ประธานหยิ่งยโสของฉัน - ตอนที่ 104
ตอนที่ 104 ที่ผ่านมาฉันไม่ดีเอง เราเริ่มต้นกันใหม่นะ
ฉู่ลั่วหานจับจ้องเข้าไปในดวงเนตร เขาจ้องโต้กลับอย่างไม่ ลดละ นัยน์ดาที่เต็มไปด้วยเรื่องราวและความลับมากมาย แปลกตา แต่กลับดึงดูดอย่างบอกไม่ถูก!
ช่วงเวลาที่เธอตัดสินใจจบสิ้นการแต่งงานที่ไร้ความรัก เขากลับสารภาพต่อเธออย่างรักใคร่ เขารักเธอ!
เธอสับสนพลันสลัดมือหนาออก “ทำนเซียวอย่าล้อเล่น แบบนี้เลย ฉันไม่ใช่เด็กสาวอายุ18”
หลงเชียวระงับโทสะที่พร้อมปะทุขึ้นทุกเมื่อ เขารู้ดีทั้งสอง มีเรื่องบาดหมางเข้าใจผิดมากมาย ไม่สามารถอธิบายให้ เข้าใจได้ในระยะเวลาอันสั้น “ฉันไม่ได้ล้อเล่น ฉันจริงจัง ฉัน รับผิดชอบทุกค่าพูดที่ตัวเองได้พูดออกไป”
คู่ลั่วหานจับจ้องหลงเชียว ไร้ที่ท่าล้อเล่นให้เห็นบนใบหน้า “ไม่ต้องหลอกท่านเซียว คำสารภาพเก็บไว้พูดกับคนอื่นเถอะ ฉันไม่รักคุณแล้ว! ฟังไม่รู้เรื่องหรือไงหลงเชียว”
“ไม่จริงน่า!” หลงเขียว โพล่งขึ้นขัดประโยคเธอ “เธอกล้า พูดหรือว่าเธอไม่รู้สึกอะไรต่อฉัน? มองตาฉันบอกฉันมา!” คู่สั่วหานเก็บซ่อนความเจ็บปวด อดกลั้นไม่ให้หยวนชูเฟิน
มีอิทธิพลต่อเธอ แต่เธอทำไม่ได้! ทำไม่ได้!
คู่ลั่วหานฝันยิ้มขมขื่นอย่างไร้หนทาง เธอก้มหน้าจ้องมอง จานอาหาร “ฉันไม่อยากเห็นคุณอีก ปล่อยมือ!”
“ฉันไม่ปล่อย คนที่ฉันเลือก เป็นได้เพียงคนของฉัน เธอไป ไหนไม่ได้ทั้งนั้น” เขาพันธนาการเธอไว้อย่างเอาแต่ใจ ลม หายใจรัวเร็วด้วยความโกรธ
“เธอไม่แคร์ฉัน กลับเชิญฉันมาที่พักของเธอ ลงมือทำ อาหารให้ฉัน นี่คือไม่แคร์หรือ?”
“ฉัน”
“จำรสชาติที่ฉันชอบได้ ล้วนแต่ของโปรดฉันทั้งนั้น นี่เธอ ไม่แคร์จริงๆ ใช่ไหม?”
คู่ลั่วหานนิ่งงั้น “ฉัน…..ทำอาหารประหยัดงบ”
เหตุผลบ้านอะไรกัน!
หลงเชียวโกรธจนไร้หนทาง เขาผ่อนแรงที่พันธนาการเธอ นัยน์ตาอ่อนโยนรักใคร่ “หมอฉู่ เธอฉลาดขนาดนี้ จะดูไม่ ออกเชียวหรือ ที่ฉันทำทั้งหมด เพื่อรั้งเธอเอาไว้?”
ประโยคเดียว ราวมีดคมที่มแทงทะลุหัวใจ ขอบตาร้อน ผ่าวราวกองไฟแผดเผาน้ำตาไหลรินเป็นสาย ตวงตาและ หัวใจปานถูกไฟลน
เหตุใดโชคชะตาจึงกลั่นแกล้งกันเช่นนี้ฉันรักคุณ..
