ประธานหยิ่งยโสของฉัน - ตอนที่ 452
ตอนที่ 452 พ่อลูกเจรจาต่อรอง คุกคามหรือ ยั่วยวนหรือ บีบบังคับหรือ
“ที่นี่กำลังแถลง《ข่าวการเงิน 30 นาที》 หนึ่งชั่วโมงก่อน ประธานบริษัท MBK ในปัจจุบัน คุณหลงจื๋อคุณชายรองของบริษัทหลงซื่อออกแถลงการณ์ชุดหนึ่ง การออกแถลงการณ์ว่า ตั้งแต่ไหนแต่ไรเขาไม่เคยเป็นประธานเจ้าหน้าที่บริหารของบริษัท MBK อย่างเป็นทางการ ทั้งหมดที่เขาทำคือล้วนดำเนินการตามคำสั่งแทนพี่ชายใหญ่คุณหลงเซียวที่ไม่ได้อยู่เมืองหลวงเป็นการชั่วคราว ต่อกับเรื่องใหญ่ที่กำลังเกิดขึ้นในปัจจุบันนี้ คุณหลงจื๋อกล่าวคำขอโทษกับผู้ถือหุ้นทั้งหลาย…….”
“ตอนนี้แทรกแถลงข่าวด่วนข่าวหนึ่ง คุณหลงจื๋อออกแถลงการณ์ พูดว่าตนเองจะไม่เป็นประธานของบริษัท MBK โดยตลอด ยิ่งจะไม่ยื่นมือก้าวก่ายการเปลี่ยนแปลงทางด้านบุคคลของบริษัทโดยตรง ยิ่งจะไม่ออกคำสั่งดำเนินการแผนการใหญ่อยู่ในบริษัท MBK ด้วยตัวคนเดียว หน้าที่ของเขาคือร่วมมือกับพี่ชายใหญ่หลงเซียวเต็มพลัง จะเป็นผู้ช่วยของพี่ชายใหญ่ตลอดไป…….”
“คุณชายรองออกแถลงการณ์อย่างเปิดเผยว่าจะไม่แย่งชิงตำแหน่งประธานบริษัท MBK ตลอดไปและกล่าวคำขอโทษกับเรื่องที่เกิดขึ้นอย่างใหญ่หลวงในปัจจุบันนี้ด้วย อีกทั้งเปิดเผยพูดว่าคุณหลงเซียวจะกลับมาบริษัท MBK ใหม่อีกครั้งภายในหนึ่งอาทิตย์……”
“คุณหลงเซียวจะกลับมาบริษัท MBK ใหม่อีกครั้งภายในหนึ่งอาทิตย์หรือไม่? ผู้ถือหุ้นของบริษัท MBK มากมายยังจะมีความมั่นใจอีกครั้งต่อบริษัท MBK หรือไม่ โครงการที่สูญเสียไปสามารถฟื้นคืนกลับมาอีกครั้งหรือไม่?”
“หุ้นบริษัท MBK ที่ตกเกินขีดจำกัดต่อกันมาห้าวัน เมื่อวานหนึ่งคืนระเหยไปมากกว่าหนึ่งหมื่นล้านหยวนอีกครั้ง จนถึงเวลานี้หุ้นบริษัท MBK ตกถึงต่ำที่สุดในประวัติศาสตร์แล้ว สั้นๆไม่กี่วันสูญเสียสามสิบเก้าพันล้านหยวนแล้ว ถ้าหากว่ายังตกไปเรื่อยๆผู้ที่เกี่ยวข้องบอกว่าบริษัท MBK อาจจะกลายเป็นLehman Brothersคนที่สอง และพี่น้องบริษัทหลงซื่อของฉบับจีน สามารถอยู่ท่ามกลางวิกฤติก่อพลังยิ่งใหญ่หรือไม่?”
