ประธานหยิ่งยโสของฉัน - ตอนที่ 422
ตอนที่ 422 พูดจาตามประสาเด็ก แต่เป็นความจริงทั้งสิ้น
สถานภาพในเมืองเจียงเฉิงของเจิ้งเฉิงหลินค่อนข้างพิเศษ ปกติแล้วการที่จะมีคอนแทคกับนักธุรกิจที่ร่ำรวยได้นั้น ส่วนใหญ่จะแอบพัฒนาความสัมพันธ์กันอย่างลับๆ ไม่ได้เปิดเผยให้มันใหญ่โตโอฬารอะไร
แต่คิดดูแล้วก็ใช่ แหล่งที่อยู่ของเสิ่นคั่วก็เป็นความลับ มันพอเหมาะพอเจาะกับความลับที่เขาสมรู้ร่วมคิดกับหน่วยงานภาครัฐในเชิงธุรกิจพอดีเลยไม่ใช่เหรอไง?
ลั่วหานพยักหน้าให้กับหลงเซียว ทั้งสองแอบสื่อสารกันทางสายตา สำหรับการมาร่วมงานของเจิ้งเฉิงหลิน ทั้งสองคนรอดูท่าทีของเขา
ลั่วหานยกแก้วขึ้น แต่ไม่ได้ดื่ม ต่อมาก็ขยับปากที่ปิดบังอะไรไว้พูดขึ้นด้วยน้ำเสียงต่ำๆ“ได้ยินมาว่าคุณใช้วิธีการหลอกล่อเยื่อเพื่อให้เธอช่วยคุณได้ใบอนุญาตก่อสร้างมา ตอนนี้พ่อของเธอจะมาถึงแล้ว คุณจะพูดแก้ต่างประนีประนอมเรื่องนี้ยังไง?”
ตอนที่พูดคำว่า ใช้วิธีการหลอกล่อเหยื่อ แอบกัดฟันเบาๆ ทั้งเยาะเย้ย แล้วก็แฝงไปด้วยความหึงหวงอ่อนๆ
หลงเซียวก็ยกแก้วขึ้นมา ไม่ได้ดื่มเช่นเดียวกัน พูดขึ้นขณะที่ยกแก้ว“เมื่อตะกี้คุณภรรยาแสดงได้ดีมากๆ ฉากต่อจากนี้ พวกเรามาแสดงด้วยกันอีกก็แล้วกัน”
นิ้วที่สวมแหวนแต่งงานของของลั่วหานเคาะลงที่แก้วไวน์ ใช้โอกาสนี้พูดขึ้น“อ๋อ? มีรางวัลอะไร? หรือว่าคุณหลงจะพาฉันไปทานอาหารที่ภัตตาคารหมุน?”
เอาเถอะ คุณนายหลงหึงแล้ว ทั้งคำพูดและน้ำเสียงมีกลิ่นความหึงหวงอยู่ทั้งนั้น
มือใหญ่ๆของหลงเซียวกดนิ้วของเธอ กุมเอาไว้“ไม่ รางวัลที่ให้กับคุณไม่ใช่การให้คุณกินอาหาร แต่คุณสามารถกิน……ผมได้”
เขายกมุมปากขึ้นอย่างชั่วร้าย รูปทรงของปากโค้งทำให้ดูน่าหลงใหล แต่รอยยิ้มนั้นดันดูเซ็กซี่มีเสน่ห์ชวนดึงดูดใจคนไม่น้อย
ลั่วหานหึออกมาเบาๆ วางแก้วไวน์ลง“ไม่ต้องการ”แววตาที่ชั่วร้ายกับความเจ้าเล่ห์ของเขาเติมเต็มซึ่งกันและกัน
ตอนที่ผู้คนพากันพูดคุยถึงเจิ้งเฉิงหลิน พวกเขาสองคนแสดงความรักให้กันอย่างไร้ซึ่งสีหน้าใดๆ
เจิ้งซินพอได้ยินว่าพ่อจะมา ใบหน้าที่นวลอมชมพูก็ยิ้มอย่างสบายใจ“เชิญพ่อมาด้วยเหรอเนี่ย พ่อของฉันไม่ค่อยได้มาร่วมงานเลี้ยงแบบนี้มากนัก เหอะๆ ดูแล้วคุณลุงเสิ่นช่างมีวิธีการแบบที่คิดไว้จริงๆ”
เสียงหัวเราะของเสิ่นคั่วดังมาก“ไม่ใช่ลุงมีวิธีการหรอก เป็นเพราะความสัมพันธ์ระหว่างพ่อกับลุงต่างหากล่ะ เขานี่ก็รู้จักให้เกียรติคนอยู่เหมือนกันนะ”
“คุณลุงเสิ่นเป็นผู้ประกอบการใหญ่ของเมืองเจียงเฉิง เป็นสายงานที่ทำประโยชน์ต่อประเทศแล้วประชาชน ไม่เหมือนกับพวกอสังหาริมทรัพย์ ขูดเลือดขูดเนื้อสามัญชนคนทั่วไป!”
