ประธานหยิ่งยโสของฉัน - ตอนที่ 221
ตอนที่ 221 ความเย็นชาและสนุกสนานของเขา
อย่าทำให้เป็นเรื่องใหญ่!
อย่าทำให้เป็นเรื่องใหญ่!
อย่าทำให้เป็นเรื่องใหญ่!
แอนน่าท่องประโยคนี้ในใจหลายครั้งเพื่อฝืนใจบังคับให้
ตัวเองสงบสติอารมณ์ลง
ในที่สุดเธอก็ล้วงเจอแหวนสักที แอนน่าถอนหายใจยาวๆ
และรีบดึงมือกลับ
เมื่อหลงเชียวเห็นเธอจ้องมองแหวนด้วยสายตา
เคลิบเคลิ้ม อารมณ์ที่เบิกบานใจก็เปลี่ยนเป็นอารมณ์ไม่ พอใจทันที และคิ้วที่คลายตัวก็กลับมาขมวดคิ้วแน่นอีกครั้ง “ดูเหมือนคุณจะชอบแหวนวงนี้มากเลยนะครับ”
แหวนวงนี่!
แอนน่ากำแหวนไว้ในฝ่ามืออย่างแน่น “นี่เป็นแหวนหมั้น ของฉัน ไม่สามารถบอกได้ว่าชอบหรือไม่ชอบ”
อ๋อ? เมื่อฟังคำตอบแบบนี้ หลงเชียวก็คิดเองว่า เธอคงไม่ ชอบ แต่เพราะกลัวมีปัญหา เลยต้องเก็บรักษา และพกพาต
ลอด หลงเชียวไม่ได้ตั้งใจดูแหวนอย่างละเอียด เพราะของสิ่งนี้ ส่งผลกระทบต่ออารมณ์ของเขา “ไม่ว่าจะเป็นการออกแบบ รูปทรงเพชร หรือฐานรองล้วนไม่มีรสนิยม ไม่เหมาะสมกับ คุณเลย”
เมื่อสามารถพูดความในใจออกมาได้ หลงเชียวก็รู้สึก ผ่อนคลายมากขึ้น แต่สีหน้าของแอนน่ากลับไม่เป็นแบบนั้น!
“กดคนอื่นให้ต่ำกว่าตัวเอง!”
ชุดนอนที่เธอสวมไม่มีกระเป๋า เมื่อครุ่นคิดสักพัก เลย ตัดสินใจสวมแหวนที่มือ แล้วช่วยหลงเซียวประคบต่อ
เมื่อหลงเชียวเห็นเธอสวมแหวนที่มือ ก็เกือบกระโจน เข้าไปแย่งแหวนที่สมควรตายดึงออกจากมือ แล้วโยนทิ้งใน แม่น้ำ!
“ผมสามารถมอบแหวนที่เหมาะสมให้กับคุณ”
เพียงประโยคเรียบง่ายประโยคเดียว กลับเหมือนกับก้อน หินที่โยนลงแม่น้ำ จมหายไม่ได้รับการตอบรับ
“คุณยังเจ็บอีกไหม? ถ้าหากไม่เจ็บแล้ว ฉันขอตัวไปนอน
ก่อน”
หลงเชียวไม่เผยท่าทางเย็นชาและสนุกสนานแล้ว จนแอน น่ารู้สึกรับมือไม่ค่อยไหว แต่ถ้าเขาเผยท่าทางเท่ อย่างน้อย เธอก็รู้ว่าจะรับมือยังไง หลงเซียวลืมตาขึ้น แล้วลุกขึ้นนั่งอย่างเรียบร้อยบนโซฟา “ใบหน้าเป็นบริเวณที่ละเอียดอ่อน ดังนั้นจะหายเจ็บเร็ว ขนาดนั้นได้ยังไงกัน? คุณเป็นหมอ หรือว่าคุณไม่รู้? แต่คุณ รีบกลับไปพักผ่อนเถอะ”
อดทน เขาอดทน ไม่สามารถกินเวลาพักผ่อนของเธอ
