ประธานหยิ่งยโสของฉัน - ตอนที่ 487
ตอนที่ 487 ฉันต้องการประจบเลียแข้งเลียขา
“เธอมีพรสวรรค์ทางการเงิน แต่ยังต้องฝึกอบรมกันก่อน คุณให้เธอเรียนรู้งานกับกู้เยนเซินไปสักระยะนะ” ลั่วหาน มองไปที่โจวโร่หลิน ต้องบอกว่า เด็กผู้หญิงวัยรุ่นในปัจจุบันมีชีวิตชีวามาก แค่กดสวิตช์ก็ควบคุมไม่ได้
“โอเค ให้เธอเข้ามาลองทำก่อน ว่าแต่ คุณหามาจากไหนเหรอ ดูเหมือนจะสนิทสนมกับคุณ” ไป๋เวยเขียนบันทึกไว้ และอีกสักพักก็สามารถให้เธอเข้ามาทำงานได้เลย
เป็นคนที่เจ้านายหามาเอง ต้องเป็นญาติสนิท หรือไม่ก็คนที่มีความสามารถมากๆ แต่เขาไม่ได้คาดหวังว่า ความน่ารักแอ๊บแบ๊วจะสามารถประจบเลียแข้งเลียขาได้
ลั่วหาน ครุ่นคิดเกี่ยวกับพรหมลิขิตของคนสองคนซึ่งพบว่ามันเหลือเชื่อ “เธอเป็นคนไข้ของฉัน ตอนนี้ก็อยู่ในความดูแลของคุณแล้ว”
“โอเค ฉันจะดูแลเขาอย่างดี”
วางสายลง ลั่วหาน พูดกับโจวโร่หลินสั้นๆว่า “เหมือนว่าฉันจะส่งคุณให้จางหย่งแล้ว ทำไมคุณถึงกลับมาล่ะ”
โจวโร่หลินพูดด้วยความรังเกียจ “เขามันโง่ ฉันแค่หลอกเขานิดหน่อย เขาก็เชื่อแล้ว ตอนนี้น่าจะร้องไห้ใหญ่โตอยู่ในห้องน้ำ”
ลั่วหาน ทำตาดุและถาม “คุณทำอะไรกับเขางั้นเหรอ”
โจวโร่หลินทำหน้ามุ่ยแบบเด็กๆ ทำดวงตาใสแป๋วของเธอเอ่อคลอเหมือนจะร้องไห้ ท่าทางเธอรู้สึกผิด ดื้อรั้น ขี้เล่น และดูเป็นเด็กประหลาดพูด “อะแฮ่ม ก็ฉันไม่ชอบกับถูกจับตามอง เขาทำเหมือนฉันเป็นเด็ก ฉันรู้สึกรำคาญ ฉันก็เลยจึงใส่เครื่องปรุงรสลงในกาแฟของเขา ตอนนี้เขาก็คงจัดการปัญหาสำคัญในชีวิตอยู่ห้องน้ำไง”
ลั่วหาน บีบดั้งจมูกโดยไม่พูดอะไร สักพักก็วางมือลงและพูด “คุณรู้หรือไม่ว่าเขาเป็นใคร คุณกล้าวางยาเขา คุณไม่มีชีวิตอยู่แล้วสินะ”
โจวโร่หลินดึงแขนเสื้อโค้ตทรงหลวมสไตล์เกาหลีมาปิดใบหน้าครึ่งหนึ่ง เห็นแค่ดวงตากลมโตและถาม “เป็นใครเหรอ เขาคงไม่แอบมาฆ่าฉันใช่ไหม”
“ไม่หรอก เขาจะไม่แอบ เขาจะทำอย่างโจ่งแจ้ง คุณระวังตัวหน่อยก็ดี” ลั่วหาน เห็นสีหน้าท่าทางของเธอที่เปลี่ยนไปมา ดูค่อนข้างน่ารัก ก็รู้สึกว่าผู้หญิงคนนี้ที่เขาเลือกมานั้นไม่เลวเลย
โร่หลินกระโดดขึ้นอย่างตกใจ และเข้าไปกอดที่เอวของลั่วหาน เหมือนเถาวัลย์เกี่ยวไว้ “ห๊ะ ไม่เป็นไร ฉันจะไปหาคนคุ้มหัวฉัน คุณเทพธิดา ขาของคุณฉันจะเกาะให้แน่นๆเลย!(หมายถึงประจบเลียแข้งเลียขา) จุ๊บ!”
