ประธานหยิ่งยโสของฉัน - ตอนที่ 260
ตอนที่ 260 เกี่ยวน้ำตราสามี
ไฟดวงใหญ่ที่อยู่บนแท่นผ่าตัด”พรึ่บ”ดับลง
ผู้ป่วยถูกเข็นออกจากห้องผ่าตัด ลั่วหานถอดหน้ากากอนามัยออก ทิ้งเข้าไปในถังขยะ
หลินซีเหวินดึงแขนของลั่วหานเอาไว้ “ไอดอลคะ คุณคือไอดอล ของฉันจริงๆ ! คุณช่างเท่ช่างเก่งช่างสุดยอด! คุณไม่รู้ว่าตอนที่คุณ ลงมีดแรก ลูกตาของฉันแทบจะบินออกมา ฉันเรียนหมอมาหลายปี ขนาดนี้ ทำการทดลองด้วยกันกับอาจารย์ที่ปรึกษาหลายต่อหลายครั้ง แล้วก็ทำการผ่าตัดทางคลินิกมาหลายครั้ง แต่ฉันเห็นการใช้มีดผ่าตัด ได้เท่ห์ขนาดนี้เป็นครั้งแรกจริงๆค่ะ”
ลั่วหานมองสังเกตหลินซีเหวินที่ใบหน้าแดงระเรื่อขึ้นเพราะความตื่น เต้น ดันแว่นตาของตนเองที่แทบจะหล่นมาถึงปลายจมูก “ต่อไปคุณก็ ทำได้ ตั้งใจเรียน”
“ค่ะ! ฉันจะต้องตั้งใจเรียนอย่างแน่นอน ฉันรับประกันว่าจะไม่ให้ คุณขายหน้าแน่! ไอดอลคะ คุณรับฉันเป็นศิษย์กันกุฏิเถอะค่ะ?”
หัวคิ้วของลั่วหานถูกเธอกระตุ้นจนเดี๋ยวเลิกขึ้น เดี่ยวขมวดเข้าหา กัน “ฉันไม่รับลูกศิษย์ ต่อไปทำการผ่าตัดคุณก็เรียนรู้เป็นแล้ว”
หลินซีเหวินแม้ว่าจะค่อนข้างผิดหวังเล็กๆ แต่การที่สามารถตามอยู่
ข้างกายไอดอลของตัวเองได้รับอิทธิพลจากสิ่งที่ได้เห็นและได้ยินอยู่
เป็นประจำ ก็คือความโชคดีที่ยิ่งใหญ่ ความสุขที่ยิ่งใหญ่แล้ว
หวาเทียนมองดูหลินซีเหวินด้วยสายตาค่อนข้างไม่แยแส “ผู้ช่วย หลิน อย่าประจบสอพลออีกเลย ไอดอลของเธอไม่หลงกล อยากเรียน รู้ความสามารถก็ตั้งใจเรียนตาม พูดจาไร้สาระขนาดนี้ ไม่มีความหมาย อะไร”
หลินซีเหวินหัวเราะเหอะๆอย่างประชดประชัน แหงนหน้ามองหวา เทียนที่เพิ่งถอดหน้ากากอนามัยเผยให้เห็นแก้มที่ขาวใสมากยิ่งขึ้น “ฉันว่านะนายหน้าขาว นายทั้งวันทำหน้าไร้ความรู้สึกหมายความว่ายัง ไง? ใครรังแกเธอหรอ? ใครทำให้เธอไม่สบอารมณ์แล้วใช่หรือเปล่า? นึกว่าตัวเองคือกู่หว่าไจ่หรือไง ทำหน้าทำตาออกมา ก็ไม่รู้เหมือนกันว่า ให้ใครดู! ”
หวาเทียนถอดหมวกออกอย่างสบายๆ มองลงไปที่หลินซีเหวินก็ เป็นการหัวเราะอย่างประชดประชันที่ดูหมิ่นไม่แยแสอย่างถึงขีดสุด “เกี่ยวอะไรกับเธอ?”
