ประธานหยิ่งยโสของฉัน - ตอนที่ 1192
แต่บางเรื่องเราก็ไม่มีไฟล์แล้วเหมือนกัน
บทที่ 1192 (ตอนพิเศษเซียวลั่ว) ถ้าหากไม่มีคุณ 2
สุดท้ายเธอจึงนอนหลับไป ระหว่างกำลังสะลึมสะลือ สายตาโดนแสงสาดส่อง แต่เธอเหนื่อยเกินไป กระทั่งเปลือกตายังไม่สามารถเปิดขึ้นได้
ระหว่างกำลังกึ่งหลับกึ่งตื่น รู้สึกเหมือนมีคนนั่งอยู่ข้างๆ เธอ มืออุ่นร้อนสัมผัสมาบนผิวของเธอ แผ่วเบาและเชื่องช้า ราวกับกลัวว่าเธอจะตื่น และเฝ้ารอให้เธอตื่นขึ้นมา
จมูกได้กลิ่นที่คุ้นเคยอย่างชัดเจน หูค่อยๆ กลับมาทำงานได้ดังเดิม เสียงรอบข้างเหมือนเสียงหมอกำลังพูดคุยกับคนไข้
เธออยู่โรงพยาบาลเหรอ
เธอมาอยู่โรงพยาบาลได้ยังไงกัน
ขนตาของฉู่ลั่วหานขยับอยู่สองสามครั้ง พยายามอยู่หลายครั้งในที่สุดก็สามารถลืมตาขึ้นมาได้ แสงจ้าเล็กน้อย มองไม่ออกว่าคนตรงหน้าเป็นใคร
“คุณฟื้นแล้ว”
ใส่ใจ อ่อนโยน น้ำเสียงทุ้มต่ำไพเราะ ราวกับเสียงลมฤดูใบไม้ผลิพัดผ่าน สบายจนอยากล้มลงตรงหน้าไม่ต้องตื่นขึ้นมาอีก
นิ้วเรียวยาวของหลงเซียวช่วยเธอเช็ดแก้มเบาๆ “ขอโทษนะ ต้องให้คุณลำบากขนาดนั้น”
ฉู่ลั่วหานคิดว่าตัวเองกำลังเพ้อฝัน เธอป่วยเพราะผู้ชายที่รู้จักไม่ถึงสองเดือน แถมยังหลอนในหูอีก
ฉู่ลั่วหานเธอนี่ไม่รู้จักจำเลยจริงๆ
“ถ้าคุณได้ยินเสียงของผม ช่วยขยับนิ้วมือหน่อยได้ไหมครับ หรือว่ากะพริบตาหน่อย ได้ไหม”
น้ำเสียงเอ็นดูบอก เต็มไปด้วยความรู้สึกผิดและเสียใจ ในตอนที่ฉู่ลั่วหานอ่อนแอ เขามาได้เวลาพอดี ทำให้ดวงตาลั่วหานร้อนขึ้นมา ร้อนจนอยากร้องไห้
ฉู่ลั่วหานพยายามห้ามน้ำตาไม่ให้ไหลออกมา ไม่เผยความอ่อนแอของตนเองต่อหน้าเขา หันหน้าไปยังหน้าต่างที่มีแสงแดดจ้า
หลงเซียว คุณคิดจะหายก็หายไปไม่บอกกล่าว กลับมาแล้วบอกขอโทษแค่นี้ก็จบแล้วเหรอ
ไม่ง่ายขนาดนั้นหรอกนะ
หลงเซียวมองใบหน้าซีดของเธอ ในใจยิ่งเจ็บปวด “ผมอธิบายได้ หลายวันมานี้ผมไม่อยู่ที่อเมริกา บริษัทเกิดเรื่อง ผมต้องกลับไปจัดการ ระหว่างนั้นไม่สะดวกติดต่อกับภายนอก ทำให้คุณเป็นห่วงแล้ว เป็นความผิดผมเองครับ”
เรื่องที่เขาทำ ไม่สามารถบอกเธอได้ กลัวว่าเธอจะตกใจ
แต่เขาไม่สะดวกพกเครื่องมือสื่อสารใดๆ ถ้าโดนจับได้ผลลัพธ์คงยากจะคาดเดา แต่ตอนนี้ความสัมพันธ์ของทั้งคู่ยังไม่ถึงจุดที่สามารถเปิดเผยได้ทุกอย่าง ต่อไปเขาจะบอกความจริงกับเธอ
ในความคิดของฉู่ลั่วหาน ไม่ว่าจะไปสุกเขตเหนือใต้ออกตก ก็ต้องมีวิธีที่จะติดต่อกับโลกภายนอก ทำไมเขาต้องเอาถึงเอาเหตุผลแย่ขนาดนี้มาแก้ตัว
คิดว่าเธอไม่เข้าใจอะไรเลยหรือยังไง
