ประธานหยิ่งยโสของฉัน - ตอนที่ 1104
บทที่ 1104 ระเบิดลูกหนึ่ง
ท่ามกลางแสงไฟอันส่องสว่างสดใส การแต่งกายและแต่งหน้าของศิลปินเป็นสไตล์อเมริกัน เอฟเฟคเสียงเซอร์ราวด์ของเครื่องเสียงทำให้ดูอลังการมากขึ้น บรรดาแฟนคลับที่ส่งเสียงโห่ร้องอยู่ด้านล่างอีกทั้งในมือของพวกเขาโบกไฟแท่งไปมาเหมือนทะเลคลื่น
คุณหมอหวังถ่ายคลิปวิดีโอไว้หลายคลิปทีเดียว จากนั้นรีบโพสต์ลงใน moment “โอ้โหพระเจ้า เป็นหมอมาสิบปี เพิ่งจะเคยพบเห็นงานเลี้ยงบริษัทใหญ่โตขนาดนี้ อลังการกว่าคอนเสิร์ตซะอีก!”
คุณหมอซุนยื่นมือไปหยิบขนมในซองของเขาแล้วพูดว่า “ก่อนหน้านี้พวกงานเลี้ยงประจำปี มักจะเปิดงานด้วยผู้บริหารเป็นคนกล่าว พวกผู้บริหารนี่ก็มีความสามารถในการพูดกันจริงๆ พูดไปพูดมาก็เลยเวลาชั่วโมงหนึ่งแล้ว”
คุณหมอหวังเหล่ตาไปมองคุณหมอซุนที่ขโมยขนมไปกิน “คุณหมอซุน คุณไม่เคยกินขนมหรือไง?”
คุณหมอซุนยิ้มแล้วตอบว่า “วันนี้พวกแขกผู้มีเกียรตินี่สุดยอดเลยทีเดียว ไม่รู้ว่าวันนี้ตามแผนกต่างๆมีการแสดงหรือเปล่า ได้ยินมาว่าพนักงานในบริษัท MBK หน้าตาดี ถ้าพวกเขารวมตัวกันจัดการแสดงออกมาคงจะน่าดู!”
หลินซีเหวินนั่งไขว่ห้างแล้วพูดว่า “คุณหมอซุนคะ แต่งงานแล้วก็อย่าคิดอะไรให้มันเกินเลยได้ไหม ถ้าพี่สะใภ้รู้คงไม่ดี”
ลั่วหานไม่ค่อยกินขนมสักเท่าไหร่ เธอนำในส่วนของเธอทั้งหมดให้กับหลินซีเหวิน “งานเลี้ยงประจำปีอย่างไรเสียท่านประธานก็ต้องขึ้นกล่าว คุณเตรียมใจกันไว้เถอะ”
หลินซีเหวินกอดขนมเอาไว้แล้วพูดว่า “ใช่ แล้วอีกอย่างก็ต้องดูว่าหัวหน้าที่ขึ้นไปพูดน่ะเป็นอย่างไร ที่พูดว่าความหล่อชนะทุกสิ่ง ถ้าหน้าตาดีหน่อยต่อให้พูดสามวันสามคืนก็ให้อภัยได้”
คุณหมอหวังและคุณหมอซุนเป็นผู้ชายที่ค่อนข้างจะหัวโบราณ ทั้งสองคนกระแอมออกมา
ส่วนถังจิ้นเหยียนนั้นได้แต่ก็มองดูนาฬิกา จิตใจของเขาไม่อยู่บนเวที โทรศัพท์มือถือยังคงนิ่งเงียบ จวบจนปัจจุบันยังไม่มีข้อมูลใดๆของเจิ้งซิ่วหยา
ไม่รู้ว่าที่อิตาลีสถานการณ์เป็นอย่างไรบ้าง ภารกิจที่เจิ้งซิ่วหยาได้รับอันตรายไหม? ครั้งก่อนเธอบอกว่า ฆาตกรตายแล้ว แต่พวกที่อยู่ด้านหลังนั้นจะดูถูกไปไม่ได้ ตอนนี้ตัวเขาอยู่ด้านหน้าเวทีครึกครื้น แต่เจิ้งซิ่วหยากำลังเผชิญหน้ากับอันตราย คิดได้ดังนี้เขาก็เริ่มกระสับกระส่าย
