ประธานหยิ่งยโสของฉัน - ตอนที่ 1049
บทที่ 1049 เอาเสื้อแลกเหล้าดื่ม
“ออ…..พูดได้น่าสงสารเหลือเกิน เป็นหมารับใช้ให้มาเฟีย นายใช้ชีวิตได้สบายใจไหม?”
ปกติ มาเฟียจะร่วมงานกับคนอื่น ต้องมีข้อเสนอที่เขาปฏิเสธไม่ได้
Merrickในตอนนั้นก็เคยลังเล แต่ฝ่ายตรงข้ามเสนอ ถ้าเขาช่วยปิดปังเรื่องการตายของมู่เส้าเอิน กลุ่มมาเฟียจะช่วยปกป้องความปลอดภัยของเขา
หลายปีนี้มา พวกเขารักษาคำสัญญาของปีนั้นตลอด ไม่อย่างนั้นMerrickคงตายไปนานแล้ว
ทุกสิ่งทุกอย่างล้วนต้องมีสิ่งตอบแทน หรืออาจเป็นเพราะชีวิตอยู่ในอันตราย หรืออาจเพราะการแก้กระหายน้ำ แต่ตลอดทางมา มันไม่มีโอกาสให้หันหลังกลับแล้ว
Merrickหัวเราะเสียงแห้ง ความรู้สึกทุกอย่างไม่อาจใช้คำพูดอธิบายได้
“MAX สิ่งที่ฉันติดนาย ฉันคืนเอง ความจริง ฉันเหลือเวลามากแล้ว” ชีวิตเขา กำลังนับถอยหลังทุกวัน เขาฝืนตัวเองไม่ให้หลับตา เพราะเขายังมีความเสียใจหลายอย่างที่ยังไม่ได้ชดใช้คืน
“ออ……”
MAX ทำเสียงในปาก “สร้างความเห็นใจไม่ได้เลย”
Merrickรู้สึกกระเพาะปั่นป่วนด้วยความเสียใจ เขาโน้มตัวลง อยู่ในห้องนอนลำพัง เขาหดตัวอยู่บนเตียง ห่อตัวเป็นก้อน ปวดจนตัวสั่น
“ก่อนนายตาย ยังอยากได้พวกเธอแม่ลูกกลับมา? อย่าฝันไปเลย?” MAXไม่ได้เตรียมตัวจะปลอบเขาแม้แต่น้อย แต่กลับสาดเกลือใส่แผลเขา
Merrickริมฝีปากปากกระตุก “นายเคยเจอพวกเธอ?”
MAX ตั้งใจทำเป็นลึกลับ “ฉันไม่บอกนายหรอก”
ลั่วหาน “……”
เวียนหัว MAXเป็นคนยังไงกันแน่? ทำไมคำพูดน้ำเสียงและปฏิกิริยาเขาถึงสับเปลี่ยนกันได้ธรรมชาติขนาดนี้? สองบุคลิกในหนึ่งคน?
อีกอย่าง หรือว่าMerrickยังมีเมียและลูกสาว?
เพราะสาเหตุอะไรถึงทำให้เมียและลูกสาวต้องจากเขาไป?
Merrickไม่รู้จะทำยังไงกับเขา ทำได้เพียงยอมรับและถอนหายใจ “ฉันจะรอถึงวินาทีสุดท้าย”
MAXวางสายไปทันที
เขาไม่ได้สนใจจะชื่นชมความเศร้าโศกของMerrick โดยเฉพาะความเศร้าแบบนี้ ทำให้เขารู้สึกสะใจไม่ได้
“หมอแอนน่า ดูเหมือนคุณจะชอบฟังช่องประตูนะ? ไม่เหนื่อยเหรอ? เข้ามาดื่มสักแก้วไหม?”
