ประธานหยิ่งยโสของฉัน - ตอนที่ 460
ตอนที่ 460 ทันทีที่หลงเซียวปรากฏตัว สภาพการณ์ก็เปลี่ยนไปทันที
ห้านาที
ห้านาทีที่เกิดผลการแตกหัก ทั้งบริษัท MBK ตอนนี้ก็ถูกหลงเซียวจับกุมอยู่ในมือ
หากเขารักษาคำพูดปรากฏตัวทันที ความโมโหของพวกผู้ถือหุ้นก็จะล่มสลายทันที จากนี้เป็นต้นไปอาจจะจะแลกโอกาสให้บริษัท MBK ยิ่งก้าวหน้าอีกขั้นหนึ่ง
ตรงกันข้าม เพราะเหตุนี้เขาอาจจะเกิดผลเสียจากความเชื่อถือของผู้ถือหุ้นไป หลังจากผ่านอุปสรรคทั้งหมดแล้วถูกแขวนชื่อที่เสียหายว่าพูดแล้วเสียคำพูด
ถึงเวลานั้นสิ่งที่รอบริษัท MBK จะเป็นอะไรล่ะ?
ตอนนี้เขาคิดไม่ได้ ไม่กล้าคิด
ในเวลาเดียวกัน หลงถิงก็มีความคิดยิ่งมั่นคงอันหนึ่ง หลงเซียวจะต้องจัดการออก วันหนึ่งเขาไม่ตาย เขาก็ถูกเขาบีบคอไว้อีกวันหนึ่ง
หลงจื๋อผลักประตูรถออก รีบวิ่งไปที่นอกประตูรถของหลงถิง “พ่อ ตอนนี้คือสภาพอะไรกันแน่?”
“แกดูเองสิ! ตอนนี้เป็นสภาพอะไรกันแน่! พี่ชายใหญ่ที่ดีที่เรียกตามปากตามเสียงของแก กำลังอวดอำนาจอยู่ล่ะ!”
สีหน้าหลงจื๋อหันไปหันมาอย่างอึดอัด “พี่ชายใหญ่ไม่ใช่คนแบบนั้น”
“โง่เขลา! แกไม่รู้ว่าเขาเป็นคนแบบไหนกันแน่สักนิด เสี่ยวจื๋อ ผมบอกกับแก ผมคือพ่อของแก ผมจะไม่ทำร้ายแกตลอดไป นอกจากผม คนอื่นๆแกก็ล้วนเชื่อง่ายๆไม่ได้!”
เขาจะต้องหาวิธีบอกความจริงกับเขา จะต้องหาโอกาสที่เหมาะสมบอกทุกอย่างกับเขา!
ฝ่ามือของหลงจื๋อแน่นแล้วแน่นอีก “ผมไปดูข้างหน้าสักหน่อย”
“หลงถิง ออกมา! มึงออกมา!”
“เต่าหดหัว! ออกมา! มึงออกมาหากู!!”
นอกหน้าต่างรถการโวยวายโมโหด่าคลื่นสูงกว่าคลื่น คำด่ายิ่งมายิ่งไม่น่าฟัง หลงถิงเย็นชาเต็มใบหน้า “ผมเข้าไปด้วยกันกับแก”
ทั้งสองลงจากรถ อยู่ภายใต้การสาดส่องของแสงอาทิตย์ในเวลาเก้านาฬิกาตรง เงากายยืดยาวไปหลายเท่าตัว มือใหญ่ของหลงถิงปล่อยออกแล้วกำแน่นอีก “เสี่ยวจื๋อ ถ้าหากว่าพี่ชายใหญ่ของแก…….”
คำพูดของเขายังไม่ได้พูดออกจากปาก เสียงกรี๊ดที่แสบหูดังขึ้นมาอยู่ดีๆตีกระจายกลุ่มคนที่โวยวายวุ่นวายไร้ระเบียบแต่เดิม
“หลงเซียว!! หลงเซียว!!”