แม้จะไม่มีประสบการณ์ความรัก แต่ทุกคนต่างก็บอก ถ้าผู้ชายคนหนึ่งชอบคุณ เป็นห่วงคุณ เขาต้องหาวิธีติดต่อคุณให้ได้
สมัยนี้ไม่มีอะไรเหมือนหนังไหเจี่ยวชีเห้าอะไรแบบนั้นแล้ว ดังนั้นเธอรับคำแก้ตัวนี้ไม่ได้
ฉู่ลั่วหานหน้าบึ้ง ตัดสินใจจะไม่คุยกับเขา ปล่อยให้เขาพูดไปคนเดียว
เจ้าเด็กคนนี้ คิดว่าเขาเอาเธออยู่แล้ว ดังนั้นเลยไม่กลัวอะไร คิดว่าไปไหนก็ได้ จะกลับมาตอนไหน เธอก็จะรอเขาอยู่งั้นเหรอ
อะไรกันล่ะ
มองความโกรธบนใบหน้าของเธอ หลงเซียวก้มตัวลง จับมือเธอขึ้นมากุมเอาไว้ทั้งสองข้าง จูบเบาๆ ลงบนปลายนิ้วสวยของเธอ “ผมสัญญาว่านี้จะเป็นครั้งเดียว ต่อไปจะไม่เป็นแบบนี้อีกแล้ว เชื่อผมนะครับ”
ไม่เชื่อ
ฉันไม่เชื่อหรอก
ทดสอบสามเดือนอะไร ตรวจสอบได้ทุกอย่างอะไร ยังต้องทดลองอีกเหรอ
เธอนี่โง่จริงๆ ควรจะรู้ตั้งแต่แรก คำพูดผู้ชายเชื่อถือไม่ได้ ผู้ชายต่างก็ชอบของใหม่ทั้งนั้น
เมื่อคิดแล้ว จมูกก็แสบขึ้นมา ดวงตาร้อนผ่าว น้ำตาไหลออกมาอย่างห้ามไม่ได้ ไหลออกจากหางตาผ่านไปยังใบหู
น้ำตาของเธอ ยิ่งทำให้เขาโทษตัวเองมากขึ้น “ลั่วหาน ผมขอโทษ ให้โอกาสผมได้ชดเชย ผมจะไม่ยอมให้คุณต้องเสียใจอีก คุณมองตาผมสิ”
เธอไม่มองตาเขาหรอก
ฉู่ลั่วหานกัดริมฝีปากแน่น ลืมตาขึ้นมาด้วยความโกรธ “หลงเซียว คุณมันคนโกหก คนโกหก คนโกหกที่ร้ายที่สุดในโลก โกหก….อื้อ”
สองมือของเธอทุบไปที่หน้าอกของเขา ทว่ากลับถูกเขาดึงเข้าสู่อ้อมกอด ริมฝีปากเย็นประกบเข้าปิดปากเธอเอาไว้ ดูดกลืนความโกรธและน้อยใจของเธอไปจนหมด
ลมหายใจหอมหวานไหลเวียนผ่าน เชื่องช้า หวาน ความยับยั้งชั่งใจ ความโกรธ ร้อนแรง สับสนปะปนกันอยู่กับริมฝีปากของเขา ส่งผ่านเข้าไปในปากของเธอ
ริมฝีปากของเธอเผยอออกเปิดโอกาสให้ลิ้นเขาเข้าไปหยอกเย้า ความหอมหวานเคลื่อนไหวไปทั่วทุกซอกทุกมุมในปากเธอ ความอ่อนโยนของเขา วิ่งไล่เธอ เริ่มจากความอ่อนโยนและชี้นำ ต่อมากลายเป็นความร้อนแรงที่ไม่อาจควบคุมได้ ราวกับอยากกลืนเธอลงไปบนท้อง
นี่คือ…จูบแรกของเธอ
ไม่รู้จะตอบโต้กลับยังไงดี ได้แต่ตามเขาไปอยู่แบบนั้น สติไม่ใช่ของตัวเองอีกต่อไปแล้ว ไม่ฟังคำสั่งของตัวเองแล้ว ระบบสมองพังทลาย เธอลืมแม้กระทั่ง…หายใจ
เธอกลั้นหายใจเป็นเวลานานไม่หายใจ
หลงเซียวตกใจรีบปล่อยริมฝีปากเธอให้เป็นอิสระ หอบหายใจ “หายใจ”
หาย…หายใจเหรอ
ลั่วหานปล่อยลมหายใจออกมา ใบหน้าเย็นแดงก่ำ กัดปากแน่น
เธอโง่มากจริงๆ
มือใหญ่ของหลงเซียวเชยปลายคางเธอขึ้น นิ้วเรียววาดไปกับกรอบหน้าของเธอเบาๆ “คุณช่าง…ทำให้ผมประหลาดใจ ทำให้ผมแปลกใจ”