คำพูดของเจิ้งซินแฝงไว้ด้วยมีดด้วยดาบ พูดจาเย้ยหยันอย่างชัดเจน แขกที่นั่งอยู่ก็เป็นนักล่าอสังหาริมทรัพย์ แต่ เจิ้งซินแอบพูดโจมตีหลงเซียวอย่างเห็นได้ชัด
ดูแล้ว การเคลื่อนไหวในคืนนี้ของหลงเซียว ก็คือจะทำให้เจิ้งซินรู้สึกอับอาย
เสิ่นคั่วพูดขึ้น“พูดแบบนี้ได้ที่ไหนล่ะ? นี่คุณกำลังตบหน้าประธานหวังอยู่ไม่ใช่เหรอ? ประธานหวังเป็นอสังหาริมทรัพย์รายใหญ่แห่งเมืองเจียงเฉิงของพวกเราเลยนะ เหอะๆๆ!”
“ฉันจะหมายถึงลุงหวังได้ยังไงกันล่ะ สิ่งก่อสร้างของลุงหวังเป็นที่อยู่อาศัยที่เหมาะสมกับสภาพเศรษฐกิจ เหอะ แต่มีพวกผู้รับเหมาก่อสร้างบางคนมันไม่เหมือนกัน”
เธอกัดฟันกรอดๆ แทบอยากจะกลืนหลงเซียวเข้าไปในท้อง ฉีกให้ขาด บดขยี้ให้ละเอียดซะตอนนี้เลย!
จะบ้าตาย!ที่แท้หลอกใช้เธอ หลอกใช้เธอตั้งแต่แรก!
เธอถูกเขาหลอกใช้เหมือนกับไอ้โง่ สูญเสียความคิดของตัวเองไปโดยสิ้นเชิง!
พวกเสิ่นคั่วต่างก็พากันใช้สายตาชำเลืองมองมาที่หลงเซียว หลังจากมองแล้ว ต่างคนต่างก็แอบยิ้มเยาะเย้ย
ลั่วหานจับมือของหลงเซียวไว้อย่างไม่เต็มใจ เขากำลังวัดความอดทนของเธออยู่ใช่ไหม? ถึงได้ไม่ยอมอธิบาย ไม่ชี้แจงสักหน่อย?
หลงเซียวกดไว้เบาๆ กดความตื่นตัวของลั่วหานเอาไว้ เป็นสัญญาณว่าอย่าเพิ่งหุนหันพลันแล่นไป ลั่วหานเดาออกว่าเขาไม่มีทางไม่ยอมพูดอะไรแน่นอน จึงอดกลั้นเอาไว้ รอดูการเปลี่ยนแปลงของเขาอย่างเงียบๆ
ฉู่ซีหรานสบถ หึ ออกมา“พี่เขย ฉันได้ยินมาว่าคุณจะสร้างตึกสูงตึกแรกในเมืองเจียงเฉิง สุดยอดจริงๆ ถ้าพี่เขยจะสร้างจริงๆ เกรงว่าไม่น่าจะใช่ที่พักอาศัยธรรมดาทั่วไปใช่ไหม?”