(เธอไม่คู่ควรกับลูกชายของฉัน! เธอไม่คู่ควร!]
ฉันอยากรั้งคุณเอาไว้
(เธอไม่หย่า สิ่งที่รอเขาอยู่คือข่าวแม่ลูกแตกหักกัน
ทำไม!
สองเสียงดังขึ้นตีกันในหัวฉู่ลั่วหาน ราวมีดคมกรีดทั้งสอง
ทาง ค่อยๆ ที่มแทงใจเธอ
“ฉันเหนื่อยแล้ว เหนื่อยมากจริงๆ สามปีมานี้ฉันทนคำ เหยียดหยามตาขวางมามากพอแล้ว ควรจบเสียที”
ไร้คำพูดใดๆ หลุดออกจากปากหลงเชียว เธอแทงใจดำ เขา เรื่องจริงที่เธอไม่เคยแก่งแย่งชิงดี สามปีที่ผ่านมา เขา ทำร้ายเธอจริงๆ เจ็บลึก ตอนนี้เขาอยากคืนความอ่อนโยนที่ ติดค้างเธอทั้งหมด เขาอยากใช้ชีวิตที่เหลือเพื่อรักเธอ ถนอม
เธอ
“ให้เวลาฉัน ได้แก้ไขสิ่งเหล่านี้” เขากอดรัดเธอไว้อย่าง แน่นหนาเกรงว่าหากคายออกเธอจะหายไปตลอดกาล ไม่ หวนกลับมาอีก
เขาไม่อยากสูญเสียเธอไปอีกแล้ว ไม่ เขากลัวสูญเสียเธอ
ไปฉู่ลั่วหานน้ำตาร่วงรินหยดลงต่อเนื่อง…
เธอผิดค่าพูดกับตัวเองอีกแล้ว เธอเพราะเขาอีก
แล้ว
เพียงคู่ลั่วหานน้ำตาไหลริน ท่านลุกลี้ลุกลน “ลั่วหา ต้องการแน่? ฉันให้ได้ทั้งหมด”
คู่ลั่วหานราวถูกไฟคลอกแผดเผาไปทั่วร่าง เจ็บปวดเจียน ตาย ถ้าอย่างนั้นปล่อยให้ฉันเป็นอิสระ หลงเชียว”
เพียงเธอหลับตาลง เจ้าน้ำตาไหลรินเป็นสาย
หนึ่งอาทิตย์! หากเธอไม่หย่า หลงเชียวถูกทำลายแหลกเป็นชิ้นๆ แม้ต่อไปเขาอาจประคองลูกชายตน ขึ้นอีกครั้ง หากแต่ข่าวฉาวถูกแพร่ออกไป นั่นเป็นหลุมดำ จุดบอดไปตลอดชีวิต
ที่เธอรัก เป็นชายที่ยืนเหนือหมู่เมฆ มีจุดบอดไม่ ได้เป็นอันขาด
ฉะนั้นแล้ว ความมืดมนทั้งหมด เธอจะแบกรับเอาไว้เอง ใครให้เธอรักเขาล่ะ
ภาพเธอน้ำตาไหลริน ที่มแทงเขาจนเจ็บพรุน หลงเชียว รู้สึกว่าตนเป็นไอ้สารเลว ทำให้หญิงที่ตนรักเสียน้ำตาเช่นนี้ เขาเอื้อมมือปาดเช็ดน้ำตาให้เธอ เธอหัวหันหน้าหนี
หลบหลีกมือ หนามือใหญ่นึ่งค้างกลางอากาศอย่างอึดอัด ปานหัวใจ ถูก กรีตแทงเป็นแผลเหวอะ
“เธอ…ไม่แคร์ฉันเลยสักนิด?” แต่ละคำ เจ็บปวดปาน
ขาดใจ
ฉู่ลั่วหานกัดฟันแน่น สามปีของความเย็นชา เขาไม่เคยยื่น มือช่วยเหลือเธอเลย เธอฮึดสู้ด้วยชีวิต โอบล้อมรักษาด้วย
ความรัก
บอกไม่แคร์ บนโลกใบนี้ยังมีใครรักมากกว่าเธออีก?