การแสดงร้องเพลงจบไปหนึ่งเพลง พิธีกรคู่ชายหญิงรูปร่างสง่างามเดินขึ้นสู่เวที จากนั้นอธิบายความสำเร็จในหนึ่งปีที่ผ่านมาของบริษัทMBKอย่างคร่าวๆ จอแสดงผลขนาดยักษ์ด้านหลังได้ปรากฏเป็น ตัวเลข กราฟ และวิดีโอของผู้บริหารระดับสูง
ความสำเร็จของบริษัท MBK สามารถกล่าวได้ว่าได้เปรียบในด้านของอสังหาริมทรัพย์ ส่วนเรื่องการเงินและเวชภัณฑ์นั้นเป็นความสำเร็จที่เพิ่งตามมาและกำลังจะตามทัน นับว่าเป็นความสำเร็จที่ไม่ธรรมดาเลยจริงๆ รองประธานบริษัทMBK ก้าวขึ้นมาบนเวทีท่าทางสง่างาม เป็นชายวัยกลางคนอาจดูไม่ได้หล่อเท่าไหร่นัก แต่เขาก็มีออร่าความมั่นใจของคนที่ประสบความสำเร็จ เพียงพอที่จะทำให้พนักงานกว่าพันคนที่อยู่ด้านล่างชื่นชมเขา
หลงจื๋อและผู้บริหารระดับสูงในMBKนั่งอยู่ในโซนVIP หลงจื๋อและไป๋เวยนั่งอยู่โต๊ะเดียวกัน ส่วนไป๋เวยนั้นนั่งอยู่ข้างกู้เยนเซิน
กู้เยนเซินวิจารณ์ตัวเลขที่แสดงขึ้นว่า “คุณชายรอง ในฐานะที่บริษัทMBK เป็นบริษัทอสังหาริมทรัพย์ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศ ประสบความสำเร็จมั่งคั่งหลายหมื่นล้าน แสดงความยินดีด้วยนะครับ”
หลงจื๋อไม่ได้รู้สึกว่าหลายหมื่นล้านนี้มีประโยชน์อะไร เงินทองเหล่านี้ที่จริงแล้วก็ไม่ได้เป็นของส่วนตัว อีกทั้งเขาก็ไม่ได้ชื่นชอบเงินทองเท่าไหร่นัก “คุณชายกู้กำลังกระแนะกระแหนผมอยู่หรือเปล่า บริษัทของพ่อคุณปีนี้ได้กำไรเพิ่มเป็น 2 เท่าของยังไม่ได้แสดงความยินดีด้วยเลย”
กู้เยนเซินยกขาขึ้นนั่งไขว่ห้าง “แหมพวกเราก็พอๆกันแหละครับ ต่างกันตรงที่ว่า ผมนั้นเกาะพ่อ ส่วนคุณเกาะพี่”
ไป๋เวยเข้ามาขัดจังหวะทั้งสองคน “ได้ยินหรือเปล่า?ปีหน้าบริษัทMBKเตรียมตัวจะเข้าสู่วงการโทรทัศน์ เค้กยิ่งทำก็ยิ่งใหญ่ มือยิ่งเอื้อมก็ยิ่งยาว อะไรที่ทำแล้วได้เงินก็ทำหมด หัวการค้าของคุณชายเซียวเนี่ยฉันนับถือจริงๆ”
หลงจื๋อได้ยินมาว่าบริษัทMBKจะทำการลงทุนด้านโทรทัศน์ภาพยนตร์ แต่ยังไม่ได้จัดตั้งโครงการ เขาคิดว่าคงจะต้องใช้เวลาอยู่หลายเดือน คิดไม่ถึงว่าจะประกาศข่าวนี้ออกมาในงานเลี้ยงประจำปี
ฝีเท้าของพี่ใหญ่ทั้งเร็วและมั่นคง
“เอ๋?พี่ใหญ่ผมล่ะ? เห็นพี่ผมไหม?”
