ประธานหยิ่งยโสของฉัน - ตอนที่ 1176
บทที่ 1176 (ตอนจบ7) คิดถึงสิ คิดถึงมาก
กู้เยนเซิน “ว้าว เมื่อกี้ผมก็น่าจะ…”
ยังไม่ทันได้พูดจบ สายตาแหลมคมของไป๋เวยก็ส่งมา มุมปากเซ็กซี่ยกขึ้น ทำท่าทาง “คุณลองดูสิ”
กู้เยนเซินกระแอมไอเพื่อกลบความกระอักกระอ่วนเมื่อสักครู่ จากนั้นเปลี่ยนเรื่อง “เอาล่ะ เอาล่ะ จะแสดงความรักก็ต้องรู้จักเวล่ำเวลา รีบเช็ดปากซะ”
เกาจิ่งอานนั่งไขว่ห้างมีข้างหนึ่งโอบไหล่โจวโร่หลินไว้ไม่ยอมปล่อย “อิจฉาเหรอ ไม่มีคนรักเหรอ ต้องให้ผมแบ่งความอบอุ่นให้หน่อยไหม”
กู้เยนเซินกัดฟัน กระโดดข้ามโซฟามานั่งข้างไป๋เวย “ที่รัก สามีโดนรังแก คุณไม่สนใจเหรอ”
ลินดาและพนักงานฝ่ายประชาสัมพันธ์อีกสองคนขยับไปด้านข้าง ประธานกู้จะอ้อนเมีย พวกเธอจะรบกวนเขาไม่ได้
ไป๋เวยทำเล็บมาใหม่ สีชมพูสะท้อนแสงระยิบระยับ ยื่นนิ้วมือออกไป เชยปลายคางกู้เยนเซินขึ้นมา สายตาจ้องลึกเข้าไปในดวงตาของเขา ก้มลงไปใกล้ ขยับเข้าใกล้ริมฝีปากของเขา ลมหายใจอุ่นร้อนสัมผัสปลายจมูกของกันและกัน บรรยากาศรอบข้างอึมครึม
ดวงตาค่อยๆ เบิกกว้าง เงาของคนรักค่อยๆ ปรากฏชัดในสายตา ราวกับโลกทั้งโลกมีเพียงเขาสองคน คนรอบข้างนั้นขยับห่าง
กู้เยนเซินยกยิ้มมุมปาก น้ำเสียงทุ้มต่ำเอ่ย “ที่รัก…”
นิ้วมือของไป๋เวยปิดปากของเขาเอาไว้ ให้เขาหยุดพูด “รู้ไหมวันนี้วันอะไร”
เมื่อไป๋เวยถามคำถามนี้ บรรยากาศรอบข้างก็เย็นเยือกขึ้นมาทันที แย่แล้วแย่แล้ว ประธานกู้ลืมไปแล้วว่าวันนี้เป็นวันสำคัญอะไร
นี่เป็นคำถามชี้ชะตาของไป๋เวย
ถ้าตอบได้คงตายแน่ เพราะในเมื่อรู้แล้วกลับไม่ให้ความสำคัญ และไม่แสดงอะไรใดๆ ก็ไม่ใช่หมายความว่าเขาไม่ใส่ใจเหรอ
ถ้าตอบไม่ได้ยิ่งสมควรตายไปใหญ่ วันสำคัญของทั้งคู่ เขากลับจำไม่ได้ ตามหลักการแล้วเป็นโทษที่ละเว้นไม่ได้
สุดท้าย…
ประธานกู้ต้องพึ่งบุญวาสนาแล้วล่ะ
เกาจิ่งอานยกนิ้วหัวแม่มือขึ้นมากลางอากาศ ต่อไปเกิดอะไรขึ้น เขาต้องขยับออกห่างหน่อย
กู้เยนเซินมึนงง ความสับสนหายออกไปจากสายตา เหลือเพียงท่าทีตกใจราวกับเห็นผี ปากสั่นระริก “ที่รัก…วันเกิดของคุณมันเดือนพฤษภานะ”
บอกวันเกิดออกมาได้อย่างถูกต้อง ละเว้นโทษให้ได้ไหม
สีหน้าของไป๋เวยยังไม่เปลี่ยน “แล้วยังไง”
ดังนั้นไม่ใช่วันเกิดแน่นอนยังไงล่ะ
กู้เยนเซินคิดทบทวนอยู่ในหัว วันเกิดลูกเหรอ วันครบรอบแต่งงานไหม ครบรอบที่รู้จักกันหรือเปล่า วันเป็นประจำเดือนเหรอ
