ประธานหยิ่งยโสของฉัน - ตอนที่ 32
แต่บางเรื่องเราก็ไม่มีไฟล์แล้วเหมือนกัน
ตอนที่ 32 ให้ตายเถอะ บาดเจ็บอีกแล้ว
ดาราคนดังสุดฮอตมาตรวจครรภ์ถึงที่โรงพยาบาลนั้น ก็พอที่จะทำให้ทั้งเมืองแตกตื่นกันไปหมด เพียงแค่ชื่อโม่ หรูเฟยนี้ของเธอ ก็มีอิทธิพลมากพอที่จะขึ้นพาดหัวข่าว หน้าหนึ่งแล้ว
ยิ่งถ้ารวมกับชื่อเสียงของท่านประธานบริษัทของMBK คุณหลงเซียวที่มาด้วยกัน อิทธิพลนี้ก็ยิ่งมหาศาลมาก ขึ้นอย่างที่สุด
ทั้งสองคน หรือจะพูดถึงฉู่ลั่วหานเพิ่ม ทั้งสามคนนี้ถึง จะพยายามทำให้เรื่องเงียบๆ ขับรถไปจอดที่จอดรถชั้น ใต้ดินโดยตรง แต่ก็ยังไม่สามารถหลีกเลี่ยงจากการรุม ของพวกนักข่าวได้
พอเห็นรถหรูโรสลอยด์ของหลงเซียวจอดสนิท นัก ข่าวก็รีบเข้าไปราวกับฝูงปลา บรรยากาศเหมือนกับพวก ปลาฉลามที่ได้กลิ่นคาวของเลือด
ลั่วหานที่นั่งอยู่ในรถก็ขมวดคิ้วเล็กน้อย เธอเป็น คนนอกวงการ อีกอย่างตั้งแต่แรกมาจนถึงวันนี้ เธอก็ เป็นแค่คนนอกคนหนึ่งของเรื่องนี้ พอเห็นคนฝูงใหญ่ เหมือนกับสิงโตแล้วหยิบไมโครโฟน และกล้องถ่ายภาพ มาขวางทางรถ เธอกลับรู้สึกน่าขำและก็น่ารำคาญ
หลงเซียวก็ขมวดคิ้ว เขาหันไปมองหน้าโม่หรูเฟย
“ตอนนี้ยังลงจากรถไม่ได้ คนเยอะเกินไป อันตราย”
ความเป็นห่วงของเขานั้นใช่ได้ผลกับโม่หรูเฟย อารมณ์สีหน้าเธอก็เปลี่ยนไปเป็น ยิ้มหวานๆแล้วพยัก หน้าตอบรับ “ฉันเชื่อฟังที่พี่เซียวพูดค่ะ รอที่รถอีกเดี่ยว เดียวก็ได้ค่ะ”
ฉ่ลั่วหานเบ้ปากโดยไม่กังวลใดๆ เพราะไม่ใช่เรื่องของ ตน ” ดูจากท่าทีของพวกเขาแล้ว ไม่น่าจะล้มเลิกใน ระยะเวลาสั้นๆนี้หรอก เป็นดาราดังนี้ไม่รู้ถึงความน่ากลัว ของนักข่าวในวงการบันเทิงหรอ? พวกเขายอมที่จะไม่ กินไม่ดื่มอะไรแล้วเฝ้ารอได้ทั้งวันทั้งคืน ถ้าจะเอาแต่นั่ง อยู่ที่รถนั้น มันแก้ปัญหาอะไรไม่ได้เลย”
หลงเซียวก็หันไปมองฉู่ลั่วหานอย่างช้าๆ น้ำเสียงที่ เยือกเย็น และไม่มีอารมณ์ร่วมใดๆ “พูดอย่างนี้ หรือคุณ มีวิธี?”
