บ่วงวิวาห์ ภรรยาตราบาป พันธะร้าย เจ้าสาวสีดำ - บทที่ 959
บ่วงวิวาห์ ภรรยาตราบาป พันธะร้าย เจ้าสาวสีดำ บทที่ 959
เจเรมี่พูดออกมาคำหนึ่งโดยไม่รู้ตัว
เขารู้สึกถึงบางอย่างที่กำลังปรากฏอยู่หัวใจของเขา และนั่นทำให้เขาตัวสั่น
ลินนี่
ทำไมเขาเพิ่งพูดว่า ‘ลินนี่’ ออกมาเสียงดังล่ะ?
เมเดลีนลุกขึ้นหลังจากที่ลูกหลับ เมื่อเธอเงยหน้าขึ้น เธอก็เห็นใครบางคนยืนอยู่ที่ประตู
เธอเดินเข้าไปอย่างสงสัยและเห็นเจเรมี่
เมเดลีนปิดประตูอย่างคุมเชิง “อย่าเข้ามาใกล้ลูกชายของฉันนะ” มีนัยของความสบประมาทในแววตาของเธอ “ฉันจะให้ชุดอโรมาเทอราพีกับคุณในวันพรุ่งนี้ วันนี้ฉันต้องอยู่กับลูกชาย”
เมเดลีนคาดว่าเจเรมี่จะปฏิเสธเธอ แต่น่าประหลาดใจที่เขากลับตกลง
หลังจากครู่หนึ่ง เอโลอิสและฌอนก็มาถึง เมื่อพวกเขารู้เรื่องอาการของเจเรมี่ พวกเขาก็รู้สึกเป็นทุกข์เช่นกัน
“ฉันสงสัยว่าเมื่อไหร่เขาจะดีขึ้น? ฉันคงกังวลว่าเขายังอยู่กับยัยผู้หญิงที่ชื่อลาน่านั่น” เอโลอิสกังวลและพูดด้วยเสียงเล็ก ๆ ว่า “พ่อของลูกติดต่อกับเพื่อนของเขาในเมืองเอฟและได้ข้อมูลบางอย่างเกี่ยวกับลาน่ามา หล่อนมีส่วนร่วมในองค์กรอาชญากรรมที่จัดตั้งขึ้น”
“อีกทั้ง พี่ชายของหล่อน โยริค จอห์นสัน เป็นคนที่มีอำนาจมาก ๆ ในเมืองเอฟ เขาลุยทั้งด้านดีและชั่ว พูดได้ว่าผู้หญิงคนนี้กดขี่ข่มเหงทุกคนตั้งแต่ตอนที่เป็นเด็กและจะต้องได้ทุกอย่างที่หล่อนจับตามอง” ฌอนก็ห่วงเช่นกัน “เอวลีน ในตอนนี้ ผู้หญิงคนนี้สนใจเจเรมี่ หล่อนไม่มีทางยอมแพ้ในตัวเขาไปง่าย ๆ หรอก”
เมเดลีนรู้เรื่องพวกนี้ทั้งหมดอยู่แล้ว
อย่างไรก็ตาม เพื่อที่จะทำให้เอโลอิสและฌอนหายห่วง เธอจึงแสร้งว่าไม่รู้เรื่องพวกนี้เลย
ฌอนรู้สึกเสียใจกับลูกสาวของเขา ดังนั้น เขาจึงได้ดำเนินการเรียบร้อยแล้ว “เอวลีน ตอนนี้อดทนไว้ก่อนนะ พ่อได้ขอให้คนของพ่อจับตาดูแก๊งสเตเจี่ยน จอห์นสัน ตราบใดที่เรามีหลักฐานหนักแน่นพอ พ่อจะรายงานเรื่องนั้นกับทางตำรวจ เมื่อมันเกิดขึ้นแล้ว เราจะจับลาน่าเพื่อที่เจเรมี่จะได้กลับมาหาลูก”
เมเดลีนหยุดเขาเมื่อได้ยินเช่นนั้น “พ่อคะ หยุดสืบสวนเลยนะ”
“ทำไมล่ะ?” เอโลอิสงุนงง “เอวลีน พ่อของลูกแค่หวังว่าลูกกับเจเรมี่จะได้กลับมาอยู่ด้วยกันโดยเร็วนะ”
“พ่อเข้าใจนะ” ฌอนฉลาด “เอวลีน ไม่ต้องห่วงนะ พ่อจะระวังเรื่องการสืบสวน พ่อจะไม่ให้พวกเขาเห็นอะไรเลย”
