ประธานหยิ่งยโสของฉัน - ตอนที่ 1084
บทที่ 1084 ผมอยากซื้ออดีตของคุณ
ห้องทำงานของหลงเซียว
“ประธานตู้โมโหมาแบบนี้ มีธุระอะไรหรือเปล่าครับ”
หลงเซียวนั่งอยู่บนเก้าอี้ประธาน เอนตัวพิงพนักเก้าอี้ด้านซ้ายเล็กน้อย ข้อมือมีเสื้อเชิ้ตสีขาวโผล่ออกมาเล็กน้อย กระดุมสีดำสะท้อนแสงวิบวับ วาววับคล้ายกับดวงตาของเขา
ตู้หลิงเซวียนใบหน้าบึ้งตึง ดวงตาหลังเลนส์มองทะลุ พยายามระงับความโกรธ “หลงเซียว ฝีมือคุณไม่ธรรมดาเลยจริงๆ”
หลงเซียวพยักหน้าเบาๆ “ประธานตู้วิจารณ์ได้ไม่น่าฟังเลยนะครับ แต่ผมก็ไม่ปฏิเสธ”
ตู้หลิงเซวียนแทบสำลัก “หลงเซียว คุณคิดจะทำอะไร เหอะๆ ใช้บริษัทซุนซื่อมาหลอกล่อเอาเงินผม ต่อไปคงคิดจะยึดบริษัทหลันเทียนเลยหรือเปล่าล่ะ”
ความโกรธของเขาได้เอาชนะการควบคุมแล้ว ลมหายใจแรงทำให้ตัวเขาสั่นสะท้าน
หลงเซียวชื่นชมปฏิกิริยาของเขา “ถ้าคุณไม่อยากดูแลบริษัทหลันเทียนต่อ ผมก็ยินดีลำบากแทนคุณ”
“หลงเซียว คุณกลั่นแกล้งผม”
ตู้หลิงเซวียนเดินหน้ามาหนึ่งก้าว ใช้เวลาชั่วพริบตาพุ่งหมัดออกไปกระแทกกับโต๊ะ กำหมัดแน่น เสียงดังไปทั่วห้องทำงาน
หลงเซียวมองใบหน้าของเขา “ตู้หลิงเซวียน สิ่งที่คุณอยากต่อยคือเป้าหมายของMBK อยากกลืนกินMBK ผมเดาถูกใช่ไหมครับ”
ตู้หลิงเซวียนหัวเราะ “หลงเซียว คุณคิดว่าทำแบบนี้แล้วผมจะยอมแพ้เหรอ คุณคิดว่าคนอย่างผม ตู้หลิงเซวียนจะยอมแพ้เพราะเรื่องเล็กน้อยแบบนี้เหรอ”
“ผมกำลังถามคุณอยู่ คุณอยากจะฮุบMBKใช่ไหม” ดวงตาทะมึนของหลงเซียวจ้องมองเข้า
“ใช่ การค้าก็เหมือนสนามรบ ส่วนที่ใหญ่ที่สุดในตลาดจีน ใครล่ะจะไม่อยากได้” การหายใจของทั้งสองนั้นกดดันซึ่งกันและกัน ประกายที่ปะทุออกมานั้นกระทบกันอยู่ในอากาศ
“คำตอบเดียวกัน พอดีสามารถเอามาตอบคำถามเมื่อสักครู่ของคุณได้ คุณอยากได้MBK บังเอิญจัง ผมเองก็สนใจหลันเทียนเช่นกัน คุณอยากขยายอาณาเขตของจีน ผมก็อยากลงน้ำที่อเมริกาเช่นกัน เราก็ไม่ได้ต่างกัน”
ทุกคนต่างก็เป็นนักธุรกิจ การแข่งขันในตลาดเป็นกลางตามพันธสัญญา ต่อสู้กันซึ่งหน้า เสียงต่อสู้ดังกึกก้อง ต่างฝ่ายต่างมีฝีมือของตนเอง เพียงดูว่าใครเร็วกว่าใครเท่านั้นเอง ใครแม่นกว่า ใครมีทางที่จะชนะมากกว่า
ชนะเป็นเจ้า แพ้เป็นโจร หลักการง่ายขนาดนี้ยังต้องอธิบายอีกเหรอ
ความหมายของหลงเซียวนั้นชัดเจน บริษัทซุนซื่อเปรียบเสมือนอาหารบนโต๊ะ ทุกคนแข่งกันด้วยความยุติธรรม ใครมีความสามารถก็กินไป กินไม่ทันก็อย่าไปโทษว่าคนอื่นกินไว
ความโกรธของตู้หลิงเซวียนพุ่งทะลุเพดาน ดวงตาของเขาแทบจะถลน “หึหึ หลงเซียว เวลาสิบปี คุณไม่มีความเป็นคนเลยสักนิด เลือดเปื้อนมือไม่น้อย ฆ่าคนเป็นว่าเล่น ยิ่งไปกว่านั้นยังเล่นลูกไม้ในการทำธุรกิจอีก”