เฮ้ เหมือนจะไม่ใช่สักอย่าง ยังมีวันสำคัญอะไรอีกล่ะ ขอตัวช่วยได้ไหมนะ
เฮ้ย คิดไม่ออกจริงๆ กู้เยนเซินคิดอยู่ในใจ มืออุ่นกุมมือของไป๋เวยเอาไว้ จ้องมองดวงตาคู่นั้นของเธออย่างร้อนแรง “ที่รัก สำหรับผมแล้ว วันสำคัญมันเป็นเพียงก้อนเมฆเบาๆ ทุกๆ วันที่เราอยู่ด้วยกันนั้นสำคัญ ถ้าคุณยอม เราจะรักกันในทุกๆ วัน ไม่ใช่สิ ถ้าคุณยินยอม คุณอยากฉลองวันสำคัญอะไรมันก็จะเป็นวันนั้น”
เกาจิ่งอาน “…”
โจวโร่หลิน “…”
หวังเค่ย “…”
จี้ตงหมิง “…”
คุณชายกู้ร้ายไม่เบา สามารถหาทางออกได้ในยามอยู่ระหว่างความเป็นกับความตาย
ผู้ชายที่อยู่นั้นราวกับได้ความรู้ ต่อไปสามารถใช้วิธีนี้เอาใจภรรยาได้
บันไดนี้ช่างมั่นคงซะเหลือเกิน ไป๋เวยพูดไม่ออกสักคำ จึงเงยหน้า จูบลงไปบนริมฝีปากกู้เยนเซิน
จูบนี้ช่างร้อนแรง กู้เยนเซินไม่ทันได้เตรียมตัว รู้สึกว่าเลือดในร่างกายนั้นสูบฉีด เกิดเสียงระเบิดดังอยู่ในหัว
ภรรยาแสดงความรักมากะทันหัน มีความสุขจังเลยทำยังไงดีล่ะ ขอเด็กๆ ช่วยถ่ายภาพเอาไว้เป็นที่ระลึกที
“พอแล้วพอแล้ว พอประมาณแล้ว คนเขารอดื่มเหล้านะ อยากทำอะไรค่อยกลับไปทำที่บ้าน” หลงเจ๋อนั่งอยู่สักพัก บอกว่าจะมาดื่มเหล้า ทำไมกลายเป็นมาอวดความหวาน รังแกคนอื่น
ทุกคนนั่งลงดื่มด้วยกัน เกาจิ่งอานรินเหล้าให้หลงเจ๋อหนึ่งแก้ว “น้องสาม พี่รองดื่มกับนายหนึ่งแก้ว”
หลงเจ๋อยิ้มฝืน “เรียกผมออกมาเพื่อดื่มเหล้าเนี่ยนะ”
จากนิสัยของเกาจิ่งอาน อาจจะทำเรื่องอะไรที่ไม่น่าไว้วางใจ
เกาจิ่งอานยิ้ม ความจริงตอนแรกก็ง่ายๆ แบบนั้นแหละ ตอนนี้เหรอ…
“เรื่องที่ตู้หลิงเซวียนโดนทำร้าย แก้ไขยังไง พี่ใหญ่ต่อยนายหรือยัง พ่อของตู้หลิงเซวียนจัดการพวกนายหรือยัง”
กู้เยนเซินกลอกตา “คุณคุยเป็นหรือเปล่าเนี่ย ถ้าพูดไม่เป็นก็ดื่มเหล้าเงียบๆ ไป”
หลังจากที่เกาจิ่งอานได้รับโทรศัพท์จากหลงเซียว เขาก็รีบวิ่งแจ้นไปที่MBK แต่กลับได้รับรายงานว่าหลงเซียวออกไปแล้ว เขาไม่รู้เรื่องราวเบื้องหลัง และไม่กล้าโทรไปถาม
หลงเจ๋อและกู้เยนเซินต่างก็เลี่ยงไม่อยากพูดถึง กระอักกระอ่วนเป็นบ้า
“พ่อของตู้หลิงเซวียนดีมาก เขาไม่ได้ต้องการการรับผิดชอบอะไร เรื่องนี้ก็นับว่าปล่อยผ่านไปแล้ว พูดตามตรง ฉันแปลกใจมากที่ตู้หลิงเซวียนมีพ่อที่ดีขนาดนี้”
หลงเจ๋อยกแก้วขึ้นดื่ม
พ่อที่ดีคนหนึ่ง สามารถเปลี่ยนทิศทางของเรื่องราวได้ เพื่อเลี่ยงไม่ก่อให้เกิดปัญหาและความบาดหมาง ตัวอย่างเช่นครั้งนี้ ถ้าเกิดพ่อของตู้หลิงเซวียนยืนยันที่จะออกหน้าแทนลูกชาย ยืนยันให้พวกเขารับผิดชอบ