ลั่วหานกำลังเตรียมตัวย่องกลับ ใครจะไปรู้คนข้างในรู้ตั้งนานแล้ว
บรรยากาศน่าอึดอัดใจจริง
อิตาลี
งานเลี้ยงจบก็เป็นเวลาหลังเที่ยงคืนแล้ว
“บ้าเอ้ย คนรวยนี่เล่นกันเก่งจริง เล่นกันข้ามคืนแบบนี้”
จางหย่งหาว เขาง่วงเหมือนหมา
กลิ่นเหล้ากลิ่นบุหรี่รวมกับกลิ่นน้ำหอมบนตัวผู้หญิง กลิ่นเหงื่อผู้ชาย ทำให้เวียนหัว อยู่ต่อต้องทำให้เขาบ้าแน่นอน
ส่วนอิสซายังคงหน้าสวยสง่า บุคลิกยังคงดูดี เพียงแค่เพิ่มเสื้อกันหนาวผู้ชายมาหนึ่งตัว ปิดปังเนื้อที่มองเห็น
“แต่สิ่งที่พวกเราได้มาก็ไม่น้อย คุ้มค่า”
อิสซาวางแขนบนไหล่ของจางหย่งอย่างธรรมชาติ สะบัดนิ้วอย่างสง่า ท่าทางพอใจ
จางหย่งหันหน้าไปมองมือเธอ เลื่อนจากศอกขึ้นไป เห็นเสื้อสูทนอกของผู้ชายแปลกหน้ายี่ห้ออาร์มานี่ราคาแพงบนตัวเธอ พูดขึ้นอย่างขยะแขยง “ยังใส่อีก? เสียดายไม่อยากถอดเหรอ?”
น่าอึดอัดจริง
อิสซายักไหล่ “หนาวไง ไอ้บ้า”
จางหย่งไม่พูดครั้งที่สอง รีบถอดเสื้อนอกตัวเอง ดึงตัวที่อยู่ในตัวเธอออก ห่มของตัวเองให้เธอ ผลลัพธ์คือตัวเอง……
หนาวจนตัวสั่น
อิสซาอึ้งไปนิดหนึ่ง เสื้อและกลิ่นของจางหย่งอยู่บนตัวเธอเหมือนมีสะเก็ดไฟถูกจุดขึ้นมา นิ่งและอุ่น มีความรู้สึกแปลกที่พูดไม่ถูก
เสื้อเหมือนกัน ทำไมของเขาถึง…..
อิสซาส่ายหัว “นายทำอะไร? นายคงไม่ได้จะทิ้งตัวนี้หรอกนะ?”
จางหย่งเปิดผาถังขยะ “แน่นอน”
“เดี๋ยวก่อน”
อิสซายื่นมือไปแย่งเสื้อสูทใหม่มา “อย่าทิ้ง เสื้อแพงมาก เอาไปจำนำก็ยังดี แลกเงิน”
จางหย่ง “……”
ตาเกือบถลนออกมา แต่ว่า……เธอพูดมีเหตุผลดี เขาเถียงไม่ออก
“มองอะไร? นายรวยมากเหรอ?”
จางหย่ง “……”
ดีมาก เขายิ่งเถียงไม่ออก
อิสซาตบเสื้อสูท แล้วพับเก็บ “งั้นก็ถูกแล้ว ฉันก็ไม่มีเงิน ยังมีเงินเลี้ยงเหล้านาย ฉันเลี้ยงนายดื่มเหล้ารัม”
จางหย่ง “……”
คุณนาย เธอเป็นนักต้มตุ๋นอะไรเนี่ย? เอาเงินขายเสื้อมาซื้อเหล้า?
ระหว่างทางกลับ อิสซาเปลี่ยนเสื้อผ้าในรถอย่างไม่คิดอะไรเลย
จากหย่งนั่งข้างเธอ แต่อึ้งตอนเธอเปลี่ยนเสื้อผ้ามองไม่เห็นวิวอะไรเลย
เธอสวมกางเกงขณะยังใส่กระโปรงอยู่ ดึงเสื้อในจากข้างล่าง ยื่นมือจากข้างหน้าไปดึงสายเสื้อใน เอามากรัดข้างหน้า จากนั้นก็สวมเสื้อไหมพรมคอกลม แล้วถอดซิปในเสื้อไหมพรม ดึงเสื้อออกมา…….
