน เขายังคงมีท่าทีเยี่ยงสุภาพบุรุษเช่นเคย
“เอวลีน ดีจริง ๆ ที่คุณไม่เป็นไร” เขาถอนหายใจอย่างโล่งอก “ผมกังวลเหลือเกินที่เห็นว่าเจเรมี่บุกรุกเข้ามาในบ้านและบังคับพาตัวคุณออกไปแบบนั้น”
เมเดลีนปล่อยให้เขาสาธยายจนจบก่อนเอ่ยถาม “เฟลิเป้ เมื่อคืนนี้ฉันเมาจริง ๆ เหรอคะ?”
หลังจากที่เอ่ยถามเขาออกไป เมเดลีนก็สังเกตเห็นสายตาแห่งความชั่วร้ายได้อย่างถนัด ถึงกระนั้นเขายังคงความสงบนิ่งและท่วงท่าที่ดีได้อยู่
“มันเป็นไวน์ชนิดใหม่น่ะ คุณก็เลยไม่คุ้นชินเท่าไหร่ เพราะแบบนั้นคุณถึงเมาง่ายแบบนั้นไงล่ะ” เขาอธิบายให้เธอฟังแบบนั้น
เมเดลีนยิ้ม แต่สายตาของเธอกลับว่างเปล่า “แค่นั้นเหรอคะ?”
“ใช่สิครับ” เฟลิเป้ตอบกลับพลางเดินมาตรงหน้าเธอ “เอวลีน พักนี้มีหลายสิ่งหลายอย่างเกิดขึ้น ผมก็เลยอยากจะพาคุณไปพักสมองสักหน่อย”
“เอาสิคะ ฉันก็อยากจะไปกับคุณอยู่พอดีเลย”
เฟลิเป้ดีใจเป็นอย่างมากเมื่อได้ยินเมเดลีนตอบตกลง
อย่างไรก็ตาม เขาไม่ใช่คนโง่ เขาสัมผัสได้ถึงกลิ่นอายบางอย่างที่แปลกไปในน้ำเสียงของเมเดลีน
เธอกำลังสงสัยเขาอยู่
อีกด้านหนึ่ง
หลังจากส่งแจ็คสันที่โรงเรียนอนุบาลเรียบร้อยแล้ว เจเรมี่ก็ตรงไปยังคฤหาสน์มอนต์โกเมอรีเพื่อพบลูกสาวของตน
เอโลอิสกำลังเล่นกับเด็กน้อยอยู่ในสวน เมื่อเห็นเขาเดินมา ลิเลียนก็โบกมือให้เขาอย่างร่าเริง “คุณสุดหล่อ มาเล่นกับลิลลี่สิคะ!”
เด็กน้อยกะพริบดวงตากลมโตของเธอ แก้มสีชมพูดระเรื่อนั่นดูน่ารักน่าชังอย่างยิ่ง
เจเรมี่อุ้มเธอขึ้นและหันมาทักทายเอโลอิส จากนั้นจึงจากไปพร้อมกับเธอในอ้อมแขน
เอโลอิสรู้สึกว่านี่มันแปลก ๆ
เอวลีนบอกว่าลิเลียนเป็นลูกสาวของเฟลิเป้ แต่ทำไมหลานสาวของเธอถึงได้ดูสนิทสนมกับเจเรมี่ขนาดนี้?
เจเรมี่พาเธอไปเที่ยวสวนสาธารณะและซื้อเสื้อผ้าสวย ๆ ให้เธอหลายชุด หลังจากนั้นเขาก็พาเธอไปที่ร้านขายขนมหวานด้วย
แม้ว่าลิเลียนจะเรียกเขาด้วยชื่อเล่นว่า ‘คุณสุดหล่อ’ ก็ตาม แต่สำหรับเจเรมี่แล้ว ชื่อนี้ฟังดูราวกับว่าเป็นพรอันวิเศษเลย
ดูเหมือนว่าเขาจะพูดอะไรบางอย่างผิดไป เมเดลีนก็เลยไม่ได้ติดต่ออะไรกลับมาหาเขาเลยทั้งวัน เธอไม่แม้แต่จะตอบกลับข้อความเขา หรือรับสายจากเขาเลย
ในร้านขนมหวาน เจเรมี่กำลังต่อแถวเพื่อซื้อเค้กของโปรดให้กับลิเลียน เขาหันกลับมามองลิเลียนที่กำลังนั่งรอเขาอยู่ที่โซฟาเป็นครั้งคราว
ลิเลียนจ้องมองเจเรมี่อยู่ตลอดเวลา แต่ตอนนั้นเอง ร่างหนึ่งเคลื่อนผ่านเข้ามาในสายตาของลิเลียน
เด็กน้อยกะพริบตาเป็นประกาย จากนั้นเธอก็กระโดดลงมาจากโซฟาและวิ่งหายไปในฝูงชน