ประธานหยิ่งยโสของฉัน - ตอนที่ 258
ตอนที่ 258 หมอสุดเทพกับเด็กใหม่ในสถานที่ทำงาน
“แอนน่า ผู้ช่วยใหม่ของคุณมารายงานตัวแล้ว”
“ค่ะ ให้พวกเขาเข้ามา”
ได้รับคำอนุญาต หลินซีเหวินกับหวาเทียนก็เดินเข้ามาในห้องทำงา นของลั่วหาน หลินซีเหวินสวมชุดสูทกระโปรง เสื้อผ้าทำให้ภาพลักษณ์ ที่ค่อนข้างหน่อมแน้มของเธอเพิ่มความรู้สึกที่เป็นผู้ใหญ่มากขึ้นเล็ก น้อย
เพียงแต่แว่นตากรอบดำทำให้เธอไม่ว่ายังไงก็แฝงไปด้วยความเป็น นักเรียนอยู่ตลอด
แต่หวาเทียนกลับสวมชุดกีฬาลำลองอย่างตามอำเภอใจ คนทั้งคน ยังคงเป็นเหมือนวันนั้นที่มาสัมภาษณ์ แสดงออกถึงความกำเริบเสิบ สานทำตามใจต้องการ
“เริ่มจากวันนี้ ภายในสามเดือนข้างหน้าต่างก็เป็นระยะเวลาในการ ทดลองงานของพวกคุณ ในช่วงระยะเวลานี้ หากความร่วมมือในการ ทำงานระหว่างเราไม่ราบรื่น เช่นนั้นฉันก็จะปฏิเสธทั้งสองท่าน หาก ความร่วมมือในการทำงานราบรื่น เช่นนั้นก็ขอแสดงความยินดีกับทั้ง สองท่าน พวกคุณได้กลายเป็นผู้ช่วยของฉันอย่างเป็นทางการ”
หลินซีเหวินใบหน้าเต็มไปด้วยรอยยิ้มมองดูไอดอลของตนเอง “แอน น่า คุณวางใจเถอะค่ะ พวกเราจะต้องตั้งใจพยายาม! อย่างแน่นอน ค่ะ!
หวาเทียนกลับยิ้มขึ้นบางๆ “นี่ก็แน่นอน ไม่แน่ตำแหน่งของคุณก็ สามารถถูกคนแทนที่ได้เช่นเดียวกัน
ลั่วหานแสดงท่าทีที่ไม่แยแสออกมาต่อการยั่วยุของหวาเทียน “ดี มาก ทหารที่ไม่อยากเป็นแม่ทัพไม่ใช่ทหารที่ดี ตำแหน่งของฉัน ยอมรับการท้าทายของคุณได้ตลอดเวลา รอคอยวันนั้นที่คุณจะมา แทนที่ฉัน” หลินเหวินในเวลานั้นเอ่ยถึงความสงสัยนที่มีต่อคุณสมบัติประจำ ตัวของหวาเทียนออกมา เฉียงริมฝีปากยิ้มขึ้นเล็กน้อย มองดูร่างที่สูง ใหญ่ของเขาอย่างดูหมิ่น “ฉันว่า เธอไม่รู้สึกว่าตัวเองเกินไปหน่อย หรอ! เหอะๆ เพิ่งจะทำงานวันแรกก็พูดจาสามหาว เธอระวังแม้แต่ช่วง ทดลองงานก็ยังไม่ผ่าน”
หวาเทียนกลับยิ้มตอบรับคำตำหนิของเธอ “ผ่านไปได้หรือไม่ พวก เรารอดูได้”
“ชิส์ฉันจะรอฆ่าเธอภายในวินาทีเดียว! เตรียมตัวให้พร้อมล่ะ! หลินซี่เหวินกัดริมฝีปากล่างเอาไว้แน่น ให้เธอบ้าคลั่งไปก่อน! เธอ
รอไปก่อน ที่พี่สาวอย่างฉันมีก็คือวิธีการที่จะรับมือกับเธอ!