พูดจบก็ก้าวขายาวๆออกไปจากห้องผ่าตัด แผ่นหลังทั้งเย็นทั้งเท่ห์
ดึงดูดการมุงดูและการอุทานที่ตื่นเต้นของพยาบาลสาวๆไม่น้อย โรงพยาบาลสถานที่ที่น่าเบื่อแห้งเหี่ยวแบบนี้ ยากที่จะพบเข้ากับ ชายหนุ่มรูปหล่อที่มีนิสัยจำเพาะตัว แน่นอนว่าทุกคนจะไม่ปล่อย โอกาสในการมุงดูให้ผ่านเลยไปเด็ดขาด อย่าพูดถึงหวาเทียนทั้งวันทำ หน้าไร้อารมณ์ ต่อให้ใบหน้าของเขาถูกคลุมไปด้วยน้ำแข็ง ก็ขวางกั้น สายตาอันเร่าร้อนของพยาบาลสาวๆ ไม่อยู่เช่นเดียวกัน
“! วางมาดอะไรกัน! ก็แค่ช่วงทดลองงาน ผ่านช่วงทดลองงาน ไปไม่ได้มีให้นายร้องไห้แน่! ” หลินซีเหวินนินทาอยู่สองสามประโยค หันหน้ากลับมาอีกครั้ง “เอ๋? ไอดอลหายไปไหนแล้ว?”
ลั่วหานถอดชุดผ่าตัดออก ไปเปลี่ยนชุดที่ห้องเปลี่ยนเสื้อผ้า คลำไป ถูกโทรศัพท์มือถือที่อยู่ในกระเป๋าเสื้อ เวลาขึ้นแสดงว่าสี่ทุ่มสี่สิบนาที ด้านบนมีเบอร์ที่ไม่ได้รับสายหนึ่ง ข้อความที่ไม่ได้อ่านข้อความหนึ่ง ต่างก็คือหลงเชียวที่โทรและส่งเข้ามา
“ผ่าตัดเสร็จแล้ว มาที่ลานจอดรถชั้นใต้ดิน ผมรอคุณ”
ลั่วหานมองดูเวลาที่ข้อความถูกส่งเข้ามา หนึ่งชั่วโมงก่อน ไม่ใช่มั้ง? หรือว่าเขาจะรออยู่ที่ลานจอดรถจนถึงตอนนี้?
อีกทั้ง โทรศัพท์ได้โทรมาก่อนข้อความ หลังจากส่งข้อความเสร็จก็ ไม่มีข่าวคราวแล้ว
ลั่วหานกำลังแปลกใจว่าเขารู้ได้ยังไงว่าวันนี้ตนเองมีผ่าตัด สมองก็มี แสงกระพริบขึ้นมา เธอหัวเราะกับตัวเอง ใช่ สิ เขาคือหลงเซียว ผู้ บริหารชั้นสูงที่สุดของโรงพยาบาลหวาเซี่ย เช็คตารางงานของหมอคน หนึ่ง ช่างง่ายเหลือเกิน
ทำไมถึงมีความรู้สึกแบบถูกสอดแนมกันล่ะ?
ลั่วหานหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมา คิดจะโทรไปหาเขา แต่คิดอยู่สอง สามวินาทีก็ตัดสินใจล้มเล็ก หากเขารอเธออยู่ตลอด ถ้างั้นภายในหนึ่ง ชั่วโมงนี้คงจะงีบหลับอยู่บนรถสักหน่อย รบกวนเขาก็ไม่ดีแล้ว
มาถึงชั้นB2 ลั่วหานก็พบโรลส์รอยซ์สีดำที่สะดุดตาคันนั้นจอดอยู่ใน ที่ๆเด่น ก้าวเท้าใหญ่ๆเดินไปถึงด้านหน้ารถ สองเข้าไปในรถผ่าน หน้าต่างกระจก คนบางคนดูเหมือนกำลังพิงไปบนเบาะที่นั่งพักผ่อน
ขวางกั้นด้วยกระจกแผ่นนึง ลั่วหานก็มองดูท่าทีที่หลับสนิทของเขา เช่นนี้ มุมปากของตนเองยกขึ้นอย่างช้าๆ โดยที่ไม่รู้ตัว