อย่างไรก็ตาม เมเดลีนก็ยังคงกังวล “ไม่ค่ะ พ่อจะสืบพวกเขาไม่ได้ พ่อจะตกอยู่ในอันตราย พ่อจะประมาทอำนาจของพวกเขาในเมืองเอฟไม่ได้นะคะ คนที่พ่อจ้างให้สืบเรื่องพวกเขาอาจจะเป็นหนึ่งในหมู่พวกเขาก็ได้ คนที่สามารถถูกซื้อด้วยของบางอย่างได้ย่อมเชื่อถือไม่ได้ค่ะ”
เอโลอิสรู้สึกว่าเรื่องนี้สมเหตุสมผลหลังจากที่เธอได้ยินแบบนั้น “ฌอน คุณควรฟังลูกสาวของคุณนะ หยุดสืบสวนเถอะ”
“ก็ได้ พ่อจะหยุดมัน” ฌอนตอบ
เมเดลีนถอนหายใจอย่างโล่งอก วันต่อมา เธอก็กลับไปที่ออฟฟิศเพื่อแพ็คชุดอโรมาเทอราพีที่เสร็จแล้วและไปส่งมันที่วิลล่าด้วยตัวเอง
อย่างไรก็ตาม เมื่อเธอเข้ามายังตึก เธอก็เห็นเจเรมี่กำลังคุยสายกับลาน่า จากนั้นเธอก็สังเกตเห็นบุหรี่ที่คีบอยู่ระหว่างนิ้วของเจเรมี่
เขาสูบบุหรี่อีกแล้ว
เธอชำเลืองมองกล่องบุหรี่บนโต๊ะทำงานและเดินเข้าไป เธออยากจะได้มาสักมวนหนึ่งเพื่อที่เธอจะได้ลอง อย่างไรก็ตาม เมื่อเธอหยิบกล่อง เจเรมี่ก็หันหลังและวางสาย
เจเรมี่ยิ้มเยาะอย่างชั่วร้ายเมื่อเขาเห็นเมเดลีนถือกล่องบุหรี่ “คุณอยากลองเหมือนกันงั้นเหรอ?”
เมเดลีนโยนกล่องนั้นกลับไปที่เดิมและวางชุดอโรมาเทอราพีลง “ฉันทำตามที่คุณขอแล้ว จำสิ่งที่คุณพูดกับฉันให้ได้ด้วยและอย่างสร้างปัญหาให้กับครอบครัวฉันอีก”
เจเรมี่มองเมเดลีนด้วยรอยยิ้มเล็กน้อย ทันใดนั้น เขาโอบเอวและจูบปากเธอ
เมเดลีนได้กลิ่นพิเศษที่แทรกซึมเข้าไปในรูจมูกของเธอ และรู้สึกว่าสติของเธอได้ล่องลอยไปครู่หนึ่ง
“คุณชอบกลิ่นนี้ไหม?” เสียงอันมีเสน่ห์ของเจเรมี่แล่นเข้าไปในหูของเธอ
เมเดลีนมองรอยยิ้มราง ๆ บนใบหน้าอันหล่อเหลาที่อยู่ตรงหน้าของเธอ จากนั้น เธอก็ยกมือขึ้นโดยไม่รู้ตัวและวางมันไปบนแก้มของเจเรมี่
“เจเรมี่”
เจเรมี่เงียบขรึมขณะที่เขามองเมเดลีนซึ่งกำลังมองเขาเหมือนตกอยู่ในภวังค์
ด้วยเหตุผลบางอย่าง หัวใจของเขาก็เริ่มเต้นรัวเมื่อเขาได้ยินเธอเรียกเขาแบบนั้น
เมเดลีนคล้องแขนที่คอของเขาและวางหน้าของเธอบนไหล่ของเขา “ฉันดีใจมากที่เห็นคุณกลับมาอย่างปลอดภัย แต่ทำไมคุณถึงลืมฉัน…”
เจเรมี่รู้ถึงบางอย่างจมอยู่ในใจของเขาเมื่อเขาได้ยินเสียงที่สับสนของเธอ เขารู้สึกราวกับว่าหัวใจของเขาได้ละลายไปในทันที
“ผมไม่ใช่เจเรมี่” เขาตอบอย่างเยือกเย็นอย่างคาดไม่ถึง
จากนั้น แขนของเมเดลีนที่คล้องเขาไว้ก็คลายออกอย่างกะทันหัน