ประธานหยิ่งยโสของฉัน - ตอนที่ 423
ตอนที่ 423 ผมชอบแค่กลิ่นของคุณนายหลงเท่านั้น
“โอ้!รูปปั้นแกะสลักคริสตัลชิ้นนี้ คุณเสิ่นเหลียวไม่ใช่เหรอ? เหอะๆๆ ของขวัญชิ้นนี้เตรียมการไว้อย่างดีเลยนี่!การแกะสลักวิจิตรสวยงามเหมือนจริงมาก เหมือนกับคุณเสิ่นเหลียวเด๊ะเลย!”
“จริงด้วย การแกะสลักวิจิตรบรรจงมาก ดูแล้วเป็นฝีมือของปรมาจารย์ผู้ชำนาญ ประธานหลง ช่างใจป้ำเหมือนที่คิดไว้เลยนะเนี่ย”
เสิ่นคั่วชักมุมปากกำลังเปลี่ยนรูปปาก“ป้ากับลุงของเด็กช่างจริงใจและทุ่มเทจริงๆ!ซีหราน ขอบคุณลุงกับป้าแทนพวกเด็กๆหน่อยสิ!”
ฉู่ซีหรานแสร้งทำท่าทางเป็นธรรมชาติ รู้ดีว่าพวกเขากำลังเยาะเย้ยอยู่ แต่ก็ยังน้อมรับไว้อย่างใจกว้าง“ขอบคุณพี่ ขอบคุณพี่เขยค่ะ”
ลั่วหานดูผลิตภัณฑ์คริสตัลอย่างละเอียด ของที่ทำจากคริสตัล แม้ว่าจะสวย งดงาม แต่ไม่ทนต่อการตกหล่น ให้เด็กไปก็อาจจะทำแตกได้ง่ายๆ
ถ้าเกิดห้าวห้าวทำรูปปั้นแกะสลักของเสิ่นเหลียวแตกขึ้นมา เหอะ……คิดๆดูแล้วก็คงโชคร้ายแน่ๆ
ฉู่ซีหรานรู้สึกอัดอั้นตันใจมาก
“น้องสาวไม่ต้องเกรงใจ แต่แค่ คริสตัลไม่ทนต่อการตกหล่น เธอต้องดูแลให้ดีๆ อย่าให้ลูกทำแตกล่ะ”
เธอเพิ่งจะพูดไปว่าอย่าให้ทำแตก ห้าวห้าวก็ยื่นมือออกมาจับ มือเล็กๆที่เพิ่งจะกำโดน สั่นอีกนิดเดียวก็ตกลงบนพื้นแล้ว ทำให้ฉู่ซีหรานตกใจแทบแย่
“เอาเถอะ ฉันเก็บไปก่อนแล้วกัน”
“น้องสาวจะรีบร้อนไปไหน? ของที่ให้กับลูก ก็คือของเล่นของลูก ความรู้สึกแปลกใหม่อยากรู้อยากเห็นของห้าวห้าวยังไม่ทันจะหมดเลย รอห้าวห้าวเล่นจนเบื่อก่อนค่อยเอาไปเก็บก็ยังไม่สาย”
ของเล่น? เล่นจนเบื่อ?