“ฉันพูดชัดเจนมากแล้ว”
หลงเชียวปล่อยเธอเป็นอิสระ ร่างบางเสียการห่อหุ้ม ราว ชีวิตจริงที่สูญเสียชายที่รัก คู่ลั่วหานร้องให้ด้วยความเจ็บ ปวดอย่างหักห้ามไม่ได้!
เหนื่อยหน่าย เจ็บปวด สิ้นหวัง และไร้หนทาง
หลงเชียวเดินอ้อมโต๊ะหยุดอยู่ข้างเธอ ดูท่าอาหารมื้อนี้คง ทานไม่ลงแล้วกระมัง
มือใหญ่วางบนไหล่เล็ก อดกลั้นความเจ็บปวด คิ้วเข้ม ชมวดเข้าหากัน “เราต้องใจเย็นทั้งคู่ ที่ผ่านมาฉันไม่ดีเอง ปล่อยให้มันผ่านไป เรามาเริ่มต้นกันใหม่”
เธอสลัดมือหนาหลุดออก “เคยรักเคยเจ็บ บาดแผลนั้น ไม่มีวันจางหาย ท่านเขียวยุ่งลืมไปง่าย แต่ฉันลืมไม่ได้”
หลงเชียวเจ็บหัวใจ
“จากกันด้วยดี อย่าพยายามพัวพันอีกเลย” เธอเอ่ยขึ้น
อย่างหมดแรง
เธอตัดสินใจหย่าตั้งแต่แรกอยู่แล้ว หยวนชูเฟินอ้างว่าเธอ ไม่เหมาะกับสะไภ้ตระกูลหลง นี่มันล้ำเส้นของเธอ เธอ เสมือนเรือเล็กในมหาสมุทรอันกว้างใหญ่ ถูกลมทะเลโบก ซัดเหลือเพียงซาก
เธอไม่อยากทนอีกต่อไปแล้ว
“ฉันบอกแล้ว ฉันไม่ตกลง!”
คู่ลั่วหานก้มหน้าลงต่ำ น้ำเสียงสั่นเครือ “ท่านเซียวเป็นคน พลิกลิ้นเล่ห์เหลี่ยมตั้งแต่ตอนไหนกัน แล้วก็ ฉันได้พูดในสิ่งที่ ฉันอยากพูดแล้ว หากคุณซื้อรั้นไม่ยอมเซ็นใบหย่า เราคง ต้องสละเวลา ต้องแยกทางกันในศาล”
จบคำ หลงเชียวผลักโต๊ะล้มลงอย่างโกรธจัด อาหารเท กระจัดกระจาย เขาเหยียบเศษแก้วที่แตกกระจาย กอดรัด เธออย่างแน่นหนา “แยกทางกันที่ว่า ไร้ชีวิตคู่สามีภรรยา เธอต้องการบีบบังคับฉันอย่างนั้นหรือ?”
เรื่องราวมากมายที่เกิดขึ้นในห้องนี้ คู่ลั่วหานจับจ้องเขา ด้วยใจที่สั้นสะท้าน “คุณ..ปล่อยฉัน! ออกไปจากบ้านของ ฉัน!”
เธอแกะมือเขาออกสุดแรง ออกคำสั่งไล่
“ลั่วหาน ฉันไม่มีทางให้เธอจากฉันไป วันนี้ไม่ วันอื่นๆ ก็ ไม่มีทางเช่นกัน” เขาผ่อนแรงลงอย่างอ่อนโยน โอบกอด หว่างเอวบางของเธอล็อคเธอไว้ในอ้อมกอดตัวเอง
ฉู่ลั่วหานหัวเราะอย่างเย็นชาด้วยความไร้หัวใจ “ฉันบอก ให้คุณออกไปจากที่นี่ ที่นี่เป็นบ้านของฉัน ออกไปเดี๋ยวนี้”
“เธอให้ฉันมา ต้องเตรียมใจรับมือกับสิ่งที่เกิดขึ้น เธอคิด ว่าฉันจะออกไปง่ายๆ อย่างนั้นหรือ?” เขาล็อคเธอแน่นเข้า กับแผงอกแกร่งของตน ลมหายใจร้อนผ่าวรดผ่านเส้นผม สลวยของเธอ ราวต้องการลนไปผิวหนังเธอให้มอดไหม้
คู่ลั่วหานแสบร้อนบริเวณขอบตา น้ำตาเหือดแห้ง “ได้ คุณ ไม่ไป ฉันไม่เอง!”