หลงถิงกับหลงจื๋อตื่นตะลึงเงยหน้าขึ้นพร้อมกันทันที ผ่านหัวกลุ่มคนใหญ่ที่ดำปิ๊ดปี๋สีดำด้าน Rolls-Royce คันหนึ่งเอ้อระเหยลอยชายมาสาย
เงารถสีดำ แรงพลังแข็งแกร่ง สงบนิ่งจนไม่ร้อนรีบสักนิด เหมือนดั่งกษัตริย์ที่กวาดผ่านกองทัพเป็นพัน
ทุกครั้งที่ รถของหลงเซียว รถของเขา ป้ายทะเบียนรถของเขา ขอให้เป็นคนในวงการสื่อมวลชนธุรกิจของเมืองหลวง ใครจะไม่รู้ล่ะ?
“พี่ชายใหญ่! คือพี่ชายใหญ่มาแล้ว!”
หลงจื๋อก้าวใหญ่ไปข้างหน้า ไม่ได้ยินเมื่อกี้หลงถิงพูดอะไรสักนิด ก็ไม่สนใจที่อยากรู้ว่าเขาต่อไปจะพูดอะไรเช่นกัน
หลงถิงมือพลาด ไม่ได้จับแขนของเขาไว้ ครั้งนี้เขาเลื่อนมือไป ในใจก็รู้คร่าวๆอยู่แล้ว ใจของหลงจื๋อไม่ได้อยู่ที่เขา
“เป็นหลงเซียว! เป็นหลงเซียวจริงๆ!”
“คุณชายใหญ่หลงมาแล้ว! เร็วเข้า! เร็วเข้า!”
ร้องตะโกนอย่างตื่นเต้นดีอกดีใจตามกลุ่มคน Rolls-Royce หยุดลงมา ฝูงชนเหมือนคลื่นทะเลซัดไปข้างหน้า ทันทีนั้นก็ล้อมรอบรถหลายสิบชั้น
หยังเซินหันหน้าพูดว่า “ท่านประธาน คนเยอะมากเกินไปแล้ว เกรงว่าจะไม่ปลอดภัย”
หลงเซียวค่อยๆ ติดกระดุมชุดสูท นาฬิกาPatek Philippeบนข้อมือกะพริบแสงสีทอง เขาจัดแต่งชุดสูทเสร็จจึงไม่รีบไม่ร้อนพูดว่า “ปลอดภัยหรือ? สถานที่ที่ปลอดภัยก็ไม่จำเป็นต้องมีผมแล้ว”
พูดจบ เขาใช้หางตาเหลียวมองฝูงชนที่โวยวายหนึ่งที “ลงรถ เปิดประตู ”
หยังเซินจ้องมองคนที่เหมือนดั่งศพกลุ่มหนึ่งหมอบปิดอยู่กับหน้าต่างรถข้างนอก ลูกกระเดือกขึ้นลงกลิ้งไปหลายครั้ง “ผมลงไปดูก่อน ท่านประธานท่านนั่งอยู่นี่ก่อน รอคนรักษาความปลอดภัยเข้ามาจัดระเบียบก่อน”
คนมากมายขนาดนี้ ง่ายที่จะเกิดอุบัติเหตุเหยียบกัน คิดดูแล้วก็รู้สึกขนลุก
หยังเซินผลักประตูรถหลายครั้งจนเปิดได้ ทันทีที่เปิดประตู ข้างนอกคืออากาศร้อนจัดที่ถูกฝูงชนเสียงดังลั่นยกขึ้น กลิ่นน้ำหอมของผู้หญิงกลิ่นเหงื่อเหม็นของผู้ชาย ความร้อนจากการขับเคลื่อนของกล้องบันทึกภาพ ความรู้สึกช่างแทบจะจริงๆเลย
“คุณหลง ท่านกลับมาในครั้งนี้ จะเป็นประธานของบริษัท MBK ต่อหรือไม่?”
“คุณหลง หนึ่งเดือนที่ท่านจากไป ราคาตลาดของบริษัท MBK ระเหยไปใกล้จะสี่หมื่นล้านเป็นช่วงเวลาที่ตกต่ำที่สุดของบริษัท MBK ตั้งแต่ก่อตั้งจนถึงวันนี้ ขอถามหน่อยว่าตัวท่านเองคิดยังไงล่ะ?”
“ตอนนี้ความสัมพันธ์ท่านกับบริษัท MBK ติดมิดชิดอยู่ด้วยกันแล้ว นี่ก็หมายความว่า ต่อจากนี้ท่านจะอยู่บริษัท MBK เต็มตัวใช่หรือไม่ล่ะ?”