ลั่วหานเคาะไปบนโต๊ะเล็กน้อย “เอาล่ะ พวกคุณสองคน ตอนนี้ไป ห้องทำงานที่อยู่ด้านข้างดำเนินการส่งมอบงาน มีข้อสงสัยอะไรมาหา ฉันได้ตลอดเวลา”
“ค่ะ”
“อึม”
ทั้งสองคนออกไปจากห้องทำงาน ลั่วหานส่ายศีรษะ สองคนนี้ที่เธอ รับสมัครเข้ามา มีนิสัยจำเพาะส่วนบุคคลมากจริงๆ
ในเวลานี้เอง โทรศัพท์ที่อยู่บนโต๊ะทำงานของลั่วหานก็ดังขึ้น
“ใครคะ?”
“ลั่วหาน มีเวลาว่างหรือเปล่า? มีคนไข้รายหนึ่งคุณมาดูสักหน่อย”
เสียงของถังจิ้นเหยียน?
“ค่ะ”
แอนน่าหยิบเครื่องฟังตรวจขึ้นก้าวเท้าใหญ่ๆเดินออกนอกประตู ฝีเท้าเร่งรีบมากจนเกินไป รองเท้าส้นสูงกับพื้นเสียดสีกันส่งเสียงกึกๆ ออกมา ตอนที่ผ่านห้องทำงานที่อยู่ด้านข้าง ถูกหลินซีเหวินกับหวา เทียนมองเห็นเงาร่างที่มีฝีเท้าเร่งรีบของเธอเข้าพอดี หลินซี่เหวินบ่นพึมพำกับตัวเองอย่างไม่เข้าใจว่า นางฟ้าก็มีตอนที่เร่ง รีบกับเขาด้วยหรอ?
เพียงแต่ที่ทำให้นางฟ้าร้อนรนขนาดนี้จะเป็นเรื่องอะไรกันนะ?
ลั่วหานรีบร้อนไปถึงห้องฉุกเฉิน ถังฉินเหยียนเพิ่งจะทำCPRหัวใจ อย่างเร่งด่วนให้กับคนไข้เสร็จ มอนิเตอร์แสดงผลความดันเลือดและ อัตราการเต้นหัวใจของผู้ป่วย มองดูตัวเลข สถานการณ์ของผู้ป่วย ย่าแย่มาก มีอันตรายต่อชีวิตได้ตลอดเวลา
“หมอถัง สถานการณ์เป็นยังไงบ้างคะ?”
ได้ยินเสียงของลั่วหาน ถังจิ้นเหยียนถอดเครื่องฟังตรวจออก แขวน ไว้บนลำคอ “เป็นเคสที่พิเศษรายหนึ่ง ตอนที่เข้ามาได้ช็อกหมดสติไป แล้ว คนไข้หลอดเลือดหัวใจขยายใหญ่ บวกกับรากฐานหัวใจย่ำแย่ อย่างสาหัส ปริมาณเลือดเกิดปัญหาที่รุนแรง ทั้งหลอดเลือดแดงต่าง ก็ได้เสื่อมสภาพลงแล้ว แต่ตอนนี้ผู้ป่วยมีอายุเพียงแค่สามสิบเก้าปี”
ลั่วหานรับเคสผู้ป่วยมาดูอยู่ครู่หนึ่ง ดวงตาตกลงไปจ้องข้อสรุปการ วินิจฉัยที่อยู่ด้านบนอย่างเขม็ง “วิธีการรักษาดั้งเดิมดูเหมือนจะใช้ไม่ ได้ผลแล้ว”
“ใช่แล้ว พวกเราต้องคิดโปรแกรมการผ่าตัดที่เหมาะสมกับเขาที่สุด ออกมา ผู้ป่วยอายุยังน้อย ไม่ได้รับการรักษาที่ถึงที่สุดต่อไปจะเกิด ปัญหาที่ตามมาไม่รู้จบ
ลั่วหานพยักหน้า “ฉันรู้ค่ะ นำผู้ป่วยส่งไปยังห้องสังเกตอาการก่อน หมอถังคะ แผนกศัลยกรรมเปิดการประชุมด้วยกันเถอะค่ะ”
ถังจิ้นเหยียนอ้อมเปลหามผู้ป่วยเดินออกไปจากห้องฉุกเฉินด้วยกัน กับลั่วหาน ใช่แล้ว ได้ยินว่าผู้ช่วยใหม่ของคุณได้มารายงานตัวแล้ว เป็นยังไงบ้าง? ยังพอใจอยู่หรือเปล่าครับ?”
