ประธานหยิ่งยโสของฉัน - ตอนที่ 1043
บทที่ 1043 หลงเซียว นี่มันเครื่องบินนะ
คงเป็นเพราะแยกกันเป็นเวลานาน ทุกครั้งที่ได้ยินเสียงเขา รับรู้ถึงลมหายใจและเสียงเต้นของหัวใจของเขา เธอก็เหมือนอยู่ในท่ามกลางความฝันอันสวยงาม ทั้งๆที่เป็นผู้หญิงที่เป็นแม่คนแล้ว แต่อยู่ตรงหน้าเขาแล้วเธอก็ยังเป็นเหมือนสาวน้อยคนหนึ่ง
เมื่อพูดคำนั้นออกไปแล้ว ลั่วหานก็ยิ้มอย่างรู้สึกว่าตัวเองโง่ เธอเหมือนอยู่ในกำมือเขาเลย
เหมือนกัน ทางด้านหลงเซียว หลังจากคำว่า “คิดถึงคุณ” ใต้ท้องก็รู้สึกแน่นขึ้นมาทันที หัวใจก็เต้นผิดจังหวะ “คุณอยู่ที่ไหน? ออกมาแล้วเหรอ?”
ลั่วหานแกล้งไอ เพื่อปิดปังความเขินของเธอ “ใช่ เจมส์จะมาอังกฤษ เขามีงานเพื่อเจอกัน ฉันออกมาซื้อเสื้อผ้า”
หลงเซียวขมวดคิ้ว เธออยู่ที่อังกฤษใช้ชีวิตแบบไหนกันเนี่ย จะร่วมงานสำคัญ แค่เสื้อชุดเดียวยังไม่มี?
“คุณรอผมหนึ่งนาที เดี๋ยวผมสั่งคนตัดให้คุณ”
หลงเซียวยังคงอยู่ในสาย เตรียมตัวติดต่อช่างตัดเสื้ออังกฤษ
“ไม่ไม่ไม่ ไม่ต้อง Merrickเตรียมเสื้อผ้าให้ฉันมากมาย เพียงแต่ว่าฉันรู้สึกว่ามันไม่เหมาะกับฉัน เพราะฉะนั้นเลยออกมาซื้อเอง อีกอย่าง ถ้าฉันไม่ออกมา จะมีโอกาสโทรหาคุณได้ยังไง แล้วก็ฉันยังมีเรื่องจะบอกคุณ”
ทำไมเธอถึงลืมสัญชาตญาณของคนรักและหวงเมียไปได้? ถึงได้บอกว่าตัวเองไม่มีเสื้อผ้าต่อหน้าเขา กลับไปสงสัยสิ่งที่รอเธออยู่คือตู้เสื้อผ้าบานใหญ่
อีกอย่าง ตอนนี้เวลาเธอเร่งรีบ เรื่องจริงจังยังไม่ได้พูด ทำไมถึงมีเวลามาพูดเรื่องพวกนี้กับเขา?
ช่างน่านัก
ฉู่ลั่วหานนะ ฉู่ลั่วหาน ประสิทธิภาพของเธออยู่ไหน? สติของเธออยู่ไหน? สไตล์ของเธออยู่ไหน?
หลงเซียวดึงมือเขากลับ ถือว่ายอมรับคำพูดของลั่วหานแล้ว “ได้ คุณพูดเลย เรื่องอะไร?”
“ฉันเคยถามMerrick……”
จากนั้นลั่วหานก็เล่าเรื่องโดยย่อและสาระสำคัญทั้งหมดให้หลงเซียวฟัง แล้วก็กำชับถึงเรื่องความสัมพันธ์ของMerrickกับMAX เล่าให้เขาฟังว่าความสัมพันธ์ของเขาสองคนไม่ถือว่าตัดขาดโดยสิ้นเชิง ถ้าอยากให้พวกเขาคืนความสัมพันธ์กลับมาเหมือนเดิม ก็ถือว่ายังมีโอกาส
หลงเซียวฟังคำอธิบายของเธอจบ ความมืดมนในสายตาสั่นไหว ครุ่นคิดไปสักครู่ก็พูดว่า “ดูแล้วMerrickน่าจะรู้สึกผิดต่อน้องชาย สำหรับเขาจะแสดงความรู้สึกผิดนั้นยังไง ก็ต้องคุยกันอีกที”
ในสังคมนักการเมือง ส่วนมากก็ต่อหน้าอย่าง ลับหลังอย่าง ถึงจะแสดงออกว่ารู้สึกผิด แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าเขาจะทำอะไร ไม่รู้ว่าMerrickเป็นประเภทไหน?