ทันทีนั้นที่ประตูรถเปิดออก คำถามของสื่อมวลชนทั้งหลายพุ่งเข้าไปจากช่อง เสียงที่วุ่นวายเจี๊ยวจ๊าวปิดคลุมลานขนาดใหญ่ไปหมด บรรยากาศที่เพิ่งสงบไปเมื่อกี้หลังผ่านไปสักพักความร้อนเพิ่มสูงอีกครั้ง
หยังเซินร่วมมือกับ รปภ.กระจายสื่อมวลชนที่เบียดกันอยู่นอกประตูรถ สิบกว่าคนร่วมแรงดันเปิดทางเดินคับแคบที่แคบยาวออกมาทางหนึ่ง เพียงอนุญาตให้แค่เปิดปิดประตูรถแป๊บเดียวได้
หลงเซียวเงยหน้าขึ้น สายตามองผ่านกระจกต้านลมเห็นหลงถิงที่อยู่ไม่ไกล ผ่านระยะห่างสั้นๆ เขาเห็นสีหน้าของหลงถิงจากโมโหกลายเป็นเขียวเทาอย่างชัดเจน
บัดนี้ชื่อของบริษัท MBK คือแขวนชื่อของใคร เกรงว่าเขารู้ตัวดีแล้ว
หยังเซินก้มตัวเปิดประตูรถออก รองเท้าหนังที่เงางามของหลงเซียวก้าวออกมา ชุดสูทกางเกงขายาวที่ตรงเรียบเสริมเงากายเรียวยาวให้เด่น เหมือนดั่งลงมาจากฟ้าอย่างสูงส่งใสสะอาดงดงาม
หลงเซียวเพิ่งก้าวออกจากประตูรถ ทางเดินแสดงตัวที่หนาแน่นดั่งคลื่นทะเลทางนั้นขยายกว้างออกโดยอัตโนมัติ เขาแค่ยืนอยู่อย่างไร้สีหน้าขนาดนี้ ก็เกิดแรงพลังที่แข็งแกร่งโดยอัตโนมัติ
ดวงตาที่เย็นสดใสเข้มลึกจ้องมองฝูงชนที่คลื่นโหมซัดสาด สายตาที่ใสเย็นกวาดผ่านหลายคนในนั้นอย่างใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัว ริมฝีปากบางๆงอขึ้นเล็กน้อยยังไม่ได้พูดก็ทำให้เสียงโวยวายที่อยู่รอบข้างเงียบสนิททันที
สื่อมวลชนกับหุ้นส่วนใหญ่หลายคนที่ใกล้กับหลงเซียว หุบปากลงไปอย่างตายสนิท
มือเรียวของหลงเซียวสอดเข้าไปในกระเป๋ากางเกง แขนเสื้อของเสื้อเชิ้ตที่ได้ผ่านการรีดแล้ว มีกระดุมเม็ดหนึ่งโผล่ออกมา สีสันแวววาว
“ทำไมไม่พูดไม่จาแล้วล่ะ?”
เสียงเข้มต่ำดังขึ้นอย่างไม่เบาไม่หนักอยู่ในฝูงชน มีความเย็นชาเล็กน้อย ยังมีความหนาวเหน็บเล็กน้อย
สื่อมวลชนทั้งหลายต่างคนต่างก้มหัวลงไม่กล้าที่จะถามอีก คนที่โวยวายรุนแรงที่สุดเมื่อกี้ก็รีบเงียบไปเช่นกัน
หยังเซินสูดลมหายใจลึกๆหนึ่งที ทันทีที่ท่านประธานปรากฏตัว ความขุ่นมัวเมื่อกี้ล้วนถูกความใสสะอาดงดงามที่อยู่บนกายเขาเจือจางไปเลย ในที่สุดหลอดลมหายใจก็สบายขึ้นมากเลย!