ฉ่ลั่วหานคิ้วขมวดมากขึ้น เพิ่งจะอ้าปาก โม่หรูเฟยก็รีบ พูดแทรกขึ้นมาประโยคหนึ่ง “พี่เซียวคงจะยังไม่รู้ เธอ นั้นจัดการเรื่องพวกนี้ได้อย่างเซียนเลยหล่ะ ครั้งที่แล้ว ตอนที่ฉันไปหาคุณที่โรงพยาบาล มีนักข่าวดักรอที่ทาง เดินเต็มเลย ก็เธอนี่แหละที่ไล่พวกเขาไปได้”
ฉ่ลั่วหานหัวเราะเหอะๆ ไม่ยอมหยุดที่จะหาโอกาสฟ้อง เลยสินะ? ความจำช่างดีจริงๆ!
“พี่เซียว ฉันว่าครั้งนี้ ก็ปล่อยให้คุณหมอฉู่จัดการเถอะ มั้ง? เธอเป็นหมอของที่นี่ น่าจะมีประสบการณ์มาก”
โม่หรูเฟยพูดจาอ่อนหวาน น้ำเสียงที่ฟังแล้วเลี่ยนหูจนทำให้เกือบจะอ้วกออกมาแล้ว
ฉูลั่วหานยังไม่ทันจัดอารมณ์อยากอ้วกของตัวเอง เสร็จ เสียงช้าๆของหลงเซียวก็ดังขึ้น “ในเมื่อคุณมี ประสบการณ์ด้านนี้ พวกนักข่าวที่อยู่ด้านนอกก็ยกให้ คุณแล้วกัน”
ดวงตาเธอเบิกกว้างขึ้น “ฉัน?”
“ทำไมหรอ? พื้นที่ของคุณหมอฉู่เอง จะต้องให้ผม ลงมือ?” น้ำเสียงเผด็จการของเขา พูดตัดบทไปอย่า งดื้อๆกับสิ่งที่เธอกำลังจะอธิบาย
คู่ลั่วหานกัดริมฝีปากเบาๆ ให้เธอนั่งนิ่งเฉยอยู่ในรถต่อ ไป หรือเธอจะต้องออกไปเผชิญกับพวกนักข่าวเหล่า นั้น?
ใบหน้ายิ้มอย่างเยือกเย็น เธอปลดสายรัดนิรภัย “ได้
ฉันไปเอง”
ประตูรถถูกเปิดออก ร่างที่ผอมบางของฉู่ลั่วหานก็ถูก นักข่าวมารุมล้อมเต็มไปหมด! ร่างของเธอที่ไม่ได้เตี้ย มากนัก อยู่ในท่ามกลางนักข่าวทั้งผู้ชายและผู้หญิงแล้ว
ถูกผลักดันไปมา ขาทั้งสองข้างนั้นก็ถูกยกตัวลอยขึ้น อยู่หลายครั้ง! “คุณโม่หรูเฟย! คุณหลงนั้นมาส่งคุณตรวจครรภ์ด้วย
ตัวเอง ซึ่งก็แปลว่ากำลังจะมีข่าวดีกันใช่ไหมคะ?”
“คุณหลง คุณโม่หรูเฟยเคยบอกไว้ว่าจะเป็นพรีเซนเตอร์เม็ดพลอยให้กับบริษัทMBK เรื่องนี้จะถูก ยกเลิกเพราะสาเหตุครั้งนี้หรือไม่ครับ?”
คำถามถูกถามขึ้นมามากเต็มไปหมด ความวุ่นวายและ บ้าคลั่งจากนอกรถก็ลอดเข้ามาภายในรถ ขณะที่ยัง ไม่ทันได้ปิดประตูรถ แขนเรียวยาวของหลงเซียวจับที่ เปิดรถไว้ สายตาที่เยือกเย็นกวาดมองไปที่ทุกคน ใน ท่ามกลางของวงนักข่าว มีร่างเสื้อขาวคนหนึ่งที่กำลังยืน โซเซไปมา.
“อ้าาา!”