คนที่อยู่ด้านใน บางทีอาจจะเหนื่อยแล้วจริงๆ พิงไปบนเบาะที่นั่ง นอนหลับลึก แต่ถึงแม้จะเป็นท่านอนที่ไม่สบายขนาดนี้ เขากลับรักษา ลำตัวตั้งตรงอย่างที่ผ่านมาเอาไว้ได้ สองมือประสานเขาหากันวางซ้อน อยู่บนท้องน้อย ชุดสูทดูเหมือนไม่มีรอยยับอะไร ทุกคืบต่างก็พอ เหมาะพอดีขนาดนั้น
“เจ้าชายนิทราคนหนึ่งดีๆนี่เอง”
ลั่วหานอุทานออกมาอย่างห้ามเอาไว้ไม่อยู่
รอไปยี่สิบนาที เห็นหลงเชียวยังคงไม่ตื่นขึ้นมา ลั่วหานเคาะ หน้าต่างรถเบาๆ เพียงแค่เบาๆหนึ่งที่ คนที่อยู่ด้านในก็ตื่นแล้ว
ลืมดวงตาอันล้ำลึกราวกับระลอกคลื่นทะเลสาบที่มองไม่เห็นพื้นให้ เปิดออก ภายใต้แสงไฟสลัว สว่างไสวเป็นพิเศษ สว่างจนราวกับจุด โคมไฟในสีของตอนกลางคืนให้ติด ส่องสว่างให้กับผู้ที่เดินทางในยาม ค่ำคืน
ผลักประตูให้เปิดออกจากด้านใน หลงเซียวโผล่ศีรษะออกมาส่ง รอยยิ้มของความรักใคร่เอ็นดูให้กับลั่วหาน “ยืนนานเท่าไรแล้ว?” “เปล่านี่คะ ฉันเพิ่งมา”
หลงเซียวกลับไม่เชื่อ รอจนกระทั่งเธอขึ้นมานั่งบนรถเรียบร้อย ก็ โน้มตัวลงไปคาดเข็มขัดนิรภัยให้กับเธอ “ผมนอนหลับไป”
เขารักษาท่าคาดเข็มขัดนิรภัยเอาไว้ ช่วงลำตัวท่อนบนอีกนิดเดียวก็ จะแนบชิดกับเธอ ถูกขั้นด้วยระยะห่างที่ใกล้จนไม่อาจจะใกล้ได้อีก และเสื้อผ้าที่บางจนไม่อาจจะบางได้อีก หัวใจทั้งสองดวงดูเหมือนกัน แนบติดเข้าไว้ด้วยกันแล้ว เต้นได้เร็วมาก
“ไม่อย่างงั้น ฉันขับรถ คุณนอนต่อ?” ลำคอของลั่วหานค่อนข้างแห้ง เหือด เขาเข้าใกล้ขนาดนี้ กลิ่นหอมของเตกีล่าที่อยู่บนร่างกายลอย เข้ามาในจมูกสูดดมเข้าไปในปอด ปั่นป่วนความปรารถนาตาม สัญชาตญาณบางอย่าง
หลงเซียวโค้งมุมริมฝีปากขึ้น ยิ้มอย่างช้าๆ “ผมนอนก็เพื่อจะตั้งใจ ขับรถให้กับคุณ ทำการผ่าตัดยืนอยู่หลายชั่วโมง ภรรยาของผม เหนื่อยแย่เลยสิ”
กระแสความอุ่นลอยสูงขึ้นจนอบอุ่นในหัวใจของลั่วหาน เธอพยัก หน้ายอมรับอย่างว่านอนสอนง่าย “อื้อ ค่อนข้างเหนื่อย แต่ว่าตอนนี้ดี ขึ้นมากแล้วค่ะ”
เขาหัวเราะบางๆ ส่งเสียงออกมา “นั่งให้ดี พวกเรากลับบ้านกัน” ค่ะ! ” เธอพยักหน้าอย่างสง่างามทั้งไม่สูญเสียความสวยหวาน เอ่ย ออกมาคำหนึ่งอย่างสดใสสวยงาม
เงารถสีดำเคลื่อนที่อยู่บนท้องถนนที่แสงนีออนเปล่งประกายระยิบ ระยับ หลงเซียวปรับความเร็วของรถไม่เร็วไม่ช้าจนเกินไป เสถียร สบาย “พักผ่อนสักหน่อย ถึงบ้านแล้วผมเรียกคุณ” ปรับเบาะที่นั่งของเธอลงไปในระดับที่เหมาะสมกับการนอนที่สุด มือ