แสงแดดสาดส่องเข้ามายังดวงตาของเธอ ดวงตาเคลื่อนไหวไปมา ไม่ยอมรับว่าตัวเองเป็นมือใหม่ “ฝีมือห่วยมาก”
เธอกัดฟัน ผลักความรับผิดชอบไปให้เขา
หลงเซียวพยักหน้า นัยน์ตาเขามีเพียงเธอ “อืม มือใหม่ ต่อไปต้องขอคำแนะนำด้วยนะครับ”
ฉู่ลั่วหานบ่นในใจ หน้าด้านที่สุด
จูบนี้ เป็นจูบที่เกิดจากความรู้สึกของทั้งคู่ ตอนที่เธอมองเขา อดไม่ได้ที่จะหลบตา เพียงมองสบตา ใบหน้าเธอก็แดงขึ้นมา
และหลงเซียวเองก็ชอบดูใบหน้าแดงระเรื่อของเธอ เวลานั้นราวกับเธอวางเปลือกนอกออก กลายเป็นหญิงสาวบอบบาง เขาสามารถกอด ปกป้องและทะนุถนอมเธอได้
หลายวันต่อมา หลงเซียวอยู่เป็นเพื่อนฉู่ลั่วหานเขียนวิทยานิพนธ์ที่หอพัก ลองถาม “หลังเรียนจบแล้ว คุณอยากไปที่ไหน”
คาบเรียนของหลงเซียวจบหมดแล้ว เขาเตรียมกลับประเทศไปดูแลบริษัท วิกฤตการเงินกำลังหนักหน่วง เขาต้องเปลี่ยนแผนกะทันหัน
ช่วงนี้การทดลองของลั่วหานกำลังอยู่ในช่วงเข้มข้น ทุกวันต้องเขียนวิทยานิพนธ์ล่วงเวลา ดูสถิติ รีบทำวิทยานิพนธ์ กำลังอยู่ในช่วงกดดัน
“ยังเร็วไป ปีหน้าค่อยว่ากันใหม่”
“อยากกลับประเทศหรือเปล่า”
ส่วนตัวหวังว่าเธอจะกลับ เพราะเขาไม่สามารถอยู่ที่นิวยอร์กได้ ปีนี้MBKประสบปัญหาการเงินอย่างหนัก หลงถิงโทรหาเขาวันละหลายสิบสาย เพื่อถามว่าเขาจะกลับไปดูบริษัทตอนไหน
ลั่วหานยื่นมือไปหยิบหนังสือบนชั้นวางหนังสือ “ความจริงสำหรับฉัน ที่ไหนก็เหมือนกัน ในประเทศไม่มีญาติที่ไหนแล้ว ฉันแค่อยากใช้อาชีพของฉันในที่ที่เหมาะสม อเมริกาเทคโนโลยีล้ำหน้า มีโอกาสได้ฝึกฝน ที่ปรึกษาของฉัน บรรพบุรุษของฉันก็อยู่ที่นี่ทั้งนั้น”
หลงเซียวหยิบหนังสือยื่นให้เธอ จ้องลึกเข้าไปในดวงตาของเธอ เธอก้มหน้าเปิดหนังสือ ค้นพบรายงานที่ต้องการในหนังสือคำศัพท์เฉพาะที่ยุ่งเหยิง
“เมื่อก่อนอาจจะไม่มี แต่ต่อจากนี้ไม่เหมือนเดิมแล้ว คุณมีผม ผมคือญาติของคุณ ยังเป็นคนรักของคุณด้วย ถ้าคุณยอม ผมจะหาโรงพยาบาลที่เหมาะกับคุณให้ หรือจะให้สร้างโรงพยาบาลเลยก็ได้”
สิ่งที่เขาบอก แน่นอนว่าไม่ได้พูดเล่น
ลั่วหานหันไปมองเขา สองวางอยู่บนพนักเก้าอี้ด้านหลัง เชิดหน้าด้วยท่าทางเย่อหยิ่ง “อวดรวย นี่คุณจะเลี้ยงฉันเหรอ”
“ได้สิ ผมเลี้ยงคุณ” เขาอยากจับใบหน้าเธอ สุดท้ายเธอหลบได้ทัน
“งั้นฉันยิ่งกลับไปไม่ได้ ฉันมีความสามารถ ไม่จำเป็นต้องพึ่งคุณ” ตอนที่ฉู่ลั่วหานก้มหน้า เธอกำลังแอบยิ้ม เพียงแต่หลงเซียวมองไม่เห็น