ลั่วหานพูดอีกว่า “เจมส์มาอังกฤษกะทันหัน ทำไมฉันรู้สึกว่ามันไม่ใช่เรื่องบังเอิญขนาดนั้น? คุณว่าไหม?”
ไม่เช้า ไม่สาย ในตอนที่เธอมาอังกฤษ เขาก็จะมาเยือน ถ้าเป็นเรื่องบังเอิญ เธอไม่มีวันเชื่อแน่
ริมฝีปากบางอันเซ็กซี่ของหลงเซียวยิ้มขึ้น ความรู้สึกดีใจนั้นส่งผ่านมือถือมายังหูของเธอ “อืม? คุณทางดู”
เขาไม่พูดยังดี น้ำเสียงนี้ช่าง……
“คงไม่ใช่แผนของคุณหรอกนะ? คุณให้เจมส์มา?”
ลั่วหานใช้นิ้วเคาะหน้าผากตัวเองอย่างตื่นเต้น จากนั้นก็ยิ้มออกมา
พระเจ้า ทำไมเธอถึงนึกไม่ถึง หัวสมองเจมส์ไม่ได้ฉลาดขนาดนั้น เวลาสำคัญแบบนี้คนที่วางแผนต้องเป็นผู้ชายของเธอแน่นอน
คิดถึงตรงนี้ สายตาลั่วหานก็มีแต่ความสุข แต่งงานกับคนที่ใช่มันมีความสุขที่สุดเลย
หลงเซียวยิ้มอย่างได้ใจ “อืม”
“ฉันรู้แล้ว ถ้าพวกเราเจอกันแล้ว ฉันมีเรื่องจะบอกเขา”
ลั่วหานพูดสาระสำคัญเสร็จแล้ว ดูเวลาการสนทนา ห้านาทีพอดี
แต่เธอจับมือถือไม่อยากปล่อย แต่คนข้างนอกคงรอไม่ไหวแล้ว?
เธอจะทำเกินไปไม่ได้
หลงเซียวรู้สึกถึงความกังวลของเธอ พูดเสียงอ่อนโยน “วางสายเถอะ ยืมโทรศัพท์คนอื่นนานก็ไม่ค่อยเหมาะสม ค่อยหาโอกาสใหม่”
ลั่วหานกัดริมฝีปาก ใบหน้าที่สะท้อนในกระจกสายตาเร่าร้อน ริมฝีปากแดงเหมือนรอจูบจากใครบางคน
ถึงเข้าใจว่าทำไมเนื้อเพลงถึงเขียนว่า “เหนื่อยจนหมดแรงแต่คิดถึงจูบเธอ……”
ตอนนี้เธออยากจูบปากเขามากถึงมากที่สุด
คิ้วสวยขมวดเข้าหากัน ลั่วหานสะบัดหัว ปัดความคิดที่ไม่ถูกที่ถูกเวลา “ได้”
“คุณวางสายก่อน” หลงเซียวฟังเสียงสายใจเธอ มองดูแสงท้องฟ้าและดอกไม้สดในห้องนอน เหมือนเธออยู่ข้างกาย……
ตุ๊บ
สายยังไม่ได้ตัด แต่มีเสียงเหมือนของตกลงบนพื้น
คิ้วที่ผ่อนคลายเมื่อครู่ขมวดแน่นขึ้นมาทันที
“ลั่วลั่ว”
เขาตะโกนใส่มือถือที่ยังไม่ได้ตัดสาย ฝั่งโน้นไม่มีเสียงตอบรับ จากนั้นก็ได้ยินเสียงอะไรบางอย่างเคาะกับพื้น ด้วยความแรง และหนักมาก ตอนแรกค่อนข้างถี่ จากนั้นก็ค่อยๆช้าลง แล้วหายไป
ความคิดที่ไม่ค่อยดีผุดขึ้นในหัวของหลงเซียว เขาเบิกตากว้าง และเต็มไปด้วยความมืดมน
โดยพื้นฐานแล้วสามารถตัดสินได้ว่า ลั่วลั่วเกิดเรื่องแล้ว
ให้ตายซิ
ยี่สิบวินาทีที่แล้ว…..
