ประธานหยิ่งยโสของฉัน - ตอนที่ 161
ตอนที่ 161 ไม่ชอบคนปากแข็ง
ความรู้สึกแรกคือตกใจตามมาด้วยความผิดหวัง
จี้ตงหมิงเป็นผู้ช่วยของหลงเซียว หลงเชียวให้เขาเดินทาง มายังเคนยา แน่นอนว่าคงมีข้อมูลบางอย่างแน่นอน
หรือว่าหลงเชียวจะรู้ความเคลื่อนไหวของเธอแล้ว?
ไม่น่าเป็นไปได้ ตระกูลหลงคงไม่ปล่อยให้ลูกชายของตน หาเบาะแสเจอภายในสองสามวันหรอก?
คู่ลั่วหานถอยหลังและปิดประตูอย่างแน่นหนาหลังของเธอ พิงไปที่ประตู เธอยังคงได้ยินเสียงหัวใจที่เต้นแรงของตัวเอง ได้อย่างชัดเจน
เธอจะให้คนอื่นรู้ความเคลื่อนไหวของตนไม่ได้เด็ดขาด!
โชคดีที่การเดินทางมาครั้งนี้เธอไม่ได้ทำตัวเป็นที่โตดเด่น ปกติแล้วก็ไม่ได้คุ้นเลยกับเจ้าหน้าที่คนอื่นๆเท่าไรนัก ไม่มี ใครจำเธอได้
อีกทั้งฐานะของเธอในตอนนี้ไม่ใช่แพทย์ แต่เป็นญาติของ ถังจิ้นเหยียน
แม้ว่าฐานะนี้เธอจะไม่ชื่นชอบมันเท่าไหร่นัก แต่ก็ยังดีกว่า ถูกเปิดเผยตัวตนเธอยืนอยู่ที่หน้าต่าง ขาทั้งสองก้าวเดินไปข้างหน้า สายตามองดูถังจิ้นเหยียนที่ขึ้นรถไป
อากาศข้างนอกร้อนมาก แอร์ในรถคงช่วยบรรเทาความ ร้อนขึ้นมาได้บ้าง
ภูมิประเทศที่นี่ค่อนข้างซับซ้อน สภาพแวดล้อมเลวร้าย แม้ว่าจะมีไฟฟ้าแต่ทุกวันก็มีจำนวนจำกัด อุปกรณ์ต่างๆก็ เรียบง่ายมาก ไม่ต้องพูดถึงเครื่องปรับอากาศขนาดพัดลม ยังเพิ่งจะติดตั้งหลังจากพวกเขามาเท่านั้น
รถของจี้ตงหมิงจอดอยู่ที่นั่นเป็นเวลากว่าห้าชั่วโมงโดย ไม่ได้ขยับไปไหน เธอมองเห็นจี้ตงหมิงออกมาครั้งหนึ่ง จาก นั้นกลับเข้าไปในเวลาไม่กี่นาที
เด็กๆ ในพื้นที่ล้วนพากันตื่นเต้นกับรถที่จอดอยู่ พวกเขา ล้อมรถเอาไว้แล้วลูบๆคลำๆด้วยความประหลาดใจ อีกทั้ง
ใช้ภาษาท้องถิ่นพูดคุยกันอย่างสนุกสนาน
เมื่อจี้ตงหมิงลืมตาขึ้นเขาก็ตกใจมาก พระเจ้า! หัวดำๆ นอกรถมากมายไปหมด..นี่มันอะไรกัน?
