ประธานหยิ่งยโสของฉัน - ตอนที่ 1027
บทที่ 1027 ถูกทำให้ตกใจแล้ว
ผู้ชายที่เลือดไหลเต็มตัวเจ็บจนไม่มีแรงลืมตาแล้ว คำใหญ่ คำใหญ่ หอบอย่างรุนแรง แต่เกาจิ่งอานที่ยืนอยู่ข้างเขายังไม่รู้สึกหายแค้น!
“พี่ชายใหญ่ แค่นี้ก็ช่างแล้วหรือ? พวกเขาจะลอบสังหารคุณนะ! ไม่ได้ อย่างน้อยก็ต้องตัดขาของเขาไปข้างหนึ่งด้วย! คุณรอเดี๋ยว ผมทำร้ายขาของเขาโดยสิ้นเชิงก่อน!”
การปกป้องของเกาจิ่งอานที่มีต่อหลงเซียวเกินกว่าการคาดคิดของหลงเซียวแล้ว อีกทั้งระดับความโหดเหี้ยมของเกาจิ่งอานก็ไกลจนอยู่นอกการคาดการณ์ของหลงเซียวด้วย
เกาจิ่งอานโหดเหี้ยมพอ นี่เป็นคุณสมบัติส่วนหนึ่งของคนที่จะสำเร็จในเรื่องใหญ่จำเป็นต้องมี ที่พูดมาว่าเมตตาไม่สามารถควบคุมทหาร เมตตาปราณีเป็นสิ่งที่ดี แต่บางที ปราณีจะทำให้คนสูญเสียสติในการควบคุมสถานการณ์ทั้งหมด ทำให้ฝั่งตรงข้ามมีช่องฉวยโอกาส
ริมฝีปากบางของหลงเซียวขยับนิดๆ “ไม่ต้อง ขาของเขาพิการไปแล้ว”
คนที่โดนกระสุนขาสองข้างย่อมพิการอย่างแน่นอน สำหรับคนคนนี้ แทงเข้าไปสองมีด เกรงว่าฮัวโต๋อยู่บนโลกก็ต้องตัดขาให้เขาเช่นกัน
เกาจิ่งอานโมโหมากขึ้นไปเตะขาของผู้ชายอีกหนึ่งที “ถือว่ามึงโชคดี ถ้าไม่ใช่พี่ชายใหญ่กูช่วยพูดให้มึง วันนี้กูจะต้องทำให้มึงตายอย่างแน่นอน!”
ผู้ชายเงยหน้าขึ้นอย่างลำบาก ใช้ตาคู่หนึ่งที่เต็มไปด้วยความโมโหกับความคับแค้นใจจ้องมองเขา ปากเปิดริมฝีปากอยากพูดแต่ลังเล กลับไม่ได้พูดอะไรสักคำออกมา
โชคดีหรือ? บอกว่าช่วยกูหรือ?
แม่มึงเอ่ย! ล้วนทำกับเขาเป็นอย่างนี้แล้ว ไม่นึกเลยว่ายังพูดคำพูดอย่างนี้ แม่มึงเอ่ยมึงยังเป็นคนอยู่หรือไม่! จัดการนักฆ่าเสร็จเกาจิ่งอานดึงผ้าเช็ดหน้าออกจากกระเป๋าเช็ดคราบที่อยู่บนมือเช็ดแล้วเช็ดอีก นี่จึงดีใจวิ่งไปถึงหลงเซียวฝั่งโน้น “พี่ชายใหญ่ ตกลงว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่? คุณจับคนมาได้ยังไงหรือ?”
“ระหว่างทางที่จะมาเกิดอุบัติเหตุเล็กน้อย ตอนนี้ไม่มีอะไรแล้ว เมื่อกี้โชคดีมีแก ลำบากแล้ว” หลงเซียวตบไหล่ของเกาจิ่งอานสองทีอย่าง ให้กำลังใจและชื่นชมไปด้วยสักหน่อย
เกาจิ่งอานขมวดคิ้ว “อุบัติเหตุอะไรหรือ? ตอนนี้พี่ชายใหญ่รู้ว่าเป็นใครที่จะฆ่าคุณหรือไม่? เมื่อกี้เขาเพียงแค่พูดถึงกลุ่มมาเฟีย……..”