หลงเซียวยิ้มเบาๆอย่างสดใส“แน่นอนว่าไม่ใช่”
“อ๋อ? พี่เขย แล้วผู้รับเหมาอสังหาริมทรัพย์ไร้ยางอายที่ซินซินพูดถึงตะกี้ เกรงว่าจะรวมถึงคุณด้วยนะคะ”ลิ้นของฉู่ซีหรานชูอยู่ในปาก แก้มทางซ้ายนูนๆออกมา ท่าทางที่เยาะเย้ยดูถูกดูแคลนนี้ ทั้งหยาบคายทั้งไร้มารยาท
ลั่วหานรั้งหลงเซียวไว้ เอ่ยปากพูดขึ้น“น้องสาว ประโยคล้อเล่นประโยคเดียวของคุณเจิ้ง เธอจะคิดจริงจังทำไม? น้องสาวอย่าลืมสิคนที่อุตส่าห์ลำบากวิ่งแจ้นไปวิ่งแจ้นมาคอยช่วยพี่เขยของเธอให้ได้ใบอนุญาตมา ก็คือคุณเจิ้ง คุณเจิ้งทำงานอย่างหนัก ฉันยังต้องขอบคุณเธอด้วยซ้ำ!ที่น้องสาวพูดแบบนี้ เห็นเธอเป็นคนแบบไหนกัน?”
เจิ้งซินกัดฟันกรอด บ้าเอ้ย!!
ฉู่ซีหรานลิ้นไม่ขยับแล้ว หยุดชะงักลงกลางปาก ยิ้มมีดส้อมขึ้นมาแล้วจิ้มไปที่สเต็กอย่างแรงด้วยความโมโห สเต็กในจานถูกเธอจิ้มจนแทบจะกระเด็นออกมาจากจาน
“ฉันไม่ได้หมายความว่าแบบนั้น!”
หลงเซียวยิ้มๆไม่ได้พูดอะไร กุมมือของเธอเล่นๆอย่างอารมณ์ดีสุดๆ มือของลั่วหานถูกบำรุงดูแลเป็นอย่างดี สองมือของหมอศัลยแพทย์ เนื่องด้วยหน้าที่การงานทำให้สะอาดกว่าคนทั่วไป
เล็บทุกๆนิ้วตัดสั้นจนเป็นรูปครึ่งวงกลม ส่วนโคนของเล็บที่ใสประกายก็โค้งเป็นพระจันทร์เสี้ยวสีขาวนวล นิ้วมือกุมอยู่ในมือนุ่มนิ่ม
“คำขอบคุณ ไม่จำเป็นแล้วล่ะ!รอพ่อฉันมาก่อน คุณค่อยขอบคุณเขาดีๆก็แล้วกัน!”
“นั่นมันแน่นอนอยู่แล้วค่ะ!”
บรรยากาศทางนี้เริ่มตึงเครียด ดีที่คนรับใช้อุ้มเด็กทั้งสองคนเดินลงมาจากชั้นสองพอดี เด็กน้อยทั้งสองโตไล่เลี่ยกัน อายุประมาณสองขวบกว่าๆ
ยื่นแขนยื่นขาเล็กๆ ปากพูดพึมพำตามประสาเด็ก
พอได้ยินเสียงของเด็ก ในใจของลั่วหานก็รู้สึกอ่อนโยนลงอย่างไม่ทันตั้งตัว แม้แต่มือที่ถูกหลงเซียวกุมเอาไว้ก็อ่อนลง
“อานอานโอ๋ มาที่แม่นี่มา”จ้าวฟางฟางยื่นมือออกมา อุ้มเด็กผู้ชายที่ใส่ชุด
ทางการลายตารางสีเทาคนหนึ่งมาไว้ในอ้อมอก
ฉู่ซีหรานก็รับเด็กอีกคนหนึ่งมามาอุ้มไว้ในอ้อมอกของตัวเองอย่างพออกพอใจเช่นกัน“ห้าวห้าว มามะ แม่อุ้มเอง”
มีเด็กเพิ่มเข้ามา บรรยากาศในงานเลี้ยงก็รู้สึกแตกต่างจากเดิม แขกเริ่มพากันเอ่ยปากพูดยกยอเด็กน้อยทั้งสองว่าทั้งฉลาดบ้างทั้งน่ารักบ้าง ยอจนเด็กแทบจะลอยขึ้นบนฟ้า
“คุณปู่เสิ่น คุณชายน้อยของคุณคนนี้แม้ว่ายังเด็ก แต่แววตาดูฉลาดหลักแหลมไม่เบาเลย เหอะๆๆ ในอนาคตจะต้องโตไปเป็นคนเก่งมีความสามารถแน่นอน!”