คนสีผิวนั้นเขาเองก็เคยพบเห็นมาก่อน แต่เด็กตัวเล็กๆ ผอมโซเช่นนี้ เขาได้มองเห็นในระยะประชิดแบบนี้ก็ตกใจ มากจริงๆ
เมื่อเด็กๆมองเห็นคุณลุงแปลกประหลาดที่อยู่ในรถ ก็พากันถอยห่างอย่างระมัดระวังตัว
เมื่อจี้ตงหมิงลดกระจกลง ไอร้อนจากภายนอกใหลวนเข้า มา อากาศเย็นจากภายในไหลออกไป เด็กๆท่าที่ดีอกดีใจ และกรูกันแย่งสูดอากาศเย็นนั้น
สีหน้าของจี้ตงหมิงเปลี่ยนไปทันที
คู่ลั่วหานที่ยืนอยู่ตรงหน้าต่างเห็นภาพนั้นเข้าก็อดหัวเราะ ออกมาไม่ได้
คาดไม่ถึงว่าผู้ชายเพียบพร้อมในทุกด้านอย่างงี้ตงหมิงจะ แสดงสีหน้าแบบนี้ออกมา
ต่อจากนั้นจี้ตงหมิงก็ปีนขึ้นไปยังยอดเขาที่อยู่ด้านหน้า และโทรศัพท์ไปรายงานสถานการณ์ที่นี่ต่อหลงเชียว
ภายในห้องพักผู้ป่วยที่เมืองหลวง อากาศถูกปรับให้พอดี
กับร่างกาย ในมือของหลงเชียวถือถ้วยชาอันอบอุ่นอยู่ เขา
ไม่สามารถเข้าใจถึงความรู้สึกนั้นได้ สิ่งเดียวที่เข้ากันได้ดีคือความกังวลใจที่ยังไม่สงบลง
เวลาบ่ายแล้ว เด็กๆพากันกลับบ้านกินข้าว ส่วนจี้ตงหมิงดี มน้ำประทังความหิวแต่ไม่เป็นผล ท้องเขาส่งเสียงร้องออก มาดังมาก แต่ก่อนที่จะเดินทางมาที่นี่เขาไม่คาดคิดว่าจะเจอ กับสภาพแวดล้อมแบบนี้จึงไม่ได้จัดเตรียมอาหารมาเลยสัก ชิ้นเดียว
เมื่อเปิดประตูรถออก จี้ตงหมิงมองไปทั่วสี่ทิศเพื่อหาร้าน ค้า ที่แห่งนี้มีบ้านหลังเล็กหลังน้อยมากมายไปหมด แต่ไม่มี ร้านค้าแม้แต่ร้านเดียว!
ให้ตายสิ!
เมื่อครู่มีลมโชยมาอ่อนๆ เขารู้สึกได้ถึงกลิ่นของอาหาร แสนหอม
จี้ตงหมิงเอามือลูกไปที่ท้องของเขา การที่จะไปขออาหาร กินนั้นมันน่าอับอายเกินไปเสียหน่อย แต่จะปล่อยให้หิวจน ตาลายแบบนี้ก็ไม่ได้จริงไหม? ใครจะไปรู้ว่าถังจิ้นเหยียนจะ กลับมาตอนไหนกัน?
ยังไงซะที่นี่ก็ไม่มีใครรู้จักเขาอยู่แล้ว จี้ตงหมิงหอบหน้าอัน แสนหนาของเขาเดินไป ถ้าขอไม่ได้ก็ใช้เงินซื้อเอาสิ
จี้ตงหมิงที่น่าสงสารเดินไปเคาะประตูบ้าน แต่สิ่งที่ตามมา คือเขาใช้ภาษาจีน ภาษาอังกฤษ ภาษาฝรั่งเศสอย่าง คล่องแคล่ว แต่ฝ่ายตรงข้ามกลับไม่เข้าใจเสียอย่างนั้น
สุดท้ายเขาตัดสินใจหยิบเงินหยวนออกมาจากกระเป๋า ปรากฏว่าถูกครอบครัวนั้นขับไล่ออกมาทันใด
จี้ตงหมิงหดหูใจจริงๆ บนโลกใบนี้ยังมีคนไม่รู้จักเงิน หยวนอยู่อีกเหรอเนี่ย!
แม่งเอ้ย!
คู่ลั่วหานเมื่อเห็นจี้ตงหมิงเดินไปเคาะประตูของชาวบ้าน นั้นก็เดาได้ทันทีว่าเขาคงหิวแล้ว เธอจึงหยิบเอาอาหารและ น้ำออกมาวางไว้บนหลังคารถ
จี้ดงหมิงเดินกลับมาที่รถอย่างหงอยเหงา เมื่อเงยหน้าขึ้น เขาก็ดีใจราวกับมีนางฟ้าตกจากสวรรค์!
แปลกมาก!น่าอัศจรรย์จริงๆ! ใครกันนะที่เอาอาหารมาให้
เขา?
เมื่อมองออกไปรอบๆไม่พบผู้ใด จี้ตงหมิงรู้สึกประหลาด ใจอย่างบอกไม่ถูก แต่เมื่อหยิบมันขึ้นมาดู สีหน้าของเขาก็ เปลี่ยนไป คนที่นี่กินของแบบนี้กันงั้นเหรอ?