ในฐานะตัวเอกของงานเลี้ยงในคืนนี้ แต่เขากลับไม่โผล่หน้าออกมานี่มันเหตุผลอะไรกัน?
เมื่อหลงจื๋อพูดขึ้น พวกเขาหลายคนก็หันซ้ายหันขวามองหาหลงเซียว แต่ไม่ว่าจะเป็นด้านหน้าหรือด้านหลังก็หาไม่เจอ ทางด้านโรงพยาบาลหวาเซี่ยก็มีเพียงลั่วหานนั่งอยู่กับเพื่อนร่วมงาน ไม่ปรากฏร่างของหลงเซียว
“อืม น่าแปลกจริงๆ ตามหลักเกณฑ์แล้วเขาน่าจะต้องขึ้นพูดเป็นอันดับแรก”
หลงจื๋อไม่วางใจเท่าไหร่นัก เขาพูดว่า “ผมขออนุญาตโทรหาพี่ก่อนนะครับ”
กู้เยนเซินราวกับคิดอะไรได้ เขารีบเข้าไปหยุดการกระทำของหลงจื๋อไว้ “เดี๋ยวครับ”
หลงจื๋อพยายามจะดึงมือกลับ เขาพูดด้วยความไม่เข้าใจว่า “อะไรกัน?”
ความรู้สึกของกู้เยนเซินตอนนี้ก็คือ หลงเซียวน่าจะไม่สะดวกที่จะออกมา “ตอนนี้ทางอิตาลีเกิดเหตุการณ์บางอย่างขึ้น หากมีคนรู้น้อยก็ยิ่งดี พี่ชายของคุณชอบทำอะไรไม่เหมือนใคร คุณจะคิดตามความคิดคนธรรมดาทั่วไปไม่ได้ การที่พี่ชายของคุณยังไม่มาเขาต้องมีเหตุผลแน่นอน หรืออาจจะรอทำเซอร์ไพรส์อยู่ก็ได้”
หลงจื๋อถามด้วยความลังเล “จริงเหรอครับ?”
“แน่นอน พี่ชายของคุณเป็นคนอย่างไรกัน คุณคิดว่าเขาจะทำอะไรผิดพลาดอย่างนั้นหรือ?”
เมื่อคิดดูก็คล้ายว่าจะเป็นอย่างนั้น “งั้นผมรออีกสักพักแล้วกัน”
ไป๋เวยสัมผัสได้ว่ากู้เยนเซินกำลังปิดบังบางอย่าง จึงได้ใช้โทรศัพท์มือถือส่งข้อความไปถามว่า “เกิดเรื่องอะไรขึ้นกันแน่?”
กู้เยนเซินสูดลมหายใจเข้าแล้วตอบว่า “คืนนี้คุณชายหลงมีเรื่องอย่างอื่นต้องจัดการ ส่วนเรื่องอะไรนั้นบอกไม่ได้”
ไป๋เวยเองก็เริ่มกังวลใจและภาวนาว่าอย่าให้เกิดอะไรขึ้นเลย
อีกทั้งจี้ตงหมิงก็ไม่อยู่ที่นี่ ทั้งสองคนหายตัวไปด้วยกันจะต้องมีเรื่องแน่
ที่ด้านหลังเวที ณ ห้องแต่งหน้า
จี้ตงหมิงเชื่อมต่อสัญญาณ GPS บนตัวจางหย่ง ในไม่ช้าหน้าจอคอมพิวเตอร์ก็ปรากฏความเคลื่อนไหวของเขาขึ้น
“เจ้านายครับ อาหย่งและคนของMAXอยู่ด้วยกัน เจิ้งซิ่วหยาก็อยู่ด้วย มองดูแล้วพวกเขาไม่อยากจะ ประนีประนอม”
หลงเซียวยืนอยู่หน้าโต๊ะเครื่องแป้ง เขาหันข้างแล้วใช้มือทั้งสองขอไปที่โต๊ะ ขยายกว้างหน้านี้หน่อย
จี้ตงหมิงซูมวิดีโอเข้าไป ทั้งสองคนมองเห็นด้านในเสื้อแจ็คเก็ตของจางหย่งใส่ปืนเอาไว้ ในมือของเจิ้งซิ่วหยาก็มีปืนอยู่เช่นกัน