แอนน่าเอาผ้าขนหนูประคบบนใบหน้าของเขา แล้วจับมือ เขามาวางที่ผ้าขนหนูเพื่อให้เขาจับเอง ขณะเดียวกันเขาก็ สัมผัสถึงไออุ่นจากผ้าขนหนูที่กระจายไปถึงหลังมือของเขา “คุณ…ถือเองเลย ประคบอีกสักหน่อยก็คงดีขึ้นมาก พรุ่งนี้ คุณนอนตื่นส่ายบ้างก็ได้ แต่หลังจากตื่นแล้วยังมีอาการบวม ซ้ำก็ค่อยประคบอีกสักหน่อย”
หลงเซียวพยักหน้า “ครับ
เขาอยากพูดว่า ครับ คุณภรรยา
แต่ก็ต้องกลั้นใจไว้ไม่ให้พูดออกมา
โม่หรูเฟยเอาแต่ร้องห่มร้องไห้อยู่ที่ห้องรับแขกของบ้าน
เกาหยิ่งจือ เธอจับมือเกาหยิ่งจืออย่างแน่น และพูดว่า “พี่ สาว คิดไม่ถึงว่าหลงเชียวจะบอกกับคนที่บ้านว่า เขาต้องการ แต่งงานกับแอนน่า! เขาแทบไม่นึกถึงความรู้สึกของฉันเลย! เขาไม่เคยเห็นฉันในสายตาด้วย! ฉันรู้สึกเจ็บปวดจังเลย!” โม่หรูเฟยร้องห่มร้องไห้จนทำให้เกาหยิ่งจือรู้สึกรำคาญ “ไม่ต้องร้องไห้แล้ว ต่อให้เธอร้องให้จนตาบอดก็ไม่ได้ช่วย อะไรหรอก เธอมาหาผิดคนแล้ว หรูเฟย ถ้าหากเธอจะร้องให้ ฉันแนะนำให้เธอไปหาหยวนซูเฟินกับหลงถึงดีกว่า”
โม่หรูเฟยค่อยๆเงยหน้าขึ้นจากอ้อมกอดของเกาหยิ่งจือ ดวงตาของเธอบวมเหมือนหลอดไฟฟ้า และใบหน้าก็แดงก่ำ เธอสูบลมหายใจเข้าลึกๆ “พี่สาว คุณหยอกเล่นอะไร ด้วย กับฉันค่ะ? ไปหาพวกเขาหรอ? หรือคุณไม่รู้ว่า คนของ ตระกูลหลงไม่ชอบคนเจ้าน้ำตา หยวนซูเฟิน…ฮ่าฮ่า พี่สาว เพิ่งรู้จักเธอแค่วันเดียวหรอ?”
“หลงเชียวประกาศว่าตัวเองอยากแต่งงานกับแอนน่าแค่ ฝ่ายเดียว โดยที่คนของตระกูลหลงไม่มีใครเห็นด้วย นี่ถือ เป็นโอกาสของเธอ อีกอย่างผู้หญิงคนนั้นกำลังจะจากไป พอดีด้วย นี่ยิ่งถือเป็นโอกาสที่ดีมากไม่ใช่หรอ?”
จู่โม่หรูเฟยก็นิ่งเงียบทันที พร้อมกับจ้องมองเกาหยิ่งจี อด้วยสายตามีหวัง “เธอจะกลับมาอีกไหม?”
“ไม่รู้ อย่างน้อยตอนนี้คงไม่”
โม่หรูเฟยพูดขึ้นว่า “จู่ลั่วหาน นังผู้หญิงสารเลว! แม้แต่ สวรรค์ยังไม่อยากให้แกมีความสุขเลย สมน้ำหน้า! เธอมัน สมควรตาย! สมควรตาย! ฉันไม่ยอมให้แกมีความสุขหรอก! ไม่มีวันยอม!” เกาจิงอานสวมรองเท้ายืนอยู่ตรงราวบันไดชั้นสอง ขณะ เดียวกันก็จะง้อมองผู้หญิงสองคนที่ห้องรับแขกด้วย “หรูเฟย เหมือนเธอวางแผนจะทำอะไรสักอย่างใช้ไหม?”