……
……
ข่าวที่มืดฟ้ามัวดินกวาดไปทั่วทุกที่ทุกมุม ไม่เพียงแค่นิตยสารการเงิน สถานีโทรทัศน์การเงิน บริษัทใหญ่ทั้งหลาย กลัวว่าแม้แต่ชาวบ้านกินเผือกที่ธรรมดาล้วนทนความอยากรู้อยากเห็นไม่ไหว
ทันทีนั้น ข่าวที่เกี่ยวข้องกับบริษัท MBK ทั้งหมดล้วนกลายเป็นคำพูดยอดฮิตในเวลานั้น ข่าวของบริษัท MBK เสมือนพายุหอบเอาเศษปุยเมฆปกคลุม weibo WeChat ข่าวหน้าหนึ่งและอื่นๆของการค้นหายอดนิยมที่ประตูอินเทอร์เน็ตรายใหญ่……
และในอาคารสูงเทียมเมฆของบริษัท MBK บรรยากาศยิ่งเพิ่มความเข้มข้นหดหู่ใจ
ชั้นลอยบริษัท MBK ออฟฟิศประธานกรรมการ
“แกคุกเข่าลง!”
หลงถิงหยิบนิตยสารการเงินโยนไปโดนศีรษะของหลงจื๋อ นิตยสารได้รับแรงโน้มถ่วง ฟุ๊บฟั๊บ ตกอยู่บนพื้น หน้าที่เปิดไว้นั้นเป็นการออกแถลงการณ์ของหลงจื๋อพอดี กระดาษขาวตัวหนังสือดำ ชัดเจน ไร้ปกปิด
หลงจื๋อจ้องมองใบหน้าที่โมโหของพ่อ แต่ว่าในเวลานี้เขากลับรู้สึกโล่งใจสบายไปทั้งตัว ความสบายที่ไม่เคยมีมานานแล้ว หลายวันนี้ เขาอดทนจนจะระเบิดแล้ว ตอนนี้วางหน้าที่หนักลง เขารู้สึกว่าสบายไร้กังวลไปทั้งตัว
“พ่อ ผมออกแถลงการณ์ไปแล้ว ถึงแม้ว่าท่านอยากจะตีให้ผมตาย ผมก็จะไม่เก็บกลับมา ผมจะไม่เป็นประธานของบริษัท MBK จะไม่แย่งชิงตำแหน่งใดๆกับพี่ชายใหญ่ วันนี้ไม่ พรุ่งนี้ก็ไม่เช่นกัน”
หลงจื๋อพูดชัดถ้อยชัดคำ ไม่น้อยเนื้อต่ำใจไม่หยิ่งยโส ทั้งมั่นคงยืนหยัดและเยือกเย็น เขาทำใจถึงจุดที่แย่ที่สุดแล้ว เตรียมพร้อมที่จะแบกรับผลทั้งหลาย
ความโมโหของหลงถิงลุกโชนถึงขีดสุด สุดท้ายกลับไม่สามารถด่าโวยวายอย่างรุนแรงอีก เขาเอียงตัวไป โยนตัวเองเข้าไปในโซฟา ร่างกายตกอยู่บนโซฟา ดันหน้าผากไว้อย่างหมดแรงจ้องมองนิตยสารอยู่บนพื้น เอามือที่มีกระเล็กน้อยจับหน้าผากไว้ นวดไปสองทีอย่างรุนแรง
“ลูกเนรคุณ! แกจะรู้อะไรล่ะ?! แกอะไรก็ไม่รู้! แกอะไรก็ไม่เข้าใจ!”
หลงจื๋อก้มตัวลงหยิบนิตยสารขึ้นมา ปัดแล้วปัดอีกปิดไว้ วางไว้บนโต๊ะอย่างเรียบร้อย “ใช่แล้ว ผมไม่เข้าใจ ผมไม่เข้าใจว่าทำไมพ่อต้องส่งพี่ชายใหญ่ไปเมืองเจียงเฉิง ผมก็ไม่เข้าใจว่าอยู่ดีๆท่านทำไมมอบหน้าที่หนักให้กับผม ผมก็ไม่เข้าใจพ่อให้ผมอยู่บริษัททำเรื่องเหล่านี้เป็นเพราะว่าอะไร ผมยิ่งไม่เข้าใจพ่อว่าทำไมตอนที่บริษัทเจอวิกฤติอยู่เรื่อยๆยังไม่ยอมให้พี่ชายใหญ่กลับมาล่ะ?! ผมไม่เข้าใจ! ผมไม่กล้าเข้าใจ!”