ทั้งสองฝั่งคงลงมือหนัก ถึงตอนนั้นทั้งสองฝ่ายจะกลายเป็นตัวตลกของวงสังคม ใครถูกใครผิดไม่ใช่สิ่งสำคัญ เรื่องนี้มีผลกระทบที่ยากจะหลีกเลี่ยง
เกาจิ่งอานเงยหน้า พบว่าทุกคนต่างใช้สายตาคาดโทษมองมายังตนเอง ดังนั้นจึงกลืนน้ำลาย “ทำไม อย่ามองฉันแบบนี้สิ น่ากลัว ฉัน…ฉันก็ไม่ได้พูดอะไรผิดไม่ใช่เหรอ”
โจวโร่หลินดึงชายเสื้อของเขา “ไม่ต้องพูดแล้ว ต่อไปอย่าพูดถึงเรื่องนี้อีก”
ไป๋เวย กู้เยนเซินต่างก็เป็นผู้ร่วมขบวนการในครั้งนี้ อีกฝ่ายไม่ถามหาการรับผิดชอบ ความจริงพวกเขาเองก็ร้อนจัด ไม่สนใจหน้าพระหน้าเณรอะไร ตู้หลิงเซวียนไม่มีคุณธรรม แต่พ่อเขากลับไม่ตำหนิ
ทุกคนปล่อยผ่านไม่ใส่ใจ จากนั้นนั่งดื่มกันต่อ พูดคุย หยอกล้อ จนเวลาล่วงเลยเข้าวันใหญ่ค่อยแยกย้าย
วันต่อมา รุ่งอรุณ
อาคารหยวนชิวต้อนรับวันสมาชิก เมื่อพิธีเปิดเสร็จสิ้น วันสมาชิกก็เป็นวันที่ครึกครื้นมากอีกวันหนึ่ง ธุรกิจใหญ่ๆ แบรนด์ดังต่างร่วมกันเฉลิมฉลอง ร่วมรำลึกกับงานเลี้ยงหยวนชิว
ดังนั้น เพื่อความสมบูรณ์แบบของMBK แขกที่ได้รับเชิญต่างก็เป็นบุคคลมีชื่อเสียงอันดับต้นๆ ของเมืองจิงตู นอกจากนี้ยังมีเมืองปิง、เมืองหนิงไห่ผู้ร่ำรวยอันดับต้นๆ ของเมือง
หลงเซียวมีแผนที่จะพัฒนาในด้านภาพยนตร์ จึงได้เชิญบริษัทผู้นำภาพยนตร์ใหญ่ๆ มาร่วมด้วย
บนโต๊ะทำงาน หลงเซียวเคาะโต๊ะเบาๆ ตรงหน้ามีการ์ดเชิญใบหนึ่งวางอยู่ บุคคลที่อยู่อันดับหนึ่งด้านสื่อและภาพยนตร์นั้นดึงความสนใจจากเขา
จี้ตงหมิงสัมผัสได้ถึงปฏิกิริยาของเขา จึงอธิบาย “เจ้านายครับ วงการหนังจื๋อซื่อเป็นบริษัทในเครือของบริษัทเจ๋ซื่อ เป็นบริษัทภาพยนตร์ที่รุ่งเรืองที่สุดในประเทศจีนตอนนี้ครับ”
“ผมรู้”
เขาสนใจคือวงการหนังจื๋อซื่อ
“เฉิงโม่อันตอบรับคำเชิญหรือยัง”
หลงเซียวถาม
เพียงMBKออกตัวเชิญ เดิมไม่เคยมีใครปฏิเสธ แม้จะไม่สามารถมาร่วมได้ ก็ต้องรีบอธิบาย ไม่ก็หาคนมาแทน
เพียงแต่ จี้ตงหมิงขยี้จมูก หัวเราะแห้งๆ “เขา…ไม่มาครับ”
หลงเซียวเงยหน้า ขมวดคิ้ว “ไม่มา เหตุผลล่ะ”
“ผู้ช่วยของเฉิงโม่อันบอกว่า ประธานของพวกเขาไม่เคยเข้าร่วมงานเลี้ยงใดๆ อยู่แล้วครับ ครั้งนี้ก็เช่นกัน ไม่มีอย่างอื่น”
คิ้วคมขมวดมุ่นเข้าไปอีก “เหอะ อายุยังน้อย กล้าไม่เบา ผมจะติดต่อกับเขาเอง”
จี้ตงหมิงบอก “ผู้ช่วยของเขาเคยบอกว่า การร่วมมือคุยส่วนตัวได้ แต่งานเลี้ยงไม่ต้องครับ เห็นว่า เมื่อก่อนเคยมีบริษัทมากมายที่เชิญเขาไปร่วม เขาปฏิเสธหมดเลยครับ”