ลั่วหานอดไม่ได้ที่จะหัวเราะขึ้นเล็กน้อย สายศีรษะอย่างค่อนข้างที่ จะจนปัญญา “ทักษะทางการแพทย์ของทั้งสองคนยังต้องรอการ พิจารณา แต่นิสัยจำเพาะส่วนบุคคลของทั้งคู่ ต่างก็แข็งแกร่งเอามากๆ กลับไปคุณเห็นก็รู้แล้วค่ะ” ถังจิ้นเหยียนยิ้มขึ้นตาม “แบบนี้ ผมจะต้องทำความรู้จักพวกเขาสัก หน่อยแล้วจริงๆ สามารถโดดเด่นออกมาจากในหลายพันคน จะต้อง เป็นคนที่เกินมาตรฐานธรรมดาทั่วไปอย่างแน่นอน มีนิสัยจำเพาะส่วน บุคคลหน่อยสามารถเข้าใจได้”
หลินซ์เหวินไปซื้อกาแฟที่ด้านล่างตึก มือนึ่งถือกาแฟแก้วนึงเดินขึ้น อาคาร ในสมองคิดถึงโปรแกรมการรักษาของเคสพิเศษที่แอนน่าพูด เมื่อสักครู่นี้ ยังคาดเดาว่ากาแฟที่ตนเองซื้อให้กับไอดอลจะเป็นรสชาติ ที่เธอชอบใช่หรือเปล่า
พอใจลอยเช่นนี้ หลังจากที่ลิฟต์หยุดลง ก็พุ่งพรวดออกมา
“พรวด! ! ”
ฝีเท้าก้าวเร็วเกินไปหน่อย กาแฟแก้วหนึ่งสาดลงบนร่างกายของคน ที่รอลิฟต์จนหมดอย่างตรงๆ ! หลินซีเหวินตื่นจากภวังค์ในทันที อ๊ะ? ขอโทษค่ะขอโทษ! ” ปาก
เอ่ยขอโทษติดต่อกัน รีบเงยหน้าขึ้นไปมอง..
ด้านหน้า ชายหนุ่มที่สวมชุดกาวน์สีขาวลำตัวตั้งตรง ใบหน้าที่อ่อน โยนเต็มไปด้วยรอยยิ้มของความนิสัยดี คิ้วรูปปลายดาบบินเฉียง เข้าไปที่จอนผม ดวงตาที่ราวกับหินออบซิเดียนก็ไม่ปานคู่หนึ่งที่ส่อง สะท้อนก็คือสายตาที่ปลอบประโลม ผิวที่ขาวใสมากยิ่งกว่าผู้ทั่วไป คน ทั้งคนดูสง่างามจนราวกับเจ้าชายชนชั้นสูงที่อยู่ในปราสาทสมัยกลาง
คิดไม่ถึงว่าโรงพยาบาลจะยังมียังมีหมอที่หล่อขนาดนี้!
สายตาของหลินซีเหวินแอบมองไปบนป่ายชื่อที่ติดอยู่บนกระเป๋า เสื้อของเขา เหลือบเห็นตัวอักษรสามตัวที่อยู่บนนั้น
ถังจิ้นเหยียน
ท่านนี้ หรือว่าก็คือถังจิ้นเหยียนเทพผู้ยิ่งใหญ่แห่งแผนกศัลยกรรม หัวใจที่อยู่ในคำเล่าลือ?
พระเจ้า! คิดไม่ถึงว่าจะไม่ใช่คุณลุงที่อยู่ในจินตนาการของเธอ แต่ เป็นหนุ่มหล่อที่ได้มาตรฐานคนหนึ่ง!
โรงพยาบาลหวาเซี่ยช่างเทพจริงๆ! หลังจากนิ่งอึ้งไปชั่วขณะ หลินซีเหวินรีบดึงกระดาษทิชชู่ออกมา ช่วยถึงจิ้นเหยียนเช็ด “ขอโทษค่ะหมอถัง เมื่อครู่นี้ฉันไม่เห็น ขอโทษ ด้วยจริงๆ”
ถังจิ้นเหยียนหยุดยั้งเธอ สะบัดชุดกาวน์ที่ถูกย้อมไปด้วยคราบ กาแฟเป็นรอยใหญ่เบาๆด้วยตนเอง “ไม่เป็นไรครับ คุณไปทำงาน เถอะ”
ประโยคเดียว ทำให้หลินซีเหวินตกตะลึงอยู่กับที่อีกครั้ง!