หลงจื๋อพูดไปเรื่อยๆ น้ำเสียงดังขึ้นเรื่อยๆ หายใจหนักขึ้นเรื่อยๆ พูดจนสุดท้ายเขากำลังตะโกนอยู่แล้ว ร้องจนบนใบหน้าล้วนเป็นเส้นเลือดที่บวมแดงขึ้นมา
หลงถิงจ้องมองลูกชาย ตาเย็นชาดั่งงูพิษ ทั้งเย็นชาและเด็ดขาด ตีนกากับริ้วรอยที่ละเอียดขีดเส้นโค้งที่นับไม่ถ้วนอยู่บนใบหน้าเขา ใบหน้าของเขาที่หนาวเย็น ผ่านระยะห่างหลายเมตร ล้วนยังสามารถรู้สึกถึงความหนาวเย็นที่ปลดปล่อยดั่งออกจากก้อนน้ำแข็ง
หลงจื๋ออดไม่ได้ถอยไปครึ่งก้าว
“แกไม่เข้าใจหรือ? แกไม่เข้าใจอะไรจริงๆหรือ?” อยู่ดีๆเขาถามไปหนึ่งประโยค ตาที่เต็มไปด้วยเลือด เสียงที่ต่ำเข้มมัว
หลงจื๋อถอยไปอีกก้าวหนึ่ง น่องชนไปที่โซฟา ก้นนั่งลงไปทันที ตรงข้ามกับหลงถิงพอดี
“ใช่แล้ว ผมไม่เข้าใจ ผมไม่เข้าใจกฎกติกาเกมของท่าน”
อยู่ดีๆหลงถิงยิ้ม ยิ้มแบบไม่สามารถหลอมเหล็กให้กลายเป็นเหล็กกล้าได้แบบนั้น ยิ้มแบบผิดหวังจนถึงขีดสุด ยิ้มอย่างเย็นชามาก “อันนี้ แกน่าจะต้องรู้!”
อยู่ดีๆเขาหยิบมือถือขึ้นมา โยนมือถือให้หลงจื๋อผ่านโต๊ะกระจก ปุ้ง เสียงหนึ่ง มือถือโดนหน้าอกของหลงจื๋อ
เขาหยิบมือถือขึ้นมาอย่างแปลกใจ หน้าจอเปิดสว่างอยู่ ข้างบนเป็นข้อความหนึ่ง
ไม่ได้ระบุชื่อ แต่ว่าหลงจื๋อเข้าใจข้อความนี้อย่างลึกซึ้ง ท่องอย่างขึ้นใจ
ข้อความเขียนว่า “ขอร้องท่าน ให้ลูกของพวกเราสืบทอดบริษัท MBK ต่อ ถ้าไม่งั้นฉันคงตายตาไม่หลับ”
หลงจื๋อปล่อยมือเหมือนดั่งสัมผัสถึงถ่านไฟร้อน มือถือตกอยู่บนขา ตาเขาจ้องมองหลงถิงอย่างหมดอาลัยตายอยาก อ้าปากค้างพูดว่า “เธอ……เธอติดต่อท่านแล้วหรือ?”
หลงถิง ฮึ อึดอัด “เธอเคยโทรหาแก แต่ว่าแกปฏิเสธการขอร้องของเธอ เธอพูดอะไรกับแกอยู่ในสาย ผมไม่อยากสนใจ แต่แกจำไว้ เธอคือแม่ของแก แม่บังเกิดเกล้าของแก ”
หลงจื๋อหลับตาลงอย่างสิ้นหวัง อยู่ในทันทีที่หลับตาหนักๆลงน้ำตาที่ร้อนเดือดไหลออกจากขอบตา มือสองข้างของเขาปิดหน้าไว้ เอาตัวเองฝังไว้อยู่ในฝ่ามือ “ทำไมต้องเป็นแบบนี้? ทำไมอยู่ดีๆบอกสิ่งเหล่านี้กับผม! พวกคุณช่าง……โหดร้ายเหลือเกินจริงๆ!”