โม่หรูเฟยหันหน้าสบตากับเกาจิงอานแล้วกัดฟันเล็กน้อย “พี่ชาย! ในเมื่อพี่อยากได้ แอนน่าทำไมไม่รีบลงมือล่ะค่ะ! ตอนอยู่ห้องอาหารครั้งนั้นคุณควรลงมือ!”
เกาจึงอานปัดหน้าม้าขึ้น และบนหน้าผากก็เผยริ้วรอย หลายเส้นขึ้น “ลงมือหรอ? เธอก็เห็นอยู่หลงเชียวปกป้อง แอ นน่าเหมือนกับแม่ไก่กอดปกป้องลูกไก่อย่างนั้น เธอยังอยาก ให้ฉันยั่วโมโหต่อหน้าเขาหรอ? หรูเฟย อย่ารักจนหน้ามืดตา มัว เพราะมันไม่ใช่เรื่องดีเลย อีกอย่างหากผู้หญิงขาดสติ ต่อ ให้มีรูปร่างหน้าตาดี ก็ไม่ทำให้ผู้ชายรู้สึกสนใจหรอก”
หลังจากพูดจบ ในหัวสมองของเกาจิงอานก็ปรากฏ แอน น่าขึ้น ผู้หญิงคนนี้ทั้งเฉลียวฉลาด สูงส่ง โดดเด่น ไม่เหมือน กับผู้หญิงเสแสร้ง และไม่เจ้าเล่ห์เหมือนพี่สาวของเขาด้วย เพราะผู้หญิงคนนี้พิเศษจนทำให้ผู้ชายรู้สึกหลงไหล
ถ้าหากผู้หญิงเป็นหนังสือ โม่หรูเฟยคงเป็นนิยายรัก ซ้ำซาก เพียงพลิกอ่านหน้าเดียวก็หมดอารมณ์แล้ว
ส่วนเกาหยิ่งจือเป็นหนังสือเฉพาะทาง ถึงแม้มีความรู้ เปี่ยมล้น แต่ไม่ทำให้คนรู้สึกสนใจเลย
แต่แอนน่า… เธอคือหนังสือบทกวีที่อ่อนช้อย ยิ่งอ่านยิ่งสัมผัสถึงความ สดใหม่ ทำให้คนรู้สึกเพลิดเพลิน
โม่หรูเฟยกัดฟันแน่น และยืนขึ้น เมื่อกี้อารมณ์ก็ไม่ดีแล้ว ตอนนี้อารมณ์ยิ่งแย่กว่าเดิม “พี่ชาย คุณหมายความว่าอะไร! นี่พี่ประชดฉันหรอ!”
เกาจิงอานปล่อยมือออก ทำให้เส้นผมที่ปัดอยู่ข้างหลัง เด้งกลับมาที่หน้าผากเหมือนเดิม จากนั้นเขาก็ค่อยๆเดินลง มาทีละก้าวทีละก้าว “ฟังดูแล้ว เหมือนเธอมีแผนจะจัดการ แอนน่านะ อ่อ…หรือเรียกเธอว่าฉู่ ลั่วหาน ตกลงเธอจะทำ อะไรหรอ? แก้แค้นหรอ? ฆ่าคนเพื่อความรักหรอ? หรือว่า เธอคิดวางแผนทำให้เธออยู่อเมริกา ไม่สามารถกลับมาได้ อีก?”
คำพูดของเขาที่มแทงหัวใจของโม่หรูเฟยมาก เกาจิ่งอาน มีความคิดการอ่านที่ซับซ้อน จนแทบคาดเดาความรู้สึกที่เขา มีต่อฉู่ลั่วหานไม่ถูกเลย
“พี่ชายกำลังหยอกเล่นอะไรฉันอยู่หรอ ฉันจะสามารถทำ แบบนั้นได้ยังไงกัน แต่ความสุขที่เป็นของฉัน ยังไงฉันก็จะ แย่งชิงกลับมา แต่ฉันขอเตือนคุณเลยว่า แอนน่ามีคู่หมั้นอยู่ นิวยอร์กแล้ว คุณคิดว่าเธอกลับอเมริกาครั้งนี้ เธอจะกลับมา คนเดียวหรอ?”