บ้าไปแล้ว ที่เมืองหลวงของแบบนี้แม้แต่สัตว์เลี้ยงยังไม่กิน
เลย
สัตว์เลี้ยงไม่กินเพราะพวกมันไม่ขาดแคลนอาหาร แต่จี้ตง หมิง.ต้องการอาหาร เขาจึงกินมันลงไป
คำแรก “อืม รสชาติใช้ได้”
เมื่อเห็นสีหน้าของจี้ตงหมิงเปลี่ยนไปเช่นนั้น คู่ลั่วหานก็อต
หัวเราะไม่ได้
เธอคิดไม่ถึงจริงๆว่าจะมาพบกับจี้ตงหมิงเข้าที่แอฟริกา อันกว้างใหญ่นี้
หรืออาจพูดได้ว่าเธอคิดไม่ถึงเลยว่าหลงเชียวจะทำการค้นหาเธออย่างจริงจังแบบนี้
เวลายามค่ำคืนได้มาถึง ผ่านไปเกือบหนึ่งวันแล้วจี้ตงหมิ งมองเห็นแสงไฟสลัวๆพร้อมกับเสียงฝีเท้าของคนและเสียง พูดคุยกันใกล้เข้ามา!
พระเจ้า!ภาษาจีน!ในที่สุดเขาก็ได้ยินเสียงคนพูดภาษาจีน
แล้ว!
จี้ตงหมิงดีใจมาก
เขากระโดดลงจากรถและรีบเดินหน้าออกไป มองเห็นทีม แพทย์ช่วยเหลือกลับมา นำโดยถังจิ้นเหยียนและแพทย์หญิง ข้างๆอีกคนหนึ่งคล้ายกับคุยอะไรกันอยู่ท่าทางสนุกสนานไม่
น้อย
“รองคณบดีถัง”
จี้ตงหมิงยืนอยู่ด้านหน้าของทีมแพทย์แล้วเอ่ยทักทายถัง จิ้นเหยียน
บุคคลที่เขาเอ่ยทักทายด้วยเลิกคิ้วขึ้นด้วยความประหลาด ใจเล็กน้อยแต่ไม่มีตื่นตระหนก “คุณจี้ มาอยู่ที่นี่ได้ยังไง ครับ?”
จี้ตงหมิงไม่ได้ปิดบังความจริงเขาตอบไปว่า “ผมมาหา
คุณ”
ในห้องของถังจิ้นเหยียน
ในห้องมีเพียงโต๊ะ เตียง เก้าอี้อย่างละหนึ่งตัว มันไม่เรียบ ง่ายไปหน่อยหรือ?
จี้ตงหมิงไม่ได้ตั้งใจจะนั่งลง เขาเอ่ยออกมาอย่างเปิดเผย ว่า “รองคณบดีถัง ผมคิดว่าคุณรู้ดีเกี่ยวกับเรื่องคุณหญิงของ พวกเราได้โปรดบอกผมมาเถอะครับ”
อืม?
เช่นนี้แสดงว่าเขายังไม่เจอฉู่ลั่วหาน? งั้นก็ดี
ถังจิ้นเหยียนรินน้ำให้เขาแก้วหนึ่งแล้วส่งให้ “ผมไม่รู้ว่า อะไรเกี่ยวกับเธอเลย ทำไมเหรอครับ?หลังที่ผมจากมาเธอ หายตัวไป?”