มองภายนอกแล้วมีคนจำนวน 30 กว่าคน ทุกคนล้วนมีอาวุธครบมือ ไม่เหมือนกับการเจรจาอย่างสันติ
“เจ้านายครับผมได้ระดมกำลังคนของพวกเราไว้พร้อมแล้ว สามารถเข้าช่วยพวกเขาได้ทุกเมื่อ ต่อให้สู้กันอย่างดุเดือดด้านของCresก็ไม่ได้เปรียบอะไร
แต่กระนั้นพวกเขาก็ยังคงเป็นกังวล เนื่องจากปืนไม่มีหูไม่มีตา ใครจะบอกได้ว่าพวกเขาจะกลับมาโดยปลอดภัย
หลงเซียวเคาะนิ้วมือของเขาลงบนโต๊ะเบาๆ 1 ครั้ง…… 2 ครั้ง……
“MAXไม่เคยอุทิศตนที่ไร้ประโยชน์ รอ”
ในเมื่อเขาบอกให้รอ จี้ตงหมิงจึงไม่กล้าทำอะไรอย่างอื่น
แต่เวลาก็ผ่านไปทุกนาที ในที่สุดจี้ตงหมิงก็เอ่ยถามด้วยความกังวลว่า “เจ้านายครับ ตอนนี้คุณควรจะออกไปด้านนอกแล้วใช่ไหม งานเลี้ยงประจำปีเริ่มมาได้ครึ่งชั่วโมงกว่าแล้ว”
ถ้ายังไม่ออกไปตอนนี้ไม่รู้ว่าพวกนักข่าวจะเอาไปเขียนว่ายังไง
หลงเซียวมองดูตารางการแสดง ลำดับของเขานั้นอยู่ห่างไปอีกประมาณ 10 นาที
“ไม่รีบ”
ครืดๆ เสียงโทรศัพท์ของหลงเซียวดังขึ้น
คิ้วของหลงเซียวขมวดเข้าหากันทันที “ตู้หลิงเซวียน?”
“หลงเซียว คิดไม่ถึงใช่ไหม? วันสำคัญแบบนี้ผมมาแสดงความยินดีให้คุณ” ในมือของตู้หลิงเซวียนคีบบุหรี่เอาไว้ เขาลดกระจกลดลง จากนั้นพ่นควันบุหรี่ออกไป
สีหน้าของหลงเซียวนิ่งเงียบ “มองดูแล้วผมคงจะต้องขอบคุณคุณสินะ?”
“ขอบคุณผมเหรอ?ไม่ต้องหรอก คืนนี้จะต้องอลังการแบบยากจะลืมแน่”
ตู้หลิงเซวียนหัวเราะ เสียงของเขายังไม่ทันสิ้นสุดลงโทรศัพท์ก็ถูกวางสาย
หลงเซียวขมวดคิ้วเข้าหากันแน่น “มองดูแล้วตู้หลิงเซวียนกับCresจะทำความร่วมมือกันอยู่”
และที่นี่……
ถูกพวกเขาจับตาไว้แล้ว
“ผมจะเพิ่มบอดี้การ์ด จะไม่ให้ใครเข้ามาขัดขวางงานเลี้ยงทั้งสิ้น”
สิ่งที่จี้ตงหมิงกังวลที่สุดก็คือ จะมีคนเข้ามาทำความวุ่นวายในงานเลี้ยง สถานการณ์ที่อิตาลีก็กำลังคับขัน ส่วนในประเทศนี้ก็ไม่สงบสุขนัก แต่เขาคิดว่าคนเหล่านั้นไม่กล้าพอที่จะทำอะไรบุ่มบ่ามในประเทศจีน
แต่ว่าท่าทางของหลงเซียวบ่งบอกว่า ไม่มีที่ใดจะปลอดภัย100%
จี้ตงหมิงจึงหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา แล้วปัดไปที่หน้าจอ
ขณะเดียวกันที่ประตูของห้องแต่งหน้าก็ถูกเคาะขึ้น
“ใคร?”