สีหน้าของฉู่ซีหรานดำมืดลงไม่รู้ว่ามากขนาดไหน รูปปั้นแกะสลักของเสิ่นเหลียว เห็นๆอยู่ว่ามันสื่อถึงเสิ่นเหลียว แต่ดันมาบอกว่าเป็นของเล่นเนี่ยนะ
ทั้งตบหน้า และเยาะเย้ยกันแบบซึ่งๆหน้า
ลั่วหานยกคิ้วขึ้น คุณหลงที่แอบเจ้าเล่ห์อยู่ให้รูปปั้นแกะสลักของพ่อกับลูก โหดร้ายจริงๆ คุณหลง คุณชนะแล้วล่ะ
“คุณนายเสิ่น ของขวัญชิ้นที่สอง เอาให้กับเจ้าชาย คุณเปิดแทนเขาสิ ส่วนของขวัญชิ้นที่สาม ตั้งใจเตรียมให้กับคุณนายเสิ่นโดยเฉพาะเลย คุณนายเสิ่นค่อยไปเปิดออกหลังจากงานเลี้ยงจบแล้วก็ได้นะ”
หลงเซียวจงใจพูดเน้นน้ำหนักที่ประโยคสุดท้าย ความหมายที่แฝงอยู่ในนั้น ทำให้จ้าวฟางฟางรู้สึกเหมือนจิตใจโดนกระทบ ดูจากรูปแบบการส่งของขวัญของหลงเซียวแล้ว เธอไม่อยากจะคิดจริงๆ
“เหอะๆๆ ขอบคุณพวกคุณคู่สามีภรรยามาก ของขวัญฉันรับไว้แล้ว ไม่มีของขวัญอะไรให้ตอบแทน คืนนี้ก็กินเยอะๆดื่มเยอะๆสักหน่อยแล้วกัน”
หลงเซียวหมุนๆแหวนแต่งงานที่นิ้วนางเหมือนตั้งใจแต่ก็ไม่ตั้งใจ
ริมฝีปากบางๆยิ้มเป็นเส้นโค้งอย่างคาดการณ์อะไรไม่ได้เลย พอเขายิ้ม คนที่ถูกเขามองก็รู้สึกขาดความมั่นใจขึ้นมาทันที
จะผีหรือคน ตอนนี้ก็เผยร่างจริงออกมาจนหมด
“คุณนายเสิ่นของขวัญที่ส่งให้กับเจ้าชายน้อย ไม่เปิดดูหน่อยเหรอ?”ลั่วหานพูดเตือนขึ้นด้วยความหวังดี สายตาจ้องไปที่กล่องไม้ประดู่ พูดอย่างตรงไปตรงมา เธอตั้งหน้าตั้งตารอดูว่าของข้างในคืออะไร
จ้าวฟางฟางกัดริมฝีปาก พูดยิ้มๆอย่างอึดอัด“ไม่ต้องหรอก? พวกเราทานข้าวกันก่อน กลับไปฉันค่อยให้ลูกดูก็ได้”
“แบบนี้ไม่เหมาะสมสิคะ เป็นเด็กเหมือนกัน ห้าวห้าวได้ของขวัญแล้ว แต่อานอานกลับไม่ได้ คุณดูสิ อานอานทำท่าจะร้องแล้วนะ”ลั่วหานอุ้มห้าวห้าวอยู่ เด็กน้อยอยู่ในอ้อมอกของเธอไม่ยอมจากไปไหน ในมือของเขาก็เล่น“เสิ่นเหลียว”ไปพลาง ขำคิกคักๆ
ฉู่ซีหรานรู้สึกกังวลใจ เตรียมตัวรับคริสตัลที่จะตกลงบนพื้นอยู่ทุกเมื่อ
เสิ่นคั่วพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงเย็นชา“เปิดออกสิ!ของขวัญที่ให้ลูก เปิดตอนนี้เลย”
จ้าวฟางฟางไม่กล้าปฏิเสธ แกะริบบิ้นที่ผูกกล่องไม้ประดู่ไว้อยู่ด้วยความกระวนกระวาย ค่อยๆเปิดกล่องออกอย่างช้าๆ ข้างในยังคงเป็นรูปปั้นแกะสลักคริสตัล
แต่แค่ว่า……
“โอ้!ทุ่มเทอย่างที่คิดไว้เลยจริงๆ รูปแกะสลักชิ้นนี้ ไม่ใช่คุณปู่เสิ่นหรอกใช่ไหม?”
เจิ้งซินก็หันหน้าไปดู เห็นได้ชัดว่าไม่ใช่เสิ่นคั่ว แต่เป็น……เจิ้งซินหรี่ตาลง“คนคนนี้ ดูแล้วคุ้นๆตา? เหมือนกับว่าจะเคยแสดงละครโทรทัศน์เรื่องอะไรมาแล้วสักเรื่อง ชื่อว่าอะไรแล้วนะ……”
ฉู่ซีหรานร้องอุทานออกมาด้วยความตกใจอย่างควบคุมไว้ไม่อยู่“โอ้!นี่คือฉีซือหนานที่เคยรับบทนักแสดงสมทบของละครแนวทะลุมิติในช่วงก่อนหน้านี้นี่นา แสดงเป็นพระรองคนที่สาม แอบรักกับนางรอง สุดท้ายถูกลูกศรกระหน่ำยิงตาย ฉันเคยดูเรื่องนั้น”
ตู้ม!