พระเจ้าเสียงของเขาทำไมถึงได้อ่อนโยนขนาดนี้ ? ได้ยินเขาพูด ก็ ราวกับมีลมเย็นๆพัดผ่านหน้า ทุกตัวอักษรล้วนแนบไปด้วยความรู้สึก อบอุ่นสบายของลมในฤดูใบไม้ผลิเดือนมีนาคม
บุคลิกของเขา การถูกอบรมของเขา เสียงของเขา ทุกสิ่งทุกอย่าง ของเขาต่างก็ให้ประสบการณ์แบบหนึ่งที่เรียกได้ว่าสมบูรณ์แบบกับ คนอื่น
“ขอโทษด้วยจริงๆค่ะหมอถัง งั้น! กาแฟแก้วนี้มอบให้กับคุณ ถือว่า ชดเชยความผิดให้กับคุณก็แล้วกันค่ะ คุณจะต้องรับเอาไว้!
ถังจิ้นเหยียนยิ้มขึ้นบางๆ หัวคิ้วกลับขมวดเข้าหากัน “ไม่ต้องครับ คุณดื่มเถอะ” “ไม่ได้ๆค่ะ ฉันทำชุดของคุณสกปรก คุณจะต้องรับเอาไว้! หมอถัง ตอนนี้คุณนำเสื้อผ้าเปลี่ยนออกมาเถอะค่ะ ฉันช่วยคุณซัก รับประกัน
ว่าจะต้องซักอย่างสะอาดหมดจด”
สำหรับความกระตือรือร้นเอาใจใส่ที่มากเกินระดับของหลินซีเหวิน ถังจิ้นเหยียนแสดงออกว่าค่อนข้างที่จะหวาดกลัว เอ่ยขึ้นติดต่อกันว่า “ไม่ต้องครับไม่ต้อง ผมยังมีธุระด่วน ขอตัวไปก่อน”
พูดจบ ถังจิ้นเหยียนก็เดินเข้าลิฟต์ไปอย่างกับหลบภัยยังไงอย่างงั้น มองดูคราบกาแฟที่อยู่บนร่างกาย แล้วคิดถึงความกระตือรือร้นเอาใจใส่ของสาวน้อยเมื่อสักครู่นี้อีก ครั้ง เขาเพียงได้แต่สายศีรษะแล้วถอนหายใจออกมา
เด็กผู้หญิงวัยรุ่นสมัยนี้ ต่างก็เป็นแบบนี้ทั้งหมดเลยใช่หรือเปล่า? น่า กลัวจริงๆ
หลินซีเหวินนำเอาหัวใจดวงหนึ่งที่เต้นตึกตักไม่เป็นจังหวะกลับมาถึง
ห้องทำงาน ความบ้าผู้ชายที่เต็มไปทั่วทั้งใบหน้ายังคงล่องลอยอยู่บน
ใบหน้าไม่หาย
หวาเทียนเงยศีรษะมองเห็นความรู้สึกที่อยู่บนใบหน้าของหลินซึเห วิน มุมริมฝีปากเฉียงขึ้นส่งเสียงหัวเราะอย่างประชดประชันออกมา “ดู ท่าคือหวั่นไหวกับผู้ชายหล่อแล้ว”
หลินซีเหวินเหลือบมองหวาเทียนแวบหนึ่งอย่างไม่สบอารมณ์นัก “เป็นผู้ชายแบบเดียวกัน ทำไมแตกต่างกันมากมายขนาดนั้นนะ ระหว่างเธอกับหมอถัง ความแตกต่างห่างไกลกันไม่ใช่แค่ทีละเกรด! หมอถังคือสุภาพบุรุษที่แท้จริง สง่างาม สูงศักดิ์ มีการอบรม แต่เธอ โปรดให้อภัยที่ฉันต้องพูดความจริง จากบนร่างกายของเธอฉันเห็น เพียงแค่สองคำโอหัง! ”
หวาเทียนไม่ปริปากยอมรับหรือปฏิเสธ เปิดพลิกดูเคสผู้ป่วย เหลือบ มองเธอ “ขอบคุณมากสำหรับคำประเมินผล เธอพูดได้อย่างตรง ประเด็นมาก
“เหอะๆ! ไม่ต้องเกรงใจ! ”
ออกมาจากห้องผู้ป่วย ลั่วหานเงยศีรษะขึ้นพบเข้ากับเกาหยิ่งจือ
“ผู้อำนวยการเกา บังเอิญจริงๆ ค่ะ” ลั่วหานผงกศีรษะเล็กน้อย ดวงตาครึ่งนึงคือการตรวจสอบ ครึ่งนึงคือรอยยิ้มที่เยือกเย็น
เกาหยิ่งจืออุทานออกมาหนึ่งคำ “บังเอิญหรอ? ทำไมฉันถึงไม่รู้สึก?