ไม่ได้บอกว่าเป็นใครหลายคำติดอยู่ในคอของเกาจิ่งอาน เขา พรึบ ยืนขึ้นมาอย่างตรงหนึ่งที! กลุ่มมาเฟียหรือ?! ไม่ใช่มั้ง! เมื่อกี้เขาเล่นสนุกเกินไปไม่ทันสังเกตตัวอักษรสามตัวนี้ ตอนนี้ใจเย็นลงมาจึงรู้สึกถึงความจริงแม่มึงเอ่ย ช่างน่ากลัวนะ! ครั้งก่อนเขาเคยเห็นการประลองฝีมือกับเหลียงหยู้คุน นั่นล่ะเป็นการต่อสู้จริงที่เป็นปืนจริงกระสุนจริง เขาคิดว่านั่นเป็นBOSSที่สุดยอดมากแล้ว นึกไม่ถึงพี่ชายใหญ่กลับกลายเป็นว่ามีการเกี่ยวข้องกับกลุ่มมาเฟีย?
พูดตรงๆ เกาจิ่งอานถูกทำให้ตกใจแล้ว
แม้ว่าเขากินดีดื่มดีมีผู้หญิงดี แต่ว่าเขาทำธุรกิจล้วนเดินเส้นทางที่ถูกต้องตามกฎหมาย ยังไม่เคยมีความเกี่ยวข้องใดๆกับคนเหล่านั้นกลุ่มมาเฟีย กลุ่มชิงกับกลุ่มหลงเหมิน เขาเพียงแค่เคยเห็นในทีวี เคยได้ยินคนอื่นเขาพูด
แต่ว่า แต่ว่า แต่ว่า เขาไม่เคยสัมผัสมาก่อนจริงๆล่ะ!
หลงเซียวจ้องมองสีหน้าที่ “ทำให้ผมตกใจแทบตาย” ของเขา เมฆบางลมเบาพูดว่า “ไม่ผิด เป็นกลุ่มมาเฟีย คนที่อยากจะฆ่าผมก็อยู่ภายในกลุ่มนั้น อีกทั้ง ผมรู้ว่าเป็นใคร”
เกาจิ่งอานสงบอารมณ์สักพักจึงได้ยินเสียงของตนเอง “ผม…….ผม ผม ผม ผมรู้แล้ว…….ดังนั้นพี่ชายใหญ่คุณคิดว่าจะทำยังไงดีหรือ?”
ไอหนาวที่อยู่บนคิ้วของหลงเซียวกลายเป็นรอยยิ้มที่อ่อนโยน ปลอบประโลมใจพูดว่า “อย่าตื่นเต้น เรื่องเหล่านี้ไม่มีความเกี่ยวข้องกับแก พวกเขาจะไม่มาหาถึงหัวของแก แกเพียงแค่ต้องจ้องตาดูโครงการของเมืองเจียงเฉิงไว้กับต่อสู้กับตู้หลิงเซวียนให้ถึงที่สุดก็พอแล้ว”
เกาจิ่งอานฉลาดปราดเปรื่องขึ้นมาหนึ่งที “ไม่ได้ เรื่องของพี่ชายใหญ่ก็เป็นเรื่องของผม ในเมื่อผมรู้แล้ว ก็ไม่สามารถที่จะนั่งอยู่เฉยๆไม่สนใจ พี่ชายใหญ่ ผมสามารถทำอะไรได้หรือ? คุณบอกมาเถอะ!”
ดังนั้น…….
พี่ชายใหญ่ให้เขาฝึกฝนความสามารถในการป้องกันตัวกับคนของกองทัพนกอินทรีพิเศษ สิ่งที่จะป้องกันก็เป็นอย่างวันนี้หรือ?
งั้น…….งั้น งั้น งั้น กระดานหมากรุกของพี่ชายใหญ่ก็ใหญ่เกินเกินเกินไปแล้วมั้ง!
เกาจิ่งอาน กึกๆกลืนน้ำลายอีกหนึ่งที
คิ้วที่เอียงเข้าไปในจอนผมของหลงเซียวยักแล้วยักอีก “แกแน่ใจหรือ?”
เกาจิ่งอานจ้องมองสภาพที่เลือดเต็มตัวของทั้งสอง ในฉับพลันนั้นในสมองกวาดผ่านสภาพที่ตนเองอาจเป็นไปได้ที่จะถูกคนอื่นปฏิบัติต่อเขาเหมือนอย่างนี้เช่นกัน หลังอดไม่ได้หดแล้วหดอีก แต่เขาก็ยังเติมเต็มความกล้าหาญ “อืม! ผมแน่ใจ! คุณเป็นพี่ชายใหญ่ของผม ผมกับพี่ชายใหญ่ก้าวถอยพร้อมกัน!”