ลั่วหานยกมุมปาก เด็กสองขวบ แววตาฉลาดหลักแหลม โตไปเป็นคนเก่งมีความสามารถ? คิดดูแล้วก็ถูกเผงเลย
“หลานของท่านสืบทอดความฉลาดมาจากประธานเสิ่น จากนี้ไปจะต้องเป็นเสาหลักของตระกูลเสิ่นแน่นอน”
“ฮ่าๆๆ คุณชายทั้งสองเป็นดาวรุ่งพุ่งแรง ทรัพย์สินมากมายมหาศาลของตระกูลเสิ่นในอนาคต มีผู้สืบทอดต่อแล้วล่ะนะ!”
พูดเยินยอประจบประแจงเก่งจริงๆ สุดยอด!
แม้ว่าจะพูดยกยอเกินจริงไป แต่ถึงจะพูดยังไง ลั่วหานดูแล้วเด็กทั้งสองคนนี้ก็น่ารักและสะอาดสะอ้านมาก เด็กทั้งสองล้วนแต่หน้าตาเหมือนแม่ ทั้งจ้าวฟางฟางและฉู่ซีหรานหน้าตาก็ไม่ได้แย่ เด็กทั้งสองจึงหน้าตาดูดีเป็นปกติอยู่แล้ว
ใบหน้ากลมๆ ลูกตาดำแวว วัยกำลังอยากรู้อยากเห็น พอเห็นคนก็ชำเลืองตาไปมองไม่หยุด ลักษณะท่าทางทำให้คนรักและเอ็นดู
ลั่วหานใจเต้น พูดชมออกมาอย่างช่วยไม่ได้“น่ารักจริงๆ……”เธอลากเสียงยาว ไม่รู้ว่าพูดต่ออะไรอีก รู้สึกแค่ว่าแค่เด็กโผล่ออกมา พื้นที่หนึ่งในใจของเธอก็จุดประกายไฟขึ้นมาแล้วทันที รู้สึกอบอุ่น
ฉู่ซีหรานสองมือที่อุ้มห้าวห้าวสั่นกระตุกๆไม่หยุด พร้อมกับหันมองไปยังลั่วหาน“พี่ พี่กับพี่เขยแต่งงานกันหลายปีมานี้ ยังไม่เคยมีลูกกันสักที พอเห็นเด็กแล้วตาก็แทบจะลอยออกมาเลยนะ เหอะๆ พี่คงไม่ได้คิดจะแย่งลูกของฉันไป เพราะว่าตอนเด็กฉันไปแย่งกุ้งของพี่ด้วยความไม่รู้ประสีประสาหรอกนะ!”
ความรักความเอ็นดูที่กำลังงอกเงยของลั่วหานถูกฉู่ซีหรานทำให้สะดุ้งตื่นขึ้นมา ครึ่งหนึ่งในใจก็รู้สึกเย็นชาทันที“ฉันกับพี่เขยของเธอใช้ชีวิตอย่างสุขสบายดี แถมผู้หญิงก็ไม่ใช่เครื่องมือในการผลิตทายาทอย่างเดียวด้วย”
ลั่วหานรู้สึกขมขื่นในใจ ไม่ว่ายังไง เด็กก็เป็นจุดอ่อนที่ใหญ่ที่สุดของเธอในตอนนี้ เธอชอบเด็ก ชอบมาก แต่ว่า……เหงื่อเริ่มไหลออกมาจากมือ อารมณ์ความรู้สึกที่ไม่สงบก็พุ่งออกมา
หลงเซียวกุมมือเธอเอาไว้ สัมผัสถึงนิ้วมือที่ขาวนวลของเธอ ปลายนิ้วเย็น คิ้วขมวด“ความเจ็บปวดในการคลอดลูก ฉันจะยอมให้พี่สาวของเธอรู้สึกเจ็บปวดแบบนั้นได้ยังไง? ถ้าเป็นไปได้ล่ะก็ นับจากนี้ไปฉันจะไม่ยอมให้เธอได้เจอกับความเจ็บปวดทรมานแบบนี้แน่นอน”
ลั่วหานใจสั่นไหว รู้ว่าเขากำลังพูดแก้ต่างให้เธออยู่ จึงรู้สึกซาบซึ้งใจ“แต่งงานมาหลายปีขนาดนี้ แต่ละวันเขาเอาแต่รักและเอาใจใส่ฉันต่างๆนานา พอพูดแล้ว มันก็ไม่มีเวลามีลูกจริงๆนั่นแหละ”
ทั้งสองแสดงความรักกันจนคนที่นั่งอยู่ต่างพากันอิจฉา กลับเป็นว่าฉู่ซีหรานเป็นคนน่าสมเพชเวทนาแทน
“น้องสาว น้องเขยไม่สามารถอยู่ข้างกายเธอได้ ผู้หญิงเลี้ยงลูกคนเดียวมันไม่ง่ายเลย แถมท้องหนึ่งทีก็โง่ไปสามปี น้องสาวก็ต้องใส่ใจดูแลตัวเองเยอะๆล่ะ”
“ฉันไม่ต้องให้พี่มาคอยเป็นห่วง!”