ลั่วหานสีหน้ามีความสุขมองไปในกระจก จินตนาการว่าหลงเซียวอยู่ข้างกาย
ยังไม่ได้วางสาย ในกระจกก็มีเงาดำเข้ามา เร็วจนเธอยังไม่ทันว่าเป็นใคร เธออยากหันไปมองให้ชัดเจน แต่ทุกอย่างกลับมืดไปหมด
เธอรู้สึกเจ็บตรงหัว ของแข็งบางอย่างห่อด้วยผ้าขนหนูทุบลงที่หัวเธอ ตามมาด้วยความชาและเจ็บ เธอรู้สึกหน้ามืด
แต่สติของเธอที่หลงเหลืออยู่ทำให้เธอเตือนสติตัวเองกับเรื่องที่กำลังเกิดขึ้น ให้เธอใช้แรงที่มีอยู่กระทืบเท้าอย่างสุดแรง ปากถูกปิดด้วยมือใหญ่ เธออยากร้องออกเสียง แต่ร้องไม่ออกเลยแม้แต่นิดเดียว
ตอนแรกเธอยังพอมีแรง ต่อมาก็รู้สึกขายิ่งอยู่ยิ่งหนัก เท้ายิ่งอยู่ยิ่งหนัก รู้สึกตัวไร้เรี่ยวแรง
สมองขาดออกซิเจน สุดท้ายก็สลบไป
แต่หูเธอก่อนสลบไปศูนย์จุดศูนย์หนึ่งวินาที ยังได้ยินเสียงร้องอย่างกังวลของหลงเซียว
วินาทีนั้น จากใกล้ไปไกล ทุกอย่างเกิดขึ้นเร็วเกินไป เร็วมาก……
นอกประตู บอดี้การ์ดรอไปสิบนาที แต่กลับไม่เห็นลั่วหานออกมา
เมื่อกี้เขาถูกคนชนไปทีหนึ่ง ฝ่ายตรงข้ามขอโทษอย่างเกรงใจ แล้วถามเขาว่าจะซื้อของใช้เด็กได้จากไหน เขาอธิบายให้อยู่สักครู่
แต่รวมแล้วก็ประมาณครึ่งนาที เขาก็จ้องประตูห้องน้ำอยู่ตลอดเวลา เขามั่นใจว่า แอนน่ายังอยู่ข้างใน
แต่ทำไมยังไม่ออกมา?
ลั่วหานเข้าไปในห้องน้ำหญิง เขาเป็นผู้ชายจะเข้าไปคงไม่ค่อยดี?
บอดี้การ์ดซื่อตรงอย่างเขารอยังไงก็ไม่เห็นเธอออกมา กังวลว่าลั่วหานจะตั้งใจยึดเวลา จากนั้นก็เดินเข้าไปในทางเดินร่วมของห้องน้ำ ยืนตะโกนอยู่หน้าห้องน้ำหญิง “คุณแอนน่า?”
