ประธานหยิ่งยโสของฉัน - ตอนที่ 1158
แต่บางเรื่องเราก็ไม่มีไฟล์แล้วเหมือนกัน
บทที่ 1158 น่าอายมาก
“ตอนนั้นนายชอบดาราศาสตร์มาก มีครั้งหนึ่งฉันพานายไปหอดูดาว ครั้งแรกที่นายเห็นกลุ่มดาวนายพราน นายถามฉันว่า แด๊ดดี้ ทำไมสิ่งที่กล้องโทรทรรศน์มองเห็น มนุษย์กลับมองไม่เห็น”
ตอนนั้นตู้หลิงเซวียนอายุเพียงสามขวบ ความทรงจำจางหายหมดแล้ว ดังนั้นจึงจำไม่ได้
“แด๊ดดี้ตอบยังไงครับ?”
พ่อตู้ค่อยๆ พูด “ตอนนั้นฉันบอกว่า กล้องโทรทรรศน์เป็นส่วนขยายของดวงตามนุษย์ สามารถนำดวงตาจองมนุษย์ไปวางไว้บนฟ้า”
“เฮอะๆ ตอนนั้นผมต้องเด็กมากแน่ๆ”
มิฉะนั้นเขาจะถูกโน้มน้าวใจด้วยคำตอบเช่นนี้ได้อย่างไร?
พ่อตู้ตบบ่าเขาแล้วยิ้ม “ใช่แล้ว ตอนนั้นนายอายุแค่สองสามขวบ ฉันพูดอะไรนายก็เชื่อ เชื่อฟังมาก แต่ว่าแด๊ดดี้จำไม่ได้ว่าตั้งแต่เมื่อไร นายก็ไม่เชื่อฟังฉันอีกต่อไป”
น้ำเสียงนั้น คือพ่อทำอะไรไม่ถูก
ลูกที่เลี้ยงเองจนโต จู่ๆ วันหนึ่งก็ผละออกจากเขา อยากบินด้วยตัวเอง มีความคิดเป็นของตัวเอง ไม่ต้องการถูกชี้นำโดยผู้ใหญ่และทำตามความคิดของตัวเองมากขึ้นเรื่อยๆ
มือข้างหนึ่งของตู้หลิงเซวียนถือขวดน้ำ อีกข้างหนึ่งเล่นฝาขวด “แด๊ดดี้……”
“จริงๆ แล้วนะเควิน ท้องฟ้าไกลเกินไป ส่วนมนุษย์ ชอบมองไปที่ไกลๆ คิดว่าสิ่งที่อยู่บนขอบฟ้านั้นดีที่สุด นายอ่านหนังสือมามากขนาดนั้น คนที่ประสบความสำเร็จหลายคนกำลังสอนคนให้รู้จักมุมมองระยะยาว
แต่ว่านายสังเกตไหม คนปัจจุบันมีสายตายาว”
คนสายตายาว สามารถมองเห็นสิ่งที่ไม่ใช่ของตัวเองได้จากระยะไกลเท่านั้น
มีแต่ท้องฟ้าและดวงจันทร์ ลืมคนตรงหน้า
ตู้หลิงเซวียนฟังถึงตรงนี้ มั่นใจในความคิดของตัวเองทันที
พ่อรู้ตั้งนานแล้วจะเกิดอะไรขึ้นกับหลันเทียน เขาคอยเตือนอยู่ข้างๆ เพราะหวังว่าเขาจะล้มเลิกความทะเยอทะยาน
“แด๊ดดี้ มนุษย์มักเดินไปที่สูง” ตู้หลิงเซวียนดื่มน้ำอีกครั้ง และมองดูเวลาบนข้อมือ สองชั่วโมงผ่านไปแล้ว ที่บริษัทยังไม่มีการเคลื่อนไหว
พ่อตู้พูดช้าๆ “ที่สูงไม่ได้ไม่ดี ที่สูงมีข้อดีของที่สูง จีนมีคำโบราณกล่าวไว้ว่า คนฉลาดชอบภูเขา คนดีชอบน้ำ ผู้คนต้องการปีนภูเขาด้วยภูมิปัญญาของตัวเอง เหยียบคนอื่นไว้ใต้เท้า
แต่นายฟังประโยคหลัง มีแค่น้ำ ถึงจะไหลได้ไกล ไหลต่อไปไม่หยุด คำว่าดี เขียนง่ายอ่านง่ายแต่ทำยาก”
ตู้หลิงเซวียนฟังแล้วรู้สึกแทงใจ “แด๊ดดี้ เรื่องของหลันเทียนในวันนี้ ผมจะจัดการให้ดี หลันเทียนไม่มีความหลับที่เปิดเผยไม่ได้ ผมไม่กลัวการตรวจสอบ ถ้าเรื่องผ่านไป สื่อมวลชนและประชาชนจะให้ความเป็นธรรมแก่ผม”
เหมือนว่าพ่อตู้จะไม่สนใจมากนัก “เควิน ตอนเด็กๆ นายชอบกินปลาขาวสร้อย ยังจำได้ไหม?”