“ป้ายชื่อของบริษัท MBK ต้นกำเนิดมีการรับรองคุณภาพมาหลายสิบปี หวังว่าตาปัญญาของทุกคนจะได้เห็นสิ่งมีค่า อย่าถูกเรื่องที่ไม่เกี่ยวข้องกันกระทบต่อการพิจารณา”
หลงเซียวก้าวขายาวไป ชุดสูทArmaniสีน้ำเงินเข้มตัดเย็บอย่างหล่อไม่มีอะไรเทียบได้ เขาเคลื่อนไหวย่างก้าวดึงอากาศที่อยู่รอบข้างล้วนหลั่งไหลอยู่
“มีคนไม่อยากหาเงินอยู่ในบริษัท MBK สามารถถอยออกในตอนนี้ ถ้าไม่งั้นผมก็จะจัดการคนที่ร้องตามลมเหล่านั้นด้วยมือตัวเองเช่นกัน จะไม่ให้เกิดความวุ่นวายเหมือนดั่งวันนี้อีก”
หลงเซียวเย็นชาเต็มใบหน้าตั้งแต่ต้นจนจบ เหมือนดั่งทุกอย่างในวันนี้ได้จี้ถึงขีดต่ำสุดของเขาแล้ว เขารู้สึกเกลียดชังมาก!
ในเวลานี้ สื่อมวลชนของเฟิร์สไฟแนนซ์เมืองหลวงเอ่ยปากอย่างระมัดระวังถามว่า “ขอถามคุณหลงว่า ท่านกลับมาในครั้งนี้ จะรับบริษัท MBK ต่อใช่หรือไม่?”
หลงเซียวเหลียวมองนักข่าวหญิงที่อบอุ่น สายตาเย็นชาทำให้เธอตกใจจนถอยหลัง ไมโครโฟนที่อยู่ในมือเกือบจะตกพื้น
“คุณรู้สึกยังไงล่ะ?”
ถามกลับอย่างไม่มีสีสันอารมณ์สักนิด ถามจนนักข่าวหญิงพูดไม่ออกทันที
นักข่าวของสถานีโทรทัศน์เมืองหลวงก็รีบถามตามว่า “อย่างงั้น คุณหลงกับคุณชายรองวันหลังจะแสดงบทบาทอะไรอยู่ในการบริหารของบริษัท MBK หรือ?”
หลงเซียวงอริมฝีปากบางๆงอแล้วงออีก รอยยิ้มของเขายังไม่ทันปรากฏก็กลายเป็นเย็นชาแล้ว “คุณคือมาเฝ้าสังเกตการบริหารของบริษัท MBK หรือว่าเอาใจใส่เรื่องในบ้านของตระกูลหลงหรือ?”
นักข่าวกลืนน้ำลายแล้วกลืนน้ำลายอีก “แน่นอนคือ……..คือเรื่องของการบริหารอยู่แล้ว ขอเชิญท่านตอบ”
หลงเซียว ฮิ ขึ้นมาเบาๆ “ตีเสือยังต้องมีพี่น้องในสายเลือดเดียวกัน หลักธรรมนี้หรือว่าคุณไม่รู้หรือ?”
เขาใช้ตีเสื้อยังต้องพี่น้องในสายเลือดเดียวกันประโยคหนึ่ง หุบเสียงที่สงสัยหลายคน คำถามต่อจากนี้ไปล้วนไม่มีคนกล้าที่จะยุ่งเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างพี่น้องกันของทั้งสองอีกเลย
หลงเซียวได้รับการสัมภาษณ์แค่สิบนาทีเท่านั้น ก็ดำเนินการอธิบายง่ายๆคร่าวๆที่เกี่ยวกับการคงอยู่ของบริษัท MBK เขาพูดประโยคต่างๆออกจากปากอย่างไม่หนักหนาอะไร คนที่จะฉวยโอกาสก่อเรื่องวุ่นวายในตอนที่บริษัท MBK สถานการณ์ปั่นป่วน ล้วนถูกหุบปากจนดึงตาโตลิ้นพันกัน
หลังจากสิบนาที หลงเซียวถูกผู้บริหารระดับสูงสิบกว่าคนประกบตัวเดินเข้าไปประตูหมุนของบริษัท MBK ตัดเสียงโวยวายที่เจี๊ยวจ๊าวข้างนอกไว้
จี้ตงหมิงก้าวเดินเร็วเหมือนดาวตกเข้ามาจากปากทางบันได ก้มตัวพูดว่า “เจ้านาย”
หลงเซียวพยักหน้า รู้ว่าเขาวางแผนเรียบร้อยแล้ว ยกข้อมือขึ้นจ้องมองนาฬิกาหนึ่งที “แจ้งกรรมการของบริษัท MBK หลังจากหนึ่งชั่วโมงเรียกประชุมคณะกรรมการฉุกเฉิน”
“ได้ครับ เจ้านาย!”
