บ่วงวิวาห์ ภรรยาตราบาป พันธะร้าย เจ้าสาวสีดำ - บทที่ 780
บ่วงวิวาห์ ภรรยาตราบาป พันธะร้าย เจ้าสาวสีดำ บทที่ 780
เธอยิ้มเล็กน้อยเมื่อเห็นชายชรามองเธอด้วยความเป็นห่วง
“คุณปู่คะ ฉันดีใจที่ได้เป็นครอบครัวเดียวกับคุณอีกครั้งนะคะ”
ผู้อาวุโสวิทแมนยกมือขึ้นเพื่อจับบ่าของเมเดลีน “หลาน ปู่ก็มีความสุขมากเช่นกัน ขอบคุณที่ให้โอกาสเจเรมี่อีกครั้งนะ”
“เจเรมี่ได้รับโอกาสครั้งนี้เพราะตัวของเขาเอง ไม่จำเป็นต้องขอบคุณฉันหรอกค่ะ”
เธอหวนนึกถึงเรื่องที่เกิดขึ้นในช่วงเวลาที่ผ่านมา ชายคนนั้นเข้าหาเธออย่างกล้าหาญซ้ำแล้วซ้ำเล่าโดยไม่ได้นึกถึงความปลอดภัยของตัวเองเลย ความจริงใจและความเสียใจของเขา… เธอได้เห็นหมดแล้ว
เมเดลีนเพิ่งรู้สึกตัวว่าเจเรมี่ไม่ได้อยู่ที่นี่
ในตอนเช้าแบบนี้เขาจะไปที่ไหนได้?
เมเดลีนเดินไปอีกฟากหนึ่งและโทรหาเจเรมี่ และหลังจากที่เขารับสายเธอ เธอก็ถามทันทีว่า “เจเรมี่ คุณอยู่ที่ไหน?”
เธอถามคำถามออกไปและนิ่งฟังรอคำตอบของเจเรมี่ แต่เธอกลับได้ยินเสียงของเมเรดิธจากปลายสาย “เจเรมี่ ฉันกลัวมากที่จะอยู่ในโรงแรมเพียงลำพัง ฉันจะตายถ้าคุณทิ้งฉันไป อยู่กับฉันได้ไหม?”
นิ้วของเมเดลีนจับโทรศัพท์แน่นขึ้น เจเรมี่ออกไปตอนเช้าเพื่อไปหาเมเรดิธอย่างนั้นเหรอ?
ก่อนที่เจเรมี่จะทันได้พูดอะไร เมเดลีนก็วางสายและขับรถไปยังโรงแรมที่เมเรดิธพักอยู่
เธอพบผู้จัดการคนก่อนและขอบัตรห้องพักของเมเรดิธทันที
เมื่อเดินไปถึงหน้าห้อง เมเดลีนก็รูดบัตรอย่างรวดเร็ว
ประตูห้องเปิดออกพร้อมกับเสียงรูดบัตร เมเดลีนเดินเข้าไปเห็นเมเรดิธกำลังกอดเจเรมี่แน่น
เธอกำลังร้องไห้อยู่ในอ้อมแขนของเขาอย่างเจ็บปวด ราวกับว่าตัวเองเป็นดอกไม้เล็ก ๆ สีขาวน่าสงสาร
เมเดลีนคุ้นเสียยิ่งกว่าคุ้นกับพฤติกรรมเจ้าวางแผนนี้
สีหน้าของเจเรมี่เฉยเมยและเจือความร้อนใจเล็กน้อย
เมื่อเมเรดิธเห็นเมเดลีนเดินเข้ามา เธอจึงยกริมฝีปากสีแดงขึ้นเงียบ ๆ และยิ้มเยาะเย้ย
อย่างไรก็ตามเมเดลีนเองก็ไม่ได้สุภาพกับเธอเลย เธอก้าวไปข้างหน้าและจับมือของเมเรดิธที่กอดเจเรมี่แน่นแล้วผลักเธอออกไป
เมเรดิธแกล้งทำเป็นตกใจ “เอวลีน เธอจะทำอะไร…”
เพี้ยะ!
“อะไรเนี่ย?!”
เมเดลีนตบหน้าเมเรดิธทันที เมเรดิธร้องอุทานหลังจากถูกตบด้วยความมึนงง
“เฟลิซิตี้ หน้าพลาสติกอย่างเธอหนาพอถึงขนาดกล้ามายุ่งกับสามีฉันเลยงั้นเหรอ? ฟังนะ คราวหน้าไม่ใช่แค่ตบแบบนี้แน่!”