เจิ้งซินหัวเราะเหอะๆ“ซีหราน ให้ฉันอุ้มห้าวห้าวหน่อยสิ ไม่ได้เจอนาน เจ้า
เด็กน้อยอ้วนขึ้นอีกแล้ว”
“ได้สิ!ห้าวห้าวชอบให้เธออุ้มมาก เอาไปสิ”
เพิ่งจะพูดไปว่าชอบ เจิ้งซินไม่ทันขาดคำ พออุ้มเด็กคนนั้นมา ห้าวห้าวก็ร้องไห้โฮอยู่ในอ้อมอกของเจิ้งซินยกใหญ่ ร้องจนน่าเอ็นดู
“ฮือๆ……หม่ามี๊……หม่ามี๊……”เด็กน้อยที่เสียงออดอ้อนออเซาะขัดขืนจะออกจากอ้อมกอดของเธอ เจิ้งซินถูกเขาร้องใส่จนรู้สึกอึดอัด
ฉู่ซีหรานพูดถนอมน้ำใจ“ซินซินวันนี้เธอแต่งตัวสวยขนาดนี้ ห้าวห้าวก็เลยไม่คุ้นกับเธอน่ะ!”
“ฮ่าๆ!ใช่น่ะสิ วันนี้ซินซินสวยงามเฉิดฉาย อย่าว่าแต่ห้าวห้าวเลย ขนาดฉันแทบจะไม่คุ้นเธอเลย!ซีหราน ให้พี่สาวของเธออุ้มลูกสักหน่อยสิ ถึงยังไงก็เป็นป้าของเด็กเหมือนกัน!”
ฉู่ซีหรานที่อุ้มห้าวห้าวอยู่ก็แกว่งๆ ทั้งเอาของเล่นให้เล่น ทั้งเอาของกินให้กิน จึงจะช่วยปลอบเขาให้เชื่อฟังลงได้“พี่ หลานชายของพี่ พี่ไม่อยากอุ้มหน่อยเหรอ?”
ลั่วหานอ้าปาก“แน่นอน ครั้งแรกที่เจอกับหลานชาย……”
“ลั่วลั่ว ของขวัญที่คุณให้ผมเตรียมไว้ ผมเอามาแล้ว ตะกี้เอาแต่พูดคุยกัน จนลืมของขวัญของเด็กคนนั้นไปเลย”
หือ? ของขวัญ?