จี้ตงหมิงตอบได้เสียงหนึ่ง หมุนตัวขึ้นลิฟต์ที่อยู่ข้างๆ และทางนี้ หลงจื๋อวิ่งเข้ามาจากข้างนอกแล้ว
“พี่ชายใหญ่!”
หลงเซียวเดินไปถึงปากทางของลิฟต์ VIP แล้ว ประตูลิฟต์เพิ่งเปิดออกเขาหมุนตัวมองไปยังหลงจื๋อ “เป็นยังไงแล้วล่ะ?”
หลงจื๋อตื่นเต้นดีอกดีใจจนรู้สึกมีความสุขเกินกว่าจะทนได้ อยากจะขึ้นไปกอดพี่ชายใหญ่ไว้จริงๆ แต่ว่ากลั้นไว้แล้ว “แฮ่แฮ่ พี่ชายใหญ่ ผมก็รู้ว่าทันทีที่คุณปรากฏตัวย่อมจะพลิกเปลี่ยนสถานการณ์อย่างแน่นอน คนที่อยู่ข้างนอกเลิกรากันไปหมดแล้ว ผมเฝ้ารอกระดานปิดในวันนี้มาก!”
ลักษณะหลงจื๋อปีติอย่างยิ่ง ความรุนแรงตื่นเต้นดีอกดีใจเหมือนดั่งตอนที่เขาเด็กๆได้รับของขวัญที่ชอบแบบนั้นอย่างมาก ในใจหลงเซียวเต็มไปด้วยความอ่อนโยน รอยยิ้มของเขาบุกเข้าไปในใจของเขาโดยไม่ตั้งใจ เหมือนดั่งเมื่อวานปรากฏใหม่อีกครั้ง
แต่ว่าเสี่ยวจื๋อ แกยังมองไม่ออกทั้งหมด
“ราคาหุ้นไม่ใช่ตกลงไปในวันเดียว แน่นอนไม่สามารถกลับคืนมาในวันเดียวอยู่ดี แกร้อนใจเกินไป” แม้ว่าเขาคือตำหนิ แต่เสียงอ่อนโยนมาก เหมือนดั่งพี่ชายทั่วไปกำลังสอนสั่งน้องชายอยู่
หลงจื๋อจับผมหมัดหนึ่งขึ้นมา ดีใจ เหอะๆ พูดว่า “ผมไม่สนสิ่งเหล่านี้ ยังไงก็ตามพี่ชายใหญ่คุณอยู่ จะไม่มีเรื่องอย่างแน่นอน ผมเชื่อคุณ”
หลงเซียวพยักหน้า “ขึ้นไปเถอะ”
“ได้ครับ! ใช่แล้ว อีกสักครู่พ่อก็จะเข้ามา”
หางตาหลงเซียวเย็นแล้วเย็นอีกอย่างไม่ตั้งใจ “อืม”
หลังจากหนึ่งชั่วโมง หลงเซียวเรียกประชุมคณะกรรมการ เห็นการกอบกู้ที่มีประสิทธิภาพชัดเจนชุดหนึ่งแตกสลายความสงสัยทั้งหมดของพวกกรรมการ
หลงเซียวทำการสรุปง่ายๆอย่างกระตือรือร้นเต็มไปด้วยพลัง “ราคาหุ้นของบริษัท MBK จะขึ้นภายในหนึ่งอาทิตย์ การสูญเสียของหลายวันนี้ผมจะกอบกู้แปดสิบเปอร์เซ็นต์กลับมาในสิบวันนี้ ยี่สิบเปอร์เซ็นต์ที่เหลือทุกคนได้แค่ถือว่าเป็นค่าเรียนรู้แล้ว”
พูดถึงค่าเรียนรู้ พินิจพิเคราะห์หลงถิงโดยไม่รู้ตัว สายตาทั้งสองชนกัน หลงเซียวยิ้มอย่างอ่อนน้อมถ่อมตนพูดว่า “พ่อรู้สึกว่า ค่าเรียนรู้นี้ใช้อย่างคุ้มค่าหรือไม่?”