ในหัวของจ้าวฟางฟางเหมือนถูกสายฟ้าฟาดเข้าอย่างจังฉีซือหนาน?!!
หลงเซียวจะมีรูปปั้นแกะสลักของฉีซือหนานได้ยังไง? แถม……บวกเข้ากับคำพูดคำพูดนั้นของฉู่ซีหราน ใจของจ้าวฟางฟางก็ราวกับถูกลูกธนูกระหน่ำยิงเช่นเดียวกัน
สีหน้าซีดขาว หน้าผากเต็มไปด้วยเหงื่อ ถือรูปปั้นแกะสลักไว้อยู่ ทั้งร่างกายสั่นเหมือนกับเป็นตะคริว
“คุณนายเสิ่นคุณเป็นอะไรไป? สีหน้าไม่ค่อยดีเลย”แม้ว่าลั่วหานจะไม่รู้ว่าฉีซือหนานเป็นใคร แต่การพูดอธิบายของฉู่ซีหราน ก็เหมือนกับได้เล่าเรื่องราวไว้บ้างแล้ว หลงเซียวทำอะไรมีเป้าหมาย ไม่มีทางให้ของขวัญแบบเปล่าๆแน่นอน
ดังนั้น ดาราคนนี้ เกรงว่าจะมีความสัมพันธ์ที่ไม่ธรรมดากับจ้าวฟางฟาง
“เปล่า ไม่ได้เป็นอะไร ตะกี้บรรยากาศกดดันเกินไป น้ำตาลในเลือดคงต่ำน่ะ ฉันพักผ่อนสักหน่อยก็ดีขึ้นแล้วล่ะ”
อ๋อ? อย่างนั้นเหรอ? เห็นๆอยู่ว่าตกใจมากเกินไป
“ดาราหนุ่มวัยรุ่นที่โด่งดังอยู่ในตอนนี้ จากที่ได้ยินมาเป็นไอดอลที่ไม่เลวคนหนึ่งเลย ก็แกะสลักรูปปั้นมาให้ คิดไม่ถึงว่า……ต้องขอโทษด้วยคุณนายเสิ่นครั้งหน้าฉันให้คนสลักคุณปู่เสิ่นแล้วส่งมาให้เดี่ยวๆเลยแล้วกัน”ลั่วหานยิ้มแย้ม แววตาบริสุทธิ์ไร้เดียงสา แฝงไปด้วยความฉลาดหลักแหลม
ความลับส่วนตัวของเธอกับจ้าวฟางฟาง คนอื่นไม่รู้ แค่เธอสะกิดแค่เพียงนิดเดียว จ้าวฟางฟางก็จะถูกกระตุกประสาทที่ละเอียดอ่อนทันที ช่างน่าสนใจเหลือเกิน!
“คุณป้า……อยากกินอันนั้น……”ห้าวห้าวที่อยู่ในอ้อมอกพอเล่นของเล่นจนหมดความสนใจแล้ว สายตาก็ชำเลืองไปที่จานอาหาร
ลั่วลั่วหยิบส้อมขึ้นมา“จ้า เดี๋ยวป้าเอาให้”
ลั่วลั่วอุ้มเด็กมือเดียว อีกมือยื่นไปจิ้มฟัวกราส์ในจาน หลงเซียวยื่นมือมารับซ้อมของเธอไว้“เดี๋ยวผมทำเอง”
สามีภรรยาสามัคคีกลมเกลียวกันเป็นปี่เป็นขลุ่ยแบบนี้ อาหารมื้อนี้ยังไม่ทันจะทานกันเสร็จ ก็กลายเป็นต้นแบบให้ดูแล้ว
ตบหน้าของเจิ้งซินไปอีกหนึ่งที
ฉู่ซีหรานเก็บ“เสิ่นเหลียว”มาแล้วเอายัดเก็บเข้าไปในกล่อง ก่อนจะพูดปลอบห้าวห้าว“เจ้าหนูน้อย มาให้แม่อุ้ม มามะ”
ห้าวห้าวที่ยัดฟัวกราส์ไปเต็มปาก ส่ายหัวไปมาราวกับกลองเม็ด“ผมอยากให้ป้ากอด……”
“เด็กคนนี้ สนิทชิดเชื้อกับป้ามาก ดูท่าแล้ว ป้าคงจะมีเสน่ห์มากกว่าแม้แท้ๆอีกนะเนี่ย”
โต๊ะอาหารยาวๆ คนหลายสิบคน ยืดหยุ่นคล้อยตามและเปลี่ยนสีหน้าท่าทีไปตามสถานการณ์ เกาะติดบรรยากาศอย่างไม่ลดละ
หลงเซียวเห็นห้าวห้าวเอาแต่ให้ลั่วหานอุ้ม กลัวว่าเธอจะอุ้มนานเกินไปแล้วปวดแขนได้ จึงเอาเด็กมาอุ้มไว้ในอ้อมแขนของตัวเองแทน เห็นได้ชัดว่า……หลงเซียวอุ้มเด็กไม่เป็น
ท่าทางการกระทำดูอึดอัดสุดๆ อุ้มไปสักพักก็เอาเด็กให้กับพี่เลี้ยง ที่เนื้อตัวมีกลิ่นนมติดอยู่
หลงเซียวขมวดคิ้ว เล่นเอาลั่วหานอมยิ้มกรุ้มกริ่ม
“ไม่ชอบกลิ่นนี้เหรอ?”
