ประธานหยิ่งยโสของฉัน - ตอนที่ 446
ตอนที่ 446 ภรรยา ผมถูกคุณบีบบังคับจนหมดหนทางแล้ว
ประโยคที่เธอพูดว่า ต้องการแบ่งปันประสบการณ์กันด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนที่มีพลังเข้าหูของเขา เธอไม่ได้ป่าเถื่อนแต่หนักแน่น และไม่ได้ดื้อดึง แต่มีความมั่นใจในตัวเอง
ทั้งสองมือจับที่คันรถจักรยานคู่ตำแหน่งข้างหลัง จากนั้นเธอก็เผยสายตาเป็นประกายขึ้น
หลงเซียวสะดุดตาสายตาที่เป็นประกายของเธอทันที และสัมผัสถึงสายตาหนักแน่น
“ลั่วลั่ว ผมเป็นสามีของคุณ ผมแต่งงานกับคุณ ไม่ใช่เพราะให้คุณมาเผชิญปัญหากับผมสักหน่อย” เขาลูบเส้นผมของเธอด้วยสีหน้าเอ็นดู
“ฉันเป็นภรรยาของคุณนะ ไม่ใช่เด็ก หรือว่าคุณหลงยังไม่รู้ถึงความสามารถของฉันอีกหรอ? ไม่ว่าจะเกิดเรื่องหนักหนาแค่ไหน ฉันจะอยู่เคียงข้างคุณ คุณเลือกภรรยาเอง และใช้ชีวิตมาตั้งเจ็ดปีแล้ว แค่นี้ก็ไม่มีความไว้ใจต่อกันหรอ?”
หลงเซียวหยุดนิ่งชั่วขณะ ยิ้มและพูดว่า “โอเค งั้นขึ้นมาเลย เดียวผมจะเล่าอะไรให้คุณระหว่างทาง”
ลั่วหานเผยสายตาดีใจเล็กน้อย “จริงหรอ? ไม่หลอกฉันใช่ไหม?”
“ภรรยาของผมฉลาดเกินไปแล้ว ผมหลอกไม่ได้หรอก ผมถูกคุณบีบบังคับจนหมดหนทางแล้ว ตอนนี้คงทำได้เพียงพูดความจริงอย่างใจกว้าง” เขาลูบหัวของเธอ แล้วหันหน้าจูบบนเส้นผมของเธอ
ลั่วหานเพิ่งปล่อยมือออก “โอเค!”
หลงเซียวยื่นมือจับจักรยานอย่างแน่น “นั่งให้มั่นคงก็เพียงพอแล้ว ผมรับผิดชอบเส้นทาง ส่วนคุณขี่ตามจังหวะของผมก็เพียงพอแล้ว”
จากนั้นเขาก็ขึ้นนั่งบนจักรยาน ด้วยแผ่นหลังที่กว้างหนา ดูแล้วรู้สึกปลอดภัยและรู้สึกสบายใจมาก
ลั่วหานเองก็ยกขาขึ้นนั่งบนจักรยานเหมือนกัน คนที่ขี่จักรยานไม่เป็น ตอนนั่งมักรู้สึกว่าตัวเองกำลังโซซัดโซเซอยู่ “คงไม่ตกลงใช่ไหม? แต่ฉันรู้สึกเหมือนกำลังจะตกเลย”
หลงเซียวประคับประคองจักรยานอย่างระมัดระวัง พร้อมกับวางเท้าทั้งสองข้างบนพื้นเพื่อรักษาความสมดุล “มีผมอยู่ จะตกได้ยังไง? อย่ามองรถ จับให้แน่น และมองผมคนเดียวก็พอ”
“มองคุณหรอ? มองอะไรหรอ?”
เธอเงยหน้าขึ้น และเห็นแต่แผ่นหลังของเขา
หลงเซียวกลั้นขำไม่ไหว เลยหัวเราะออกมา “เห็นอะไรก็มองอันนั่นแหละ สูบลมหายใจเข้าลึกๆ ก็แค่จักรยานเท่านั้น คุณหมอฉู่ฉลาดหลักแหลขนาดนี้ แถมยังสามารถปราบสามีได้อยู่หมัด ยังต้องกลัวจักรยานด้วยหรอ?”
“คุณกำลังประชดประชันฉันอยู่หรอ?”