ข้างในไม่มีอะไรตอบรับเลย
เขาตะโกนอยู่หลายครั้ง แต่ก็ไม่มีเสียงตอบรับ
อาชีพบอดี้การ์ดทำให้เขารู้ทันที
หรือจะเกิดอะไรขึ้น
ไม่คำนึงถึงอย่างอื่นแล้ว บอดี้การ์ดบุกเข้าไปในห้องน้ำหญิง มีเสียงกรีดร้องดังจากข้างใน แต่สีหน้าเย็นชาเรียบเฉยของบอดี้การ์ด ทำให้ผู้หญิงทั้งหลายต่างก็หุบปากลง
กวาดสายตามองไปรอบหนึ่ง บอดี้การ์ดไม่เห็นเงาใครเลย
แต่ว่า……
แต่สายตาอันเฉียบคมของเขามองเห็นอ่างล้างหน้า บนแท่นยังมีชื่อที่ใช้น้ำเขียนไว้ รอยหนังสือยังหลงเหลือร่องรอยอยู่ จากความรู้ในภาษาจีนอันน้อยนิดของเขา รู้จักแค่ตัวเดียวคือคำว่า “หลง”
เที่ยวบินที่เกาจิ่งอานนั่งได้ถึงสนามบินลอนดอนอย่างตรงเวลา
น่าแปลกใจคือ อากาศในลอนดอนวันนี้ดีเป็นพิเศษ ไม่มีเมฆหนาหรือฝนตกหนักเหมือนก่อน
“รู้ว่าคุณชายอย่างฉันจะมา ฟ้ายังเป็นใจ”
เวลาเดียวกันกับเครื่องบินลงจอด เกาจิ่งอานกดปุ่มเปิดเครื่อง ขณะรอเครื่องเปิด ถือกระเป๋าลงมาจากที่นั่งชั้นธุรกิจ เดินลงมา เดินได้ครึ่งทาง มือถือก็ได้เปิดเครื่องเรียบร้อย จากนั้นก็ตามมาด้วยเสียงระบบสั่น
เกาจิ่งอานนึกว่ามือถือเสียแล้ว เพราะมันสั่นไม่หยุด มีเสียงสั่นสะเทือนไม่หยุด
ปลดล็อกมือถือออกอย่างรำคาญ เกาจิ่งอานต้องตกใจ
ให้ตายซิ เป็นคำแจ้งเตือนไม่ได้รับสายของพี่ใหญ่เขาทั้งหมด ข้อความเข้ามาสายแล้วสายเล่า ทุกข้อความล้วนแจ้งเดือนเขาว่ามีเบอร์โทรเข้าเมื่อเวลากี่โมงกี่นาที
หลังข้อความพวกนี้ ยังมีข้อความของหลงเซียว “เปิดเครื่องแล้วรีบโทรหาฉัน”
รหัสลับ?
คนใจเย็นอย่างพี่ใหญ่ยังใช้รหัสลับ อีกอย่างยังใช้สองอัน
พระเจ้า
เกาจิ่งอานกลืนน้ำลาย พี่ใหญ่คงไม่ได้รีบจะเจอหน้าพี่สะใภ้หรอกนะ? เขาจะไปทางโน้นจากสนามบินก็ต้องใช้เวลา ใช่ไหม?
“พี่ใหญ่…..”
“จิ่งอาน ลั่วลั่วหายตัวไป ฉันสงสัยว่ามีคนจะทำร้ายเธอ คนทางลอนดอนฉันจัดวางคนไว้แล้ว ฟังนะ คำพูดที่ฉันจะพูดต่อไปนี้ นายต้องจำไว้”
เกาจิ่งอานยิ่งหน้างงอยู่ตรงนั้น ลืมที่จะเดินต่อไป คนมาจากข้างหลังไม่ทันสังเกตจนชนเขา เสียงแหลมสดใสพูดว่าsorryเขาไม่ได้ยินสักคำ
พี่สะใภ้…..ถูกทำร้าย?
“ออ พี่ใหญ่พูดเลย”
เกาจิ่งอานเตรียมตัวเตรียมใจ ตั้งหน้าตั้งตาฟัง
ในสายเป็นเสียงล้อรถเสียดสีกับพื้นอย่างเสียงดัง เสียงเครื่องยนต์เหมือนจะทำให้รถยนต์ระเบิดเป็นชิ้นๆ ดังขึ้นเรื่อยๆ และนั่นก็บอกเกาจิ่งอานว่า คนขับรถคือพี่ใหญ่
พี่ใหญ่……เขานึกว่ารถเป็นจรวดหรือไง?