หลงถิงไม่ได้ปลอบใจใดๆแก่ลูกชายเลย แต่คือเคร่งขรึมเข้มงวดกวดขันประกาศว่า “แม่บังเกิดเกล้าของแกอยู่ที่ไหน ผมไม่รู้ เธออยากจะทำอะไร ผมคิดว่าแกชัดเจนกว่าผมอีก เธออยากให้แกสืบทอดบริษัท MBK ต่อ แกพิจารณาเอาเอง”
“ทำไมต้องบีบบังคับผม! ทำไมพวกคุณล้วนอยากจะบีบบังคับผม? พ่อ——” หลงจื๋อลุกขึ้นทันที “ท่านอยากจ้องมองบริษัท MBK ล้มลงไปหรือ? ท่านอยากจะให้ผมสืบทอดอะไรต่ออีกล่ะ? บริษัทแห่งหนึ่งที่จะล้มละลายหรือ?”
จุดอ่อนของหลงถิงถูกเขาตีตรงเป้า จมอยู่ในโซฟาหอบหายใจแรงๆ หมุนนิ้วโป้งทั้งสองไปมา
“ผมจะจัดการเอง”
“เหอะๆ จัดการหรือ? จนถึงเวลานี้ บริษัทสูญเสียไปใกล้จะสี่หมื่นล้านแล้ว ท่านจะจัดการยังไงหรือ? คนที่สามารถดึงความเชื่อมั่นของผู้ถือหุ้น มีเพียงพี่ชายใหญ่”
หลงถิงเงียบไปสิบกว่าวินาที กดขมับไว้พูดว่า “พี่ชายใหญ่ของแกอยู่ที่ไหนล่ะ?”
“เหอะๆ! ท่านห่วงใยหรือ? ท่านแทบอยากจะให้เขาไม่สามารถกลับมาได้อีกมั้ง? เขาคือลูกชายแท้ๆของท่าน ท่านลงมือได้ยังไงล่ะ!”
“เขาอยู่ที่ไหน!”
“ผมไม่รู้! พี่ชายใหญ่ไม่สนใจบริษัท MBK สักนิด สิ่งที่พี่ชายใหญ่อยากได้ เขามีวิธีที่จะเอามาให้ได้ เขาไม่สนใจเท่านั้น ท่านคิดว่าบริษัท MBK สำหรับเขาแล้วสำคัญมากหรือ? ท่านช่างดูถูกพี่ชายใหญ่มากเกินไปแล้วจริงๆ!”
“บอกผม เขาอยู่ที่ไหน?”
“จากนั้นล่ะ?”
“ให้เขากลับมา!”
หลงจื๋ออึ้งไป เขาจ้องมองพ่ออย่างไม่กล้าเชื่อ “ให้เขากลับมาหรือ? ใช้ฐานะอะไรล่ะ? รูปแบบอะไรหรือ? ถูกท่านใช้หนึ่งเท้าไล่ออกไป ท่านอยากใช้แค่ประโยคเดียวก็ให้เขากลับมาหรือ? เหอะๆ……เหอะๆ! ท่านกำลังฝันอยู่หรือ? พ่อ”
หลงถิงถูกหนึ่งประโยคของลูกชายอัดจนเสียงทั้งหมดติดอยู่ที่ลูกกระเดือก ขึ้นไม่ไป ลงไม่ได้ กลั้นจนสีหน้าล้วนกลายเป็นหน้าดำคล้ำเครียด
“หลงจื๋อ แกอย่าอาศัยว่าตนเองเป็นคนโปรดจึงหยิ่งยโส แกคิดว่าบริษัท MBK ออกจากแกไม่ได้แล้วหรือ?!”