ไม่หรูเฟยหัวเราะออกมาด้วยความสะใจ เหมือนเอาคืน เกาจิงอานที่พูดกับเธอแบบนั้นเมื่อกี้
“จัดการเรื่องของตัวเองให้ดีเถอะ”
เกาหยิ่งจือพูดขึ้นว่า “จิ่งอาน แกอย่าคิดทำอะไรบุ่มบ่าม กับจู่ลั่วหาน เพราะผู้หญิงคนนี้แกไม่ควรเตะต้อง ถ้าแตะต้อง เธอ หลงเชียวคงเอาชีวิตแกแน่ แกเพิ่งกลับมาจากต่าง ประเทศ มีหลายเรื่องที่ยังไม่รู้ เชื่อฟังพี่อยู่ให้ห่างจากเธอ”
เกาจิงอานทำปากมุ่ยเล็กน้อย “ผมรู้”
แอนน่าฉูลั่วหาน ภรรยาของหลงเชียว คู่หมั้นของตู้หลิงเช
วียน
น่าสนใจ! น่าสนใจจริงๆ!
“หรูเฟย เธอต้องรีบฉวยโอกาสตอนที่หยวนซูเฟินยังไม่รู้ ความจริง คิดหาวิธีการให้เธอรู้เรื่องของแอนน่ากับตู้หลิงเชวี ยนเพราะยังไง แอนน่ากับตู้หลิงเซวียนก็หมั้นกันที่อเมริกา แล้ว แต่ยังไม่ได้จัดงานแต่งงานกันเท่านั้นเอง ซึ่งตระกูลหลง ไม่มีทางยอมรับผู้หญิงที่เคยแปดเปื้อนผู้ชายคนอื่นมาแล้ว แน่นอน”
“ฉันทำได้! ฉันไม่มีวันให้ แอนน่าสมหวังหรอก!”
หลังจากเดินออกจากสนามบินนานาชาตินิวยอร์ก และ เห็นท้องฟ้าเมืองนิวยอร์ก แอนน่าก็รู้สึกแปลกตา และห่าง เหิน
มีอยู่วินาทีหนึ่ง เธอรู้สึกว่าตัวเองไม่เหมือนกับกำลังกลับ บ้านเลย แต่เป็นแค่แขกเท่านั้น
แอนน่าสวมกางเกงขายาวสีดำ เสื้อเชิ้ตสีขาว และถือ กระเป๋าเดินทางอยู่ หลังจากสูบลมหายใจเข้าลึกๆเสร็จ ก็ เดินออกจากสนามบิน
จากที่ไกล เธอเห็นร่างเงาที่คุ้นเคยคนหนึ่งยืนอยู่หน้า
ประตู
ตู้หลิงเซวียนยืนอย่างสง่างามและสูงส่งในท่ามกลางฝูง ชน เขาสวมชุดสูทสีฟ้าเข้มสง่าผ่าเผย และสวมเสื้อเชิ้ตสีขาว ข้างในด้วย โดยที่มือข้างหนึ่งยัดใส่กระเป๋ากางเกง ยืนตัว ยืดตรงอย่างสุภาพบุรุษ
แอนน่ายิ้มกลับให้กับเขา เมื่อเธอเดินได้สองก้าวก็ไม่รู้ แล้วว่า เขาหายไปไหนแล้ว แต่จู่ๆเขาก็เดินมาปรากฏตัว เบื้องหน้าของเธอ พร้อมกับอ้าแขนที่มีกล้ามแน่น โอบกอด เธอไว้ในอ้อมกอด แอนน่าขณะเดียวกันกลิ่นน้ำมันหอมบน ตัวของเขาก็แผ่ฟุ่งกระจาย แอนน่าวางคางลงบนบ่าของเขา และไม่รู้ว่าตัวเองรู้สึกยังไง
“แอนน่าในที่สุดคุณก็กลับมาสักที ผมคิดถึงคุณมากเลย”
นี่เป็นบทสนทนาที่คนไม่ได้เจอกันนานพูดกัน ซึ่งเห็นได้ บ่อยสำหรับคู่รักในหนังภาพยนตร์หรือโทรทัศน์ แต่แอนน่า กลับไม่รู้สึกเหมือนคู่รักเลย