นิ้วเรียวของหลงเซียวเคาะที่ขมับ มุมปากยกขึ้น “น่าสนใจ”
ในเมื่อเป็นเงื่อนไขของอีกฝ่าย พยายามทำลายก็คงไม่ได้ อีกทั้งทั้งสองฝ่ายยังต้องร่วมมือกันอีก หลงเซียวจึงไม่ได้ถามต่อ “เดี๋ยวเราค่อยคุยส่วนตัว”
จี้ตงหมิงพยักหน้า “ครับเจ้านาย ผมจะไปจัดการให้”
เมื่อจี้ตงหมิงออกไปแล้ว โทรศัพท์ของหลงเซียวก็ดังขึ้น
“เอกสารเดินทางของโฉหวั่นชิงเรียบร้อยแล้ว เดินทางเข้าประเทศได้ทุกเมื่อ”
เร็วดีนี่
“ลำบากผู้อำนวยการหวังแล้ว วันหลังเดี๋ยวผมเลี้ยงข้าวคุณนะครับ”
อีกฝ่ายตอบกลับมา หลงเซียวยกยิ้มมุมปาก
ฝั่งนี้มีเอกสารผ่านทางแล้ว ประเทศMสามารถจัดการให้เธอกลับประเทศได้แล้ว หลงเซียวรีบติดต่อหาเจมส์
เจมส์เห็นว่าเป็นสายจากหลงเซียว งอแงอยู่สักพัก เว้นไปสิบวินาทีก่อนค่อยรับ “หลงเซียว มีอะไรครับ”
น้ำเสียงนั้นคือ ผมกำลังยุ่งอยู่นะ ถ้าไม่มีอะไรสำคัญอย่ารบกวนผม
ความจริงนั้นหวาดกลัว ว่าหลงเซียวจะพูดเรื่องอะไรจริงๆ
ไหนเลยหลงเซียวจะไม่รู้จักนิสัยเด็กน้อยของเขา
“ช่วงนี้ว่างมากเหรอ”
เจมส์สำลัก “ยัง…โอเค…มั้ง”
หลงเซียวหยิบเอกสารขึ้นมา เปิดออก “ยังโอเค แสดงว่าไม่ยุ่ง”
เจมส์ตอบรับ “เอ่อ…จะว่างั้นก็ได้”
ทำไมถึงรู้สึกแปลกๆ นะ
“ในเมื่อไม่ยุ่ง มาเที่ยวจีนสักสองวันสิ ฤดูนี้เหมาะจะเที่ยวที่สุดแล้ว”
บนหน้าจอของหลงเซียวแสดงอุณหภูมิในช่วงสัปดาห์นี้ สูงสุดคือสามสิบเก้าองศา สัปดาห์ต่อไปล้วนเป็นสีแดงทั้งนั้น
ดวงตาเจมส์เป็นประกาย “ได้สิ”
หลงเซียวยกยิ้ม “พี่สาวนายกับอาหย่งพึ่งจะแต่งงาน จะไม่มาเลี้ยงเหล้าพวกเราหน่อยเหรอ”
เจมส์เริ่มไม่เข้าใจเป้าหมายของเขาแล้ว จุดสำคัญมันคืออะไรกันแน่
“ควรสิ…เราจะกลับไปด้วยกัน”
ดี เข้าร่วมเกมได้ไวดี
“ในเมื่อมากันหมด งั้นก็เอาแม่เสี่ยวเจ๋อมาด้วยสิ จะต้องทำยังไงนั้น กฎของประเทศนาย นายน่าจะรู้ดีกว่าฉันนะ คงไม่ต้องให้ฉันสอนใช่ไหม”
เจมส์เงยหน้ามองท้องฟ้า รู้สึกผิดหวังอยู่ในใจ “อ้อมไปตั้งไกล คุณก็แค่อยากให้โฉหวั่นชิงกลับประเทศ เหอะ ไปเที่ยวอะไร ดื่มเหล้าอะไร ข้ออ้างทั้งนั้น”
ใช้ภาษาจีนได้ไม่เลวนี่ แม้แต่ข้ออ้างก็ใช้เป็นแล้ว
“พูดแบบนี้ เจ้าชายไม่อยากมาแล้วเหรอ ไม่อยากมาก็ได้นะ เดี๋ยวฉันกลับไปบอกangeกับLeo ลุงเจมส์ไม่คิดถึงพวกเขาแล้ว” หลงเซียวเม้มปากยิ้มๆ
“คิดถึงสิ คิดถึงมาก คุณรอเลย พรุ่งนี้ผมจะไปจัดการ ไม่นานหรอก”