จางหย่งดูอย่างตกตะลึง
สิ่งสำคัญคือ เมื่อกี้ทำไมเธอถึงทำได้ลื่นมือขนาดนี้ เหมือน……ฝึกฝนเทคนิคนี้อยู่บ่อยๆ
อิสซาส่ายหัว พบว่าจางหย่งยังมองเธออยู่ “เฮ้ สติกลับมาได้แล้ว”
จางหย่งรับพับเสื้อด้วยอาการคลุมเครือ “ถ้าอย่างนี้…..ปกติเธอกินๆนอนๆในวังแล้ว ไม่ได้ทำงานอื่นเหรอ?”
อิสซาวางนิ้วนับ “หนี ถูกบอดี้การ์ดพ่อฉันไล่จับ ถูกบอดี้การ์ดลุง ถูกพวกเขาจับ แล้วหนีต่อ…..ออ ยังมี พ่อฉันโมโหก็ตัดเงินฉันทุกอย่าง เหมือนตอนนี้ นายเห็นแล้ว”
จางหย่งใช้มือปิดหน้าอย่างเอือมระอา
นี่มันเรียกว่างานที่ไหน
เด็กผู้หญิงดื้อรั้นที่ไม่รู้โลก
ความจริง อิสซาก็ไม่มีงานอะไร เพียงแต่ยังไม่ถึงเวลาบอกเขา
บางคน จะให้รู้ทุกอย่างได้หรือไม่ ต้องใช้เวลาสังเกต
เพราะเรื่องบางเรื่อง ถ้าให้รู้แล้ว ก็เท่ากับเอาชีวิตให้เขา
อิสซาหยิบกระดาษเช็ดหน้าแผ่นหนึ่ง มาเช็ดลิปสติกแดงบนปาก “นายละ? นอกจากจะเป็นลูกน้องให้เถ้าแก่นายแล้ว ยังทำอะไรอีก?”
จางหย่งโมโห “ฉันไม่ใช้ลูกน้อง ฉันเป็นช่างเทคนิค ช่างอิเล็กทรอนิกส์”
อิสซา “……”
พูดก็พูด โมโหอะไร?
แต่พูดถึงเถ้าแก่……
จางหย่งหยิบมือถือขึ้นมา หัวเราะอย่างตื่นเต้น เหอะๆ เรื่องที่ได้มาเมื่อคืนต้องรายงานสักหน่อย
โทรออกหมายเลขหลงเซียว จางหย่งยิ้มจนหน้าบานออก ห้าเซนติเมตร โทรศัพท์ดังแล้วแต่ไม่มีคนรับ
อือ?
เขาโทรใหม่อีกครั้ง ครั้งนี้ดังไปประมาณหนึ่งนาที มีคนรับแล้ว
“เถ้าแก่”
อิสซากลอกตาใส่เขาอยู่ด้านข้าง ยังบอกว่าไม่ใช่ลูกน้อง เขาไม่อยากรับโทรศัพท์ด้วยซ้ำ
ฝั่งโน้น หลงเซียวเพิ่งลงจากเครื่อง เดินเร็วเหมือนสายลมในชุดเสื้อกันลมสีดำกลางสนามบินลอนดอน “พูด”
“เถ้าแก่ ผมเพิ่มออกมาจากงานเลี้ยงมาเฟีย ผมมีเรื่องจะบอก…..”
ใครจะไปรู้ เขายังพูดไม่จบ ก็ถูกหลงเซียวตัดคำพูดไป “เรื่องมาเฟียไว้ก่อน นายรีบสืบหาหมายเลขหนึ่ง หาตำแหน่งหมายเลขนี้ทั่วโลก ยิ่งแม่นยำยิ่งดี”
หลงเซียวให้หวังเค่ยค้นหาตำแหน่งหมายเลขนี้แล้ว แต่หมายเลขนี้ถูกจัดการเป็นพิเศษแล้ว ทำการค้นหาไม่ได้ และทำลายยาก
“ได้ครับ เถ้าแก่พูดเลย”
“เรื่องนี้รีบร้อน ลั่วลั่วหายตัวไป มือถือที่หายไปพร้อมเธอเป็นเบาะแสเดียวที่มี ตอนนี้ฉันมั่นใจว่าคนลงมือคือMAX ฉันเพิ่งถึงลอนดอน นายรีบปลดล็อกหมายเลขนี้ มีอะไรคืบหน้ารีบรายงานทันที”
หลงเซียวพูดไปท่อนยาว แต่คำพูดเร็วมาก ทุกคำพูดเร็วเหมือนจรวด
จางหย่งฟังจนมึน แต่ก็จับใจความได้
เมียเถ้าแก่หายตัวไป
โอ้ พระเจ้า แม่เจ้า
ยังมีเรื่องอะไรใหญ่กว่าเรื่องนี้อีก
“ครับ ครับ ครับ”
วางสายแล้ว จางหย่งมีข้อความเข้ามือถือ เป็นหมายเลขโทรศัพท์ของบอดี้การ์ด
——
MAXใช้มือค้ำคางไว้ ข้างกายเขามือสมาร์ตโฟนสีดำเครื่องหนึ่ง
“หมอแอนน่า คุณว่าหลงเซียวจะหาคุณเจอไหม?”