ไม่รู้ว่าทางโน้นเกิดอะไรขึ้น หลายครั้งที่เหยียบเบรกกะทันหันและเสียงหักโค้งกะทันหัน พี่ใหญ่ต้องฝ่าไฟแดงแน่นอน
ควบคู่กับเสียงเหล่านี้ เกาจิ่งอานฟังคำสั่งของหลงเซียวอย่างชัดเจน หลายครั้งที่อดกลืนน้ำลายไม่ได้
ช่าง……หวาดเสียวเหลือเกิน
“ผมเข้าใจแล้ว ผมไปเดี๋ยวนี้เลยครับ พี่ใหญ่ขับรถระวังนะครับ ผมรอพี่ที่ลอนดอน”
เกาจิ่งอานไม่กล้าล่าช้าแม้แต่นาทีเดียว รีบวิ่งไปทางประตูทางออก
แย่แล้ว แย่แล้ว แย่แล้ว
เกิดเรื่องใหญ่แล้ว
และบนถนนของเมืองหลวง Rolls-Royceสีดำของหลงเซียวกำลังวิ่งอย่างบ้าคลั่งบนถนน รถที่อยู่หน้าหลังไม่มีคันไหนกล้าเข้าใกล้ ได้แต่หลบทางให้
กับรถที่หลบทางให้ทั้งหลาย ที่ตามอยู่ข้างหลังคือรถตำรวจ เปิดเสียงไซเรนอยู่ตลอดทาง ตามติดรถหลงเซียวด้วยความเร็วเท่าเทียมกัน
ไม่นาน รถของหลงเซียวก็ขับมาถึงสนามบินเมืองหลวง
ร่างสูงในชุดดำเหมือนดั่งพายุที่หมุนขึ้นท่ามกลางความมืดยามค่ำคืน เสื้อกันผมถูกลมพัดปลิวขึ้น ร่างสูงขายาวก้าวขึ้นขั้นบันได
ท่ามกลางความมืด สายตาของเขาลุกเป็นไฟ คนรอบข้างเมื่อเห็นหลงเซียว ยังต้องก้าวห่างออกไป
ถ้าไม่ใช่เพราะเขาหน้าตาดี ทุกคนต้องคิดว่าเขาเป็นนักฆ่าแน่นอน
หลงเซียวเป็นลูกค้าVIPของหลายสายการบิน ได้รับสิทธิ์การจองตั๋วก่อน
แต่การมีสิทธิ์จองตั๋วก่อน ไม่ได้หมายถึงจะมีเที่ยวบินตลอดเวลา
พนักงานจองตั๋วต้องกลืนน้ำลายด้วยอาการตื่นเต้น “คุณหลง ต้องขอโทษด้วย เที่ยวบินไปลอนดอนเร็วสุดต้องรออีกหนึ่งชั่วโมง ต้องขอโทษจริงๆ”
พนักงานต้อนรับกลัวจนจะร้องไห้แล้ว รอยยิ้มที่ได้รับการฝึกฝนมาอย่างดี ตอนนี้แข็งจนไม่รู้จะแข็งยังไงแล้ว ไม่กล้าสบตาหลงเซียว”
“ต้องบินภายในห้านาที ให้ผู้จัดการพวกคุณมาพบผม แล้วก็ผมให้เวลาคุณหนึ่งนาที”
ความเย็นชาของเขาครอบงำอากาศทั้งหมด พนักงานคนอื่นไม่มีใครกล้าคัดค้าน รีบหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาด้วยอาการมือสั่น
“ผู้จัดการ คุณหลงเซียวขอพบค่ะ”
ไม่รู้ว่าฝั่งโน้นพูดอะไร พนักงานต้อนรับหน้าแข็งไปแล้ว
ไม่ถึงหนึ่งนาที ผู้จัดการสายการบินก็ยิ่งมาถึงหน้าเคาน์เตอร์ พยักหน้าทักทายอย่างเกรงใจ “คุณหลง……”