ลั่วหาน:“……”
มือของโจวโร่หลินเกาะหลวมๆ และพูดขึ้นด้วยความอิจฉา “หมอฉู่ คุณผอมมากเลย คุณใส่กางเกงเอวหกสิบเซนติเมตรใช่ไหม เอวดูเอวบางร่างน้อยไปหน่อย พวกผู้หญิงที่มีลูกเอวยังหนากว่าเอวสองข้างของคุณเลยนะ!
หางคิ้วสวยขนตาโค้งงอของลั่วหาน ยกขึ้นอย่างสงสัย “คนที่มีลูกแล้ว”
“อือใช่! ฉันมีเพื่อนร่วมชั้นคนหนึ่ง จากนั้นก็แต่งงานและมีลูก เมื่อก่อนเคยผอมเหมือนแมลงปอ ต่อมาไม่ได้ควบคุมดูแลร่างก็กลายเป็นหนอนผีเสื้อ เอวก็เลยหนาขึ้นมาก!”
เขาทำมือประกอบท่าทางเพื่ออธิบายถึงความหนาของเอว
ลั่วหาน มองที่เอวคอดของตัวเอง จากนั้นสมองของเขาก็นึกถึงภาพพุงใหญ่ๆของผู้หญิงที่มีลูกแล้ว …
“คุณโจวโร่หลิน คุณไปรายงานตัวที่บริษัทฉู่ซื่อได้แล้ว”
“โอเค ฉันจะไปเดี๋ยวนี้เลย! คุณเทพธิดาคุณมีรูปร่างที่ดีจริงๆ และต้องสวยต่อไปเรื่องๆเลยนะ!”
ลั่วหาน:“……”
ไม่รู้ว่าทำไม ถึงอยากเข้าไปตีเธอสักหมัด
ในที่สุดก็ได้ส่งคนที่มีค่ามีความสามารถออกไป ลั่วหาน ดื่มน้ำอุ่นสองสามครั้งเพื่อให้ชุ่มคอ จากนั้นก็กลับไปห้องทำงานเพื่อทำงานต่อ
เธอยังเดินไปไม่ถึงห้องทำงาน หวาเทียนก็รีบตามเธอมา เงาของร่างบางวิ่งมา ทำให้ลั่วหาน ถูกบังมิด
“หมอฉู่ เราเพิ่งดูข้อมูลของเด็กที่เป็นโรคหัวใจทางอินเทอร์เน็ต นับตั้งแต่เราเปิดตัวกิจกรรมการช่วยเหลือเด็กทางออนไลน์ หลายคนก็เริ่มประกาศความช่วยเหลือแล้ว นอกจากนี้ยังมีบางคนที่โพสต์อาการและเวลาที่ป่วยของเด็ก และผู้ปกครองหลายคนก็โพสต์รูปถ่ายของเด็กไว้ด้วย ฉันได้เลือกเคสที่พิเศษมาสองสามเคส คุณลองดูสิ”
ลั่วหาน พลิกดูกระดาษหนาๆหลายสิบแผ่นที่พิมพ์ออกมาด้วยความไม่เชื่อ ดวงตากลมโตแสดงออกถึงความประหลาดใจ ใช้เวลาสักพักในการจัดเรียง ก็พูดขึ้น “เยอะขนาดนี้! แค่เวลาไม่กี่วันเยอะขนาดนี้เลยเหรอ”
อย่างน้อยห้าสิบฉบับ
หวาเทียนก็ตกใจเช่นกัน และหยิบออกมาห้าถึงหกใบส่งให้ลั่วหาน “นี่คือเคสพิเศษ ที่เหลือเป็นโรคหัวใจธรรมดา แต่ก็อากาศก็ไม่เบาเหมือนกัน ส่วนใหญ่เป็นโรคหัวใจพิการแต่กำเนิด ส่วนน้อยจะถ่ายทอดทางพันธุกรรม ที่ถ่ายทอดทางพันธุกรรมอาการแย่ลงอย่างเห็นได้ชัด และบางส่วนได้รับการถ่ายทอดจากรุ่นสู่รุ่น เรื่องประหลาดอะไรมีหมด”
ลั่วหาน เปิดดูทีละแผ่น พยักหน้า ส่ายหัว และถอนหายใจเป็นครั้งคราว “เด็กๆเหล่านี้เกิดออกมาก็ต้องเจ็บป่วย ต้องเข้ารับการผ่าตัดตั้งแต่อายุยังน้อย เห็นแล้วก็สงสาร”
