บ่วงวิวาห์ ภรรยาตราบาป พันธะร้าย เจ้าสาวสีดำ - บทที่ 931
บ่วงวิวาห์ ภรรยาตราบาป พันธะร้าย เจ้าสาวสีดำ บทที่ 931
เมื่อเธอได้ยินเขาเรียกเธอว่าลินนี่ ก็เหมือนกับว่าเสียงอันไพเราะนั้นได้ดังเข้าไปข้างในใจของเมเดลีน
เธอเงยหน้าขึ้นด้วยความประหลาดใจและเห็นเจเรมี่กำลังยิ้มให้เธอ
“อย่าสายล่ะ” เขาเตือนเธออีกครั้ง น้ำเสียงของเขาดูอ่อนโยนมากขึ้น
เมเดลีนรู้สึกว่าเธอกำลังเห็นภาพหลอนอีกครั้ง แต่รอยยิ้มของเจเรมี่ให้ความรู้สึกที่จริงมาก
เมื่อเธอได้สติ เจเรมี่ก็ขับรถของเขาออกไปแล้ว
“เอวลีน เกิดอะไรขึ้น?” เอโลอิสประหลาดใจและตกใจ “เขาบอกกับลูกว่าไงเมื่อกี้?”
“หนูจะไปที่เอพริลฮิลล์คืนนี้” เมเดลีนกระซิบและมองไปยังทิศทางที่เจเรมี่ออกไป ความคิดเกิดขึ้นในใจของเธอ
‘ลินนี่’
เมื่อเมเดลีนนึกถึงตอนที่เขาเรียกชื่อของเธออย่างอ่อนโยนเมื่อกี้ ตาของเธอก็เป็นประกายด้วยความคาดหวังอีกครั้ง
‘เจเรมี่ ในที่สุดคุณก็จำฉันได้แล้วใช่ไหม หรือคุณไม่เคยลืมมันเลย?’
ด้วยความสงสัยที่ยังคงอยู่ในใจของเธอ เมเดลีนขอให้เคนขับรถพาเธอไปยังเอพริลฮิลล์
เมเดลีนมาถึงก่อน แม้ว่ามันจะอยู่ในช่วงกลางฤดูร้อน แต่ก็ไม่มีนักท่องเที่ยวบนหาดเลย
ในเมื่อมันเร็วกว่าเวลาที่ตกลงกัน เมเดลีนจึงรออยู่ในรถ
เคนไม่อยากจะเชื่อเรื่องนั้นและถามว่า “คุณวิทแมนยังมีชีวิตอยู่จริง ๆ เหรอครับ?”
เมเดลีนพยักหน้า “เขามีชีวิตอยู่จริง ๆ เราถูกหลอก”
“ใครหลอกเราครับ?” เคนถามอย่างเร่งรีบด้วยท่าทีที่จริงจัง “ผมจะเรียกร้องความยุติธรรมให้กับคุณวิทแมน!”
“มันไม่ง่ายที่จะจับพวกเขา เราควรจะเจอกับเจเรมี่ในคืนนี้และวางแผนของเราตามนั้น”
เมื่อเคนได้ยินสิ่งที่เมเดลีนกล่าว เขาก็ไม่ถามต่อ
หลังจากพระอาทิตย์ตก มันก็เกือบหนึ่งทุ่มตรง
เมเดลีนเห็นรถคันหนึ่งกำลังแล่นเข้ามาจากไกล ๆ และช่วงเวลาต่อมา เจเรมี่ก็ลงมาจากรถ
เคนมองชายคนนั้นที่กำลังเดินเข้ามาหาพวกเขา เขาทั้งประหลาดใจและดีใจ “คุณวิทแมนจริง ๆ ด้วย!”
“รออยู่ตรงนี้” เมเดลีนกล่าวและลงจากรถ
เคนปลดเข็มขัดนิภัยอย่างตื่นเต้น แต่เมื่อได้ยินคำพูดของเมเดลีน เขาก็ยับยั้งแรงกระตุ้นและรออยู่ในรถ
คืนนี้มีหมอกเล็กน้อย แต่ใบหน้าอันหล่อเหลาที่สะท้อนในแววตาของเมเดลีนกลับชัดเจน
ทันทีที่เธอเดินเข้าไปหาเขา เจเรมี่ก็พูดว่า “คุณรอผมนานไหม?”
เมเดลีนส่ายหน้า “มันไม่สำคัญว่าฉันรอคุณมานานแค่ไหน สิ่งสำคัญก็คือการที่ฉันจะรอคุณ”
ริมฝีปากอันเซ็กซี่ของเจเรมี่ก็ยิ้มออกมาในขณะที่เขาจับมือของเมเดลีน “ไปเดินเล่นกันเถอะ”
เมเดลีนมองมือที่ถูกเขาจับอย่างคาดไม่ถึง เธอค่อย ๆ ตามเจเรมี่ไป
แสงจันทร์สะท้อนบนน้ำ ส่องประกายระยิบระยับสู่ท้องทะเล
ลมทะเลพัดมาอย่างช้า ๆ และบรรยากาศก็ให้ความรู้สึกหอมหวานต่อเมเดลีน
“เจเรมี่” เธอค่อย ๆ หยุดเดินและถามเขาด้วยความสับสน “เกิดอะไรขึ้น? คุณได้ความทรงจำคืนมาแล้วงั้นเหรอ? หรือว่าคุณไม่ได้เสียมันไปตั้งแต่แรก?”
เจเรมี่หยุดและมองสายตาที่งุนงงของเมเดลีน สายตาของเขาค่อย ๆ มองไปที่ท้องของเธอ
“คุณท้องมานานแค่ไหนแล้ว?”
เมเดลีนอึ้ง ถ้าเจเรมี่ได้ความทรงจำกลับมาแล้ว เขาก็ควรจะรู้ว่าเธอตั้งครรภ์นานแค่ไหนแล้ว
อย่างไรก็ตาม เมื่อเธอมองใบหน้าที่อยู่ในใจของเธอในทุก ๆ วินาทีของทุก ๆ วัน เมเดลีนก็บอกเขาโดยไม่คิดอะไรมาก
“เจ็ดเดือนเป๊ะ ๆ เลย ฉันเพื่อไปตรวจร่างกายวันนี้ หมอบอกว่าลูกของเราสุขภาพดี”
ขณะที่เธอกล่าวเช่นนั้น เธอก็วางมือของเจเรมี่ลงบนท้องของเธอ “เจเรมี่ คุณรู้สึกไหม? ลูกของเรากำลังขยับด้วย หัวใจของเขากำลังเต้น”
ทันทีที่เธอกล่าวเช่นนั้น เจเรมี่ก็ดึงมือกลับอย่างเฉียบขาด เขาดูเหมือนจะไม่สนใจอยากรู้เรื่องเกี่ยวกับลูกเลย สายตาที่มืดสนิทราวกับยามราตรีคู่นั้นจับจ้องมาที่เธอ