ท่ามกลางคำถามที่วุ่นวาย เสียงกรี๊ดของฉู่ลั่วหานไม่ ได้ถือว่าดังมาก แต่คิ้วของหลงเซียวก็แข็ง ชะงักไปสัก พัก
“ปัง” เขาปิดประตูข้างคนขับไปแรงๆหนึ่งที มือก็จับไป ที่เปิดประตูรถด้านซ้ายตามสัญชาตญาณ..
“พี่เชียว นักข่าวพวกนี้น่ากลัวมากเกินไปแล้ว ฉันรู้สึก เป็นห่วงลูก..” น้ำเสียงอ่อนนุ่มดังมาจากด้านหลัง ความ รู้สึกที่ไร้ที่พึ่งและหมดหนทาง ฉันเห็นแล้วน่าสงสาร
“ไม่เป็นไร เขาจะต้องจัดการมันได้”
สายตาของหลงเซียวหันกลับไปมองที่กลุ่มคนนั้นอีก ครั้ง แต่ก็หาฉู่ลั่วหานไม่เจอแล้ว
“กรึก!”
ฉ่ลั่วหานเจ็บตรงเข่า ลมหายใจที่รุนแรง บาดแผลที่หัวเข่านั้นก็ฉีกอีกครั้งในตอนชุลมุนเมื่อกี้นี้ ความเจ็บจี๊ด จากหัวเข่าส่งไปยังทั่วร่างกาย โชคดี ในที่สุดเธอก็เบียด ตัวออกมาจากกลุ่มคนนั้นได้!
ฉู่ลั่วหานพยายามยืนหลังตรงทนความเจ็บไว้ ย่างเท้า ก้าวออกและกำลังจะไปหาร.ป.ภ. ร่างเงาสีดำรีบวิ่งมาอยู่ ตรงหน้าเธออย่างรวดเร็ว เธอรู้สึกได้แต่ความมืดของ ข้างหน้า และตอนที่เงยหน้านั้นก็เห็นใบหน้าที่สะอาด และอบอุ่นอยู่ตรงหน้าของเธอ
“คุณมาอยู่ที่นี่ได้ยังไง?”
มือข้างหนึ่งของถังจิ้นเหยียนก็จับตัวที่โซซัดโซเซของ ฉ่ลั่วหานไว้ “ผม? ผมมาสาย แต่ไม่นึกว่าจะมาเจอ สถานการณ์อย่างนี้ คุณเป็นไงบ้าง?”
“ฉันไม่เป็นไร แต่จะต้องไปหาร.ป.ภ. ให้ไล่นักข่าวพวก นี้ไปก่อน โม่หรูเฟยอยู่ในรถ”
ถังจิ้นเหยียนก้มลงไปมองขากางเกงของเธอที่มีเลือด ซิบๆออกมาแล้ว คิ้วกระตุก “เข่าของเธอจะต้องไปทำ แผลเดี่ยวนี้ เดี๋ยวผมพาคุณไป”
“ไม่ต้อง คุณไปหาร.ป.ภ.ก่อน โม่หรูเฟยวันนี้เธอมา ตรวจครรภ์ ถ้าหากเกิดเรื่อง มันจะไม่มีต่อภาพลักษณ์ ของโรงพยาบาล” ฉู่ลั่วหานไม่ยอม ยื่นมือจะปัดความ ช่วยเหลือของเขา
ถังจิ้นเหยียนขมวดคิ้วแน่นกว่าเดิม “ผมไม่รู้จักโม่หรูเฟย แต่ว่าเข่าของคุณจะต้องรีบทำแผลเดี๋ยวนี้ ดูจากสี ของเลือดแล้ว แผลนี้เหมือนจะไม่ใช่เป็นมาแค่วันสองวัน แล้ว ตามผมมา”
เมื่อต้องเผชิญหน้ากับความหัวดื้อของฉู่ ลั่วหาน คุณ หมอถังก็ทำได้แค่ใช้วิธีปฐมพยาบาลเบื้องต้นกับเธอ ก่อน และแล้ว มือทั้งสองข้างของถังจิ้นเหยียนก็โอบไปที่ ไหล่และหลังของฉู่ ลั่วหาน ภาพทั้งหมดนี้ก็ถูกมองเห็น จากดวงตาของท่านเซียว
ท่านเซียวที่อยู่ในรถ นิ้วมือสั่นเบาๆ คิ้วขมวดเข้มขึ้น ชีวิตในโรงพยาบาลของผู้หญิงคนนี้ ดูประสบความ สำเร็จดีหนิ?