“อ้อ” หลงเซียวเหมือนจะยิ้มแต่ก็ไม่ยิ้ม ท่าทียังคงเดิมไม่เปลี่ยน สิ่งที่ตู้หลิงเซวียนพูดไม่ได้ส่งผลกระทบอะไรกับหลงเซียวทั้งนั้น
ตู้หลิงเซวียนราวกับพอเดาได้ถึงความสุขุมของหลงเซียว “ในมือนั้นเต็มไปด้วยเลือด ทรัพย์สินผิดกฎหมายมากมาย ตอนนั้นคุณธรรมธุรกิจอะไร คุณคิดว่าความจริงเหล่านั้นจะถูกฝังไปแล้วหรือยังไง”
ความโกรธของตู้หลิงเซวียนค่อยๆหายไป สติกลับคืนมา การสูญเสียการควบคุมที่ใบหน้าของเขาก็เริ่มหายไป ไม่นาน ตู้หลิงเซวียนก็กลับมาปกติ นั่งลงตรงหน้าหลงเซียว
ทั้งคู่เงียบไปสักพัก
ไม่กี่วินาทีต่อมา ในห้องอบอวลไปด้วยความกดดัน เก็บกด ดวงตาคมเข้มมองสำรวจคนตรงหน้า
ทันใดหลงเซียวพลันหัวเราะออกมา “ทำไม อยากกัดผมเหรอ”
ความรู้สึกบอกกับหลงเซียว ตู้หลิงเซวียนรู้เรื่องพวกนี้ เรื่องพวกนี้อาจจะส่งผลกระทบต่อตำแหน่งของเขา ส่งผลต่ออนาคตของMBK
สถานะของตู้หลิงเซวียนก็น่าสงสัย
ตู้หลิงเซวียนเอ่ยออกมาเสียงเรียบ “หลงเซียว หมื่นล้าน ซื้ออดีตของคุณกลับไป การค้าขายครั้งนี้ส่งผลดีต่อคุณ”
หมื่นล้าน ที่เขาสูญเสียไปกับบริษัทซุนซื่อ ที่ทำให้ตู้หลิงเซวียนกำลังปวดหัวหนักอยู่ ณ ตอนนี้ เขาจะต้องเอามันกลับคืนมา ไม่เช่นนั้นเหล่าคณะกรรมการของบริษัทหลันเทียนจะร่วมกันลงนามถอดถอนเขาออกจากตำแหน่งประธานกรรมการ
การทำธุรกิจยึดผลประโยชน์เป็นหลัก ใครสามารถทำประโยชน์ได้ ใครสามารถนำกำไรมาให้บริษัทได้ คนนั้นจะเป็นใหญ่
เห็นได้ชัดว่าการตัดสินใจครั้งล่าสุดของเขาส่งผลกระทบมากมายต่อหลันเทียน
ถ้าเขาไม่รีบชดเชย แม้หลงเซียวจะไม่ลงมือ ภายในหลันเทียนก็คงไม่อยู่นิ่งถือโอกาสถอดถอนเขาแน่
สถานการณ์เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว ความรู้สึกกดดันของตู้หลิงเซวียนพุ่งขึ้นมา
ตรงกันข้าม หลงเซียวกลับไปร้อนใจเลยสักนิด
“อดีตของผม คุณคงมองว่ามันมีมูลค่าไม่น้อย แต่ว่าตัวผมนั้นสงสัย ทำไมคุณถึงได้ใส่ใจกับอดีตของผมจังเลย ผมกลับคิดว่ามันไม่ได้มีค่าถึงขั้นต้องให้คุณมารีดไถได้ขนาดนี้”
หลงเซียวพูดอย่างไร้เดียงสา ราวกับไม่รู้เรื่องรู้ราว
ตู้หลิงเซวียนหัวเราะออกมา “หึหึ หลงเซียว ทักษะการแสดงของคุณไม่เลวนี่ แต่ถึงแม้คุณจะแสดงละครเก่งแค่ไหน ก็ปิดบังกิจกรรมผิดกฎหมายเหล่านั้นของคุณไม่ได้หรอก”
การโจมตีทางคำพูดไม่ได้ผลอย่างเห็นได้ชัด มือของตู้หลิงเซวียนยื่นเข้าไปในกระเป๋าเสื้อ หยิบจดหมายออกมาหนึ่งฉบับ โยนให้หลงเซียว
หลงเซียวกวาดตามอง ไม่มีความสนใจจะเปิดมัน
