บ่วงวิวาห์ ภรรยาตราบาป พันธะร้าย เจ้าสาวสีดำ - บทที่ 802
บ่วงวิวาห์ ภรรยาตราบาป พันธะร้าย เจ้าสาวสีดำ บทที่ 802
แค่เพียงคำพูดสั้น ๆ นั้นก็ได้ตัดผ่านหัวใจของเมเดลีนราวกับคมดาบที่มองไม่เห็น
เธอมองตามเจเรมี่ที่หันหลังจากไปโดยไม่ลังเล และไม่แม้แต่จะปรายหางตาของเขามาที่เธอเลยสักนิด
‘เจเรมี่ นี่คุณเชื่อทุกคำโกหกที่เย็นชานั่นของฉันจริง ๆ งั้นเหรอ’
“เหมือนว่าเขาไม่ได้รักคุณมากเท่าที่ผมคาดคิดไว้นะ” เฟลิเป้พูดด้วยรอยยิ้มนุ่มนวล “ผมมีธุระที่ต้องคุยกับลูกค้าคนสำคัญ คุณหาอะไรรองท้องก่อนได้เลย เดี๋ยวผมกลับมา”
จากนั้นเฟลิเป้ก็ได้ออกไปทันที ปล่อยให้เธอยืนงงอยู่กับที่ทั้งอย่างนั้น
เธอเดินไปยังโต๊ะจัดเลี้ยงซึ่งมีเครื่องดื่มวางเรียงรายอยู่มากมาย ก่อนจะหยิบไวน์แดงขึ้นมาหนึ่งแก้ว และเริ่มดื่มอีกครั้ง
ถึงอย่างนั้น เธอไม่สามารถรู้สึกถึงรสหวานของไวน์ชั้นเลิศได้ มีเพียงความขมเท่านั้นที่เธอรับรู้ไปถึงขั้วหัวใจ
“เอวลีน มอนต์โกเมอรี ไม่ใช่เหรอ?”
“เธอเป็นผู้หญิงของคนไหนกันแน่? เธอเพิ่งแต่งงานกับเจเรมี่เมื่อไม่กี่เดือนก่อนเองไม่ใช่เหรอ? แล้ววันนี้ทำไมเธอถึงมาอยู่ที่นี่ในฐานะผู้หญิงของเฟลิเป้ อาของเจเรมี่ได้ล่ะ?”
“ครอบครัวคนรวยมีแต่เรื่องยุ่งเหยิง ฉันยังได้ยินมาอีกนะว่าเจเรมี่และเฟลิเป้ตัดขาดความสัมพันธ์ฉันอาหลานกันเพื่อมาแย่งเธอ ตอนนี้พวกเขาดูเป็นมิตรแค่ภายนอกก็เท่านั้นแหละ แต่ในใจทั้งคู่หมางเมินกันจะตาย”
“ชิ ให้ตายสิ ความงามคือหายนยะที่แท้จริง ว่าก็ว่าเถอะผู้หญิงน่ะยิ่งสวยเท่าไหร่ ก็ยิ่งใจร้ายเท่านั้น!”
“ใช่ แล้วดูเธอสิ ดูเหมือนจิ้งจอกก็ไม่ปาน”
หลังจากได้ยินเสียงซุบซิบว่าร้ายทั้งหมดนั้นแล้ว
เมเดลีนอดไม่ได้ที่จะหันหน้าไปพร้อมกับแก้วไวน์มือด้วยท่วงท่าที่คงไว้ซึ่งความสง่างาม ก่อนจะเผชิญหน้ากับพวกผู้หญิงที่กำลังมองและดูถูกเธอต่าง ๆ นานา
“ฉันเข้าใจความหมายที่พวกเธอกำลังจะสื่อนะ ถ้าจะชมว่าฉันสวยแค่ไหนก็บอกมาตรง ๆ เลยก็ได้ ไม่จำเป็นต้องพูดอ้อมไปอ้อมมาให้น่ารำคาญเลย ทุกคนก็รู้ดีอยู่แล้วว่าใบหน้าของนางพญาจิ้งจอกสวยงามแค่ไหน”
“…”
“…”
ผู้หญิงสองสามคนที่ยืนอยู่ตรงนั้นถึงกับอับอายเมื่อได้ยินเสียงเธอ พวกเธอพากันบ่นพึมพำอย่างหัวเสีย ขณะที่เดินจากไป
เมเดลีนไม่รู้ว่าเป็นเพราะเธอโกรธผู้หญิงพวกนั้นหรือเป็นเพราะอะไรกันแน่ ที่จู่ ๆ หน้าอกเธอก็รู้สึกอึดอัดขึ้นมา
เธอตัดสินใจยกไวน์อีกแก้วขึ้นมาดื่มเพื่อบรรเทาอาการแน่นหน้าอก แต่ท้องของเธอกลับรู้สึกอึดอัดมากขึ้นแทน
เธออยากออกไปสูดอากาศบริสุทธิ์ข้างนอก แต่ในทันทีที่หมุนตัวเธอก็เห็นเจเรมี่กำลังเดินเข้ามาพร้อมกับหญิงสาวคนหนึ่งในชุดราตรียาว
เมเดลีนจ้องมองอย่างพินิจพิเคราะห์และรู้สึกว่าผู้หญิงคนดังกล่าวดูคุ้นเคยเล็กน้อย ถึงกระนั้นเธอก็ไม่อาจนึกออกได้
ใบหน้าของเธอคนนั้นสวยจริง ๆ แต่ค่อนข้างออกไปทางพิมพ์นิยมที่พบเห็นได้บ่อย ๆ
นี่แฟนของเจเรมี่เหรอ?
