ประธานหยิ่งยโสของฉัน - ตอนที่ 1116
บทที่ 1116 ความโกรธ
หวาเทียนรับมาเปิดดู “นี่คุณกำลังดูแลผมเป็นพิเศษอยู่หรือเปล่าครับคุณหมอฉู่”
รายงานฉบับนี้ เดิมลั่วหานจะเขียนเองก็ได้ เพราะล้วนเป็นคนไข้ของเธอ แต่เธอยกโอกาสให้หวาเทียน
ลั่วหานลูบท้องของเธอเบาๆ “คุณคิดว่า ฉันเต็มใจเหรอ”
ความจริง เธอตั้งใจจะช่วยหวาเทียนจริงๆ เขาจะเป็นพ่อคนแล้ว ต่อไปความกดดันยิ่งมากขึ้น สามารถขึ้นเป็นรองศาสตราจารย์ได้อย่างรวดเร็วนั้นถือว่าเป็นบันไดให้เขา
เป้าหมายที่แท้จริงของลั่วหานคือต้องการให้ซวงซวงมีอนาคตที่ดีและมีความสุข
“เข้าใจแล้ว ปลายเดือนผมต้องเขียนแน่ ขอบคุณนะครับ”
หวาเทียนเองก็พอเดาได้ถึงจุดประสงค์ของเธอ เพียงแต่ไม่บอกออกไป
คืนนั้น เครื่องบินของหลงเซียวมาถึงเมืองหลวงตามเวลา คืนนั้นลั่วหานมีคนไข้ผ่าตัดต้องเฝ้าดูอาการ เธอไม่ได้ไปรับ
กว่าจะจัดการธุระเสร็จก็ปาไปสามทุ่มกว่าแล้ว ท้องของลั่วหานเริ่มร้องขึ้นมา
ท้องรอบนี้ เธอหิวง่ายมาก ห้องทำงานมีอาหารสำหรับคนท้องเต็มไปหมด เธอกลัวจริงๆว่าเด็กยังไม่คลอด น้ำหนักเธอจะเพิ่มขึ้นยี่สิบห้ากิโลกรัม
หลินซีเหวินเข้าเวรดึกเหมือนกัน เธอกลับมาจากแผนกเด็ก ไม่พูดไม่จาไปหาขนมจากห้องทำงานของลั่วหาน
“ลั่วหาน หลงเจ๋อโทรมาหาฉัน บอกว่าเดี๋ยวก็กลับมาแล้ว กำลังอยู่เที่ยวกับแม่ที่อิตาลี”
หลินซีเหวินทั้งพูดทั้งยัดของกินเข้าปาก ยัดคุกกี้เข้าปากคำต่อคำ กินอย่างรวดเร็ว
อาหารในปากส่งเสียงกรอบแกรบ แก้มของเธอขยับขึ้นลงตามการเคี้ยว
“แม่เขาอยู่ที่อิตาลีได้ยังไง”
โฉหวั่นชิงควรจะอยู่ที่ประเทศMสิ
“เจมส์ไปส่งค่ะ ดีที่ได้พี่ใหญ่ช่วย ไม่งั้นพวกเขาก็ไม่มีโอกาสได้เจอกัน ฉันต้องขอบคุณพี่ใหญ่จริงๆค่ะ”
หลินซีเหวินฉีกซองโดรายากิ ตราสินค้าของเกาหลี มีรสหวาน
“อืม คุณคิดจะขอบคุณผมยังไง”
ด้านนอก เสียงทุ้มต่ำดังตามมาด้วยเงาของร่างสูง
ลั่วหานเบิกตากว้าง “หลงเซียว คุณกลับมาแล้วเหรอ”
หลงเซียวรู้จากถังจิ้นเหยียนว่า วันนี้ลั่วหานต้องดูแลผู้ป่วยแทนเขา ดังนั้นลงจากเครื่องมาแล้วเขาจึงตรงมาที่โรงพยาบาล ได้เจอลั่วหานจริงๆด้วย
