บ่วงวิวาห์ ภรรยาตราบาป พันธะร้าย เจ้าสาวสีดำ - บทที่ 811
บ่วงวิวาห์ ภรรยาตราบาป พันธะร้าย เจ้าสาวสีดำ บทที่ 811
อีเวตต์มองลึกลงไปในดวงตาของเฟลิเป้และเผยรอยยิ้มสดใส “หรือว่านี่เป็นวิธีที่คุณใช้เริ่มบทสนทนากับผู้หญิงเหรอคะ? ฉันไม่คิดว่าเราเคยพบกันมาก่อนนะคะ เพราะฉันไม่เคยมาที่เกลนเดลก่อนที่จะเป็นแฟนกับเจเรมี่สักครั้งเลยค่ะ”
ในขณะที่เธอพูดเธอก็เคลื่อนตัวเองเข้าไปใกล้แขนของเจเรมี่มากขึ้น
เจเรมี่ยิ้มและจับมืออีเวตต์เอาไว้อย่างอ่อนโยน พวกเขาทั้งสองดูอบอุ่นและอ่อนหวานมาก
เมเดลีนหันหน้าหนีเพราะเธอไม่ต้องการที่จะเห็นทั้งสองคนดูรักใคร่กันขนาดนี้
เฟลิเป้ชำเลืองมองอีเวตต์และกางร่มขณะเดินเข้าไปด้านในพร้อมกับเมเดลีน
คาเลนที่ได้ยินเสียงคนเดินเข้ามาเดิมทีเธอคิดว่าเป็นเจเรมี่ที่พาแฟนสาวของตัวเองกลับมา แต่ในขณะที่เธอเงยหน้าขึ้น เธอกลับเห็นว่าเป็นเมเดลีนและเฟลิเป้ที่เดินเคียงข้างกันมา
รอยยิ้มบนใบหน้าของเธอหายไปในทันที “ชิ แขกผู้มีเกียรติที่ร้อยวันพันปีไม่เคยจะโผล่มา”
คาเลนยังคงไม่หยุดที่จะเยาะเย้ยต่อ “คนหนึ่งเป็นอาแท้ ๆ ที่ต้องการทำลายเจเรมี่ และอีกคนก็เป็นอดีตภรรยาจอมลวงโลกที่ต้องการล้างแค้นเจเรมี่! อี๋ ช่างเหมาะสมกันเหลือเกิน! รีบพูดมาสิว่าพวกแกมาทำอะไรที่นี่”
เฟลิเป้หรี่ตาก่อนจะเอ่ยด้วยน้ำเสียงเยือกเย็นว่า “ถ้าไม่อยากกลับไปมีชีวิตแบบก่อนหน้านี้ ก็หุบปากตัวเองไปซะ”
“ผมอยากจะเห็นเหลือเกินว่าคุณอาที่รักของผมจะใช้ช่วงเวลานี้สร้างปัญหาอะไรให้กับครอบครัวของเราได้อีกบ้าง” เสียงของเจเรมี่ดังขึ้นลอย ๆ
ถึงแม้ว่าน้ำเสียงของเขาจะเบาและเนิ่บ แต่ออร่าที่เขามีไม่ได้ลดน้อยลงไปเลย
ทั้งสองมองหน้ากันในขณะที่ควันแห่งสงครามซึ่งมองไม่เห็นได้ก่อเกิดขึ้นในอากาศ
คาเลนรู้สึกได้รับความมั่นใจกลับมาอีกครั้งก่อนที่เธอจะกลอกตาและมองไปทางเมเดลีน “นี่เธอเห็นไหมเอวลีน? เจเรมี่เขามีแฟนแล้ว! หรือเธอยังคิดว่าตัวเองคือคนที่เจเรมี่ต้องการอยู่อีกจริง ๆ? แย่จังเลย!”