“ไม่บังอาจครับ คุณนายนั่งดีๆนะครับ พวกเราจะออกเดินทางแล้วครับ” ขณะที่หลงเซียวพูดก็เหยียบที่ปั่นจักรยาน จากนั้นจักรยานก็ขับเคลื่อนตามแรงของเขา
“เฮ้ย!”
เมื่อจักรยานเกิดการโซซัดโซเซ ลั่วหานก็ตกใจจนหน้าขาวซีด ขณะเดียวกันก็ยกมือทั้งสองข้างยื่นไปจับเอวของหลงเซียว เพราะกลัวผลักตก เธอเลยโอบเอวของเขาอย่างแน่น
หลงเซียวตกใจจนแข็งทื่อ คิดไม่ถึงว่าลั่วหานที่ทั้งมีความสามารถและหน้าตาสวยจะตกใจจักรยานคันเดียวจนเป็นแบบนี้ ไม่นานก็เขายิ้มและพูดว่า “ลั่วลั่ว ตกลงผมต้องชมคุณว่า สาวน้อยบอกบาง หรือ…..”
“ไม่อนุญาตให้ประชดประชันฉัน การปรับความสมดุลของฉันไม่ค่อยดี ตอนฝึกขี่จักรยานตอนนั้นล้มลงหลายครั้งมาก ต่อมาก็ไม่กล้าขี่จักรยานอีกเลย หากมองจากมุมมองทางการแพทย์แล้ว การปรับความสมดุลไม่ดีคือสมองเจริญเติบโตไม่สมบูรณ์ ดังนั้นฉันจัดอยู่ประเภทร่างกายไม่ค่อยปกติ คุณกล้าดูถูกคนประเภทร่างกายไม่ปกติหรอ?”
ขณะที่ลั่วหานยังรู้สึกหวาดกลัวนั้น เธอกลับยิ่งมีฝีปากกล้ามาก จนทำให้หลงเซียวโต้เถียงไม่ออก
หลงเซียวขมวดคิ้วเล็กน้อย “ผมไม่ได้ประชดคุณสักหน่อย คุณหมอฉู่สมกับเป็นนักเรียนเรียนดีจริงๆ คิดไม่ถึงแม้แต่คนประเภทร่างกายไม่ปกติแบบนี้สามารถใช้กับตัวเองได้ด้วย สามีพูดไม่ออกแล้ว ฮ่าฮ่า”
ตอนนี้เขาหันหลังมองไม่เห็นสีหน้าของเธอเลย แต่ว่ามารถจินตนาการได้ว่า เธอคงเขินอายจนหน้าแดงน่ารักมากแน่
“คุณกล้าหัวเราะอีกหรอ?”
ใช่ เขาอยากหัวเราะ เขาหัวเราะที่ภรรยาของเขาน่ารัก คิดไม่ถึงว่ามีเรื่องที่น่าสนุกมากมายที่เขายังไม่รู้
“ไม่กล้า ไม่กล้าครับ ภรรยานั่งดีหรือยังครับ? หากหวาดกลัวมากจริงๆ โอบกอดผมก็ได้ครับ เดียวผมพาคุณไปเอง”
ลั่วหานปล่อยมือจากเอวของเขา “อืม รีบขี่เถอะ ไม่ต้องเปลี่ยนเรื่อง”
เมื่อจัดระเบียบร่างกายเสร็จเรียบร้อย ก็วางมือที่คับจับทั้งสองข้าง จากนั้นก็เผยสายตาหนักแน่นขึ้น
“โอเค!”
หลงเซียววางเท้าทั้งสองข้างบนที่ปั่นจักรยาน จากนั้นก็ขี่ตรงไปตามริมแม่น้ำ ขณะเดียวกันก็รู้สึกถึงกระแสลมที่กระทบบนร่างกาย และได้ยินเสียงลมผ่านหูด้วย
“อันที่จริงควรนั่งจักรยานเดียวนะ ตอนที่คุณโอบกอดผมเมื่อกี้ ผมรู้สึกดีมากจริงๆ” ขณะที่หลงเซียวขี่จักรยานนั้น จู่ๆก็หัวเราะออกมา
ลั่วหานจับคันจับจักรยานอย่างแน่น “อย่าพูดมากให้ฉันเสียสมาธิสิ”
หลงเซียวพยักหน้าเล็กน้อย “จับดีๆ ข้างหน้ามีเนิน”
“อืม!”