แต่ว่า คำพูดเขายังพูดไม่จบ หลงเซียวมองไปที่เวลา “เตรียมเครื่องบินบินไปลอนดอนให้ผมหนึ่งลำ ออกบินเดี๋ยวนี้ คุณเข้าใจความหมายของผม”
ผู้จัดการกระตุกปากด้วยความลำบากใจ “คุณหลง……”
“ห้านาที มากกว่านี้เพียงนาทีเดียว คุณรู้วิธีทำงานของผม” น้ำเสียงของหลงเซียวเย็นชายิ่งกว่าน้ำแข็งพันปี ทำให้คนที่ได้ยินถึงกับตัวสั่น
ผู้จัดการไม่กล้าล่าช้า “ผมจะไปจัดการเดี๋ยวนี้ คุณหลงตามผมมาเลยครับ”
หลงเซียวมีเครื่องบินส่วนตัว แต่จะจัดเที่ยวบินไปลอนดอนต้องใช้เวลามากกว่าจัดเที่ยวบินของสายการบินอีก
เขาไม่มีเวลา เขารอไม่ไหว
ไม่ถึงห้านาที หลงเซียวก้าวขึ้นบันไดขึ้นเครื่อง ร่างสูงข้าวขึ้นไปเรื่อยๆ ก้มตัวก้าวขึ้นเครื่อง สีหน้าเย็นชาจนจะกลายเป็นน้ำแข็งแล้ว
“ปรับระดับความเร็วให้เร็วที่สุด”
หลงเซียวไม่ได้นั่งที่นั่งผู้โดยสาร แต่นั่งเข้าไปในห้องนักบิน
กัปตันรู้ว่าผู้โดยสารวันนี้คือหลงเซียว ไม่กล้าล่าช้า ต้อนรับอย่างเกรงใจ “ท่านเซียว ผมจะเร่งสุดความสามารถ แต่อากาศเมืองหลวงวันนี้ไม่ค่อยดี ตอนนี้ก็เป็นเวลากลางคืน ผมเกรงว่า……”
หลงเซียวมองเขาด้วยสายตาเย็นชา นิ้วมืออันเรียวยาวจับไม่ที่ปุ่มควบคุม “คุณแน่ใจว่าคุณทำไม่ได้?”
กัปตันกลืนน้ำลาย “ท่านเซียว ผมรู้ว่าคุณรีบ แต่ผม……”
หลงเซียวไม่รอเขาไร้สาระ ยื่นมือดึงคอเสื้อกัปตันขึ้น “ผมมาขับ”
สมองกัปตันดังอื้อขึ้นมา “อะไร……”
หลงเซียวไม่ได้อธิบายอีก แต่ดึงเขาออกมาจากที่นั่งคนขับ ขายาวยื่นเข้าไป ร่างสูงนั่งเข้าไป มือขวาเริ่มทำการควบคุม มือซ้ายใส่แว่นและหูฟัง เพียงไม่กี่วินาที เขาก็ทำการเตรียมเรียบร้อยแล้ว
กัปตันนั่งหน้างงเหมือนไก่ตาตื่น รู้สึกไม่สบายทั้งตัว
ตกใจ มึนงงไปหมด
ท่านเซียว……ขับเครื่องบินเป็นด้วย
พระเจ้า โอ้แม่เจ้า
ไม่ให้เวลาเขาตกใจและมึนงง หลงเซียวก็เตรียมการบินเป็นที่เรียบร้อย ตัวเลขบนเครื่องเพียงแป๊บเดียวก็เริ่มขึ้นสูง
เพียงแค่พริบตา ภายในเครื่องบินก็มีเสียงดังขึ้น ท่อนบนของเครื่องบินก็ยกขึ้น เลื่อนไปตามทาง เครื่องบินสีขาวเหมือนเหยี่ยวที่กำลังโกรธ ความเร็วและมุมการบินขึ้นอย่างไม่น่าเชื่อ ทำลายสถิติการบินทันทันที บินขึ้นสู่ท้องฟ้