ใหญ่ปิดตาของเธอเอาไว้ ราวกับคุณพ่อที่บังคับให้ลูกเข้านอน
ลั่วหานหลับตาลง มือข้างหนึ่งวางทับไปบนด้านหลังฝ่ามือของเขา “หลงเซียว คุณไม่กล้วว่าจะโอ่ฉันจนเสียคนจริงๆหรอคะ? หากฉัน เปลี่ยนเป็นเสียคนแล้ว ไม่แน่อาจจะบินออกไป”
“ไม่กลัว คุณบินไกลอีกสักแค่ไหน ผมก็สามารถหาคุณกลับมาได้ ไม่ว่าคุณจะบินไกลสักแค่ไหน ไม่ใช่ว่ายังต้องกลับบ้านหรอกหรอ? ที่ๆ
ผมอยู่ ก็คือบ้านของคุณ คุณยังคิดอยากจะไปที่ไหนอีก?” เสียงในลำคอที่มีเสน่ห์ของเขา วนเวียนอยู่ภายในรถที่เงียบสงบ ถ้วยคำหวาน พูดจนหญิงสาวจิตใจสั่นไหว
สองมือของเธอกอดที่มือขวาของเขาวางไว้ข้างริมฝีปากจูบลงเบาๆ “คนโกหก ตั้งใจขับรถเถอะค่ะ แล้วก็ ฉันหิวแล้ว รอฉันตื่นขึ้นจะต้องได้ ทานของอร่อยนะคะ”
“ครับ”
นิ้วมือของเขาถูไปบนริมฝีปากแดงซุ่มซื้นของเธอ ราวกับจูบเธอ แทบริมฝีปากของตนเองก็ไม่ปาน
รถมาถึงยังคฤหาสน์ พอจอดลงลั่วหานก็ตื่นขึ้น “ฉันไม่ใช่ว่าถูกแรง สั่นสะเทือนของรถทำให้ตื่นนะคะ ฉันหิวจนตื่นคะ”
หลงเซียวไม่ได้คิดมาขนาดนี้เลยแม้แต่น้อย เขาเชื่อมั่นในทักษะการ ขับรถของตนเอง “อีกสักครู่ก็ได้ทานอาหารแล้ว”
ลั่วหานลูบคลึงท้องที่แบนราบ “ตอนนี้ก็อยากทานแล้วค่ะ หิวเหลือ
เกิน”
ไม่ได้ทานอาหารมาหลายชั่วโมงมากแล้ว ยังทำภารกิจใช้แรงกาย และแรงสมองสองอย่างพร้อมกันตลอดเวลาอีก หมอฉู่แสดงออกว่า สามารถทานวัวลงไปได้ทั้งตัวแล้ว
สองแขนของหลงเซียวโอบช่วงเอวของเธอเอาไว้ ใช้ลมหายใจทาง ริมฝีปากลดแก้มของเธอจนชุ่มชื้นอย่างร้ายกาจ “หิวขนาดนี้ งั้นสู้กิน ผมไม่ดีกว่า?”
“ฉันถึงไม่ค่ะ! ฉันจะทานมังสวิรัติ คุณรีบไปทำอาหารให้ฉัน ฉันไป หาของทานเล่นนิดหน่อยรองท้องก่อน”
ร่างของเธออ้อมอ้อมแขนของเขา หลุดออกจากอ้อมกอดของท่าน เซียวได้สำเร็จ ร่างงามที่ผอมบางเดินก้าวใหญ่ๆไปยังประตูใหญ่ เหลือ หลงเซียวที่สายศีรษะด้วยรอยยิ้มอย่างจนปัญญา ภรรยานับวันยิ่ง ควบคุมไม่ง่ายแล้ว กอดไม่แน่นวันไหนก็คงจะบินออกไปจริงๆ
ลั่วหานหยิบแอปเปิ้ลขึ้นมากัด ไปที่ห้องครัวซะโงกคอเข้าไปถาม เป็นรอบๆ “เสร็จยังคะ? เสร็จยังคะ?”
“กำลังจะเสร็จเดี๋ยวนี้ วางแอปเปิ้ลลง กลางคืนทานแอปเปิ้ลไม่ สะดวกต่อการย่อย หมอฉู่ความรู้รอบตัวแค่นี้ก็ยังไม่มี?”