“เสร็จหรือยัง”
หลงเซียวเดินเข้าไป สองแขนโอบลั่วหานเอาไว้ กดเธอลงบนเก้าอี้ นวดไหล่ให้เธอผ่อนคลาย
“พึ่งเสร็จค่ะ เตรียมเลิกงานแล้ว วันนี้ไม่ใช่เวรฉัน” ตั้งแต่ลั่วหานท้องก็ไม่มีเวรดึกแล้ว วันนี้พิเศษ
หลินซีเหวินกลืนโดรายากิ “พี่ใหญ่…พี่ลั่ว ฉันนึกขึ้นไว้ว่าฉันต้องไปตรวจคนไข้ ไปก่อนนะคะ”
มีประสบการณ์ครั้งที่แล้ว หลินซีเหวินก็ไม่กล้าอยู่เป็นก้างขวางคอแล้ว เอ่ยจบก็เตรียมวิ่งออกไป
หลงเซียวขมวดคิ้วแน่น “คุณกินพวกนี้เนี่ยนะ”
ลั่วหานอยากเก็บซ่อนไว้ก็ไม่ทันแล้ว “เอาไว้ทานเวลาหิวเป็นครั้งคราวค่ะ ไม่ได้กินทุกวันสักหน่อย แค่ครั้งนี้ครั้งเดียวแล้วถูกคุณจับได้แค่นั้นเอง”
เธอเป็นหมอ ปกติทานอะไรบำรุงตัวเองเสมอ แต่ว่าเวลาท้องแล้วปากมันชอบหยุดพักผ่อน
“เดี๋ยวต่อไปผมจะให้พี่เลี้ยงตุ๋นซุปไว้ให้คุณ เตรียมเนื้อปลาแบบที่คุณชอบเป็นของทานเล่น ไม่ให้กินขนมแล้ว” หลงเซียวยังจัดการเก็บกวาดขนมทั้งหมดของเธอไปด้วย ไม่เหลือไว้แม้เพียงห่อเล็กๆน้อยๆ
ลั่วหานไม่อยากทิ้งคุกกี้ในมือของเธอที่พึ่งฉีกซองไป ขอร้องด้วยท่าทางน่าสงสาร “แค่อันเดียวนะคะ กินอันนี้เสร็จแล้วจะไม่กินอีกเลย โอเคไหมคะ”
หลงเซียวขมวดคิ้ว “เมื่อก่อนคุณไม่ชอบกินไม่ใช่เหรอ”
ลั่วหานถือโอกาสยัดขนมเข้าปาก “ตอนนี้ชอบแล้ว”
หลงเซียวลูบผมเธออย่างช่วยไม่ได้ “ทำอะไรกับคุณไม่ได้จริงๆ ไปเถอะ เรากลับบ้านกัน”
ลั่วหานกำลังจะยัดส่วนที่เหลือในมือเข้าปากทั้งหมด หลงเซียวห้ามเธอเอาไว้ “ค่อยๆกิน ไม่แย่งคุณหรอก กินอีกไหม ผมเปิดให้คุณอีกอัน”
“เอาค่ะ คุกกี้รสหวานติดเค็มนิดๆอร่อยมากเลย รสชาติหวานๆ คุณลองดูสิคะ”
ลั่วหานยื่นชิ้นคุกกี้ที่ยังไม่กัดให้เขา
หลงเซียวจับมือเธอออกไป ขยับเข้าใกล้โน้มริมฝีปากชิดริมฝีปากเธอ ริมฝีปากอุ่นวนเวียนอยู่แบบนั้น วนเวียนรอบริมฝีปากเธออยู่ชั่วครู่ค่อยปล่อยให้เป็นอิสระ
“อืม หวานมาก อร่อย”
เศษขนมที่ติดอยู่บนริมฝีปากของเธอถูกเขากินจนหมด ริมฝีปากยังรู้สึกถึงร่องรอยของเขา อดไม่ได้ยื่นลิ้นออกไปเลียริมฝีปาก “เอาเปรียบฉัน”