เธอต้องบ้าไปแล้วแน่ๆ บ้าไปแล้วที่เชื้อเชิญเขาดินเนอร์ที่ บ้าน บ้าไปแล้วถึงลงมือทำอาหารให้กับเขา ทั้งคู่จบกันด้วย ดีได้จริงๆ หรือ
เธอมันบ้าจริงๆ!
ปัง!
ผลักประตูจากไป ประตูส่งเสียงดังอยู่ครู่หนึ่ง
ชายหนุ่มยืนอยู่ที่เดิม ร่างสูงใหญ่ถูกแสงจันทร์นอก หน้าต่างสาดส่องเงาแสงอย่างโดดเดี่ยว
สูญเสียร่างบางของเธอ แขนทั้งสองข้างเกิดว่างเปล่า เดียวดาย สิ้นหวังราวสูญเสียทุกสิ่ง
เขาจ้องมองไปยังกล่องของขวัญ เสมือนว่าเขาเข้าใจอะไร บางอย่างขึ้นมา เธอโกรธปานนั้น คงเพราะเครื่องประดับชิ้น นี้ที่เหมือนกับของโม่หรูเฟย แต่นั่นเขาไม่ได้ให้เธอ
“บอกโม่หรูเฟย ต่อแต่นี้ห้ามเธอก้าวเข้ารีสอร์ทหยีจิ่งเด็ด ขาด” หลงเซียวต่อสายโทรหาจี้ตงหมิงทันที ออกคำสั่งอย่าง เย็นชา
“ครับ!”
หลงเชียวเป็นห่วงฉู่ลั่วหาน เธออารมณ์ไม่คงที่อาจเกิด อุบัติเหตุได้ “เธอเพิ่งขับรถออกไป คงไปไม่ได้ไกลนัก ตาม เธอไป”
ที่สุด พังพินาศจนได้
เธอเป็นคนที่เขารักสุดหัวใจตั้งนานแล้ว เพียงแค่กระดาษ แผ่นเดียวสามารถตัดสินได้งั้นหรือ?
ออกมาจากบ้านแบบนี้หรือ ฉู่ลั่วหานเคลื่อนตัวเข้าไปใน รถ ฝ่าไปยังถนนเส้นหนึ่งอย่างสับสน ไม่รู้ว่าขับมานานแค่ ไหน ที่สุดเธอไร้เรี่ยวแรงบังคับไปต่อจึงฟุบหน้าลงกับพวง มาลัยรถให้ออกมาอย่างหนัก
หากไม่ใช่เพราะรักสุดใจ เธอจะยอมอยู่ให้หลงเชียวทรมานเธออยู่นานสามปีได้อย่างไร
เธอควักโทรศัพท์ออกมา เปิดเครื่อง
แสนนาน เธอส่งข้อความหาหยวนชูเฟิน “พวกเราหย่ากัน แน่ คุณสบายใจได้”
คู่ลั่วหานรู้สึกเหนื่อยหน่าย ไร้เรี่ยวแรงขับรถต่อ เธอจอดรถข้างถนน ปรับเอนเบาะ พักสมองพักใจครู่หนึ่ง
แต่ก่อนได้ยินบ่อยนัก การแต่งงานเป็นหลุมศพของความ รัก เมื่อไตร่ตรองอย่างละเอียดเธอและหลงเชียวพัวพันต่าง ทำร้ายกัน ความรักเคยมีอยู่ด้วยหรือ?
