ประธานหยิ่งยโสของฉัน - ตอนที่ 1045
บทที่ 1045 คิดถึงคนคนหนึ่ง
“ฉันคิดว่าฉันรู้ว่าคุณคือใครแล้ว”
ได้ยินเสียงหัวเราะของเขา เห็นท่าทางการดื่มเหล้าของเขา บวกกับคางและใบหน้าที่ถูกบังไว้ของเขา ลั่วหานนึกถึงใครคนหนึ่ง
MAXเอาแก้วไวน์ออกจากปากของเขา “ออ? ผมคือใคร”
ลั่วหานยกแล้วไวน์ขึ้น เขย่าเบาๆ “ได้ยินว่าสมัยคุณหนุ่มๆหน้าตาหล่อเหลา เป็นเจ้าชายขี่ม้าขาวในใจของผู้หญิงหลายๆคน ชื่อเสียงโด่งดัง มีสิทธิ์ในการพูดไม่น้อย อายุน้อยๆก็ควบคุมสิทธิ์มากมาย เป็นที่นับถือของผู้คนมากมาย ในสังคมการเมืองยิ่งโดดเด่นกว่าใคร สไตล์การทำงานไม่เหมือนใคร ถูกเรียกว่าเป็นตำนานของรุ่น ที่ฉันได้ยินคงไม่ผิดหรอกนะ? คุณMAX?”
ลั่วหานริมฝีปากสวยยิ้มขึ้น เริ่มมีรอยยิ้มบนใบหน้า เปลี่ยนจากใบน่าตื่นเต้นและไม่ไว้วางใจเมื่อครู่
ถึงเธอจะยังไม่รู้ว่าทำไมตัวเองถึงมาอยู่ในมือของMAXได้ แต่เท่าที่ฟังจากหลงเซียวเกี่ยวกับMAXคนนี้ และกับเรื่องในอดีตที่Merrickพูดประจำ ลั่วหานสามารถสรุปได้ว่า MAXไม่น่าจะเป็นคนไม่ดี อย่างน้อยไม่ใช่คนโรคจิต
เพราะฉะนั้นเธอจึงจีบไวน์ไปคำหนึ่งอย่างวางใจ รสชาติใช้ได้
MAXหมุนตาไปมา “ถ้าเดาออกแล้วว่าผมเป็นใคร งั้นก็เดาต่อ เป้าหมายที่ผมพาคุณมาที่นี่คืออะไร ผมได้ยินมาว่าคุณนายหลงฉลาดหลักแหลม ผมอยากดูว่า คุณฉลาดแค่ไหน”
MAXหั่นสเต๊กเนื้อออสเตรเลียออกหนึ่งชิ้น ใส่เข้าปากค่อยๆคิ้ว สเต๊กที่เขากินสุกระดับห้า ยังมีเลือดไหลออกมา
สำหรับของลั่วหานสุกระดับเจ็ด เป็นระดับที่เธอชอบพอดี ดูแล้วMAXรู้เรื่องของเธอเป็นอย่างดี ถ้าอย่างนั้นเขาก็คงรู้เรื่องของหลงเซียวพอสมควร?
“คุณอยากทำอะไรฉันไม่รู้ แต่คุณอยากใช้ฉันเพื่อทำอะไรกับสามีฉัน ใช่ไหมล่ะ? การร่วมมือนี้ สามีฉันไม่อยากร่วมมือด้วย คุณเข้าทางตรงแล้วไม่ได้ ก็อยากเข้าทางอ้อม ถึงขั้นต้องใช้วิธีสกปรกลักพาตัวฉันมา”
ลั่วหานพูดอย่างไม่เกรงใจ พูดด้วยเสียงเรียบแล้วค่อยๆเพิ่มน้ำเสียงลงไป แสดงถึงความไม่พอใจและความโกรธ
MAXได้ยินคำพูดท่อนหน้ารู้สึกว่ายอมรับความฉลาดของลั่วหานแล้ว แต่ท่อนหลัง……
“คุณนายหลง คุณมั่นใจได้ยังไงว่าผมลักพาตัวคุณ? ผมเชิญคุณมาเป็นแขก ไม่ได้ใช้วิธีลักพาตัวแน่นอน” MAXเบ้ปากอย่างรู้สึกคนถูกเข้าใจผิด และท่าทางเบ้ปากของเขา ถูกลั่วหานเห็น
“เหอะ แผลบนหัวฉันคุณจะอธิบายยังไง?”