“ผมชอบแค่กลิ่นของคุณ”เขายกคิ้ว สีหน้ายิ้มแย้มมากขึ้น
“……”ลั่วหานพูดอะไรไม่ออก
เสิ่นคั่วใช้แรงกระแทกไม้เท้าในมือลงที่พื้นหนึ่งที“เอาล่ะ!ถึงเวลาแล้ว เชิญทุกท่านทานอาหารกันเถอะครับ!”
เจิ้งซินมองเวลา คาดคะเนดูในใจ พูดกันตามเหตุผลพ่อน่าจะถึงได้แล้วนะ ทำไมถึงยังไม่มาอีก?
แผนเดิมของเธอคือให้พ่อมาออกหน้าแทนเธอในค่ำคืนนี้ แต่จนถึงตอนนี้ยังไม่เห็นเงาของเขา ทั้งโกรธทั้งเกลียดสุดๆ!
“ผมก็อยากให้อุ้มๆ!”
ห้าวห้าวเพิ่งจะไป อานอานก็ยื่นมือออกไปยังด้านของลั่วหาน
จ้าวฟางฟางลูกตาดำจ้องเขม็ง“อานอาน โอ๋!แม่อุ้มเอง!”
“ไม่……ผมจะให้ป้าอุ้ม ผมจะให้ป้าอุ้ม”หลังจากพูดว่าจะให้ป้าอุ้มเสร็จ พอปากปิดลงก็ทำท่าจะร้องไห้ทันที
แขกคนหนึ่งหัวเราะออกมาพร้อมกับพูดขึ้น“เห้อ เด็กก็แบบนี้ทั้งนั้น เห็นคนอื่นได้ ตัวเองก็ต้องได้ คุณให้คุณนายหลงอุ้มสักพักเถอะ ไม่อย่างนั้นเขาจะต้องร้องไห้วอแวไม่หยุดแน่ๆ”
“ฮือฮือ……ฮือ……”อย่างที่คิดไว้พอ อานอานเห็นจ้าวฟางฟางไม่ยอม ร่างเล็กๆบิดไปมาอยู่ในอ้อมแขนของเธอพูดโอ๋ให้ตายยังไงก็ปลอบให้เงียบไม่ได้
“พอแล้วๆ โอ๋ๆ!”
จ้าวฟางฟางหมดหนทาง จำใจส่งลูกไปให้ลั่วหาน
ลั่วหานที่ขมวดคิ้ว ก็ยิ้มออกมาทันที หยิกๆแก้มของเจ้าเด็กน้อยอย่างอ่อนโยน“จ้า ป้าอุ้มเอง ห้าวห้าวเรียกป้าได้ แต่หนูน่ะเรียกป้าไม่ได้นะ หนูเป็นอาของห้าวห้าว”
เอ่อ……ไม่พูดจะดีกว่า หลังจากพูดเปิดเผยไปแล้ว จ้าวฟางฟางกับฉู่ซีหรานก็รู้สึกอึดอัด เสิ่นคั่วแน่นอนว่าก็ไม่ต่างกันเท่าไร
“ฮ่าๆ!ก็ใช่ เจ้าชายน้อยก็เป็นอานั่นแหละ”
อานอานไม่ยอม“ผมจะเรียกป้า!ห้าวห้าวเรียกป้า ผมก็จะเรียกป้า!”