จี้ตงหมิงวางแก้วน้ำลงแล้วหัวเราะ “รองคณบดีถัง เราอย่า มัวปกปิดกันอยู่เลยครับ คุณทำแบบนี้เพื่ออะไรกัน? คุณหญิง ฉู่เป็นภรรยาของเจ้านายพวกเรา แน่นอนว่าเจ้านายต้องส่ง กำลังคนออกตามหาเธออย่างแน่นอน! ผมแนะนำให้คุณตรง ไปตรงมากกว่านี้หน่อยนะ”
ถังจิ้นเหยียนไม่ได้มีท่าทีรีบร้อนอะไร เขานั่งลงบนขอบ เตียงแล้วยื่นเก้าอี้ให้จี้ตงหมิง “คุณจี้ครับ ผมไม่รู้จริงๆว่าเธอ อยู่ที่ไหน การที่ผมเดินทางมาที่นี่เพราะต้องการตัดขาดจาก โลกภายนอก คุณเองก็น่าจะรู้ดี”
จี้ตงหมิงขมวดคิ้ว “รองคณบดีถัง คุณต้องการอะไรกันแน่? เงินทอง?สิ่งของ?ขอแค่คุณบอกที่อยู่ของคุณหญิงมา รับรองว่าคุณหลงจะให้ทุกสิ่งแก่คุณแน่นอน”
ถังจิ้นเหยียนยักไหล่แล้วหัวเราะว่า “แหม สิ่งที่คุณพูดมา มันก็น่าสนใจอยู่หรอกนะ เพียงแต่ต้องขอโทษด้วยที่ผมไม่รู้ จริงๆ เกรงว่าสิ่งเหล่านั้นคงไม่เหมาะสำหรับผม”
จี้ตงหมิงรู้ดีว่าถังจิ้นเหยียนไม่ใช่คนที่จะต่อกรได้ง่ายๆ หากพูดดีๆด้วยแล้วไม่เป็นผล คงต้องใช้กำลัง
แต่หลังจากซัดไปหลายหมัดจนถังจิ้นเหยียนเลือดกำเดา ไหล เขาเองก็ไม่ยอมปริปากพูดอะไรออกมา
หรือเขาจะไม่รู้จริงๆ?
“ตามผมมา!”
ท้องฟ้ามืดสนิทเป็นสีดา มีแสงส่องจากดวงจันทร์และ ดวงดาวเพียงเล็กน้อย ฉู่ลั่วหานมองตามหลังชายทั้งสองคน ไป จตงหมิงลากถังจิ้นเหยียนเดินขึ้นไปที่ยอดเขา เมื่อมี สัญญาณเขาจึงได้หยิบมือถือโทรหาหลงเซียว
คู่ลั่วหานยืนนิ้วมือเรียวงามจิกไปยังหน้าต่าง จี้ตงหมิง ต้องการทำอะไรกันแน่?!
เธออยากผลักประตูออกไป แต่หาดถูกเขาพบเข้า ทุก อย่างที่ทำมาก็ไร้ประโยชน์
คู่ลั่วหานอดทนรอดูอย่างไม่สงบสุข มือเธอกำแน่นคิ้วขมวดเข้าหากัน ริมฝีปากกัดแน่น รอดูปฏิกิริยาของทั้งสอง
คน
เมื่อฝ่ายตรงข้ามรับสาย ถังจิ้นเหยียนก็รีบคว้ามือถือมา ตะโกนใส่เขาว่า “หลงเชียว ถ้าฉู่ลั่วหานเป็นอะไรขึ้นมา ผม จะกลับไปฆ่าคุณด้วยมือของผมเอง!”
เขาพยายามปกปิดความจริงที่ว่าคู่ลั่วหานอยู่กับเขา เพื่อ ปรับเปลี่ยนความคิดของหลงเชียว
หลงเชียวหรี่ตาลงแล้วพูดว่า “ถังจิ้นเหยียน คุณไม่รู้อย่าง นั้นเหรอ!”
“เหอะๆ หลงเชียว เมียตัวเองหนีออกจากบ้าน แต่คุณกลับ มาตามหาที่ผม คุณกำลังดูถูกผมหรือดูถูกเธอกันแน่?”
แม่งเอ้ย!
หลงเชียวอยากยิงปืนใส่หัวเขาจริงๆ!
“ถังจิ้นเหยียน ผมว่าคุณคงเริ่มเบื่อกับการมีชีวิตแล้วละนะ การที่คุณลักพาตัวคนของผมไป คุณรู้ไหมว่าจุดจบคงไม่ สวย”
เมื่อเขาพูดจบจี้ตงหมิงก็รับโทรศัพท์ไป
“อาหมิง ผมไม่ค่อยชอบคนปากแข็งเท่าไหร่นัก” เพียง ประโยคเดียว จี้ตงหมิงก็รู้ดีว่าควรทำอย่างไร
“เจ้านายวางใจได้ครับ”
เมื่อวางสายไป ตงหมิงก็พูดกับเขาว่า “รองคณบดีถัง มองดูแล้วคุณคงไม่ชอบใช้ปากแต่ชอบใช้กำลังมากกว่า สินะ”
ถังจิ้นเหยียนได้แต่ยิ้มอย่างหมดอารมณ์ มือเรียวยาวของ เขาเช็ดไปที่เลือดตรงริมฝีปาก “คุณจี้ครับ นี่เป็นวิธีการ จัดการปัญหาของพวกคุณงั้นเหรอ?”