ตู้หลิงเซวียนหัวเราะหยัน “หลงเซียว มีบางอย่างที่คุณพูดถูก เราต่างก็เป็นนักธุรกิจ เพื่อบรรลุเป้าหมายของตนเอง สามารถทำอะไรได้มากมาย ลองดูสิ อ่านจบแล้วคุณก็จะรู้ คนอย่างผมตู้หลิงเซวียน ไม่ใช่คนที่คุณจะมาเหยียบได้ง่ายๆ”
สิ่งที่อยู่ในซองนั้นทำให้หลงเซียวแปลกใจ
อีกด้าน เขาสงสัยว่าตู้หลิงเซวียนมีจดหมายลงนามเซ็นสัญญาการค้าของเขาได้อย่างไร ตามที่หลงเซียวรู้ สิ่งต่างๆในอดีตของเขานั้นถูกทำลายไปหมดแล้ว ถึงแม้ยังมี ก็คงจะมีแค่ที่อยู่ในมือของCresเท่านั้น…
ความคิดนี้ ทำให้ดวงตาของหลงเซียวเข้มขึ้น
อีกด้าน ตู้หลิงเซวียนกล้านำเอกสารพวกนี้มาต่อรองกับเขาโดยตรง และไม่กลัวการตอบโต้ของเขา
คาดเดาด้วยความกล้าหาญ ด้านหลังตู้หลิงเซวียนก็มีคนมายืนอยู่
จัดการกับอารมณ์แล้ว หลงเซียววางของลง “นี่คืออะไร ผมไม่รู้จัก”
“ไม่รู้จักงั้นเหรอ ไม่เป็นไร เทคโนโลยีการระบุตัวตนจะทำให้คุณต้องยอมจำนน แต่หลงเซียว ในฐานะเป็นผู้นำทางด้านธุรกิจ ผมคิดว่าคุณคงไม่ทำให้ตัวเองต้องลำบาก”
ความหมายก็คือ บัญชีนี้ คุณผมเรามาจัดการกันเป็นการส่วนตัว
คุณทำให้ผมผ่านมันไปได้ ผมก็จะไม่ทำให้คุณลำบากใจ
ถ้าฉีกหน้า งั้นก็คงต้องขอโทษแล้ว
“เหอะๆ งั้นก็ต้องดูแล้วล่ะว่าคุณมีความสามารถหรือเปล่า” หลงเซียวนั่งอยู่บนเก้าอี้ แสงแดดสาดส่อง ทอดไปยางใบหน้าของเขา ส่งให้เงาขนตายาวขึ้น
ตู้หลิงเซวียนขมวดคิ้ว “ทุกข์ก็ทุกข์ไปด้วยกัน สุขก็สุขไปด้วยกัน คุณไม่ให้ชีวิตผม งั้นก็ตายไปด้วยกัน”
สิ่งที่เขาพูดออกไป ไม่ได้ล้อเล่น
“คิดจะเอาผิดผมเหรอ”
หลงเซียวยิ้มหยัน
“ถ้าถึงที่สุด ผมก็ไม่รังเกียจที่จะพาคุณไปที่ศาลสักครั้ง”
ตู้หลิงเซวียนคิดไว้แล้ว ถ้าจัดการเป็นการส่วนตัวไม่ได้ เขาจะกัดหลงเซียวก่อนที่เขาจะรู้ตัว
ของในมือเขา เพียงพอที่จะให้หลงเซียวต้องตายในห้องขัง
คอยดูเถอะ
หลงเซียวกระดิกปลายเท้า ผิวปาก
ตู้หลิงเซวียนโมโหขึ้นมาทันใด หมาจนตรอก
ดังนั้น ก็เท่ากับว่าตู้หลิงเซวียนได้หงายไพ่ใบสุดท้ายแล้ว
คนที่หงายไพ่ใบสุดท้าย ไม่ได้น่ากลัว
“เข้ามาสิ”
ตู้หลิงเซวียนขมวดคิ้วแน่น หันกลับไปมองประตู
เจิ้งซิ่วหยาที่รออยู่ด้านนอก เปิดประตูเข้ามา กับท่าทางที่ดูกล้าหาญ “คุณหลง”
ตู้หลิงเซวียนจำเจิ้งซิ่วหยาได้ ตำรวจจากสถานีจิงตู ทำคดีใหญ่ๆมากมาย รู้จักเป็นการส่วนตัวกับหลงเซียวด้วยเหรอ
เพียงแต่ เธอมาทำไม
“เจ้าหน้าที่เจิ้ง คุณตู้ท่านนี้มีเรื่องอยากคุยกับคุณครับ พูดตามตรง เขาอยากแจ้งความครับ” หลงเซียวทำราวกับกำลังแนะนำเพื่อนเก่า บอกด้วยท่าทีเกรงใจ เจิ้งซิ่วหยาพยักหน้า หันไปหาตู้หลิงเซวียน “คุณตู้ คุณอยากรายงานอะไรหรือเปล่าคะ”