“คุณหมอถัง เรียกร.ป.ภ.! ฉันบอกให้คุณเรียกร.ป.ภ.!”
ฉ่ลั่วหานพยายามสลัดถังจิ้นเหยียนออกไป คนข้าง หลังตกใจ “โอเค งั้นคุณก็ยืนดีๆก่อน ผมจะโทรเรียกคน
ให้”
โทร?
โอ้ SHIT ! เมื่อกี้ตัวเธอเองอารมณ์เสียจนลืมไปว่า
สามารถโทรศัพท์หาได้ แต่ว่า โทรศัพท์ของถังจิ้นเหยียนยังต่อสายไม่ติด
ประตูรถของโรสลอยด์ก็ถูกท่านเซียวเปิดออก
“คุณหลง! คุณหลง! คุณกับคุณโม่หรูเฟยตอนนี้มี ความสัมพันธ์เป็นอะไรกันคะ?”
ฉ่ลั่วหานหันหลังกลับไป แววตาที่แผดเผาทั้งคู่นั้นมอง ทะลุเข้าไปในสายตาอันเยือกเย็นของเขา
ใช่ มันคือความรังเกียจ
การที่หลงเซียวลงจากรถกะทันหัน โม่หรูเฟยเองก็ ตกใจ จากนั้นก็เปิดประตูลงจากรถตามไป โดนพวกนัก ข่าวผลักชน เบียดกันจนไปถึงประตู ฉู่ลั่วหานมองตา แล้วถอนหายใจ
ตอนที่แขนของหลงเซียวนั้นปกป้องเธอไว้ในอ้อมกอด ฉู่ลั่วหานก็รู้สึกได้ว่าความกังวลของตัวเองนั้นมันเป็นแค่ ส่วนเกิน
“ความสัมพันธ์อะไร? อีกเดี่ยวพวกคุณก็คงจะเข้าใจ เอง แต่ขอตอนนี้อย่าทำให้การตรวจของหรูเฟยต้อง ล่าช้า และถ้าเป็นเพราะการขัดขวางของพวกคุณทำให้ เกิดอะไรเสียหายละก็ แน่นอนว่าผมจะต้องเอาเรื่อง จนถึงที่สุด”
นิ้วมือของฉู่ลั่วหานกำปกคอของถังจิ้นเหยียนไว้แน่น เธอที่ยืนอยู่นอกวงนั้นเงียบไร้เสียง ได้แต่มองดูข้าง หน้าที่มีคู่ชายหญิงกำลังกอดกันอยู่ ความเจ็บในใจและ นัยน์ตาที่ร้อนผาวทั้งหมดนี้ได้แผ่ออกมา
น่าขำ ช่างน่าขำจริงๆ
ไม่ใช่ว่าทำเหมือนกับว่าไม่อยากให้นักข่าวรู้หรอ? ตอน นี้กับยอมรับโดยไม่แคร์อะไร แปลว่าอะไรกัน?
พูดให้ดูดีหน่อยก็คือให้เธอไปเรียกร.ป.ภ. แต่จริงๆแล้ว แต่อยากจะกีดกันเธอให้ออกไป ไม่อยากให้นักข่าว สังเกตเห็นเธอสินะ?