“ออกได้ดีที่สุด ผมก็จะไปทันที ผมก็คือบุตรนอกสมรสคนหนึ่ง แม่บังเกิดเกล้าของผมแม้แต่สิทธิ์ที่จะเหยียบเข้าประตูบ้านก็ไม่มี คิดไม่ถึงแม่บังเกิดเกล้าของผมจะต้องหลบอยู่ในที่มืด ถึงแม้ว่าผมขึ้นอยู่ที่จุดสูงสุดของบริษัท MBK งั้นก็เป็นยังไงล่ะ? ผมก็ยังเป็นบุตรนอกสมรสคนหนึ่ง เป็นลูกชายของเมียน้อยคนหนึ่ง!”
“คนเลวทราม!”
หลงจื๋อพูดจบ หลงถิงถูกเขากระตุ้นความโมโหจนหมดจด คว้ากระถางต้นเงินต้นเล็กต้นหนึ่งโยนลงบนพื้น เครื่องลายครามจิ่งเต๋อเจิ้นที่ดีเยี่ยมถูกโยนจนเละ ดินธาตุอาหารแตกกระจายทั่วพื้น
หลงจื๋อถูกปฏิกิริยาของเขาจี้จนไม่กล้าขยับมั่ว
หลงถิงกัดฟัน สายตาที่ล็อกลูกชายไว้อย่างโกรธเสียใจที่เขาไม่สู้ เหลือบมองลึกทีหนึ่ง “แกอยากให้แม่บังเกิดเกล้าของแกเข้าตระกูลหลงหรือ? แกอยากให้เธอกลายเป็นคุณหญิงของตระกูลหลงอย่างเปิดเผยบริสุทธิ์ยึดมั่นในความเป็นธรรมหรือ?”
หลงจื๋อไม่พูดไม่จา สิ่งที่เขาอยากได้ไม่ใช่ให้แม่กลายเป็นคุณหญิงหลงที่สูงส่ง เขาหวังว่าแม่ของตนเองสามารถยืนอยู่ใต้แสงอาทิตย์พวกเขาแม่ลูกสามารถใช้ชีวิตด้วยจิตใจเยือกเย็นไม่สะทกสะท้าน
การใช้ชีวิตเมื่อก่อนอายุแปดขวบ เขาไม่อยากจะผ่านอีกแล้ว และก็ไม่ยอมที่จะให้แม่ลำบากน้อยเนื้อต่ำใจอีกเช่นกัน
หลงถิงลุกขึ้นยืน เขาเดินไปข้างหลังโต๊ะทำงาน นั่งลงไปเก้าอี้ที่บ่งบอกถึงฐานะ “ผมสามารถรับปากแก ผมจะให้แม่ของแกกลายเป็นคุณผู้หญิงของตระกูลหลงอย่างเปิดเผยบริสุทธิ์ยึดมั่นในความเป็นธรรม สิ่งที่แกอยากได้ผมล้วนสามารถให้แก”
หลงจื๋อยิ้มขม “ยังสำคัญอยู่หรือเปล่า? บริษัท MBK ล้วนจะล้มลงไปแล้ว ยังมีความหมายอีกหรือ?”
“แกแค่สืบทอดบริษัท MBK ต่อ ให้บริษัท MBK ลุกขึ้นมาใหม่อีกครั้ง ผมรับรองว่าจะให้แม่ของแกกลับมา”
“จากนั้นล่ะ ท่านอยากจะไล่แม่ของพี่ชายใหญ่กับพี่ชายใหญ่ไปหรือ? เหอะๆ……” หลงจื๋อหัวเราะขม เขารู้สึกประชดประชันอย่างมาก การคงอยู่ของตนเองเป็นการประชดประชันอย่างใหญ่เรื่องหนึ่ง ฐานะของตนเองยิ่งเป็นการประชดประชันอย่างใหญ่เรื่องหนึ่ง
“ใช่แล้ว นี่ก็คือความจริง”
ไล่ลูกชายของคนอื่นไป ไล่ผู้หญิงที่ไม่มีใจอยู่บนตัวเขาไป ให้ลูกชายแท้ๆของตนเองสืบทอดมรดกต่อ รับแม่ของเขากลับมา นี่คือแผนการของหลงถิง
แต่แผนการนี้ ไม่ง่ายเหมือนที่เขาคิดขนาดนั้น
“ไม่ทันแล้วพ่อ ท่านมองดูสิข้างล่างคืออะไรล่ะ?”