คิดให้ดีๆ สูญเสียสิบกว่าพันล้านเล่นเกมกับผมสักอย่าง คุ้มค่าหรือไม่?
ใบหน้าของหลงถิงโมโหจนแดงระเรื่ออยู่ระหว่างการดำเนินการประชุมคณะกรรมการแล้ว เขาเกลียดหลงเซียวล้วนได้เห็นสถานการณ์ทุกอย่างอย่างชัดเจนหมดจด เขาเกลียดเขาแค่ใช้ประโยคหนึ่งก็ได้รับการเห็นด้วยฝ่ายเดียว เขายิ่งเกลียดประกายบนกายของเขาปกคลุมคนทั้งหลายอย่างง่ายดาย!
“ไม่มีปัญญาเก็บคืนกลับมาหมดก็พูดตรงๆ!” หลงถิงพูดประชดประชันเยาะเย้ย
หลงเซียวพยักหน้าพยักหน้าอย่างน้อมรับการสั่งสอนมาก เชื่อฟังมาก “ที่ท่านประธานกรรมการพูดไม่ผิด ผมไม่มีปัญญาเก็บเงินกลับมาหมดจริงๆ แต่ว่าผมสามารถสืบได้ว่าเงินก้อนนี้ในที่สุดไปที่ไหนแล้ว ขอให้ท่านประธานกรรมการออกคำสั่ง ผมสามารถสืบให้ถึงที่สุด”
เป็นใครที่อาศัยความวุ่นวายแอบวางหมาก ไม่เห็นเขาอยู่ในสายตาหรือ?
สายตาที่เย็นชาใสเย็น ต่อกับสายตาที่เยือกเย็นขุ่นมัว สายตาที่สั้นๆชนกัน แผนการแก้ปัญหาที่ต้นตอแสดงขึ้นอยู่กลางอากาศ
มือของหลงถิงหุบเข้าไปในทันที ความโมโหกับอับอายขายหน้าทำให้อารมณ์ของเขาแทบจะควบคุมไม่ได้ “คำพูดนี้ของแกหมายความว่าอะไรหรือ?”
“เหอะๆ” หลงเซียวหัวเราะสองเสียง ลุกขึ้นยืนจากเก้าอี้ โยนเอกสารทิ้งอยู่บนโต๊ะ “ทุกคนล้วนยุ่งมาก ไม่หน่วงถ่วงเวลาการหาเงินของทุกคน ผมไปช่วยหาเงินที่ทุกคนสูญเสียไปกลับคืนมา ก็เชิญทุกคนจำไว้เช่นกัน หาสิ่งที่สูญหายกลับคืนมาเรื่องที่เสียแรงเหนื่อยกายแบบนี้ ผมไม่ใช่จะมีอารมณ์ดีมาเข้าร่วมทุกครั้ง ต่อจากนี้ไป ยังหวังว่าทุกคนจะได้ดูแลรักษากระเป๋าเงินของตนเองให้ดีๆ”
เขาเอาหุ้นที่ตกอย่างรวดเร็วเปรียบเทียบเป็นสิ่งของสูญหายอย่างง่ายดาย คือการดูถูกบริษัท MBK โดยตรง
แต่กลับไม่มีสักคนกล้าที่จะต่อต้านสักคำ
หลงเซียวสลับขายาวเดินออกจากออฟฟิศก่อน สิบกว่าคนที่อยู่ข้างในจ้องมองกันอย่างไก่เห็นตีนงู งูเห็นนมไก่
กรรมการอาวุโสหลายคนจ้องมองหลงถิง “ท่านประธานกรรมการ บริษัท MBK สูญเสียแม่ทัพแข็งแกร่งอย่างคุณชายใหญ่คนนี้ไม่ได้จริงๆ วันหลังเห็นแก่ส่วนรวมดีกว่าล่ะ”
“ถ้าหากว่าเกิดเรื่องแบบนี้อีกครั้ง ผลลัพธ์ยากที่จะคาดเดาจริงๆ”
“ใช่สิ…….ครั้งนี้ล้วน …….”
หลงถิง ตุ้บตั้บ โยนเอกสารทิ้งลง “ดูแล้ว พวกคุณลืมประธานกรรมการอย่างผมคนนี้ไปแล้ว มองให้ชัดเจน ประธานกรรมการของบริษัท MBK ยังไม่ใช่เขา!”