“ท่านประธานครับ ผมเอง เมื่อสักครู่มีคนบอกว่ามีของจะมอบให้ท่าน กล่าวว่าท่านจะต้องเปิดดูด้วยตนเอง” เสียงด้านนอกเป็นเสียงของพนักงานในบริษัท
จี้ตงหมิงรีบหันไปมองดูสีหน้าของเจ้านาย “เปิดประตูไหมครับเจ้านาย?”
หลงเซียวพยักหน้า
จี้ตงหมิงไปเปิดประตู พบว่ามีกล่องของขวัญสีแดง “เอาล่ะไปทำธุระต่อเถอะ”
จี้ตงหมิงหยิบกล่องนั้นเข้ามาด้วยความระมัดระวัง “เจ้านาย เปิดดูไหมครับ?”
หลงเซียวมองไปที่กล่องนั้น
ด้านบนกล่องมีการ์ดเขียนไว้เป็นภาษาอังกฤษว่า “have a nice evening baby”
Cres!!!
ชื่อแรกในสมองของหลงเซียวที่นึกออกมาก็คือCres!
เขามอบของขวัญให้อย่างนั้นเหรอ?
เพียงแค่จุดนี้จุดเดียวก็ทำให้เขาระมัดระวังมาก
เหงื่อบนศีรษะของจี้ตงหมิงเริ่มซึมออกมา “เจ้านายครับ ด้านในนี้บางทีอาจจะเป็น……ระเบิด”
จากความรู้สึกนี้ จี้ตงหมิงยืนอยู่ที่เดิมไม่กล้าขยับ
หลงเซียวสูดหายใจเข้า เขานำนิ้วเรียวงามวางไว้ข้างบน “อาหมิง……”
เขายังไม่ทันพูดจบจี้ตงหมิงก็รีบแทรกขึ้นมาว่า “เจ้านายครับ ชีวิตของผมคุณเป็นคนช่วยเอาไว้ ผมไม่กลัวตายตั้งนานแล้ว”
ริมฝีปากเรียวของหลงเซียวขยับและค้างอยู่กับที่ ในขณะที่เขาจะพูดมันออกมา ท้ายที่สุดก็พยักหน้า
การเดิมพันในสนามนี้มีชีวิตพวกเขาเป็นสิ่งเดิมพันบางทีอาจจะ……
“เจ้านายครับ เอากล่องมาให้ผม ผมเปิดเอง”
“ไม่ได้!ผมจะเปิดเอง”
“เจ้านายครับ ข้างในบางทีอาจจะเป็นระเบิด ถ้าหากว่า……”
“ผมเป็นเจ้านายของคุณ คุณต้องฟังผม!!!”
หลงเซียวนั้นเคยได้รับของขวัญปริศนาอยู่เหมือนกัน ตอนนั้นลั่วหานเข้าใจผิดคิดว่าเป็นระเบิดและรีบวิ่งเข้ามาเพื่อจะเปิดแทนเขา แต่ในวันนี้ ความรู้สึกของหลงเซียวนั้นมันรุนแรงมาก มันช่างชัดเจนมากเหลือเกิน
วินาทีที่กล่องนั้นถูกเปิดออก จี้ตงหมิงและหลงเซียวก็ตกตะลึง
ด้านในมีระเบิดวางอยู่จริง อีกทั้งยังมี นาฬิกานับถอยหลังเพียงแค่ 3 นาที! ทุกวินาทีที่หดหายไปราวกับชีวิตเหลือสั้นลงทุกที รวดเร็วราวกับน้ำแข็งที่เยือกเย็น
“รีบวิ่งออกไป!”
“เร็ว!!