ความมั่นคงของเขากับซื่อสัตย์ของเขา ทำให้หลงเซียวรู้สึกปลื้มใจอย่างลึกซึ้ง “ดีมาก ผมจะบอกแกว่าควรทำยังไง”
ออกจากโรงงานร้าง เกาจิ่งอานพยายามทำให้ตนเองไม่ไปนึกถึงเรื่องทั้งหมดเมื่อกี้อีก “ใช่แล้วพี่ชายใหญ่ คุณตั้งใจบินมาถึงเมืองเจียงเฉิง ก็เพื่อจะส่งเอกสารประมูลราคามาให้หรือ?”
คิดดูแล้วดูเหมือนไม่จำเป็นมั้ง?
เพียงเอาไฟล์ให้เขาก็ได้แล้ว
“ไม่ใช่ เอกสารการประมูลราคาเพียงแค่ติดมือมาด้วย” หลงเซียวตอบอย่างจิตใจเยือกเย็นมาก
เกาจิ่งอาน “……..”
เพียงแค่ติดมือมาเท่านั้นหรือ? ไม่เห็นความสำคัญเหลือเกินแล้วล่ะ? เมื่อกี้เขายังดีใจขนาดนั้นล่ะ
“พี่ชายใหญ่ทำไมคุณต้องรอถึงเวลานั้นจึงออกมาล่ะ? ผมล้วนตกใจแทบจะตายแล้ว คุณไม่รู้แผนของตู้หลิงเซวียนทำดีขนาดไหน แม้แต่ผมยังต้องซาบซึ้งเลย จริงนะ” เกาจิ่งอานออดอ้อนอย่างความคับแค้นใจเล็กน้อย
หลงเซียวขมวดคิ้วอย่างรุนแรง “ไม่ถึงท้ายที่สุด แกจะได้สัมผัสถึงสถานการณ์คับขันหรือ? สไตล์ที่เอ้อระเหยลอยชายของแกเมื่อก่อนสมควรแก้ไขแล้ว”
เกาจิ่งอานเบ้ปากอย่างน้อยเนื้อต่ำใจ
เขาเอ้อระเหยลอยชายที่ไหนล่ะ? เพื่อโครงการเขาพยายามมากไม่กินไม่นอนมากจริงๆโอเคไหม?
อีกทั้งยังร่วมมือกับหลงจื๋อทำเรื่องใหญ่ด้วย…….
อะแฮ่ม อะแฮ่ม! อันนี้ไม่พูดดีกว่า!
รถขับถึงในเขตเมืองเจียงเฉิง โทรศัพท์ของหลงเซียวดังขึ้นแล้ว
หมายเลขที่อยู่ในการคาดการณ์ มาจากตู้หลิงเซวียน
“อีเหี้ยยยยย! เขาโทรมาทำไมหรือ? พี่ชายใหญ่ ผมบอกกับคุณ ตู้หลิงเซวียนย่อมไม่มีเรื่องดีอย่างแน่นอน คุณอย่าไปสนใจเขา ตอนนี้เขากลัวแล้วอย่างแน่นอน!” เกาจิ่งอานรีบจนอยากจะแย่งมือถือของหลงเซียว แต่ถูกความว่องไวของหลงเซียวหลบไปเลย
หลงเซียวลูบออกรับสาย “ประธานตู้ มีเรื่องอะไรหรือ?”
น้ำเสียงที่ไม่เค็มไม่จืด ไม่รีบไม่ร้อน ไม่มีความรู้สึกที่หยิ่งในศักดิ์ศรี กลับอยู่สูงขนาดนั้น
ตู้หลิงเซวียนดับบุหรี่อยู่ในที่เขี่ยบุหรี่ “หลงเซียว พวกเราคุยกันหน่อย”
“ได้”
เกาจิ่งอานปิดหน้าไว้ “พี่ชายใหญ่ ไม่นึกเลยว่าคุณรับปากจะพบเจอกับเขาหรือ? ตอนนี้เขาย่อมอยากให้คุณออกมาใจจะขาดอย่างแน่นอน ยังมีอีก ผมกล้าเอาสมองของผมมาเป็นประกัน เขาต้องพาเจิ้งซินไปด้วยอย่างแน่นอน ทั้งสองคนสมคบกันย่อมไม่มีเรื่องดี คุณอย่าไปเปื้อนความซวยเลย ผมไปเอง!”