หลงจื๋อเดินไปยังหน้าต่างสไตล์ฝรั่งเศส ก้มตัวลงสามารถมองเห็นกลุ่มคนที่อยู่ข้างล่าง เป็นขบวนที่มีคนอย่างน้อยสองพันคน ยกป้ายไวนิลไว้ สวมใส่หมวกอยู่ ไวนิลขนาดยักษ์แม้แต่อยู่บนชั้นลอยล้วนสามารถมองเห็น
หลงถิงเดินเข้าไป มองเห็นฝูงชนข้างล่างที่มีอานุภาพเกรียงไกร เขาตาโต “นี่……นี่เป็นเรื่องอะไรกันแน่?”
หลงจื๋อยิ้มแล้วยิ้มอีก “พวกเขามาต้อนรับพี่ชายใหญ่ของผม การออกแถลงการณ์ของผมพูดแล้วว่าภายในหนึ่งอาทิตย์พี่ชายใหญ่จะกลับมาควบคุมสถานการณ์โดยรวม พ่ออยากให้บริษัท MBK ฟื้นขึ้นมา ท่านควรยอมถอยแล้ว”
พูดจบ หลงจื๋อออกไปจากออฟฟิศประธานกรรมการเลย
อยู่ดีๆเขารู้สึกเหนื่อยมาก เหนื่อยมาก
แม่บังเกิดเกล้าของเขา การประสบพบทั้งหมดในอดีตของเขา เขาเฝ้ารอคอยได้กลับมารวมตัวกันอีกครั้งมาหลายปี ตอนนี้ก็ถูกพ่อวางไว้อยู่ต่อหน้า เพียงแค่ ความสุขที่เขาเฝ้ารอนี้ กลับถูกพ่อติดป้ายราคาไว้อย่างชัดเจนแล้ว
อยู่ระหว่างพ่อแม่กับพี่ชายใหญ่ เขาจะต้องทำการเลือก
เขากลัววันนี้ที่สุด เขากลัวว่าสักวันหนึ่งจะต้องทำการเลือก
ตาของหลงจื๋อร้อนๆ ถูไปหนึ่งทีจึงพบว่าเป็นน้ำตา
ในเวลานี้ โทรศัพท์ของหลงถิงดังขึ้น
“ท่านประธานกรรมการ ท่านรีบลงมาดูสิ ผู้ถือหุ้นบอกว่า ถ้าหากว่ายังไม่เห็นคุณชายใหญ่อีก พวกเขาจะขายหุ้นของบริษัท MBK ทิ้งให้หมด ขายทิ้งให้หมดล่ะ!”
“ท่านประธานกรรมการ พวกผู้ถือหุ้นรวมตัวเซนต์ชื่อ บอกว่า คุณชายใหญ่อยู่บริษัท MBK หนึ่งวัน พวกเขาก็จะปกป้องหนึ่งวัน ถ้าหากว่าคุณชายใหญ่ออกจากบริษัท MBK พวกเขาก็จะออกไปเช่นกัน”
“ท่านประธานกรรมการ……. ตอนนี้พินิจพิเคราะห์ผู้ถือหุ้นที่จะขายหุ้นทิ้งเกือบจะสามพันคนแล้ว ยังแย่ลงต่อไปเรื่อยๆ ถ้าหากว่าไม่ออกมาตกลงสักอย่างกับพวกเขา ตลาดหุ้นของบริษัทจะวุ่นวายไปหมดล่ะ!”
“ท่านประธานกรรมการ…….ท่านประธานกรรมการ……ท่านกรุณาตอบกลับด้วย!”