บ่วงวิวาห์ ภรรยาตราบาป พันธะร้าย เจ้าสาวสีดำ - บทที่ 805
บ่วงวิวาห์ ภรรยาตราบาป พันธะร้าย เจ้าสาวสีดำ บทที่ 805
เมเดลีนรู้สึกหายใจไม่ทั่วท้องเมื่อเจเรมี่เดินเข้ามาใกล้เธอมากขึ้นเรื่อย ๆ จากนั้นริมฝีปากได้รูปของเขาขยับเอ่ยขึ้นว่า “ผมบังเอิญได้ยินมาว่าเดิมทีอาเฟลิเป้ต้องการใช้ที่ดินผืนนี้สร้างรีสอร์ทให้กับคุณผู้หญิงวิทแมน ใช่ไหมครับ? ต้องขออภัยด้วยจริง ๆ ครับ ที่ผมเองก็ต้องการที่ดินผืนนี้เพื่อสร้างปราสาทให้กับผู้หญิงที่ผมรักที่สุดเหมือนกัน”
เขามองไปที่เมเดลีนอย่างจงใจถึงแม้ว่าเธอจะไม่ได้กำลังมองเขาอยู่ก็ตาม
“ผมหวังว่าสักวันหนึ่ง ผู้หญิงที่ผมรักจะอาศัยอยู่ในปราสาทนั้นและเป็นเจ้าหญิงที่ปราศจากเรื่องกังวลใจ ผมยินดีที่จะปกป้องเธออย่างไม่มีเงื่อนไข ดูแลเธอ และเป็นอัศวินที่อยู่ข้างเธอไปตลอดชีวิต”
หลังจากคำพูดของเขาจบลง อีเวตต์ก็รีบตรงเข้ามาหาเจเรมี่และพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนหวานว่า “เจเรมี่ คุณใจดีกับฉันจังเลยค่ะ”
เมเดลีนเบือนหน้าหนีกับภาพที่เห็นอยู่ตรงหน้าขณะที่เธอถูกฉีกทึ้งด้วยความเศร้าโศก เธอยิ้มออกมาให้กับเฟลิเป้ขณะที่อดกลั้นกับความเจ็บปวดใจ “ ฉันหิวแล้วค่ะ เฟลิเป้ เราไปหาอะไรกินกันสักหน่อยดีไหมคะ?”
“ได้สิ” เฟลิเป้ยิ้มและยืนขึ้น เขามองเจเรมี่ด้วยท่าทางสงบ “เหมือนว่าฉันจะประเมินความสามารถของหลานชายตัวเองต่ำไป ในตอนที่บริษัทวิทแมนถูกเปลี่ยนมือ ดูเหมือนว่าจะไม่มีอะไรเลวร้ายเกิดขึ้นกับนายเลยสักนิด”
เจเรมี่ยิ้มอย่างไม่ทุกข์ร้อน แต่สายตาของเขายังคงไม่ละไปจากใบหน้าของเมเดลีน “ผมเองก็ประเมินความสามารถของคุณอาเฟลิเป้ต่ำเกินไปเช่นกัน ไม่อยากจะเชื่อเลยว่าผู้หญิงที่ผมพยายามทุ่มเททุกอย่างให้จะตกอยู่ในอ้อมแขนของคุณซะแล้ว”
เมื่อเมเดลีนได้ยินคำพูดประชดประชัดพวกนั้นของเจเรมี่ เธอก็เผยยิ้มเฉยเมยออกมา เธอดึงแขนของเฟลิเป้เบา ๆ และหันหลังจากไป
ก่อนที่เฟลิเป้จะหันหลังจากไป ดวงตาสีเข้มของเขาชำเลืองไปที่อีเวตต์ซึ่งยืนอยู่ข้างเจเรมี่ไม่ห่าง
อีเวตต์ยกมุมปากยิ้มให้เฟลิเป้อย่างสุภาพ ลักยิ้มที่ข้างริมฝีปากของเธอทำให้เฟลิเป้มองเธอนานขึ้นอีกสองสามวินาที
หลังจากที่ทั้งคู่ออกจากโรงแรม เฟลิเป้ก็ส่งเมเดลีนขึ้นรถ “ผมจะให้คนไปส่งคุณที่วิลล่าก่อน”
“ฉันอยากกลับไปที่บ้านพ่อกับแม่ของฉันมากกว่า” เมเดลีนพูดอย่างเย็นชา
เฟลิเป้ครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง “ตกลงคุณกลับไปได้ แต่…”