ในห้องครัว หลงเซียวทำอาหารอยู่ อยากจะแบ่งตัวเองอีกคนนึงออก
มาไปที่ห้องรับแขกสั่งสอนภรรยาที่ไม่เชื่อฟังของเขาสักหน่อยจริงๆ ลั่วหานกัดเข้าไปอีกหนึ่งคำถึงท่าใจวางมือลงได้ “ฉันใกล้จะหิวตาย อยู่แล้ว ยังจะมาสนใจอะไรย่อยไม่ย่อยอีกล่ะคะ?”
ท่านเซียวถือภาชนะกระเบื้องเคลือบศิลาดลเดินออกจากห้องครัว ด้านในปะทุไอร้อนระอุ กลิ่นหอมที่อยู่ภายในอากาศถูกส่งไปยังลม หายใจของคน
“คุณทำอะไรคะ?”
“เกี้ยวน้ำ” หลงเซียวนำซามศิลาตลวางลงบนโต๊ะอาหาร ด้านในลอย ไปด้วยเกี้ยวตัวเล็กๆสีขาวละมุน ปูทับด้วยต้นหอมซอยที่เล็กละเอียด ยังมีแสงแวววาวจากน้ำมันประดับตกแต่งอยู่ภายใน
“ฝีมือการทำอาหารนับวันยิ่งดีขึ้นเรื่อยๆแล้ว! สุดยอดค่ะสุดยอด” เธอชมเชยอยู่สองสามประโยค ก็นั่งลงอย่างไม่เกรงใจหยิบช้อนตัก ซุปขึ้นมายื่นมือตักมาหนึ่งลูก ไม่ได้สังเกตเลยแม้แต่น้อยว่าตัวเองกิน จากชามใหญ่อยู่
“อื้อ! รสชาติดีจริงๆค่ะ! ผักกาดเขียว ฉันชอบ”
หน้าผากของหลงเซียวขึ้นเป็นเส้นดำสามขีด “เมียครับ คุณเตรียมที่ จะทานทั้งหม้อนี้ให้หมด?” ลั่วหานที่ในปากมีเกี้ยวน้อยอยู่ หัวเราะพรีดออกมา “ฮ่าๆ ขอโทษค่ะ
ฉันใส่ลงในถ้วยเดี๋ยวนี้ รอก่อนค่ะ นี่ไม่ใช่ว่าทำให้ฉันหรอกหรอคะ?” หลงเซียวลำตัวตั้งตรง มองลงไปหาเธอไม่พูดไม่จา
“คุณก็ยังไม่ได้ทานเช่นเดียวกัน?” ระดับสติปัญญาของเธอในที่สุดก็ เข้าสู่ระบบ
“คุณนึกว่าไงล่ะ? หมอฉู่”
“งั้นคุณรีบนั่งลงค่ะ ทานด้วยกัน ฉันนึกว่าคุณทานเรียบร้อยแล้ว มาๆๆ ฉันตักให้คุณ คุณทานเยอะหน่อย”
ลั่วหานอดทนต่อแรงกระตุ้นในการแอบข้า ตักให้เขาเต็มๆถ้วยใหญ่ แน่นอนว่าเธอไม่ได้สังเกตเลยแม้แต่น้อย ว่าตอนที่ตักอาหารนั้นที่เธอ ใช้ก็คือซ้อนที่ใส่เข้าไปในปากของตนเอง
เลิกงานมาถึงรับประทานอาหาร ทำไปทำมาเกือบจะสองชั่วโมง ทั้ง สองคนล้อมโต๊ะอาหารทานอาหารยามค่ำที่เรียบง่ายแต่กลับอบอุ่น ห้องอาหารใหญ่ที่โอ่อ่าหรูหรา โต๊ะเก้าอี้ที่มีราคาแพง เกี่ยวน้ำไส่ผัก เล็กๆ
“พรุ่งนี้ไม่ต้องทำงานแล้วใช่หรือเปล่า?”