ลั่วหาน บอกตามตรง ฉันไม่อยากจะมองเห็นเธอเลยแม้แต่น้อย”
“อ่อ? แต่ฉันอยากจะมองเห็นผู้อำนวยการเกามาก ทุกครั้งที่พบเข้า กับผู้อำนวยการเกา ฉันต่างก็รู้สึกว่าสบายไปทั้งตัว อารมณ์ก็เปลี่ยน เป็นดีขึ้น ผู้อำนวยการเกา คุณคือผู้เชี่ยวชาญของแผนกอายุรกรรม หัวใจ สู้อธิบายกับหน่อยสิคะว่านี่คือเหตุผลอะไรกัน?”
เกาหยิ่งจือบีบแฟ้มประวัติผู้ป่วยเอาไว้แน่น “ฉู่ลั่วหาน เธออยู่ต่อหน้า ของฉันได้ใจอะไร?! เธอนึกว่าเธอกระแทกกระทั้นส่อเสียดฉลาด มาก? เหอะๆ ! ทำตัวเป็นเด็กจริงๆ!
ลั่วหานก้าวขึ้นไปข้างหน้าหนึ่งก้าว รองเท้าสันสูงตกลงบนพื้น ส่ง เสียงที่ก้องกังวานออกมา เพียงครู่เดียวก็ดึงให้ระยะห่างของทั้งสองคน เข้าใกล้กัน การเข้าใกล้อย่างกะทันหันของเธอทำให้แผ่นหลังของเกา หยิ่งจือสั่นสะเทือนขึ้นตาม
แสงสว่างที่อยู่ภายในดวงตาของลั่วหานแฝงไปด้วยความเยาะเย้ย ถากถาง เสียงไม่ดังแต่เพียงพอที่จะทำให้เกาหยิ่งจือฟังจนรู้สึกไม่ สบายไปทั่วทั้งตัว “เกาหยิ่งจือ แน่นอนว่าฉันสามารถเปลี่ยนวิธีการได้ แต่ฉันกลัวคุณจะรับไม่ไหว ถึงอย่างไรยุยงผู้อื่นให้กระทำความผิด จงใจฆ่า ความผิดเช่นนี้พอที่จะทำให้คุณได้กินข้าวกล่องภายในคุกไป หลายปี”
สีหน้าของเกาหยิ่งจือเขียวปัดภายในชั่วพริบตา ดวงตาหรีลงครึ่ง หนึ่ง “ฉ่ลั่วหาน เธอมีหลักฐานอะไร! ระวังฉันจะฟ้องเธอข้อหาหมิ่น ประมาท!
ลั่วหานกลับเคลื่อนตัวออกจากข้างกายของเธอเล็กน้อย กลับคืนสู่ ระยะห่างเมื่อสักครู่นี้ “ดีค่ะ! ฉันรออยู่ตลอดเวลา เพียงแต่ก่อนหน้าที่ จะถึงตรงนี้ ทางที่ดีที่สุดคุณเกรงใจกับฉันหน่อย วันไหนหากฉันไม่สบ อารมณ์ขึ้นมาแล้วล่ะก็ ไม่เพียงแต่สามารถทำให้คุณถอยออกไปจาก วงการแพทย์ชั่วนิรันดร์ ยังจะทำให้ชื่อเสียงของคุณเสียหายจนไม่มี เหลือ ปืนกลับขึ้นมาไม่ได้อีก”
“แก! เกาหยิ่งจือโกรธจนใบหน้าซีดเผือดจ้องลั่วหานด้วยความ โมโห หลังจากนั้นหนึ่งคำก็พูดคำอื่นไม่ออกอีก
พอดีกับที่มีหมอเดินผ่านเข้ามา พยักหน้าให้กันเป็นการทักทาย วหานเอ่ยขึ้นด้วยรอยยิ้ม “ผู้อำนวยการเกา ลำบากคุณแล้วค่ะ! ดูแล สุขภาพด้วยนะคะ!