“ผมอธิบายได้แน่นอน ก็ได้ ผมยอมรับว่าช่วงนี้ผมติดตามคุณอยู่ แต่วันนี้เป็นผลลัพธ์ที่ไม่คาดคิด ผมก็คิดไม่ถึงว่าวันนี้จะมีคนลงมือกับคุณในศูนย์การค้า ยังอยากฆ่าปิดปากคุณ คุณต้องขอบคุณผม ช่วยคุณไว้ก่อนที่พวกเขาจะบาดมีดลงบนคอคุณ”
MAXอธิบายอย่างสบาย ลั่วหานฟังแล้วหัวใจเต้นแรง
ไม่ใช่เขา? แต่เป็นคนอื่น?
แม่เจ้า มีคนเท่าไหร่อยากได้ชีวิตเธอกันแน่?
“ใคร? ใครที่อยากจะฆ่าฉัน?” ลั่วหันกำหมัดไว้แน่น มีดกับซ่อมถูกเธอกำไว้แน่น
“นักฆ่ามืออาชีพ คนที่ฆ่าใครแล้วไม่พลาดมือแน่นอน คุณคิดดูว่าคุณทำให้ใครโกรธแค้น ถึงขั้นจะเอาชีวิตคุณ”
ฆ่าปิดปาก ไม่ใช่เรียกค่าไถ่ ไม่ใช่ลักพาตัว ไม่ใช่แค่ข่มขู่ แต่จะเอาชีวิตของเธอ
สีหน้าของลั่วหานนิ่งชาไปหมด MAXรู้สึกพอใจมาก “ผมนึกว่าคุณไม่กลัวฟ้าไม่กลัวดิน ไม่คิดว่าคุณก็กลัวตายด้วย”
ลั่วหาน “……”
ไร้สาระ มีแค่คนตายเท่านั้นที่ไม่กลัวตาย
“พวกเขาละ? คุณฆ่าแล้ว”
ลั่วหานพบว่า เธอพูดคำว่าฆ่าคนได้ง่ายและปกติขนาดนั้น
MAXยักไหล่ “ไม่ใช่ ยังเก็บไว้”
ลั่วหาน “……”
ยังเก็บไว้? ฟังแล้วทำไมถึงน่ากลัวอย่างนี้?
เก็บไว้ทำไม? ทรมาน? แสดงอำนาจ?
เห็นได้ชัดว่าMAXไม่อยากคุยต่อแล้ว “อาหารที่คุณสั่งอร่อยทุกอย่าง ครั้งที่แล้วกินได้ไม่เต็มที่ วันนี้อย่าทำลายอารมณ์อีก ผมเป็นคนช่วยชีวิตคนไว้ พวกคุณคนจีนพูดไม่ใช่เหรอว่าผู้ช่วยชีวิตต้องจำจนเป็นเถ้าถ่าน?”
ลั่วหานใช้ซ่อมเงินเสียบไข่ปูอย่างแรง “ที่นี่คืออังกฤษ ฉันต้องเข้าเมืองตาหลิ่วต้องหลิ่วตาตาม”
MAX “……”
ดีมาก ผู้หญิงคนนี้ฉลาดน่าสนใจดี
——
เกาจิ่งอานสืบไปรอบหนึ่ง ไม่มีวี่แววอะไรเกี่ยวกับลั่วหานเลย ที่เกิดเหตุสะอาดมาก ไม่มีพยานไม่มีหลักฐาน กล้องวงจรปิดก็ค้นออกมาหมดแล้ว ไม่เห็นแม้แต่เงาของลั่วหาน
บ้าเอ้ย ทำขนาดนี้เลยเหรอ
สำหรับบอดี้การ์ดที่ทำงานผิดพลาดก็รู้สึกผิดจนพูดอะไรไม่ออกแล้ว
Merrickพอรู้ข่าว ลุกขึ้นนั่งจากเตียงผู้ป่วยทันที ถอดสายน้ำเกลือจะออกหมายค้นด้วยตัวเอง แต่พอคิดถึงหมายค้นช่วยอะไรได้ไม่มาก ถ้าเกิดกระทบถึงเจมส์ที่กำลังจะมาถึงอังกฤษ……
ทำไมถึงต้องเป็นเวลานี้
ถ้าเกิดเจมส์ต้องการเจอคน เขาจะพูดยังไง?