น้ำตาใสเย็นเยือกไหลรินไปตามรูปหน้า แสงไฟสีส้มสาด ส่องยังใบหน้าที่มืดมน แสงหมอกสกัดกั้นกลาง เธอมองไม่ เห็นหนทางข้างหน้า และถอยกลับสู่ที่เก่าไม่ได้
คู่ลั่วหานไม่รับรู้ หลังเธอขับรถออกจากบ้าน รถของหลง เชียวตามหลังเธอมาติดๆ
จี้ตงหมิงไม่กล้าแม้มองหน้าหลงเซียว เพราะความเย็น เยือกของเขาบีบให้คนในรถหยุดหายใจ เขากุมพวงมาลัย รถอย่างระแวดระวัง ไม่กล้าส่งเสียงเล็ดลอดออกมา
เจ้านายเป็นอะไรกันแน่?ก่อนออกมาอารมณ์ดีอยู่เลย แถม ยังไปเปลี่ยนชุดที่ออฟฟิตเด่นรุ่ยอีกต่างหาก เพียงแค่อาหาร มื้อเดียว ถึงกับท้องฟ้าเปลี่ยนสีเลยเชียว?
ดวงตาขลับราวออบซิเดียน ภาพของฉู่ลั่วหานน้ำตา ไหลรินถูกฉายซ้ำในหัวครั้งแล้วครั้งเล่า
เขาไม่เคยคาดคิด หยาดน้ำตาของเธอมีอิทธิพลเช่นนี้ ถึง กับทำให้หัวใจเขาร้อนผะผ่าว ทำให้อกเขาแสบร้อนราวถูก ไฟคลอก
เขารักเธอ เสียงนี้ดังกึกก้องขึ้นกว่าเดิม มั่นใจกว่าเดิม ไม่สามารถสูญเสียเธอไปได้ไม่สามารถไร้เธอข้างกายได้
กระทั่งวันนี้ เขามองเห็นหัวใจตนเองชัดเจน
แสงไฟสีฟ้าของโทรศัพท์ฉายขึ้นกะทันหัน ฉู่ลั่วหานไม่คิด รับ หน้าจอปรากฏ “หลงจื่อ” สองคำ ไขสันหลังเธอแน่นดึง เขาโทรศัพท์มาได้อย่างไร หลงเชียวบอกเขาอย่างนั้นหรือ “ฮัลโล?”
คนปลายสายหลงกระแทกเสียง “พี่สะใภ้! พี่อยู่ถนน เฟิงเหอหรือไม่? เมื่อครู่เหมือนผมเห็นรถพี่รางๆ ใช่พี่ขับหรือ ไม่?”
ลั่วหานไม่รับรู้หนทางใดๆ ทั้งสิ้น ผ่านการเตือนสติของ เขา ถึงได้รู้ว่าตนจอดรถข้างถนนเฟิงเหอ ด้านหน้าไม่ไกลนัก เป็นถนนผับบาร์ ที่สำหรับหนุ่มสาวเสวยสุขในยามค่ำคืน
ท้องฟ้ายามค่ำคืนถูกแสงไฟวับวาบสาดส่องจนเกิดสีรุ้งเสมือนเป็นเมืองที่ระยับหรูหราอร่าม
“ฉันเอง” คู่ลั่วหานซู้ดจมูก ราวไข้จับ
เสียงทางฝั่งหลงจื๋อนั้นวุ่นวายนัก ไม่ได้สังเกตเสียงที่ผิด ปกติของพี่สะใภ้ เพียงแค่หัวเราะเสียงดังลั่น “มาเที่ยวหน่อย ไหม? ผมเลี้ยงเหล้าเอง เป็นหมอเหมือนแม่ชีชะมัด น่าเบื่อจะ ตาย ผู้หญิงก็ต้องการชีวิตยามค่ำคืนเหมือนกันนะ ผมรับรอง ไม่บอกพี่ใหญ่แน่นอน!”
คู่ลั่วหานขมวดคิ้วเป็นปม เธอไม่ชอบดื่มเหล้า แต่วันนี้เธอ อยากดื่มสักจอก เจ็บหัวใจเหลือเกิน เธอต้องการยืมฤทธิ์ แอลกอฮอล์เพื่อย้อมใจให้ด้านชา
“ไม่เป็นไร เดี๋ยวฉันจะกลับแล้ว นายเที่ยวให้สนุก”
“ไม่เอาหน่าพี่ นานๆ ทีพี่จะผ่านแถวนี้ ด้วยกัน สิ ไม่งั้น ผม ไปรับพี่ไหม? ผมเดินไปเพียงแค่5นาทีเท่านั้น พี่รอผมนะ!”