“ไม่ต้องเตือนฉันแล้วค่ะ เพื่อความปลอดภัยของลิเลียนแล้ว ฉันจะไม่พูดอะไรทั้งนั้น”
“เอวลีน ผมไม่ได้ตั้งใจที่จะข่มขู่คุณ ผมก็แค่อยากให้คุณอยู่เคียงข้างผมก็เท่านั้น” เฟลิเป้ขมวดคิ้วและเปิดประตูให้เมเดลีนเข้าไป
เมเดลีนไม่ต่อความยาวสาวความยืดกับเรื่องนี้อีกและขึ้นรถไป
ท้องของเธอยังคงปั่นป่วนอยู่เมื่อในใจของเธอเริ่มทบทวนถึงสิ่งที่เจเรมี่พูดในคืนนั้น
ดวงตากลมคู่สวยของเธอดูเศร้าหมองขณะที่เธอมองออกไปยังทิวทัศน์ยามค่ำคืนซึ่งอยู่ภายนอกหน้าต่างรถและจดจำว่าเขากอดเธอแน่นแค่ไหนพลางพูดกับเธอว่า “ลินนี่ ผมรักคุณ ผมรักคุณจริง ๆ”
แต่ในตอนนี้เขากำลังโอบกอดผู้หญิงอีกคนหนึ่งอยู่ แล้วบอกว่าจะสร้างปราสาทให้เธอและปฏิบัติต่อเธอดุจเจ้าหญิง
เอโลอิสและฌอนกำลังพากันนั่งดูข่าวอยู่ในห้องนั่งเล่น ทันใดนั้น สาวใช้คนหนึ่งก็รีบเข้ามารายงานกับพวกเขาว่า “นายท่านคะ คุณนายคะ คุณหนูกลับมาแล้วค่ะ!”
“ใครนะ?” เอโลอิสและฌอนคิดว่าตัวเองหูฝาดได้ยินสิ่งที่เธอพูดผิดไป
“คุณเอวลีนกลับมาแล้วค่ะ!” คนใช้อุทาน
ทั้งเอโลอิสและฌอนพากันลุกขึ้นอย่างรวดเร็วและเมื่อพวกเขาเดินออกไปที่ประตูก็เห็นว่าเมเดลีนเดินเข้ามาแล้ว
“เอวลีน ลูกกลับมาตั้งแต่เมื่อไหร่? ทำไมแต่งตัวเป็นทางการขนาดนี้? ลูกไปไหนมาเหรอ?” เอโลอิสรู้สึกปริ่มเปรมเป็นอย่างมาก ผู้หญิงที่เธอกำลังเห็นอยู่ตรงหน้าคนนี้ดูสวยสง่างามทอประกายดุจเจ้าหญิงที่หลุดออกมาจากเทพนิยาย
เมเดลีนจงใจเอ่ยขึ้นเสียงแข็งว่า “พึ่งกลับมาวันนี้เลยค่ะ พอดีหนูเพิ่งไปร่วมงานประมูลกับเฟลิเป้มาค่ะ”
“งานประมูลงั้นเหรอ? แม่ได้ยินมาว่าที่ดินผืนนั้นถูกประมูลไปถึง 5.2 พันล้าน”
“ใช่ค่ะ เจเรมี่ชนะชนะการประมูลไป”
“เจเรมี่?” เอโลอิสและฌอนดูตกใจอยู่ไม่น้อย ‘เจเรมี่งั้นเหรอ เขาไม่ได้ล้มละลายไปแล้วหรือไง?’
“หนูค่อนข้างเหนื่อยนิดหน่อย ขอตัวไปพักผ่อนก่อนนะคะ” เมเดลีนไม่ได้พูดอะไรมากนัก เพราะเธอไม่แน่ใจว่าใครคือคนของเฟลิเป้ที่มาจับตาดูเธอในบ้านหลังนี้
เธอรู้สึกว่าเฟลิเป้กำลังเฝ้าดูทุกอิริยาบถของเธอทั้งที่เธอพูดและเธอทำ เว้นแค่ตอนเธอไปเข้าห้องน้ำและเข้านอนเท่านั้น
เอโลอิสและฌอนไม่กล้าที่จะเอ่ยถามอะไรมากความไปกว่านี้อีก เพราะพวกเขารับรู้ได้ว่าตอนนี้เมเดลีนคงไม่สบอารมณ์เท่าไหร่
หลังจากที่เธอเอนตัวลงบนที่นอนในห้องของตัวเอง เสียงแจ้งเตือนโทรศัพท์ก็ดังขึ้นมาว่าวันมะรืนนี้เป็นวันครบรอบการจากไปของเลน ซามูเอล คุณปู่ที่เลี้ยงเธอมา
“คุณปู่…” เธอเอื้อนเอ่ยออกมาเบา ๆ ในขณะที่หัวใจของเธอก็เริ่มเจ็บปวดอีกครั้ง