Merrickรู้สึกเวียนหัว แล้วล้มนั่งกลับไปที่เดิม
“Merrick มีผู้ชายจีนชื่อเกาจิ่งอานต้องการพบคุณ เขาบอกว่าเขาเป็นพี่น้องกับหลงเซียว เพื่อนรักของหมอแอนน่า มาเพื่อสืบหาเรื่องการหายตัวไปของแอนน่าโดยเฉพาะ
Merrickเพิ่งนั่งลง ยังไม่ทันตั้งสติ ก็ได้ยินข่าวที่รับมือยากยิ่งกว่า
จับขมับอย่างเอือมระอา “เรียกเขาเข้ามา”
บอดี้การ์ดถอยหลังหนึ่งก้าว ตอนนี้ถึงเขาจะเอามีดแทงตัวเองตายก็ไม่พอที่จะชดใช้
ถ้ารู้แบบนี้ไม่ว่ายังไงก็ไม่ควรยืมมือถือให้เธอ
เกาจิ่งอานเดินขึ้นชั้นสองอย่างจรวด ไม่แม้แต่เคาะประตู ผลักประตูเดินเข้าไปเลย “Merrick”
เขาเข้าไปแล้วก็ตะโกนเรียก แต่พอเห็นMerrickที่ป่วยออด ๆ แอด ๆ ก็รู้สึกใจอ่อน
บ้าเอ้ย……นายคนนี้ดูแย่ไปไหม? เครื่องมือการแพทย์เต็มไปทั้งห้อง ชีวิตที่เหลือก็ต้องพึ่งแต่ยา
Merrickพูดจาอย่างดี พยักหน้าอย่างอ่อนโยน “สวัสดี คุณเกา หมอแอนน่าหายตัวไป ผมก็เสียใจเช่นเดียวกันกับคุณ อย่ารีบร้อน คนของเราก็กำลังช่วยกันหาสุดความสามารถ ผมรับรองว่าถ้ามีอะไรคืบหน้าต้องบอกคุณอันดับแรกแน่นอน ต้องขอโทษด้วย”
เขาว่ากันว่ายื่นมือไม่ตบหน้าคนยิ้ม Merrickพูดแบบนี้…..เกาจิ่งอานก็ตบไม่ลงแล้ว
พูดทั้งหน้าดำเคร่งเครียด “คนสุดท้ายที่อยู่กับพี่สะใภ้ผมคือใคร?”
คนขับรถที่ยืนอยู่ก้มหน้าพูด “ผมเองครับ”
คนขับรถเล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทั้งหมดอย่างละเอียดให้เกาจิ่งอานฟังหนึ่งรอบ ไม่กล้าพลาดแม้แต่จุดเดียว
“ถ้าเป็นแบบนี้ ฝ่ายตรงข้ามต้องเตรียมตัวล่วงหน้าแล้ว ทำแผนการไว้แล้ว”
เกาจิ่งอานเอามือจับคาง เดินไปมาในห้องอย่างร้อนรน “Merrick คุณมีศัตรูทางการเมืองไหม? มีคนอยากฆ่าคุณไหม? พวกเขาลงมือกับคุณไม่ได้ ก็เลยลงมือกับหมอของคุณ”
ความคิดนี้ก็เป็นวิธีการเบาะแสอีกวิธีหนึ่ง Merrickก็ตั้งใจคิดขึ้นมา พูดอย่างลำบาก “คุณเกา อยู่ในแวดวงการเมือง คู่ต่อสู้กับศัตรูมากมาย คนที่ฉันรู้เป็นเพียงส่วนน้อย อีกมากมายที่ซ่อนตัวอยู่ข้างหลัง
“พูดสาระสำคัญ”
เกลียดพวกเล่นการเมืองที่สุด พูดอะไรก็คลุมเครือ ลื่นไหลน่ารำคาญ
Merrickกำลังคัดกรองในสมอง ถ้าต้องเลือกคนที่จะลงมือฆ่าได้ มันก็พอมีอยู่หลายคน
หนึ่งในนั้นก็คือ——
คิ้วของMerrickบนดวงตาสีฟ้าขมวดตร