ประธานหยิ่งยโสของฉัน - ตอนที่ 1160
บทที่ 1160 ครอบครองทั้งหมดคนเดียว
โทรศัพท์จากเรือนจำที่ใหญ่ที่สุดของเมืองหลวง มันเป็นการกระตุ้นครั้งใหญ่สำหรับตู้หลิงเซวียน
และถึงขั้น หลังจากที่เขาวางสาย ใช้เวลากว่าครึ่งปีก็ไม่สามารถสงบจิตใจได้
เสียงของผู้คุมดังก้องอยู่ในหูตลอด แต่ละครั้งชัดเจนกว่าเดิม แต่ละครั้งลึกกว่าเดิม
“คุณตู้ คุณเจิ้งซินภรรยาของคุณตั้งครรภ์แล้ว”
เจิ้งซิน……เธอตั้งครรภ์แล้ว
ทั้งสองไม่ได้ใช้เวลาร่วมกันมากนัก และเขาจะใช้มาตรการทุกครั้ง ก็เพื่อหลีกเลี่ยงเกิดสิ่งที่ไม่คาดคิด เขาเกลียดสิ่งที่เหนือความคาดหมาย เขาเกลียดการสูญเสียการควบคุม
ดังนั้นทั้งสองจะมีลูกไม่ได้เด็ดขาด
ตู้หลิงเซวียนนั่งอยู่ในรถคนเดียว ท้องฟ้ามืดสนิท ค่ำคืนของอเมริกาอยู่รอบตัว แสงไฟเปลี่ยนเมืองที่พลุกพล่านให้ร้อนรน แต่เขากลับรู้สึกหนาวเย็นไปทั้งรถ
เจิ้งซินอยู่ในเรือนจำตรวจพบว่าตั้งครรภ์ โทษจำคุกจะล่าช้าอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ สำหรับเจิ้งซินเป็นเรื่องดี แต่เจิ้งซินคลอดลูกข้างนอกเรือนจำ จะดึงดูดความสนใจของสื่อแน่นอน เขาจะกลายเป็นเป้าหมายอีกครั้ง
สำหรับตู้หลิงเซวียน ไม่ใช่เรื่องดีแน่นอน
คิดไปคิดมา ตู้หลิงเซวียนปวดหัวจนต้องกุมหัว ขนาดโทรศัพท์มือถือดังหลายครั้งแล้วยังไม่กดรับ
เขาคิดไม่ถึงจริงๆ เจิ้งซินจะทำแบบนี้ ใจของผู้หญิงโหดเหี้ยมกว่าที่เขาคิด!
ครืดๆๆ
โทรศัพท์มือถือสั่นอีกครั้ง ตู้หลิงเซวียนดันแว่นที่ไหลมาถึงจมูก เห็นว่ายังเป็นหมายเลขของบ้าน
“หม่ามี๊”
ตู้หลิงเซวียนเพิ่งพูด ตางม่านหนิงพูดอย่างไม่รอช้า “เควิน นายทำให้หม่ามี๊ตกใจหมดเลย ทำไมไม่รับโทรศัพท์?”
น้ำเสียงของแม่ร้อนรนและอ่อนโยน บรรเทาความโกรธในใยของตู้หลิงเซวียนได้ไม่น้อย อารมณ์ร้ายที่กำลังก่อตัวอยู่ในหัวถูกเธอปัดเป่าออกไป
“หม่ามี๊ ผมอยู่ระหว่างทาง”
จางม่านหนิงถอนหายใจอย่างโล่งอก กลัวว่าลูกจะทำเรื่องโง่ๆ เพราะบริษัทเกิดเรื่อง “อาหารค่ำทำเสร็จตั้งนานแล้ว นายกลับมาเราก็กินได้เลย หม่ามี๊กับแด๊ดดี้รอนายที่บ้าน อย่ารีบนะ นายขับรถช้าๆ หม่ามี๊กับแด๊ดดี้ยังไม่หิว พวกเราไม่รีบนะ”
อยากให้ลูกชายกลับบ้านเร็วๆ แต่ก็กลัวลูกชายใจร้อนเกิดอุบัติเหตุ จางม่านหนิงจึงเน้นย้ำให้เขาขับช้าๆ
ตู้หลิงเซวียนตอบกลับด้วยอารมณ์ที่ซับซ้อน “ครับ เดี๋ยวผมก็ถึงแล้ว”
เวลาสิบโมงกลางคืนแล้ว เลยเวลาอาหารแล้ว แด๊ดดี้และหม่ามี๊ตั้งใจรอเขาไม่กินข้าว
ตู้หลิงเซวียนกระแทกพวงมาลัยอย่างแรงด้วยความหงุดหงิด โกรธตัวเองไม่คำนึงถึงพวกเขา!