เธอฝืนยิ้มออกมา “ขอบคุณที่คุณมารับฉัน”
ตู้หลิงเซวียนปล่อยเธอออก ซึ่งระยะห่างของพวกเขาใกล้ กันมาก เขาเตรียมตัวทำการจะจูบเธอ ขณะที่ริมฝีปากอยู่ ห่างกันแค่ห้าเซนติเมตร แอนน่าก็ถอยหลังและหลบหน้า
ทันที
ตู้หลิงเซวียนเองก็ไม่ได้บีบบังคับเธอ แต่จูบเส้นผมบน หน้าผากของเธอหนึ่งที
“เดินทางลำบากแน่เลย เดียวผมไปส่งคุณเอง”
“ค่ะ”
ตู้หลิงเซวียนยื่นมือจับกระเป๋าจากมือของเธอ ส่วนมืออีก ข้างจับมือของเธอไว้ วินาทีที่จับมือกัน เขาลูบมืออันอ่อนนุ่ม ไร้กระดูกของเธอ แต่กลับลูบไม่พบแหวนบนนิ้วมือของเธอ
เขาจูงมือเธอเดินออกจากสนามบินโดยไม่ซักถาม แล้ว ช่วยเธอเปิดประตูรถยนต์อย่างสุภาพบุรุษด้วย จากนั้นก็ขับ รถส่งเธอกลับบ้าน
“ใช้ชีวิตอยู่ที่ประเทศจีนเป็นยังไงบ้าง?”
แอนน่าพยักหน้าเล็กน้อย “ดีค่ะ ประเทศจีนดีกว่าที่ฉัน คาดคิดไว้เยอะเลยค่ะ” ไม่ใช่แค่เยอะ แต่เยอะมากๆ
ตู้หลิงเซวียนจับพวงมาลัยทั้งสองมือ ซึ่งระหว่างขับรถ สายตาก็แอบเหลือบมองมือที่ว่างเปล่าของเขาอยู่บ่อยๆ
“คืนพรุ่งนี้แด็ดดี้กับหม่ามีจัดงานเลี้ยงที่บ้านด้วย และเชิญ คุณ คุณลุงและคุณน้าเข้าร่วมด้วย ทั้งสองครอบครัวจะได้ ปรึกษาหารือเรื่องแต่งงานกันสักที แต่ก็ต้องฟังความคิดเห็น ของเธอด้วยว่า เธอชอบรูปแบบไหนจะได้นำมาจัดการ”
แอนน่ารู้สึกเบื่อหน่ายกับหัวข้อสนทนานี้มาก “เควิน ต้อง รีบจัดงานแต่งงานด่วนขนาดนี้เลยหรอ?”
ตู้หลิงเซวียนยังคงยิ้มและมองเธอ “ใช่ ผมรีบร้อน ผม อยากรีบแต่งงานกับคุณ อยากให้คุณเป็นภรรยาของผม เร็วๆ ภรรยาของผมทั้งเก่ง และโดดเด่นแบบนี้ หากผมไม่รีบ กลัวคนอื่นจะแย่งชิงไป”
ถึงแม้ฟังน้ำเสียงจะดูเหมือนพูดหยอกเล่น แต่เนื้อหา จริงจังมาก หรือว่าเขารู้จักหลงเชียวแล้ว?
แต่…เขาก็ยังคงนิ่งสงบอยู่
แอนน่าเหลือบมองใบหน้าด้านข้างของเขา สองปีแล้ว เขา ยังคงสุขุม และเป็นสุภาพบุรุษแบบนี้มาด้วยตลอด ทั้งที่อายุ แต่สามสิบปี แต่กลับรู้สึกเหมือนเป็นคนผ่านประสบการณ์มา โชกโชน อีกอย่างทั้งที่เขารู้ว่าเธออยู่กับหลงเซียว แต่ก็ไม่บีบบังคับ
ถาม และตำหนิเลย
การมีบุคลิกแบบนี้ถือเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการเก็บความ
คิดในใจที่เยี่ยมยอดมาก ในโลกของแอนน่าเขาแสดงเป็นบทบาทอะไรกันแน่?