หมุนตัวเดินออกจากที่นั่นไป นิ้วมือของลั่วหานม้วนกลายเป็นหมัด เกาหยิ่งจือ ทางที่ดีที่สุดเธออย่าถูกฉันจับหลักฐานได้ ไม่เช่นนั้นฉันจะ
ให้เธออยู่ในคุกไปตลอดชีวิต! อาศัยสถานะกับอิทธิพลของหลงเชียว ส่งเกาหยิ่งจือเข้าไปในคุก นั้นไม่ใช่เรื่องยาก แต่ที่ลั่วหานคิดก็คือ ให้เธอเข้าไปภายใต้
สถานการณ์ที่หลักฐานที่แม่นยำไม่มีข้อสงสัย
“ไฮ! พี่สะใภ้ใหญ่! !
ลั่วหานยังไม่ทันเดินไปถึงห้องทำงานของตนเอง ก็เห็นหลงจื่อกำลัง
เอียงตัวพิงเข้ากับประตูรอตนเองอยู่
หัวคิ้วขมวดเข้าหากัน “เธอมาอยู่ที่นี่ได้ยังไง? ร่างกายไม่สบาย
หรอ?”
หลงจื่อยักไหล่ “ไม่ใช่ครับ ผมมาโรงพยาบาลตรวจสอบการเงิน โอ๊ย เป็นผู้จัดการฝ่ายการเงินยุ่งยากจริงๆ พี่สะใภ้ใหญ่ ผมลำบากมาก มีรางวัลอะไรสักหน่อยหรือเปล่า?”
ลั่วหานฉีกมุมริมฝีปากออกเป็นรอยยิ้มบางๆ “มีสิ เพนิซิลลิน อิริโทร มัยซิน อะดรีนาลีน เธออยากได้เท่าไร พี่ฉีดให้เธอเท่านั้น พี่เลี้ยง ฟรี”
หลงจือกุมขมับอย่างเงียบๆ “ก็ได้ๆ! ผมก็รู้ว่าล้อเล่นกับพี่ไม่ได้ พอ ล้อเล่นพี่ก็จริงจัง ยาที่ล้ำค่าขนาดนั้น ผมจะทำใจสิ้นเปลืองได้ยังไงกัน ล่ะ?”
“พูดมาเถอะ มาหาพี่มีธุระอะไร?” ลั่วหานผลักประตูให้เปิดออก เชิญ หลงจื่อเข้ามานั่งที่ด้านใน หลงจื่อคว้าเก้าอี้หมุนมาแล้วนั่งลง “พี่สะใภ้ใหญ่ เมื่อครู่นี้ผมเห็นถัง
จิ้นเหยียน พวกพี่ทั้งสองกลับมาที่โรงพยาบาลเดียวกันอีกแล้ว ทำไม
ผมถึงมักจะรู้สึกในใจแปลกๆล่ะ?”
“นั่นก็เป็นเพราะว่าเธอคิดมากจนเกินไป พี่กับเขาตอนนี้ก็คือเพื่อน ร่วมงานกัน แล้วก็ คือเพื่อน ไม่มีอย่างอื่นแล้ว” ในขณะที่พูด ลั่วหาน เงยหน้าขึ้นจิ้มไปที่คาง “อยากดื่มอะไร?”
“มีอะไรบ้าง?”
ลั่วหานยักไหล่ “พี่ให้ผู้ช่วยลองดู” ในขณะที่พูดก็โทรศัพท์ภายใน “เสี่ยวหลิน เข้ามา”
“พี่สะใภ้ใหญ่มีชีวิตที่ไม่เลวเลยนะครับ คิดไม่ถึงว่าจะมีผู้ช่วยยกน้ำ
ชารินน้ำแล้ว! อั้ยยะ สวัสดิการใช้ได้”
หลินซีเหวินเคาะประตู “แอนน่า มีอะไรสั่งคะ?”
หลงจื่อหรี่ตาลงเล็กน้อย เสียงนี้ทำไมฟังดูค่อนข้างที่จะคุ้นหู?