หลงเซียวออกแรงปั่นอย่างเต็มที่ ขณะเดียวกันก็ได้แรงช่วยจากข้างหลังด้วย จนสามารถขี่ผ่านเนิ่นได้อย่างสบาย ภรรยาของเขาช่างฉลาดจริงๆ
“คุณอยากเริ่มฟังจากตรงไหนก่อน?”
“ทำไมจู่ๆถึงออกมาเที่ยว?”
“ไม่อยากพบใครบางคน และเรื่องบางเรื่อง อยากอยู่สงบๆ” คำตอบเป็นกลางมาก!
“ฉันอยากรู้สาเหตุที่แท้จริง”
“เรื่องนี้….ยาวมาก”
“ฉันเชื่อว่าผู้ชายที่ฉลาดอย่างคุณหลงต้องรู้จักย่อความแน่ค่ะ”
“คุณนายหลงแห่งตระกูลหลงเปลี่ยนเป็นคนขี้โมโหง่ายตั้งแต่เมื่อไหร่?”
จู่ๆลั่วหานก็ยกเท้าข้างขวาวางบนที่ปั่นจักรยาน พร้อมกับออกแรงปั่น จากนั้นก็หยุดลง เมื่อสัมผัสถึงแรงต้าน คนที่อยู่ข้างหน้าก็หยุดนิ่งชั่วขณะ
“ใช่ ฉันคือเป็นคนขี้โมโหง่าย ทำไมหรอ? คุณหลงชอบแรงเสียดสีเมื่อกี้หรอ?”
หลงเซียวยอมแพ้แล้ว ภรรยาของเขา ไม่ว่าจะโจมต่อเขาอย่างอ่อนโยน แข็งกร้าว โดยตรง ทางอ้อม ล้วนมามารถจัดการเขาได้อยู่หมัด
“ผมชอบคุณมากกว่า––เอาล่ะ ผมจะเริ่มเล่าเรื่องจากที่ผมถูกส่งไปเมืองเจียงเฉิงก่อนล่ะกัน”
“โอเคค่ะ! พร้อมฟังแล้ว!”
จักรยานขี่ตามริมแม่น้ำ จากนั้นก็เลี้ยวทางแยก ข้างหน้าไม่ไกลเป็นสวนดอกทิวลิปขนาดใหญ่ ข้างในแปลงเพาะปลูกดอกไม้มีกังหันสีขาวกำลังหมุนตามกระแสลมอยู่
ทั้งสองคนที่สวมรองเท้าผ้าใบสีฟ้าปั่นจักรยานตามจังหวะเดียวกันอย่างสามัคคีกันมาก
ลั่วหานตั้งใจฟังเขาเล่า โดยไม่พูดแทรกเลย ส่วนเขาก็อธิบายอย่างละเอียดด้วย
จากนั้นจักรยานขี่เข้าไปในสวนดอกไม้ขนาดใหญ่
จักรยานเริ่มขี่ช้าลง ขณะเดียวกันเขาพูดด้วยน้ำเสียงทุ้มต่ำอย่างน่าเศร้า จนเธอรู้สึกเศร้าใจตามไปด้วย
“ดังนั้นโครงการที่เมืองเจียงเฉิงมีโอกาสคว้าน้ำเหลว อีกอย่างหลงยี่ ต้องรับผิดชอบทุกอย่างใช่ไหม? ต่อมาคุณพ่ออาจจะไล่หลงยี่ ออกจากบริษัท MBK หรอ? หรืออาจจะไล่ออกจากตระกูลหลงใช่ไหม?”
“ใช่หลงยี่ มีเจตนาไม่ดีต่อบริษัท MBK ผมต้องยืมมือพ่อจัดการเขาให้ได้”
“แต่หากทำแบบนี้อาจจะสูญเสียโครงการที่เมืองเจียงเฉิง ขาดทุนเงินจำนวนมหาศาลขนาดนั้น คุณคิดว่าคุ้มค่าหรอ?”