“ลืมไปสนิทเลย เร็วเข้า รีบเอาของขวัญมา กว่าจะได้เจอหลานของฉันทั้งที ป้าจะมามือเปล่าได้ยังไงกันล่ะ”
จ้าวฟางฟางพูดขึ้น“ถือว่าป้ารักเอ็นดูไม่น้อย ขนาดของขวัญยังเตรียมไว้เสร็จเรียบร้อย เร็วเข้าไปให้ห้าวห้าวไปหยิบด้วยตัวเอง”
“ห้าวห้าว มาสิ ให้ป้าของหลานกอดหน่อย”ฉู่ซีหรานกัดฟันกรอด ยื่นลูกไปไว้ในอ้อมอกของลั่วหานอย่างไม่เต็มใจ
แต่ห้าวห้าวอยู่ในอ้อมอกของลั่วหาน ก็ยิ้มร่าเริงอย่างไม่คาดคิด แถมยังพูดขึ้นหนึ่งประโยคอย่างออดอ้อน“คุณป้า……”เสียงลากยาวนั้น น่ารักน่าเอ็นดูจนใจละลายหมดแล้ว
ลั่วหานหยอกล้อเด็กน้อยอย่างไม่ค่อยคล่องมือมากนัก“เชื่อฟังจริงๆ”
ห้าวห้าวกระพริบตาโตๆ ปากนุ่มนิ่มจุ๊บลงไปที่หน้าของลั่วหาน
“ฮั่นแน่ ห้าวห้าวนี่อยู่เป็นจริงๆ พอเห็นผู้หญิงสวยแล้วจุ๊บเลยนะ”
ใครจะไปรู้ ห้าวห้าวกอดคอของลั่วลั่วไว้แล้วพูดจาตามประสาเด็ก“พ่อก็……”
ลั่วหานฟังจบก็รู้สึกไม่อึดอัดค่อยสบายใจ รู้สึกกระอักกระอ่วน
ผู้ชายที่อยู่ฝั่งตรงข้ามพูดยิ้มๆขึ้น“พ่อของหนูจุ๊บแม่ของหนูแบบนี้เหรอ?”
ห้าวห้าวหันตาโตๆไปมอง ส่ายหัว“ไม่ใช่……พ่อจุ๊บย่าแบบนี้”
พ่อจุ๊บย่า?!!
เสิ่นเหลียวจุ๊บจ้าวฟางฟาง?!
ตายแล้ว ข่าวใหญ่เลยนะเนี่ย
ลั่วหานกลั้นหัวเราะเอาไว้
จ้าวฟางฟางทนไม่ไหว ชักสีหน้า“เด็กคนนี้ พูดซี้ซั้ว เจ้าหนูดูผิดคนมากกว่านะ อย่าพูดมั่วซั่วแบบนี้สิ”
ห้าวห้าวปิดปาก ไม่พูดอะไรต่อแล้ว
แววตาของเสิ่นคั่วเย็นชาสุดๆ ฉู่ซีหรานก็หน้าเขียวขึ้นมา
“มีของขวัญไม่ใช่เหรอ? เอามาให้พวกเด็กๆสิ!”จ้าวฟางฟางรีบอ้างของขวัญมาเปลี่ยนประเด็นหัวข้อที่คุย แต่สีหน้าท่าทางของเสิ่นคั่วไม่ได้เปลี่ยนไป กลับเป็นปกติอยู่เหมือนเดิม
“เอาล่ะ มาสิ พวกเรามาแกะของขวัญแล้วนะ”ลั่วหานอารมณ์ดีอย่างหาที่เปรียบไม่ได้ จูงมือของห้าวห้าวมาหยิบกล่องของขวัญ
ห้าวห้าวไม่ได้สืบทอดความเจ้าเล่ห์ของเสิ่นคั่วและความโง่ของฉู่ซีหรานมา จิตใจของเด็กสะอาดบริสุทธิ์ ภาวนาได้แค่ว่าอย่าถูกเลี้ยงดูให้เติบโตมามีจิตใจที่ชั่วร้ายในตระกูลเสิ่นเลย
หลงเซียวเตรียมของขวัญมาสามชิ้น แต่ละชิ้นล้วนแต่บรรจุอยู่ในกล่องไม้ประดู่ที่สวยงามทั้งหมด ไม่ต้องดูที่ตัวของขวัญ แค่ราคากล่องอย่างเดียวก็ไม่ใช่ถูกๆแล้ว
เป็นอย่างที่คิดไว้ ของขวัญชิ้นแรกที่ให้กับห้าวห้าวก็คือรูปปั้นแกะสลักคริสตัลส่องประกายแวววับหนึ่งชิ้น แต่ว่า……
รูปปั้นชิ้นนี้ทำไมถึงเป็นรูปปั้นของเสิ่นเหลียว?