หลงเซียวสวมชุดคลุมสีดำสนิท เดินออกมาพลางกอดลั่วหานเอาไว้ “ตอนกลางวันไปเยี่ยมแม่แล้วหรือยัง”
“ไปเยี่ยมแล้วค่ะ ไม่ค่อยดีเลย ตอนเย็นก็ไปดูแล้วหนึ่งรอบ เธอนอนเร็ว ลุงส้งดูแลเธออยู่”
ทั้งสองเดินช้า ใช้เวลาสักพักกว่าจะถึงลานจอดรถ
คงเป็นเพราะว่าหลงเซียวได้เห็นความรักของหลงเจ๋อและโฉหวั่นชิง ทำให้เขารู้สึกทราบซึ้ง อยากถนอมเวลากับแม่ที่กำลังร่างกายอ่อนแอเอาไว้ให้ดีที่สุด “พรุ่งนี้เดี๋ยวผมเลิกงานเร็วแล้วมาอยู่กับเธอ”
เมื่อกลับถึงบ้าน ทั้งคู่ทานอาหารรอบดึกง่ายๆ ลั่วหานอาบน้ำเข้านอนไปก่อน หลงเซียวไปที่ห้องหนังสือเพื่อเคลียร์เอกสารที่ตกค้าง
ทำงานถึงเที่ยงคืนครึ่ง โทรศัพท์พลันดังขึ้น
หลงเซียวมองดูหน้าจอ “ประธานตู้”
ในมือตู้หลิงเซวียนมีวิสกี้อยู่ครึ่งแก้ว “หลงเซียว คุณกล้ามากนะ”
ดวงตาแดงก่ำของเขา เข้มขึ้นจนเลือดแทบพุ่งออกมาได้ แก้วในมือถูกบีบแน่นแทบจะเปลี่ยนรูปร่างได้
หลงเซียวตอบเสียงเย็น “ประธานตู้กำลังชมผมอยู่ใช่ไหมครับ”
“เหอะๆ หลงเซียว คุณลงมือได้โหดร้ายมากนะ”
ตั้งแต่ที่เขาได้คุยกับCresจนถึงตอนนี้ มันผ่านไปเกือบสิบชั่วโมงแล้ว แต่ความโกรธในใจนั้นยิ่งทวีคูณ แค่คิดว่าหลงเซียวทำลายแผนการของเขาได้ เขายิ่งรู้สึกอยากฆ่าหลงเซียวให้ตาย
หลงเซียวจับวังเกตได้ว่าตู้หลิงเซวียนถูกเจมส์บีบให้ยอมแพ้ “ประธานตู้หมายความว่ายังไงครับ ผมไม่ค่อยเข้าใจเลย”
“คุณอย่ามาเสแสร้งกับผม คุณไปคุยอะไรกับCres เขาถึงจะตัดเส้นทางธุรกิจของผมทุกทางกับอเมริกา คุณไปยุยงอะไรเขาไว้” ตู้หลิงเซวียนโกรธหนัก เส้นเลือดบนขมับนั้นตึงเครียด
Cresลงมือรวดเร็วจริงๆ
“ไม่เกี่ยวอะไรกับผม นั้นเป็นข้อตกลงของคุณกับเขา สำเร็จไม่สำเร็จมันขึ้นอยู่กับคุณ” หลงเซียวไม่คิดจะฟังคำพูดไร้สาระของตู้หลิงเซวียน ดึกขนาดนี้แล้ว เขาต้องรักษาเวลานอนของเขาเอาไว้
“หลงเซียว คุณอย่าบีบผม”
ประโยคนี้ เขาเอ่ยออกมาช้าๆ บอกด้วยความเคียดแค้น
หลงเซียวคร้านจะสนใจเขา ตัดสายทันที
ตู้หลิงเซวียนเงยหน้าขึ้น ดื่มวิสกี้ที่เหลืออยู่ในแก้วรวดเดียวหมด