จี้ตงหมิงพูดว่า “มีอะไรไหม?”
คนที่ใกล้ชิดกับหลงเชียว นอกจากจะช่วยเขาจัดการด้าน งานแล้ว ยังได้รับการฝึกอบรมศิลปะการต่อสู้มาอย่างดี จี้ตง หมิงเองก็จบเทควันโดสายดำมา
ถังจิ้นเหยียนถูกเขาต่อยเสียจนน่วม ภาพที่ทั้งสองคนลง ไม้ลงมือกันนั้นกลายเป็นหนังที่ไร้ซึ่งเสียงมีเพียงเงา
ฉู่ลั่วหานเห็นดังนั้นก็ร้อนรนใจ! แต่เธอจะออกไปไม่ได้! ทำได้เพียงรอต่อไปเท่านั้น!
หลงเชียว คนป่าเถื่อน! พวกชอบใช้กำลัง!
แต่..
ทั้งหมดนี้ก็เพราะเธอไม่ใช่หรือ?
จิตใจที่สับสนและอารมณ์ที่ซับซ้อน คู่ลั่วหานกัดฟันผลักประตูออกไป
ผลจากการถูกจี้ตงหมิงต่อยนั้นไม่บอกก็รู้ดี ถังจิ้นเหยียน ใบหน้าบวมซ้ำอีกทั้งชุดสีขาวเลอะเทอะเปรอะเปื้อน ก่อนที่ จะมีแพทย์คนอื่นไปพบและเข้าห้าม เขาก็ลงไปกองที่พื้นเสีย
แล้ว
จีตงหมิงยังไม่สะใจ “รองคณบดีถึง เธออยู่ที่ไหน?บอกมา
ดีๆ!”
ถังจิ้นเหยียนใช้หลังมือเช็ดเลือด “ผมไม่รู้จึงไม่สามารถ บอกคุณได้”
“ยังปากแข็งอยู่อีกนะ!”
ในขณะที่จี้ตงหมิงกำลังจะลงมืออีกครั้ง ทีมแพทย์ที่เหลือก็ เข้ามากันเขาเอาไว้ “หยุดนะ! คุณคิดว่าทำร้ายร่างกายคนที่ นี่ไม่ผิดกฎหมายหรือไง ไปซะ!”
“รีบไปซะ!”
ถังจิ้นเหยียนมีชื่อเสียงและได้รับความเคารพเป็นอย่างสูง ในโรงพยาบาล บรรดาพยาบาลสาวต่างพากันเข้ามาปก ป้องเขา
เมื่อจี้ตงหมิงเห็นว่าไม่มีอะไรดีขึ้น จึงได้สะบัดคอเสื้อของ เอาทิ้งแล้วพูดว่า “ไม่พูดไม่เป็นไร ผมจะรออยู่ที่นี่!”
ถังจิ้นเหยียนถูกพยุงขึ้นมา รอยฟกช้ำบนใบหน้าช่างสะดุดตาจริงๆ เขาหัวเราะและพูดว่า “ นึกไม่ถึงนะว่าหลง เชียวจะทำเรื่องปัญญาอ่อนแบบนี้ ไร้เหตุผลจริงๆ!”
จี้ตงหมิงหัวเราะเช่นกัน “ผิดแล้วละคุณ ไม่ใช่เจ้านายเราที่ เป็นแบบนี้ แต่ผู้ชายทุกคนเมื่อเห็นผู้หญิงที่รักตั้งดวงใจเป็น แบบนี้ ล้วนทำเช่นนี้”
ถังจิ้นเหยียนกำหมัด เมื่อครู่เขาไม่ได้โต้ตอบแม้แต่ครั้ง เดียว คิดว่าหากเขายอมให้จี้ตงหมิงจะจากไปแต่โดยดี นึก ไม่ถึงว่าจะเป็นแบบนี้
เช่นนั้นเขาคงไม่จำเป็นต้องทน
เขากันทีมแพทย์ที่เข้ามาช่วยออกไปแล้วฉีกชุดขาวยาว ออกอย่างสง่า มือทั้งสองข้างปัดเบาๆแล้วพูดว่า “สาเหตุเกิน จากหญิงที่รัก ผมเองก็ไม่จำเป็นต้องทนอีกต่อไป”