เขาจำได้ แม่มาจากเมืองเกาะ ทุกครั้งที่ถึงฤดูตกปลา แม่ก็จะให้คนเอาปลาขาวสร้อยจากที่นั่นมาที่อเมริกา และทำให้เขากินด้วยตัวเอง
ทุกครั้งที่เขาได้กลิ่น อดใจไม่ไหวที่จะกิน รอไม่ไหวที่จะให้แด๊ดดี้และหม่ามี๊เอาก้างออก มีครั้งหนึ่งรีบกินเกินไป ก้างปลาติดคอ ก้างปลาเข้าไปลึกมาก จางม่านหนิงตกใจจนร้องไห้ ยังโทษตัวเองว่าไม่ได้เอาก้างออกให้เขาดีๆ
หลังจากนั้นจางม่านหนิงไม่กล้าทำปลาขาวสร้อยให้เขาอีก ทำเพียงปลากะพงที่ไม่ค่อยมีก้าง แต่ว่าตู้หลิงเซวียนไม่ชอบกินปลากะพง
“อืม จำได้”
“ตอนนี้นายชอบกินปลาขาวสร้อยมาก เพิ่งทำเสร็จยังไม่ได้เอาก้างออก นายรีบกินเกินไป ก้างปลาติดคอนาย แต่ว่าเควิน ตอนเด็กๆ ก้างปลาติดคอนาย หมอช่วยเอาออก ตอนนี้ก้างปลาติดคอ ใครช่วยนาย?”
น้ำเสียงของพ่อตู้เบา ค่อยๆ พูดอย่างไม่เอาแต่ใจ ไม่ได้หมายความว่าจะตำหนิ คำพูดเต็มไปด้วยความห่วงใยและเจ็บใจ
ตู้หลิงเซวียนที่ยกขวดน้ำมาถึงข้างปาก ไม่ได้ดื่มอีก
เจ็บแสบในใจ เจ็บมาก “แด๊ดดี้……ปลาจานนีั ไม่ควรเป็นของผมเหรอ?”
หลงเซียวแย่งปลาในจานของเขา เขาควรปกป้องมันไม่ใช่เหรอ?
พ่อตู้บิดขวดน้ำที่ดื่มหมด ทำให้ขวดน้ำกลายเป็นก้อนเล็กๆ เขาปิดฝา และทิ้งลงถังขยะ
“เป็นของนายเหรอ? เควิน”
เขาไม่ตอบและถามกลับ ยังคงเป็นสายตาที่อ่อนโยน แต่กลับคมแหลมเหมือนมีด
เป็นของเขาเหรอ?”
บริษัทใหญ่อย่างหลันเทียน เขาไม่ได้สร้างมันทั้งหมดด้วยตัวเอง ในตอนนั้นพ่อมอบทรัพย์สินทั้งหมดให้เขา พูดขึ้นมา ไม่ใช่ของเขา
“นายแค้นหลงเซียว เป็นเพียงเพราะแอนน่า แต่ว่าแอนน่าไม่ใช่คู่หมั้นของนาย ดังนั้นเขาไม่ได้แย่งของของนาย แอนน่าไม่อยู่ตั้งนานแล้ว คนคนนั้นคือฉู่ลั่วหาน
ตู้หลิงเซวียนเงียบ ไม่ตอบแม้แต่คำเดียว
ถ้าอย่างงั้นก็คือ เฉียวหย่วนฟานหลอกเขา!
“ยังมีอีก ทำไมลุงเฉียวต้องหลอกนายว่าเธอก็คือแอนน่า? เพราะว่าถ้าแอนน่าไม่อยู่แล้ว นายก็จะไม่สนับสนุนบริษัทเฉียวซื่อ เมื่อนายถอนตัวจากบริษัทเฉียวซื่อ บริษัทเฉียวซื่อก็จะล้มละลาย เฉียวหย่วนฟานเพื่อปกป้องตัวเอง เสียสละฉู่ลั่วหาน”
ทุกอย่างของภายใน เขาชัดเจนกว่าใครๆ
ตู้หลิงเซวียนเปิดปากบาง “แด๊ดดี้……”
“เควิน ผู้เป็นพ่อรู้จักลูกชายเอง”
พ่อตู้พูดประโยคนี้จบ ลุกขึ้นยืดเส้นยืดสาย “ฉันไปอาบน้ำ นายอาบแดดอีกสักพัก แล้วก็ กลางคืนกลับบ้านกินข้าว หม่ามี๊นายให้คนเอาปลามา กลางคืนทำปลาขาวสร้อย”
หลังจากที่พ่อเดินออกไป ตู้หลิงเซวียนนั่งอยู่ใต้แสงอาทิตย์ แดดร้อนส่องกระทบใบหน้า แสบตาจนลืมตาไม่ได้
ในมุมมองของพ่อ เขาทำผิดเหรอ?