ทำไมต้องทำให้มันซับซ้อนขนาดนี้ด้วย? อย่างจะคู่กัน นัก เดี๋ยวเธอยอมถอยออกก็ได้แล้วนิ
น้ำเสียงคัดค้านของหลงเซียวช่างน่ากลัว พวกนักข่าว ก็ต้องยอมปล่อยโอกาสที่หาได้ยากขนาดนี้ไปอย่างไม่ อยาก แต่ก็ไม่กล้าตามต่อ คนกลุ่มนั้นค่อยๆถอยหลีก ออกให้มีเส้นทางเดิน แล้วก็ตามหลังติดๆกับทั้งสอ สองคน นั้นเดินไปทางประตูหน้าลิฟต์
นักข่าวต่างก็ตื่นตระหนกกับการโทรศัพท์ไปรายงาน ความคืบหน้าเรื่องใหม่ กลุ่มคนก็แยกย้ายกันออกไป
หมด
“คุณหมอฉ?”
ถังจิ้นเหยียนเรียกเธอ จับตัวเธอแน่นๆ เธอถึงดึงสติก
ลับมาได้
คลายปกคอเสื้อของเขาทันที และก็รีบปรับอารมณ์ ของตัวเองให้ดี น้ำเสียงของผู้หญิงก็เย็นชาขึ้นมาทันที อย่างกับคุยกับคู่อริ “ทำไมคุณถึงยังอยู่ที่นี่ ?”
วินาทีนั้นถังจิ้นเหยียนก็ไม่รู้จะตอบอะไร “คุณหมอู่ ดึงเสื้อของผมไว้ไม่ยอมปล่อย แล้วผมจะไปยังไงหล่ะ ครับ?”
ค่ลั่วหานปรับอารมณ์กลับมาเป็นปกติที่ดูห่างเหินและ เย็นชา แล้วเขยิบตัวห่างออกมาครึ่งก้าว “ตอนนี้ คุณไป ได้แล้ว”
ถังจิ้นเหยียนอดไม่ได้ที่จะหัวเราะ “ตอนนี้? ไปไม่ได้ คนไข้ของผมอยู่ที่นี่ ผมจะต้องดูแลความปลอดภัยของ คนไข้ผม”
คนไข้?
เธอกำลังมองไปรอบๆ ขาก็รู้สึกเบาขึ้นมาทันที แขน ของเธอถูกมือของเขาที่มีแรงนั้นอุ้มขึ้นตัวลอยแล้ว
“คุณหมอถัง! คุณทำอะไรเนี่ย!”
“รักษาคนไข้”
การมาของหลงเซียวและโม่หรูเฟยนั้นก็ดึงความสนใจ จากพยาบาลในแผนกครรภ์และสตรีมากันหมด ครึ่งหนึ่ง ก็เป็นกลุ่มที่มาบริการ ส่วนที่เหลือก็เป็นกลุ่มที่มามุงดูกัน
โดยเฉพาะพยาบาลที่เพิ่งเข้ามาใหม่นั้นดีอกดีใจ ยืด คอจนเหนื่อยก็อยากจะได้เห็นดาราตัวจริงกับตา ถ้า ไม่ใช่ว่าหมอในแผนกสตรีมีระเบียบ ความคิดหน่อยละก็ แผนกสตรีและครรภ์นี้ ก็คงจะกลายเป็นห้องที่ตรวจให้ โม่หรูเฟยโดยเฉพาะไปแล้ว
ถังจิ้นเหยียนก็บังคับให้ฉู่ลั่วหานนั่งเก้าอี้ที่อยู่ในห้อง ฉุกเฉิน “บาดแผลที่หัวเข่า จะต้องล้างแผลตอนนี้ ถ้ายัง อยากจะได้กางเกงอยู่ละก็ ก็ต้อง…”
“ไม่เอาแล้ว ตัดทิ้งเลย”
ฉู่ลั่วหานพูดรวดเร็วและกระชับ ถังจิ้นเหยียนฟังจบก็
หัวเราะ
“สมคำร่ำลือที่เค้าว่ากันจริงๆ”
ฉู่ล้วหานเงยหน้ามองเขา “ชมเกินไป”
ถังจิ้นเหยียนมือถือกรรไกร จับขากางเกงของเธอไว้ หนึ่งข้าง กะบริเวณสักพัก หลังจากนั้นก็ตัดให้เป็นช่อง ช่องหนึ่งจากแนวด้านบนของแผล เห็นเลือดสดๆและ รอยบาดแผล”เดี๋ยวลงยาห้ามเลือดนี้จะเจ็บหน่อย คุณ ทนหน่อยนะ”
“นี่สรุปคุณทำแผลได้ไหมเนี่ย? ถ้าได้ก็เร็วๆ ถ้าไม่ได้ ฉันทำเอง”
พูดมากชะมัด!