หลงเซียวนวดหัวคิ้ว ยังคงถามกวนใจ “บอกผมสิ ต้องทำยังไงคุณถึงจะยอมกลับประเทศ ไม่ว่าเงื่อนไขอะไร ผมจะทำให้คุณทุกอย่าง บอกมาเถอะ”
“ง่ายมากค่ะ ทำให้ฉันรักคุณสิ”
ครั้งนี้หลงเซียวนวดหัวคิ้วแรงกว่าเดิม “คุณ…ยังไม่รักผมเหรอ”
“คุณเดาดูสิ”
หลงเซียวตัดสินใจไม่ไปตามทางของเธอ “ผู้หญิงปากไม่ตรงกับใจ แต่ร่างกายไม่มีวันโกหก ร่างกายสื่อสารออกมาเป็นความจริงเจ็ดสิบห้าเปอร์เซ็นต์ แต่คำพูดเป็นความจริงแค่ยี่สิบห้าเปอร์เซ็นต์ ดังนั้นผมอยากเปลี่ยนวิธียืนยัน”
ฉู่ลั่วหานบ่น “บนโลกต่างก็มีอะไรที่แปลกออกไป”
แต่หลงเซียวคว้าเอวเธอยกขึ้น เท้าเธอสัมผัสได้แค่อากาศ ถูกดึงเข้าสู่อ้อมกอดของเขาด้วยการกระทำที่รวดเร็ว
“คุณจะทำอะไร”
เอาแต่ใจ อันตราย
บรรยากาศ อันตราย
ริมฝีปากของหลงเซียวขยับเข้ามาใกล้เรื่อยๆ สัมผัสอุ่นร้อนชัดเจน “คุณลองเดาสิ”
เธอไม่อยากคาดเดา
“คุณปล่อยฉันลงนะ คุณ…อย่า…”
ขายาวของหลงเซียวก้าวเพียงสองก้าวก็มาถึงเตียงเดี่ยวของลั่วหาน ขาข้างหนึ่งคุกเข่าลงไป หญิงสาวที่พยายามดิ้นรนอยู่ในอ้อมแขนเขาถูกกดลงบนเตียง มือเท้ากับหัวเตียง ค่อยๆ โน้มตัวลงกดดันเธอ “ออกกำลังกายสมองนานแล้ว เรามาลองออกกำลังกายร่างกายหน่อยไหม”
ใบหน้าของลั่วหานเดี๋ยวแดงเดี๋ยวซีด มือกำผ้าปูเตียงเอาไว้แน่น ริมฝีปากแดงระเรื่อถูกเธอกัดจนขาว เสียงเบาราวกับเสียงน้ำ หวานราวกับน้ำผึ้ง “คุณ…คุณ…”
หลงเซียวปลดกระดุมทีละเม็ดช้าๆ ท่าทางนั้นงดงาม “ในเมื่อตัดสินใจแล้วว่าคุณคือภรรยาผม งั้นผมขอใช้สิทธิ์เร็วหน่อย ทำไมจะไม่ได้ ถูกไหม”
สมองฉู่ลั่วหานขาวโพลน หายใจติดขัด ตัวเกร็ง “ไม่ได้”
หน้าอกของหลงเซียวกดลงมาชิดหน้าอกของเธอแล้ว กล้าของเขาถูไถไปกับเสื้อผ้า “ดังนั้น บอกผมมาตอนนี้ ว่ารักผมหรือเปล่า”
คนบ้า
ใครที่ไหนเขาจะมาบังคับแบบนี้ นี่เป็นการบังคับให้ยอมรับมากกว่า
“จะตอบผมมาตามตรง หรือว่า ให้ผมสัมผัสมันด้วยตัวเอง คุณบอกมา” เขายกยิ้ม ใช้น้ำเสียงเซ็กซี่ถาม
“ฉัน…”
ใช่ เธอต้องยอมรับ ว่าเธอรักเขา เธอกำลังคิดว่าตั้งแต่ตอนที่เขาปรากฏตัวเลยหรือเปล่านะ หัวใจเธอเต้นแรง
“หืม”
การเจรจาไม่มีประโยชน์แบบนี้…มันโหดร้ายเกินไป
ฉู่ลั่วหานไร้ทางหนี จึงจำต้องหลับตา “อืม”
“อืม อะไรครับ”
เขาต้องได้ยินเธอยอมรับกับปากตัวเอง
“รัก”
“รักอะไรครับ” เขากัดใบหูของเธอ เนื้อนุ่ม ปะทะกับฟันแข็งๆ
ลั่วหานตัวสั่นระริกราวกับโดนไฟช็อต “รักคุณ”
ถูกเขากดดันจนจะเป็นบ้าอยู่แล้ว
หลงเซียวได้ยินคำตอบที่อยากฟังแล้ว เขาลุกขึ้นยอมปล่อยเธอ กลัดกระดุมคืน “ลั่วลั่ว เราแต่งงานกันนะ”