เล่นเกมกับหลงเซียว เขาผิดเหรอ?!
ครืดๆ
ขณะนี้โทรศัพท์มือถือของตู้หลิงเซวียนดังขึ้น
เบอร์โทรศัพท์จากประเทศจีน
“สวัสดีครับ”
“สวัสดีครับคุณตู้ ที่นี่คือเรือนที่ใหญ่ที่สุดของเมืองหลวง”
……
บริษัทหลันเทียนหยุดกิจการและตรวจสอบ ในเวลาไม่ถึงห้านาทีข่าวใหญ่ดังกล่าวแพร่กระจายไปทั่วเครือข่าย เมืองหลวงที่อยู่อีกฟากหนึ่งของมหาสมุทรก็ได้รับข่าวเช่นกัน
หลังจากผ่านไปหนึ่งคืนของการหมักดอง รอถึงตอนเช้าของวันที่สอง ฝั่งเมืองหลวงมีการเปิดตัวเวอร์ชันต่างๆ มากมาย
ทุกคนกำลังคอมเมนต์ตู้หลิงเซวียนและหลันเทียน เวลาเดียวกัน ยังดึงเจิ้งเฉิงหลินพ่อลูกที่เข้าคุกแล้วออกมาด่า
ข่าวที่เงียบลงได้กลายเป็นประเด็นร้อนอีกครั้ง
เช้าของวันนี้ ห้องทำงานของMBKครึกครื้นกว่าปกติ
จี้ตงหมิงหัวเราะเย็น “การตรวจสอบครั้งนี้ ตู้หลิงเซวียนต้องเจ็บอีกหลายวันแล้ว เขาโอนทรัพย์สินของเจิ้งซิน ช่วยเจิ้งซินฟอกเงินทางอ้อม ลำพังแค่นี้ก็เพียงพอสำหรับเขาแล้ว”
แอนดี้กลับมีมุมมองที่ต่างกัน “นายมองตู้หลิงเซวียนง่ายไปแล้ว ถ้าเขาล้มลงง่ายขนาดนี้ จะเรียกว่าอัจฉริยะแห่งวอลสตรีทได้อย่างไร? นายต้องรู้ว่า ตู้หลิงเซวียนมีอิทธิพลในอเมริกามากขนาดไหน”
จี้ตงหมิงคิดดูก็ใช่ ชื่อเสียงของตู้หลิงเซวียนเกือบจะอยู่ในระดับเดียวกับเจ้านายแล้ว แล้วอ่อนขนาดนั้นหรอก
“นายหมายความว่า ตู้หลิงเซวียนเตรียมพร้อมอย่างเต็มที่มานานแล้ว?” จี้ตงหมิงกัดฟันอย่างไม่สบอารมณ์ เขาอยากให้ตู้หลิงเซวียนล้มลงทันที!
แอนดี้ส่ายหน้า พูดอย่างไม่แน่ใจ “พูดไม่ได้ ท่านประธานพูดแล้ว?”
จี้ตงหมิงยักไหล่ ส่วนนี้แหละที่น่าแปลก เจ้านายมาที่บริษัทในตอนเช้าจนถึงตอนนี้ ไม่ได้พูดถึงหลันเทียนแม้แต่ครั้งเดียว
อย่าบอกนะว่ายังไม่รู้?
แอนดี้ยิ้มแล้วพูด “งั้นก็ถูกแล้ว เห็นได้ชัดว่าท่านประธานเดาวิธีการของตู้หลิงเซวียนออก ทำบริษัทใหญ่ขนาดนี้ ไม่มีใครกินเจ รอดูเถอะ”
กำลังคุยกัน ประตูห้องทำงานของหลงเซียวถูกเปิดออก
กู้เยนเซินออกมาจากข้างใน เห็นคนข้างนอก “ตกใจหมด อย่าบอกนะว่าพวกนายแอบฟังจาก?”
เมื่อกี้เขาบูชาและยกย่องหลงเซียวอยู่ข้างใน ได้ยินแล้วเหรอ? น่าอายมากนะ!!