ถังจิ้นเหยียนคุกเข่าหนึ่งข้างลงพื้น มือข้างหนึ่งวาง พาดไว้บนหัวเข่า มือของศัลยแพทย์นี้สะอาดสะอ้าน เรียวยาว สวยจริงๆ หัวเล็บก็ตัดเป็นรูปครึ่งวงกลมอย่าง เรียบร้อย
มือคู่นี้ ได้เห็นแล้วก็ลืมยาก
“ได้ ทำได้สิครับ ทนหน่อยนะ”
เขาหยิบก้อนสำลีแล้วแตะลงไปที่แผลเบาๆ ขั้นตอน ผู้ ล้างแผลฆ่าเชื้อนั้นเจ็บมาก ผิวตรงแผลของเธอเหมือนจะปรืออกแล้ว ระดับความเจ็บนั้นไม่ยากที่จะ จินตนาการได้ ฉู่ลั่วหานเจ็บจนกัดฟันไว้แน่น แต่ก็ไม่ร้อง เลยสักแอ๊ะ
เขาประหลาดใจมาก “เจ็บไหม?”
“จะมาลองไหมหล่ะ?”
“ผม? ไม่ดีกว่าครับ”
ถังจิ้นเหยียนล้างแผลภายนอกเสร็จอย่างรวดเร็ว ก็มี แต่ตอนที่ฆ่าเชื้อนั้น เจ็บนิดหน่อย ส่วนช่วงหลังๆกลับ รู้สึกสบาย
ผ้าพันแผลที่เขาพันนั้น สวยกว่าที่เธอพันเมื่อก่อนอีก อีกทั้งยังไม่มีผลกระทบอะไรกับการเดินปกติเลย แค่จุด จุดนี้ เขานั้นก็ถือว่าเป็นผู้เชี่ยวชาญจริงๆ
“ขอบคุณคุณหมอถังมากๆค่ะ ถ้าไม่มีอะไรแล้ว ฉันขึ้น ค่ลั่วหานลุกขึ้นยืน พูดจบประโยคนี้แล้วก็กำลังจะเดิน
ไปแล้วนะคะ”
ออกไป
ถังจิ้นเหยียนเก็บอุปกรณ์ต่างๆเสร็จ ยิ้มอ่อนๆ “คุณ หมอฉู่ น้ำเสียงนี้ไม่ค่อยเหมือนการขอบคุณเท่าไหร่นะ ครับ”
“ขอโทษทีค่ะ ก็มีแค่น้ำเสียงแบบนี้ รับไม่รับนั้นมันก็ แล้วแต่คุณ”
พูดจบ ฉู่ลั่วหานก้าวเท้าเดินโดยไม่สนหัวกางเกงที่ ขาดแล้วมีคราบเลือดที่หัวเข่า ขาอีกข้างนั้นได้ย่างออก ไปนอกประตูแล้ว
ถังจิ้นเหยียนมองดูน้ำยาในมือ หัวเราะอย่างช่วยไม่ได้ “คุณหมอฉู่ เมื่อกี้ที่ถูกนักข่าวรุมไว้ สองคนนั้น เกี่ยวข้อง อะไรกับคุณงั้นหรอ?”