ลั่วหานคิดวิเคราะห์ สามชาติของหลงยี่ ก็คงไม่สามารถทำงานหาเงินมากขนาดนั้นหรอก
แต่สิ่งที่หลงเซียวคิดไม่ใช่เรื่องเงิน “หลงยี่คือลูกชายคนโตของตระกูลหลง ซึ่งหากสามารถแลกกับฐานะนี้ถือว่าคุ้มค่า”
สำหรับหลงเซียวในตอนนี้แล้ว คิดว่าคุ้มค่ามาก
“อืม ลูกชายคนโตมีสิทธิ์สืบทอดมรดกก่อน–– อีกอย่างโครงการที่อเมริกา เป้าหมายของคุณคืออยากทำให้บริษัท MBK เผชิญกับปัญหาสื่อมวลชนใช่ไหม? ทำไมคุณต้องเอาบริษัท MBK มาเสี่ยงด้วยล่ะ?”
“ผมทำงานอยู่บริษัท MBK มาสิบปี หากไม่มีผมก็คงไม่มีมันในวันนี้ แต่ที่รักรู้สำนวนนี้ไหม กำจัดคนที่เคยทุ่มเททั้งแรงกายแรงใจเพื่อตัวเองออก?”
“พวกเขาต้องการกำจัดคุณหรอ?”
“ใช่ ดังนั้นผมเลยให้บางคนจัดการลับๆเกี่ยวกับโครงการใหญ่ทั้งสามโครงการของบริษัท MBK นั้นคืออเมริกา เมืองหลวง และเมืองเจียงเฉิง คนบางคนหลังจากบาดแผลหายก็ลืมความเจ็บปวด แต่ตอนนี้ดูเหมือนว่ามีใครบางคนเริ่มรู้สึกเจ็บปวดจากบาดแผลด้วย”
หลงเซียวยิ้มมุมปากเล็กน้อย พร้อมปั่นจักรยานอย่างช้าๆ โดยข้างหน้าเป็นสวนดอกไม้ผืนใหญ่
ลั่วหานเริ่มปะติดปะต่อเรื่องราวจนเข้าใจ เธอยิ้มประชดเล็กน้อย “อืม––นักวางแผนชาญฉลาด! หลงเซียว หากพ่อของคุณรู้ว่าลูกชายของตัวเองมีความสามารถมากขนาดนี้ เขาจะรู้สึกยังไงกัน?”
“เขาหรอ?” หลงเซียวนิ่งเงียบสักพัก จากนั้นในหัวสมองก็ปรากฏผู้ชายบนรูปภาพที่กำลังยิ้มอย่างอ่อนโยน และมีสายตานิ่งสงบขึ้น เขาจะมีปฏิกิริยาตอบสนองยังไงหรอ?
“บางทีอาจจะพูดว่า ทำได้ยอดเยี่ยมมาก!”
“ฮ่าฮ่า! เป็นไปไม่ได้! ด้วยนิสัยของพ่อคุณแล้ว เขาคงเอาปืนลั่นไกสมองคุณแน่”
“หากเป็นแบบนี้ พวกเราก็ไปเที่ยวสุดขอบฟ้า ไม่ต้องกลับแล้ว”
“โอเค! ไม่ต้องกลับแล้ว! คุณหลง เพิ่มความเร็ว! พวกเราไปดูกังหันลมกัน!”
จู่ๆเธอก็ออกแรงปั่นจักรยานเพื่อเพิ่มความเร็วขี่ตรงไปที่กังหันลม
“โอเค! ไปดูกังหันลมกัน! นั่งดีๆ พวกเรามาทำให้จักรยานบินได้แป๊บหนึ่งกัน!”
กระแสลมพัดเสื้อผ้าและผมของทั้งสอง จนเหมือนกับพวกเขากำลังโบยบินอยู่จริงๆ
——
“เศรษฐกิจการคลังไตรมาสแรกของเมืองหลวงสอดแทรกข่าวสารเพื่อคุณ ในตอนนี้โครงการสร้างตึกสูงระฟ้าที่เมืองเจียงเฉิงของบริษัท MBK กำลังเผชิญกับวิกฤติสั่งหยุดการก่อสร้าง และยังมีปัญหาอีกหลายด้าน ไม่ว่าจะเป็นอุปกรณ์การก่อสร้าง ความปลอดภัย…….