หลงเซียวใส่มือถือกลับไปในกระเป๋า “แกไปพร้อมกันกับผม แกไม่ใช่ทนดูตู้หลิงเซวียนกับเจิ้งซินไม่ได้หรือ?”
เกาจิ่งอานอึ้งชะงัก
ความหมายของพี่ชายใหญ่ เป็นอย่างที่เขาคิดแบบนั้นไหม?
“ควรกินข้าวเที่ยงแล้ว แกไม่หิวหรือ?” หลงเซียวเสริมไปอีกคำ
เกาจิ่งอาน “……..”
รถไม่ได้หยุดชะงัก ตรงไปยังร้านอาหารที่นัดไว้
ถึงเวลาอาหารเที่ยงแล้ว เกาจิ่งอานยังรู้สึกถึงความหิวเล็กน้อยแล้วจริงๆล่ะ
ร้านอาหารอิตาลีที่งดงามระดับสูง ดนตรีเปียโน ทิวทัศน์ที่มีสีอบอุ่น แขกผู้มีเกียรติที่พูดคุยกันอย่างเสียงเบายังมีตู้หลิงเซวียนที่นั่งอยู่ที่นั่นหน้าน่าต่าง
เกาจิ่งอานก้าวเดียวข้ามถึงข้างหน้าหลงเซียว คลุมเครือลึกลับก้มมองตู้หลิงเซวียน “ประธานตู้ เจอกันอีกแล้ว”
ตู้หลิงเซวียนพยักหน้า ยื่นมือเรียนเชิญพวกเขานั่งอย่างไม่มีเสียงสีหน้า “เชิญนั่ง”
เกาจิ่งอานดึงเก้าอี้ตัวหนึ่งออก “พี่ชายใหญ่ นั่ง”
หลงเซียวนั่งลง ไขว้ขาขึ้นมาโดยปริยาย ส่วนเกาจิ่งอานนั่งอยู่อีกฝั่งหนึ่งของโต๊ะอาหาร โต๊ะนั่งสี่คน ยังขาดอีกหนึ่งคน
ตู้หลิงเซวียนเรียกผู้บริการมา ใช้ภาษาอิตาลีที่ชำนาญพูดว่า “เอาเมนูให้คุณคนนี้”
เกาจิ่งอานเบ้ปากอย่างเหยียดหยาม โอ้ว ยังพูดภาษาอิตาลีเป็นล่ะ!
หลงเซียวรับเมนูมา ใช้ภาษาอิตาลีพูดขอบคุณแล้วเหมือนกัน
ในทันทีนั้นตาของเกาจิ่งอานจ้องมองไปยังพี่ชายใหญ่อีก
โอ้พระเจ้า พี่ชายใหญ่ก็เป็นด้วยหรือ?
โอ๊ะ! ใช่! กลุ่มมาเฟีย!
ทันทีที่นึกถึงฐานะที่ซ่อนเร้นของพี่ชายใหญ่ หัวใจของเกาจิ่งอานเต้นจนถึงลูกกระเดือกอีก
หลงเซียวสั่งชุดของตนเองนั้น ตู้หลิงเซวียนพูดกับคนบริการว่า “เมนูเดียวกัน สองชุด”
เกาจิ่งอานแสดงให้เห็นว่าฟังไม่ออก ตนเองเปิดเมนูออก อ่านภาษาอังกฤษบนนั้น สั่งไปหนึ่งชุด
สั่งอาหารเสร็จ คลี่คลายลงที่ระยะสั้นก็จบลงด้วย
ตู้หลิงเซวียนเขย่าแก้วไวท์ เขย่าแล้วเขย่าอีก “หลงเซียว นึกไม่ถึงคุณสนใจเมืองเจียงเฉิงขนาดนี้ การปรับปรุงใหม่ของเมืองเก่าคุณแบ่งไปแล้วชุดใหญ่ การย้ายรื้อทิ้งเหล่านี้คุณยังอยากจะเอาอีกหรือ?”
นิ้วมือของหลงเซียวเสียดสีกับขอบแก้วไวท์บาง “คำพูดของประธานตู้เหล่านี้พูดถูกแค่ครึ่งเดียว ผมไม่รู้สึกสนใจกับเมืองเจียงเฉิงเลย แต่ว่าผมสนใจมากกับสิ่งของที่ประธานตู้อยากได้”
ไวท์ของเกาจิ่งอานอมไว้อยู่ในปากหนึ่งคำ เหมาะกับจ้องมองหน้าข้างๆที่เย็นยะเยือกของหลงเซียว ในใจแอบพูดไปคำหนึ่งว่า——หล่อมาก!