แน่นอนว่าผู้ใหญ่ก็ไม่ได้จริงจังอะไรกับเด็กอยู่แล้ว ลั่วหานจิ้มของหวานให้
กับอานอาน เจ้าเด็กน้อยกินอย่างสบายใจ
อานอานดูซูบผอมกว่าห้าวห้าว นั่งลงที่ตักก็ไม่รู้สึกหนักเท่าไร ลั่วลั่วก็ให้เขานั่งแบบนี้เลยแล้วกัน มือหนึ่งประคองเอาไว้ มือหนึ่งเล่นกับเขา
แต่ ตอนที่ลั่วลั่วลูบไปที่ชีพจรของอานอาน สีหน้าก็เปลี่ยนไปเคร่งเครียดไม่น้อย
อัตราการเต้นของหัวใจของอานอานมีปัญหา ลูบไปสักพัก ก็มั่นใจแล้วว่ามีปัญหา แถมเหมือนกับโรคของเถียนเถียนทุกประการ ถ้าอัตราการเต้นของหัวใจในตอนแรกไม่พร้อมกันแล้ว ภายหลังจะยิ่งร้ายแรงขึ้น จะกลายเป็นเหมือนกับเถียนเถียน
ดูทรงแล้วว่ายีนของจ้าวฟางฟางมีปัญหา ลูกทั้งสองคนเป็นโรคหัวใจเหมือนกันหมด
ถ้าเกิดได้รับการรักษาไม่ทัน เกรงว่าจะเป็นอันตรายถึงชีวิตได้
เจิ้งซินกอดกระเป๋าหนังไว้แน่น ยาที่เธออุตส่าห์เตรียมมาอย่างดี จะไม่ได้ใช้จริงๆเหรอ?!
แต่พ่อทำไมถึงยังไม่โผล่มาอีกเนี่ย?
ในขณะนี้ จู่ๆโทรศัพท์ของเจิ้งซินก็ดังขึ้น
เธอรีบหยิบมือถือออกมาจากกระเป๋าทันที“พ่อ!อยู่ไหนเนี่ย?”
แต่คนในสายกลับไม่ใช่เจิ้งเฉิงหลิน“คุณหนูผมเอง เหล่าจาง คุณหนูคุณท่านจู่ๆก็โรคเส้นเลือดหัวใจตีบตันกำเริบ ผมเพิ่งจะพาเขาไปส่งโรงพยาบาลประชาชน คุณรีบมาเถอะ!”
“ว่าอะไรนะ!ได้……ฉันจะรีบไปเดี๋ยวนี้!”
เจิ้งซินเก็บมือถือลงกระเป๋าด้วยท่าทางลนลาน ไม่ทันได้ปิดกระเป๋า ก็รีบลุกขึ้นยืนทันที“คุณลุงเสิ่น พ่อของฉันจู่ๆก็ล้มป่วย ฉันต้องรีบไปโรงพยาบาลก่อน!”
“หนักขนาดนี้ เธอรีบไปเถอะ!”
เจิ้งซินจากไปแล้ว คนที่เหลือในห้องโถงของงานเลี้ยงก็รู้สึกว่าได้เวลาแล้ว จึงเริ่ม————ขอตัวกลับกัน
ลั่วหานเลื่อนที่นั่ง เดินไปอยู่ข้างจ้าวฟางฟาง ส่งเด็กไปที่อ้อมอกของเธอด้วยมือตัวเอง
รูปปั้นแกะสลักในมือของอานอานลื่นหลุดจากมือ“ตุ้บ”ตกลงบนพื้นพรมเปอร์เซียหนาๆ
จ้าวฟางฟางร้องออกมาด้วยความตกอกตกใจ“แตกแล้วยัง?!”
ลั่วหานยิ้มเล็กน้อย“อย่างที่คิดไว้ ผลลัพธ์ดีจริงๆ!”