ปรับอารมณ์ให้ดี ทิ้งอารมณ์แย่ๆ เมื่อกี้ไว้นอกบ้าน ตู้หลิงเซวียนเดินเข้าห้องรับแขกด้วยท่าทางผ่อนคลาย
พ่อแม่รออย่างรีบร้อนเป็นห่วง แต่เห็นว่าลูกชายยังอยู่ดี ทั้งสองไม่ได้แสดงความตำหนิใดๆ แต่ทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
“เควิน รีบไปล้างมือ ฉันให้Maryยกอาหารมา วันนี้หม่ามี๊ตุ๋นซุปไก่ เพิ่งตุ๋นเสร็จเมื่อกี้ นายกลับมาได้เวลาพอดี” จางม่านหนิงรับเสื้อสูทจากตู้หลิงเซวียน ตบบ่าลูกชายให้เขาไปล้างมือ
ตู้เฉิงเย่วางหนังสือพิมพ์ลงอย่างปกติ พับแขนเสื้อแล้วพูด “ฉันก็ไปล้างมือ กินข้าว!”
น้ำไหลลงจากก๊อกน้ำของอ่างล้างหน้า น้ำเย็นสดชื่นไหลลงตามมือ ตู้หลิงเซวียนไม่ได้เงยหน้า “ขอโทษครับ แด๊ดดี้”
“ขอโทษอะไร? เวลากินข้าวไม่รู้จักกลับมา? ถ้าจะขอโทษเพราะเรื่องนี้ นายต้องขอโทษฉันกับหม่ามี๊ทุกวัน” ตู้เฉิงเย่ตั้งใจล้างมือช้าๆ กดสบู่ล้างมือนวดฟองออกมาเยอะๆ
ตู้หลิงเซวียนกดหัวแล้วยิ้ม “หลังจากนี้ผมจะพยายามกลับมากินข้าวกับพวกท่าน”
“นายพูดเองนะ ฉันไม่ได้บังคับนาย” ตู้เฉิงเย่ล้างสบู่ มองใบหน้าด้านข้างของลูกชาย ความรู้สึกในใจสุดจะพรรณนา
“ครับ ผมพูดเอง”
อาหารค่ำวางไว้บนโต๊ะ มื้อค่ำแสนอร่อยและอบอุ่นของครอบครัว ไม่มีวัตถุดิบที่พิเศษมาก แต่กวาดสายตามองก็จะพบว่า ทั้งหมดเป็นอาหารที่ตู้หลิงเซวียนชอบ และหลายเมนูจางม่านหนิงเป็นคนลงมือทำเอง
จางม่านหนิงคีบเนื้อปลาให้ตู้หลิงเซวียน พูดเน้นย้ำ “นายชอบกินปลา กินเยอะๆ หน่อย ปีนี้น้ำฝนเยอะ เนื้อปลาก็สดมากนะ”
ตู้หลิงเซวียนกินเนื้อปลาทั้งคำ เต็มไปด้วยคำชม “ฝีมือของหม่ามี๊เก่งกว่าเดิมแล้ว เมนูนี้ผมอยากครอบครองทั้งหมดคนเดียว”
ตู้เฉิงเย่เบะปากไม่เห็นด้วย “ไม่ได้ หม่ามี๊นายไม่เข้าครัวมาหลายปี กว่าจะทำหลายเมนู ฉันก็จะกินเยอะๆ”
พูดจบ ก็คีบเนื้อปลาชิ้นใหญ่ๆ เอาเข้าปากอย่างพอใจ ยิ่งกินยิ่งอร่อย
บนโต๊ะอาหารไม่มีใครพูดถึงเรื่องบริษัท และไม่มีคนพูดถึงเจิ้งซิน การหลีกเลี่ยงแบบนี้ เป็นการจงใจหลีกเลี่ยง ดังนั้น ตู้หลิงเซวียนก็ไม่ได้พูดอะไรก่อน
ส่วนเรื่องที่เจิ้งซินตั้งครรภ์……
เขากำลังตัดสินใจว่าจะบอกพ่อแม่หรือไม่
จู่ๆ จางม่านหนิงก็ยิ้มแล้วพูด “เอ้อ มีเรื่องหนึ่งฉันเกือบจะลืมแล้ว วันนี้ตอนเย็นคุณนายเหอโทรศัพท์มาบอกข่าวดีให้ฉัน บอกว่าลูกสาวของเธอเพิ่งคลอดลูกสาวที่น่ารัก อีกสามสี่วันเชิญเราไปดื่มเหล้าครบเดือน”
เรื่องดีแบบนี้ เหมาะสำหรับการบรรเทาความอึดอัดเล็กน้อยที่ไม่จำเป็นบนโต๊ะอาหาร ตู้เฉิงเย่ให้ความร่วมมืออย่างดีในการสนทนา “ใช่เหรอ เร็วจัง ฉันจำได้ว่าครั้งก่อนที่เจอลูกสาวของคุณนายเหอ เพิ่งตั้งครรภ์เอง เร็วจริงๆ”
จางม่านหนิงหยิบโทรศัพท์มือถือออกจากกระเป๋า เปิดรูปเด็กน้อย ชี้ให้สามีดูอย่างอารมณ์ดี “แม้ว่าจะเพิ่งคลอดได้สามวัน แต่ว่าดูตาและจมูกของเด็กน้อยสิ เหมือนลูกสาวของคุณนายเหอไหม?”