เธอพูดพลางยิ้มแย้มและดึงอีเวตต์เข้ามาหาตัวเอง “เวตตี้ นั่งก่อนสิลูก”
“ขอบคุณนะคะ คุณป้าคาเลน”
“ไม่ต้องมากพิธีขนาดนั้น ในเมื่อเราจะได้เป็นครอบครัวเดียวกันเร็ว ๆ นี้อยู่แล้ว” คาเลนจงใจเน้นคำว่า ‘ครอบครัว’ โดยเฉพาะ
เมเดลีนเบื่อที่จะเถียงกับคาเลน เธอจึงเบือนหน้าหนีไปอีกทางและได้เห็นผู้อาวุโสวิทแมนเดินเข้ามาพร้อมกับใช้ไม้เท้าช่วยพยุงโดยมีคนใช้อยู่หนึ่งคนคอยปรนนิบัติรับใช้เขา เธอรู้สึกประหลาดใจเมื่อเห็นภาพนั้น
“คุณปู่เดินด้วยตัวเองได้แล้ว”
“คุณปู่อะไรกัน? เธอไม่ควรเรียกใครว่าปู่ของตัวเองทั้งนั้นเอวลีน” คาเลนเอ่ยท้วงอย่างหงุดหงิด
“เอวลีนผิดตรงไหน? ก็ฉันเป็นปู่ของเธอ!” ผู้อาวุโสวิทแมนจ้องเขม่นใส่คาเลนด้วยความไม่พอใจ จากนั้นเขาก็ค่อย ๆ พยุงตัวเองเดินไปหาเมเดลีนพร้อมรอยยิ้มที่อ่อนโยน “เอวลีน มาที่นี่เพื่อเยี่ยมปู่ใช่ไหม?”
มาเดลีนพยักหน้า “ใช่ค่ะ เฟลิเป้พามาที่นี่เพื่อพบคุณปู่”
“คุณลุง เอวลีนกับผมจดทะเบียนสมรสกันแล้วที่ประเทศเอฟ วันนี้ผมพาเธอมาพบคุณลุงอย่างเป็นทางการในฐานะภรรยาของผม”
“จดทะเบียนสมรส?” ผู้อาวุโสวิทแมนขมวดคิ้วสีเทาและมองเฟลิเป้ที่กำลังยิ้มอยู่ จากนั้นเขาก็เบนสายตาของตัวเองมองไปที่เจเรมี่ที่ยืนอยู่ข้าง ๆ ราวกับว่าไม่มีอะไรเลวร้ายเกิดขึ้น เขาค่อย ๆ ยกมือที่สั่นเทาของตัวเองจับมือเมเดลีนเอาไว้ “กินข้าวกันก่อน ปู่มีอะไรจะบอกหลังจากรับประทานอาหารเสร็จ”
เมเดลีนยิ้มบาง ๆ และช่วยพยุงผู้อาวุโสวิทแมนนั่งลงที่โต๊ะรับประทานอาหาร
บนโต๊ะเต็มไปด้วยอาหารเลิศรสมากมาย ทั้งหมดอาจเป็นเพราะว่าเจเรมี่จะพาแฟนสาวของเขามาพบกับครอบครัว
เมเดลีนนั่งคั่นกลางระหว่างเจเรมี่และเฟลิเป้ เธอไม่มีความอยากอาหารเลยแม้แต่น้อย จากหางตาของเธอมองเห็นเจเรมี่กำลังตักผักไปใส่ไว้ในจานให่อีเวตต์และบางครั้งก็แกะเปลือกกุ้งให้เธอ ทุกสิ่งที่เมเดลีนกำลังเห็นอยู่ในตอนนี้ได้บีบหัวใจของเธออย่างรุนแรง
ทุกสายตาและคำสาบานที่เต็มไปด้วยความรักจากชายคนนั้นยังคงชัดเจนอยู่ในหัวของเธอ แต่เมื่อเธอหันไปทางด้านข้างเธอก็เห็นเขากับคนรักใหม่เสียแล้ว
เฟลิเป้ตักอาหารให้เมเดลีนด้วยความรัก เมเดลีนต้องแกล้งทำเป็นว่ายินดีที่จะทานอาหารพวกนั้น แม้ว่าเธอจะไม่สามารถกลืนมันลงไปได้ก็ตาม
“อาเอวลีน ดูปูพวกนี้สิฉ่ำมากเลย ชิมสักหน่อยสิคะ” อีเวตต์หยิบปูชิ้นหนึ่งให้เมเดลีนด้วยความเต็มใจ
เฟลิเป้เอื้อมมือไปห้ามเธอ “ภรรยาของผมกำลังตั้งท้อง เธอไม่ควรกินอาหารดิบ”
คำพูดของเค้าแช่แข็งบรรยากาศบนโต๊ะอาหารในทันที
เมเดลีนเองก็เห็นเจเรมี่หยุดชะงักไปครู่หนึ่งขณะที่เขากำลังยกไวน์ขึ้นมาดื่ม