ทานข้าวเสร็จ ทั้งสองคนล้างจานด้วยกัน หลงเซียวถามขึ้นมา ประโยค “พรุ่งนี้ไม่มีผ่าตัด แต่ว่าตอนบ่ายต้องไปโรงพยาบาลสักรอบ ผู้ป่วย
เพิ่งจะเดินออกจากห้องผ่าตัด การสังเกตการณ์หลังการผ่าตัดสำคัญ
มากค่ะ”
หลงเซียวพยักหน้า “ครับ คืนนี้พักผ่อนให้ดีๆ พรุ่งนี้นอนตื่นสาย หน่อย ผมให้หยังเชินน่าอาหารส่งเข้ามา ตอนเที่ยงคุณไม่ต้องทำ อาหารด้วยตัวเองแล้ว”
“ไม่ต้องลำบากขนาดนี้ค่ะ ฉันทำเองก็ไวมาก เกี๊ยวแช่แข็งเอย ฉัน เลียนแบบคุณสิคะ”
หลงเซียวล้างถ้วยชามจนสะอาด หันข้างมองมาที่เธอ “วันนี้คือกรณี พิเศษ ต่อไปอย่าทานอาหารแช่แข็ง เมียครับ สู้ผมจัดคนรับใช้สองสาม คนเข้ามาจะดีกว่า? อีกหน่อยคุณอยากทานอะไร ให้พวกเธอทำ” ลั่วหานอยู่ในความลังเล คนรับใช้แน่นอนว่าดี แต่ในใจของเธอกลับ ไม่ค่อยยินดีที่จะมีคนเข้ามาในโลกของพวกเธอ เธอคิดจะเก็บเขาเอา ไว้อย่างสมบูรณ์แบบในโลกเล็กๆใบนี้อย่างเห็นแก่ตัว
“ก็ดีเหมือนกันค่ะ ต่อไปคุณก็ไม่ต้องนอนดึกทำอาหารให้ฉันแล้ว” แม้ว่าจะไม่ค่อยยินดีที่จะถูกรบกวนในโลกของคนสองคน แต่ก็ยิ่ง ปวดใจกับการเอาใจใส่ของเขา
“ครับ ผมจัดการ”
ร่างกายของหญิงสาว เข้าใกล้เขา มือทั้งสองข้างยังมีหยดน้ำหยด ลงไปด้านล่าง เธอก็ไม่สนใจ กอดเอวของเขาเอาไว้อย่างเอาแต่ใจแบบ นี้ “หลงเซียว ฉันรู้สึกมีความสุขมาก สิ่งเหล่านี้ที่คุณมอบให้กับฉัน ต่าง ก็มีความสุขเหลือเกิน มีความสุขจนค่อนข้างที่จะบิดเบือนไปจากความ เป็นจริง”
คางของหลงเชียวค้ำไปบนศีรษะของเธอ “แค่เกี๊ยวน้ำถ้วยเดียว ซาบซึ้งจนกลายเป็นแบบนี้เลย? บ๊องหรือเปล่า?”
“ใช่ค่ะ ฉันป้องมาก อาหารถ้วยเดียวก็โอ่หายแล้ว”
มือที่เปียกแฉะจูงมือของเธอเอาไว้ ทั้งสองคนยืนอยู่ในห้องครัว ดวงตาทั้งสองคูประสานเข้าหากัน “คำพูดนี้ไม่ใช่สไตล์ของหมอฉู่ ให้ ผมดูหน่อย คุณถูกใครเข้าสิงแล้ว? เอาเมียของผมคืนกลับมา”
ในขณะที่เขาพูดยังใช้นิ้วมือบีบที่ใบหน้าของเธอ ราวกับกำลังขับ ไล่ผี
“เอ๊ย! หน้าของฉันจะเบี้ยวแล้วค่ะ”
“ไม่ได้ถูกปีศาจเข้าสิง ยังคงเป็นเมียของผม ไปละ อุ้มเมียของผมไป เข้านอน! ”
มือใหญ่ที่เปียกชุ่มของเขารั้งช่วงเอวของเธอเอาไว้ นำหญิงสาวที่ลำ ตัวตั้งตรงแขวนขึ้นไปที่หน้าอกของตนเอง ท่อนแขนโอบช่วงเอวของ เธอเอาไว้แน่น ก้าวใหญ่ๆเดินออกจากห้องครัว
“อ้า! รีบปล่อยฉันลงมาค่ะ มือเปียก! “ไม่ทันแล้ว!