ช่วงหลายวันมานี้ เขาต้องรับคำนินทา เสียดสีมากมาย ลิ้มรสความขมขื่นที่ไม่เคยสัมผัสมาตลอดสามสิบปี ตู้หลิงเซวียนที่อยากได้ลมก็ได้ลม อยากได้ฝนก็ได้ฝน ตั้งแต่เป็นศัตรูกับหลงเซียว ทุกสิ่งทุกอย่างนั้นดิ่งลงเหว
หลงเซียวคือตัวซวยของเขา
“เพล้ง”
เขาฟาดแก้วกระแทกพื้นอย่างรุนแรง เศษแก้วกระเด็นกระดอนไปทั่วพื้น
ได้ยินเสียงดังจากฝั่งนี้ เจิ้งซินจึงสะดุ้งตื่นขึ้น รีบร้อนสวมเสื้อคลุมแล้วเดินออกมาจากห้องนอน ชายหนุ่มที่ระเบียง แผ่นหลังมืดมน “ตู้หลิงเซวียน คุณทำอะไรอยู่”
ตู้หลิงเซวียนมือสั่นระริก พบว่ากล่องบุหรี่ว่างเปล่าแล้ว “อยากบุหรี่น่ะ”
เอ่ยจบ เขาก็คว้าเสื้อคลุม ก้าวเดินตรงออกไปยังทางเข้า ไม่มีความอาลัยอาวรณ์เลยสักนิด
เจิ้งซินตกใจกับร่างสูงใหญ่ของเขา รีบตามไปดึงเขาเอาไว้ “คุณจะทำอะไร ดึกขนาดนี้แล้วคุณจะไปไหน”
สายตาเยือกเย็นของตู้หลิงเซวียนกวาดมองมือของเธอ “ปล่อย”
“ฉันถามว่าคุณจะไปไหน” เจิ้งซินกังวล ท่าทางของตู้หลิงเซวียนแย่มาก เมื่อวู่วามก็อาจจะทำอะไรโง่ๆได้
“เรื่องของผมต้องให้คุณมายุ่งตั้งแต่เมื่อไหร่ ปล่อย”
ตู้หลิงเซวียนออกแรงสะบัดเจิ้งซินออก
อีกคนยื้ออยู่ชั่วครู่ ก็ถูกเขาสะบัดออกไปได้
ตู้หลิงเซวียนสตาร์ทรถแล้วขับออกไปอย่างรวดเร็ว ปอร์เช่สีดำทะยานออกไปราวกับพายุ บินออกไปกับถนนยามค่ำคืน พุ่งออกไปบนทางหลวงทะยานสู่ชานเมือง
ล้อครูดไปกับพื้นถนน ลมพัดเย็นราวกับมีดแหลมที่ทิ่มแทงเข้ามาบนใบหน้า เส้นผมถูกลมพัดไปด้านหลัง ความรู้สึกเจ็บบนหน้าผากนั้นกลายเป็นเรื่องเล็กน้อยสำหรับเขา ความหนาวเย็นไม่สามารถลบความแค้นในใจเขาได้
หลงเซียว
หลงเซียว
หลงเซียว
วนเวียนอยู่ในชีวิตของเขา
รถถูกขับออกไปไกลร้ายร้อยกิโลเมตร ตรงหน้าเป็นภูเขาของเมืองเมืองหลวง ไม่ถือว่าสูงมาก ยามค่ำคืนนั้นเงียบสงบ ตีนเขามีร้านเหล้า นักร้องกำลังร้องเพลงที่กำลังเป็นที่นิยม
ตู้หลิงเซวียนดับเครื่องยนต์ จึงพบว่าสองมือนั้นชาจนไร้ความรู้สึก กระทั่งกุญแจรถก็ยังดึงออกไม่ได้
ตู้หลิงเซวียนนั่งอยู่ในรถ มองออกไปยังยอดเขาที่มืดสนิท
เขาเคยยืนอยู่ในจุดนั้น ไม่รู้ตั้งแต่เมื่อไหร่ ที่เท้าของเขาค่อยๆก้าวมายืนอยู่ตีนเขา สิ่งที่อยู่ในมือ ค่อยๆหายไปทีละชิ้น