“ทุกท่านครับ ตอนนี้ผมอยู่ที่ดินบุกเบิกไห่วานของเมืองเจียงเฉิง และมีจุดประสงค์ก่อสร้างตึกที่สูงที่สุดของเมืองเจียงเฉิง แต่จู่ๆวันนี้กลับมีประกาศให้หยุดการก่อสร้าง ทางหน่วยงานราชการให้คำอธิบายว่า……หยุดเพียงแค่นี้ ทั้งที่บริษัท MBK ยังไม่ได้ประกาศอธิบายเลย……”
“ประธานหลงคนเดิมของบริษัท MBK หายไม่มีร่องรอย และบริษัท MBK กลับเผชิญกับปัญหาสามโครงการใหญ่ แหละอสังหาริมทรัพย์จำนวนมหาศาลสามารถหลบหลีกได้หรือเปล่า พวกเรามารอคอยผลลัพธ์กัน”
“ผู้รับผิดชอบสาขาเมืองเจียงเฉิงของบริษัท MBK คือคุณหลงยี่ ตอนที่ให้การสัมภาษณ์เกิดเหตุการณ์ทำร้ายนักข่าว เพราะเกิดความไม่พอใจ ตอนนี้นักข่าวอาการดีขึ้นแล้ว และคุณหลงยี่ ก็ได้รับผิดชอบอย่างเต็มที่……”
……
……
บริษัทสาขาเจียงเฉิง ภายในห้องทำงานของหลงยี่
หลงยี่ถือดูหมายเหตุข้างบนอย่างสั่นเทา ขณะเดียวกันก็รู้สึกเสียวสันหลัง “เกิดอะไรขึ้น! ทำไมจู่ๆถึงเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น!”
เพิ่งรับโทรศัพท์ เสียงของหลงถิงก็ดังทะลุหูของหลงยี่ ทันที
หลงยี่ยื่นมือจับโต๊ะ พร้อมกลืนน้ำลายอย่างขืนข่ม และพูดด้วยน้ำเสียงสั่นเทาอย่างหวาดกลัว “ลุงสองครับ ผมไม่รู้จริงๆ….จู่ๆผมก็ได้ใบแจ้งบอกว่า พวกเรา…..”
“เอาเอกสารไปตรวจสอบที่ศาล! อุปกรณ์ก่อสร้างของพวกเราไม่มีปัญหาอะไร! พวกเขาต้องการเล่นงานเรา งั้นเอาเงินยัดใส่ปากพวกเขาสิ!”
ช่วงนี้หลงถิงปวดหัวรุนแรงมากเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ
“ไม่ได้ครับ ลุงสอง เจิ้งเฉิงหลินต้องการทำให้โครงการของเราถูกถอน หากเอาเงินให้กับพวกเขาตอนนี้ ยิ่งเพิ่มคดีติดสินบนพนักงาน ไม่คุ้มครับ”
“สมควรตาย!” หลงจื๋อด่าทอขึ้น จากนั้นก็พูดว่า “ทำงานเพิ่มและรีบแก้ไขแผนงานให้ฉันเดี๋ยวนี้ ฉันไม่เชื่อหรอกว่า เรื่องนี้ใครจะสามารถโค่นล้มได้!”
หลงยี่มีเม็ดเหงื่อผุดขึ้นเต็มใบหน้า “ลุงสอง…..ผมจะพยายามทำให้เร็วที่สุดครับ แต่ผมคิดว่า การแก้ไขแผนงานมันไม่ง่ายดายเลยนะครับ”
“ไอ้คนไร้ประโยชน์! หลงเซียวอุตส่าห์มอบโครงการดีๆให้กับแก แต่แกกลับทำมันพังแบบนี้! หากโครงการล้มเหลว แกก็ไสหัวออกไปเหมือนกัน! และอย่ากลับมาตระกูลหลงอีก!”
ตึดตึด!
โทรศัพท์วางสายลง
หลงยี่ทิ้งตัวลงนั่งบนเก้าอี้ แย่แล้ว….โครงการใหญ่ขนาดนี้ เขาจะกอบกู้ยังไง?
“ผู้ช่วยหวัง! เข้ามาหน่อย!”
หวังเจี้ยนเดินเข้ามาในห้องทำงาน และพูดว่า “ผู้จัดการ…..”
“ติดต่อหาหลงเซียวให้ได้ ไม่ว่าจะวิธีการไหนก็ตาม ต้องตามหาเขาให้พบ และไม่ว่าจะต้องเสียค่าใช้จ่ายเท่าไหร่ก็ต้องตามหาเขาให้พบ!”
“ครับ ผมจะทำเต็มที่ครับ”
“ต้องหาตัวให้พบ! หากโครงการควบคุมไม่ไหว นายก็ต้องถูกไล่ออกเหมือนกัน! เข้าใจไหม!”