ลั่วหานมองเธอย่างสงสัย “มือถือนี้?”
“อือ บอดี้การ์ดใจดีคนนั้นยืมให้คุณใช้ ตอนนี้พอหลงเซียวรู้ข่าวแล้ว เหมือนจะเป็นหมายเลขโทรศัพท์นี้ แต่ว่า……ตำแหน่งเบอร์มือถือนี้ถูกล็อกไว้ ปลดยากด้วย”
ลั่วหานขมวดคิ้ว “เพราะฉะนั้น?”
MAXกดมือถือเล่นในมือ เปิดอัลบั้มรูป เขากู้คืนรูปที่ลบทิ้ง รูปภาพที่ลั่วหานถ่ายอยู่ในนั้นหมด
“คิดไม่ถึงว่าคุณชอบถ่ายรูป แต่เลือกมุมได้ไม่ดี คุณไม่มีฝีมือด้านศิลปะเหมือนแม่สามีคุณเลย”
MAXชื่นชมรูปภาพไปเรื่อยๆ วิพากษ์วิจารณ์ไปทีละรูป
ลั่วหานโมโหจนจะระเบิด “MAX คุณทำอะไรของคุณเนี่ย”
“คุณจะโมโหทำไม? ผมยังพูดไม่จบเลย ——ถึงหลงเซียวจะให้คนปลดล็อกตำแหน่งมือถือได้ ตอนที่เขาติดตามผมอยู่ ผมก็ติดตามเขากลับไป คุณว่า……ถ้าเราสองคนแข่งขันกัน ใครจะเร็วกว่า?”
ไอ้…..บ้าเอ้ย
ลั่วหานตัดสินใจเก็บคำวิจารณ์ที่มีต่อMAX
เขาไม่น่าเห็นใจเลยแม้แต่น้อย ไม่น่าชื่นชมเลยแม้แต่น้อย
เขาเป็นคนแปลกตั้งแต่หัวจรดเท้า โรคจิต
“คุณจะทำอะไร?”
ลั่วหานควบคุมสติตัวเองที่ใกล้จะระเบิด พยายามนั่งกับที่ไม่ขยับ
เธอไม่อยากให้MAXได้ใจ
MAXโยนมือถือเข้าไปในลิ้นชัก “เรามาพนันกันไหมหมอแอนน่า คุณเป็นผู้หญิงฉลาด ผมชอบเล่นเกมกับผู้หญิงฉลาด”
ลั่วหานเตรียมตัวรับมือ รักษาระยะห่างกับเขา “เกม? เกมอะไร?”
MAX ค่อยๆขยับไปข้างหน้า ไขว้ขาข้างหนึ่งขึ้น ปลายเท้ากระดิกไปมา “พนันกัน หลงเซียวจะพาคุณไปได้ไหม ไม่ไม่ไม่ แบบนี้ไม่สนุก เรามาพนัน หลงเซียวจะร่วมงานกับผมเพราะคุณไหม
เขาเป็นคนมีศักดิ์ศรีและมีหลักการไม่ใช่เหรอ และเขาก็รักคุณมากใช่ไหม? ผมอยากดูว่า ถ้าให้เขาเลือกระหว่างสองอย่างนี้ เขาคิดว่าศักดิ์ศรีกับหลักการสำคัญ หรือว่าคุณสำคัญ”