“…”
หลังจากที่เมเดลีนเตือนอย่างเฉียบขาด เธอก็มองไปที่เจเรมี่อย่างแน่วแน่ “ฉันบอกว่าฉันไม่อยากเห็นคุณอยู่กับผู้หญิงคนนี้อีก คุณยังจำสิ่งที่คุณสัญญากับฉันในตอนนั้นได้ไหม?”
“ผมจำได้” เจเรมี่ตอบออกไปอย่างไม่คิด “แต่มันมีเสียงในหัวคอยบอกว่าเฟลิซิตี้เป็นคนรักของผมเสมอเลย ดังนั้นเมื่อเช้านี้ที่เธอโทรหามาหาผม ผมก็เลยมาหาเธอ”
อะไรนะ? เมเดลีนขมวดคิ้วเมื่อได้ยินคำตอบของเขา ความผิดหวังค่อย ๆ ปรากฎขึ้นในแววตาของเธอ
ในทางกลับกัน เมื่อเธอได้ยินเรื่องนี้เมเรดิธก็ยิ้มอย่างมีชัยในทันที จากนั้นเธอก็วิ่งไปอยู่ข้าง ๆ ของเจเรมี่ “เจเรมี่คะ คุณพูดถูก คนที่คุณรักมากที่สุดคือฉัน! อย่าถูกเอวลีนหลอกนะคะ!”
“เงียบก่อน ผมยังพูดไม่จบ” เจเรมี่ขัดจังหวะเมเรดิธอย่างเย็นชา “แม้ว่าจะมีเสียงที่บอกว่าคนที่ผมรักมากที่สุดคือเธอ แต่ความรู้สึกของผมบอกว่าคุณคือคนที่ผมรัก” เจเรมี่มองไปที่เมเดลีนอย่างแน่วแน่
“อะ อะไรนะ?” เมเรดิธไม่สามารถยอมรับคำพูดนั้นได้ แต่แล้วเธอก็เห็นเจเรมี่เดินไปหาเมเดลีนและจับมือเธอเอาไว้ “ผมเชื่อทุกคำที่คุณพูดกับผม ดังนั้นคุณต้องเชื่อผมด้วย ผมรักแค่คุณคนเดียวเท่านั้น”
เมเดลีนไม่ได้หวังว่าเจเรมี่จะพูดแบบนั้น ความผิดหวังในดวงตาของเธอจางหายไป แทนที่ด้วยความไว้วางใจและความปีติยินดี
เธอเงยหน้าขึ้นมองไปยังเมเรดิธที่แสดงออกถึงความพ่ายแพ้และเปิดปากพูดอย่างสบาย ๆ “ของปลอมย่อมเป็นของปลอมเสมอ เธอน่าจะเรียนรู้ได้ตั้งนานแล้วนะ เฟลิซิตี้ วอล์คเกอร์ ฉันแนะนำให้เธอเก็บหางของเธอไว้ให้มิดจะดีกว่า ไม่งั้นคนอื่นจะรู้เอาได้นะว่าเธอเป็นนางจิ้งจอก”
“…”
เมเดลีนมองไปที่เจเรมี่ หลังจากเธอพูดเตือนจบ “สามีคะ เรากลับบ้านกันเถอะ”
เจเรมี่เดินตามเมเดลีนอย่างเชื่อฟัง โดยไม่หันไปมองเมเรดิธเลย
เขาเดินตามเมเดลีนไปตลอดทางจนถึงลิฟต์ จากนั้นเขาก็อ้าปากถามว่า “คุณโกรธไหม?”
เมเดลีนมองไปที่เขา เธอกำลังจะพูดอะไรบางอย่าง แต่เสียงโทรศัพท์ก็ดังขึ้น
เป็นสายของเคธี่ เมเดลีนรับสายของเธอโดยไม่คิดอะไรมาก “เคธี่ เธออยากให้ช่วยอะไรไหม?” เธอถามออกไป และคำตอบด้วยน้ำเสียงอ่อนแรงของเคธี่ก็ดังมาจากอีกด้านหนึ่ง “อีวี่ ฉันเคยทำเรื่องแย่ ๆ กับคุณและเจเรมี่ ก่อนที่ฉันจะจากไป ฉันต้องการชดเชยความผิดพลาดของฉัน เธอช่วยพาเจเรมี่มาหาฉันตอนนี้ได้ไหม?”