เธอกำลังคาดเดาในใจไปต่าง ๆ นานา ขณะที่เห็นเจเรมี่พาผู้หญิงคนนั้นตรงเข้ามาหาเธอ
“อาเอวลีนครับ นี่แฟนผม อีเวตต์ ชาริส” เจเรมี่เอ่ยแนะนำเธออย่างเป็นทางการ
ริมฝีปากเมเดลีนกระตุกเล็กน้อย แต่ยังคงไว้ซึ้งรอยยิ้ม “สวัสดีค่ะ ฉัน…”
เธอกำลังจะแนะนำตัวเอง แต่จู่ ๆ เจเรมี่ได้เอ่ยขัดจังหวะขึ้น
“สตรีผู้สูงศักดิ์ สง่าผ่าเผย และงดงามคนนี้ คือ อดีตภรรยาของผมเอง เอวลีน มอนต์โกเมอรี เธอคือคนที่ผมไม่อาจไขว่ขว้ามาได้ แม้จะควักหัวใจของตัวเองออกไปแลกก็ตาม”
“…”
เธอไม่คาดคิดว่าเจเรมี่จะแนะนำเธอในลักษณะนี้ เมเดลีนไม่รู้ว่าจะหัวเราะหรือร้องไห้ดี
“คุณนั่นเอง คุณมอนต์โกเมอรี คนที่ยังกุมหัวใจของเจเรมี่เอาไว้ ” อีเวตต์ยิ้มออกมาพลางยกมือขึ้นเพื่อจับแขนของเจเรมี่ “คุณมอนต์โกเมอรี คุณสวยมากจริง ๆ ค่ะ”
“ขอบคุณค่ะ” เมเดลีนเหลือบมองไปยังแขนที่เกี่ยวกันไว้แน่นและยิ้มออกมาจาง ๆ แต่ภายในอกของเธอกลับรู้สึกคับแน่นและท้องของเธอเองก็รู้สึกปั่นป่วนมากขึ้น
“งั้นฉันไม่รบกวนพวกคุณสองคนแล้ว ฉันจะไปเข้าห้องน้ำ” เธอหาข้ออ้างและเดินหนีจากตรงนั้นทันที อันที่จริง เธอไม่ต้องการเห็นเจเรมี่จู๋จี๋กับผู้หญิงคนอื่นเลยจริง ๆ
ถึงแม้เธอจะบอกว่าไปห้องน้ำ แต่ความจริงเธอกลับวิ่งไปที่ระเบียงเพื่อรับลมแทน ถึงอย่างนั้นมันก็ไม่สามารถบรรเทาอาการอึดอัดไม่สบายตัวของเธอให้ทุเลาลงได้เลยสักนิด
ความรู้สึกคลื่นไส้ที่มากขึ้นปั่นป่วนมากเกินกว่าที่เมเดลีนจะทนไหว และอดไม่ได้ที่จะอาเจียนออกมา
หลังจากสำรอกออกมาสองสามครั้ง เธอก็นึกบางอย่างขึ้นมาได้
เธอเอามือสัมผัสท้องตัวเองและคาดเดาสถานการณ์ภายในใจอย่างลุกลี้ลุกลน ทันใดนั้นเสียงฝีเท้าที่คุ้นเคยก็ได้ดังขึ้นข้างหลังเธอ