ตู้เฉิงเย่ตั้งใจวิเคราะห์ ฉันดูแล้วไม่เหมือนลูกเขยของคุณนายเหอ เหมือนลูกสาวของคุณนายเหอมากกว่า ดวงตาสดใสมาก แล้วก็หู ฉันจำได้ตอนเด็กๆ เธอชอบตามหลังเควิน หูใหญ่ๆ ของเธอฉันยังจำได้”
จางม่านหนิงก็เหมือนจะคิดได้ “นายพูดแบบนี้แล้วเหมือนจริงๆ ด้วย อืม เหมือน น่ารักมากเลย ทำให้คนชอบ คิดไม่ถึงจริงๆ เด็กหญิงที่ น้ำมูกชอบไหลในตอนนั้น ตอนนี้เป็นแม่คนแล้ว”
ตู้เฉิงเย่ยิ้มและแก้ไข “เด็กหญิงอะไรกัน? ตอนนี้เรียกเด็กหญิงไม่ได้แล้ว เธออายุสามสิบแล้วหรือเปล่า?”
จางม่านหนิงลองนับ “ใช่แล้ว อายุสามสิบแล้ว เล็กกว่าเควินสามปี”
ความรักที่พ่อแม่ที่ต่อเด็กนั้นปิดไม่มิด เหมือนหนามกำลังแทงเข้ามาในใจของตู้หลิงเซวียน
ตั้งแต่เขาแต่งงานกับเจิ้งซิน พ่อแม่ไม่ได้คิดริเริ่มให้พวกเขามีลูก เคารพความหมายของพวกเขาอย่างเต็มที่ แต่คนแก่ก็หวังให้ลูกชายมีลูกเร็วๆ ให้ครอบครัวส่งต่อจากรุ่นสู่รุ่น
ตู้หลิงเซวียนไม่เคยคิดจะมีลูกกับเจิ้งซิน ดังนั้นปกติจะมองข้ามความคิดของพ่อแม้
ช่วงเวลาพิเศษอย่างวันนี้ แต่ให้เขาเห็นความรักที่พ่อแม่มีต่อลูก ทำให้ตู้หลิงเซวียนอึดอัดยิ่งขึ้น
อาหารมื้อนี้ ก็ไม่อยากอาหารอีกต่อไปแล้ว
จางม่านหนิงวางโทรศัพท์มือถือลง คีบอาหารให้ลูกชายต่อ “เควิน ช่วงนี้นายผอมลง ต้องกินอาหารเยอะๆ คนสมัยนี้พูดแต่จะลดน้ำหนัก แต่ว่าในสายตาหม่ามี๊ ลูกชายของฉันเป็นแบบไหนก็หล่อ!”
ตู้หลิงเซวียนกินอาหารทั้งหมดในจานอย่างเชื่อฟัง “อาหารที่หม่ามี๊ ผมชอบกินหมดเลย”
อาหารมื้อนี้ เรียกได้ว่ากินแบบจิตใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัว ในที่สุดก็กินหมด ตู้หลิงเซวียนขึ้นชั้นสอง ปิดประตูห้อง
เขาต้องคิดให้ดีว่าต่อไปควรทำอย่างไร
จางม่านหนิงและตู้เฉิงเย่ก็กลับเข้าห้องนอนของตัวเอง ปิดประตู จางม่านหนิงเริ่มร้องไห้อย่างควบคุมไม่ได้
“ที่รัก เห็นท่าทางของเควิน ฉันเจ็บใจจริงๆ”
ตู้เฉิงเย่กอดไหล่ของภรรยา ลูบเบาๆ “เควินเป็นเด็กที่ดี ฉันเชื่อว่าเขาจะเลือกในสิ่งที่ถูกต้อง”
จางม่านหนิงสูดจมูก ผ้าเช็ดหน้าเปียกน้ำตา “ได้ยินข่าวเสี่ยวซินตั้งครรภ์ ฉันตกใจและดีใจ ถึงแม้ว่าตอนแรกฉันจะไม่ค่อยยอมรับเด็กคนนี้ แต่ว่าอยู่ด้วยกันสองปี เธอทำอะไรก็ทุ่มเท หาข้อผิดพลาดอะไรไม่ได้”
ตู้เฉิงเย่ไม่สบายใจ “มนุษย์เรา ล้วนเคยทำผิด คงมีแต่เทพเจ้าที่ไม่เคยทำผิด ลูกของตัวเอง ไม่ว่าทำอะไรผิด พวกเราต้องให้อภัยไม่ใช่เหรอ?