“ไม่แตก ฉันช่วยเก็บให้คุณเอง”
ลั่วหานเอนตัวเก็บรูปปั้นแกะสลัก พอก้มลง กลับเห็นห่อกระดาษสีขาวห่อหนึ่ง อยู่ตรงที่นั่งของเจิ้งซิน จึงหยิบกระดาษนั้นกำไว้ในมือ
“คุณปู่เสิ่น ผมยังมีธุระต่อ ต้องขอตัวกลับก่อน”คืนนี้เป้าหมายของหลงเซียวได้สำเร็จลุล่วงแล้ว ถึงเวลากลับอย่างสง่างาม
“ได้ ฉันไม่ไปส่งแล้วกัน”
จ้าวฟางฟางกับฉู่ซีหรานคืนนี้รู้สึกโกรธเกลียดเต็มทนแล้ว แต่ผู้หญิงทั้งสองคนกำทั้งหมดเอาไว้ในมือ ไม่กล้าไปทำซึ่งๆหน้า
ทำได้แต่จ้องเขม็งหลงเซียวที่กำลังโอบลั่วหานอยู่ ทั้งสองคนจากไปด้วยท่าทางที่แสดงความรักและเคารพซึ่งกันและกัน ขนาดมองจากด้านหลังยังทำให้คนรู้สึกอิจฉาสุดๆ
งานเลี้ยงที่ต่างคนต่างชิงดีชิงเด่นกันเสร็จสิ้นลง
หลงเซียวกับลั่วลั่วเดินออกมาจากบ้านวิลล่าตระกูลเสิ่นก่อนที่แขกคนอื่นยังไม่ทันกลับ
ในห้องโถงบรรยากาศอึดอัดอึมครึม พอออกมาข้างนอกก็รู้สึกสบายขึ้นเยอะ อากาศโล่งสบาย ลมพัดโบก พัดผ่านร่างกายแล้วรู้สึกสบายอย่างบอกไม่ถูก
ลั่วหานผ่อนคลายไหล่ลงอย่างสบายๆ“คุณหลง วิวทิวทัศน์ของเมืองเจียงเฉิงดูเหมือนจะไม่เลวเลย พาฉันไปเวียนดูหน่อยสิ”
หลงเซียวจัดเสื้อคลุมตัวนอกของเธอ“แน่นอน ด้วยความเต็มใจ”
ลั่วหานเงยหน้ามองท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยดาว ดวงดาววิบวับ เดี๋ยวสว่างเดี๋ยวมืด เดี๋ยวก็เห็นเดี๋ยวก็หาย“ดูเหมือนว่าอากาศของเมืองเจียงเฉิงก็ไม่ดีมากมายอะไร”
หลงเซียวโอบเอวบางๆของเธออย่างอ่อนโยน ใช้หนึ่งมือจับคางที่สวยงามของเธอเชิดขึ้น หวนคิดถึงทั้งหมดในค่ำคืนนั้น ในใจเต็มไปด้วยความอบอุ่น“ลั่วลั่ว ยิ้มหน่อยสิ”
“หือ? ยิ้ม? ยิ้มอะไร? ตะกี้ที่อยู่ในงาน ฉันยังยิ้มไม่เยอะพออีกเหรอ?”
เยอะนะ แต่ยิ้มเหล่านั้น ไม่ได้ยิ้มเพื่อเขา
โค้งตัวลงไปอย่างบังคับตัวเองไม่ได้ ที่บริเวณริมบ้านวิลล่าของตระกูลเสิ่น ท่ามกลางเงาบางๆของต้นไม้ดอกไม้ที่สลัวๆ ริมฝีปากของเขาจูบไปที่ริมฝีปากของเธอ ผลัดกันจูบนัวเนีย อ้อยอิ่งอยู่นานสองนาน
“อื้อ เดี๋ยวมีคนมาเห็นเข้า”
ไม่ยอมผละออกจากปากของเธอด้วยความรัก ปลายจมูกแตะอยู่ที่ปลายจมูกของเธอ ลมหายใจอุ่นๆแผ่กระทบลงที่หน้าของเธอ“ถึงอากาศไม่ค่อยดี แต่มีคุณอยู่ข้างกายผม ทุกอย่างก็ดีไปหมด เพียงแค่รอยยิ้มนั้น ใจผมก็สว่างสดใสขึ้นมา”