หวาเทียนหยิบเคสเด็กทารกคนหนึ่งออกมาจากกอง “อันนี่แย่กว่า เกิดออกมาได้สามเดือนก็ต้องทำการผ่าตัดCPRหัวใจครั้งแรก แผลผ่าตัดที่เพิ่งดีขึ้นเพียงไม่กี่วัน กลับเกิดภาวะแทรกซ้อน ตอนนี้ย้ายเข้ามาอยู่ห้องICUของโรงพยาบาลของเราแล้ว พ่อแม่ของเขาหวังว่าจะพบผู้บริจาคเงินให้ทางออนไลน์นี่แหละ ค่าใช้จ่ายที่ใช้ผ่าตัดของเด็กสูงมากจริงๆ”
ลั่วหาน มองไปด้านข้าง และเห็นภาพเด็กบนกระดาษ ที่อายุยังไม่ถึงหนึ่งปี เขาผอมมาจนเห็นกระดูก ดวงตากลมโตสองดวงฝังอยู่ในใบหน้าที่ซูบผอม ดูไม่มีชีวิตชีวาเลยแม่แต่นิดเดียว
“แล้วมีใครบริจาคให้สนับสนุนบ้างไหม”
“จริงๆก็มี แต่การระดมทุนออนไลน์มีจำนวนน้อย ไม่สามารถช่วยอะไรได้เลย และตอนนี้พวกเขาเองก็พยายามทำงานหนักเพื่อหาเงินให้ได้มากยิ่งขึ้น” หวาเทียนถอนหายใจด้วยความเศร้าใจ “ตอนนี้มีจำนวนผู้ป่วยมากเกินไป คนที่ดูแคลนโรคนี้ก็มีเยอะ แค่พึ่งพากำลังของคนคนเดียวมันไม่เพียงพอจริงๆ”
ลั่วหาน มองดูเด็กในรูปถ่าย ก็เกิดความรู้สึกหลากหลายอารมณ์ สำหรับเด็กตัวเล็กๆเช่นนี้ ต้องทนทุกข์ทรมานอยู่ในห้องผ่าตัด พ่อแม่เองก็ต้องทนทุกข์ทรมานทั้งจากภายในและภายนอก และพูดขึ้นว่า “ติดต่อพ่อแม่ของเขา บอกว่าไม่ต้องกังวลเรื่องค่าผ่าตัดของเด็ก”
หวาเทียนดึงกระดาษและวางลงไปที่ด้านล่างสุด และพูด “หมอฉู่ คุณจะให้เงินช่วยเหลือเต็มจำนวนอีกแล้วใช่ไหม”
“ทำไมเหรอ”
“พวกเรารู้ว่าคุณรวย และทางคุณหลงเองก็ร่ำรวยกว่าไปอีก แต่คุณจะเอาแต่ใจไม่ได้ มีคนไข้นับล้านนับพันคน ไม่รู้ว่าเสียชีวิตไปแล้ววันละเท่าไหร่เพราะไม่มีเงินไปหาหมอ คุณไม่สามารถช่วยทุกคนได้หรอก ถึงคุณจะช่วยจนหมดตัวคุณก็ช่วยอะไรไม่ได้”
หวาเทียนวิเคราะห์และอธิบายสถานการณ์อีกครั้ง เขาเองก็ทนไม่ได้ แต่ความจริงก็คือความจริง ผู้หญิงมักจะมีอารมณ์ที่อ่อนไหวง่าย ผู้ชายดีหน่อยยังรู้ว่าจะตัดสินสถานการณ์อย่างไร
“ถ้าอย่างนั้นก็แจ้งพ่อแม่ของเด็กก่อน เรื่องผ่าตัดให้หมอถังจัดการ ในส่วนของค่าใช้จ่าย ช่วยให้พวกเขายื่นขอเงินช่วยเหลือของโครงการไปก่อน เพราะจริงๆเด็กไม่ได้มีปัญหาที่ลิ้นหัวใจ กลัวว่าจะไม่ผ่านตามข้อกำหนดของโครงการ”
“สมัครไม่ได้ ฉันได้ลองทำแล้ว ไม่สามารถทำแบบนี้ได้”
ลั่วหาน รู้สึกเศร้า และพูดเสียงเบา “หวาเทียน ถ้าเด็กคนนี้เป็นลูกของคุณ หรือเป็นญาติกับคุณ คุณจะทำทุกวิถีทางเพื่อรักษาเขาให้ได้หรือไม่”
หวาเทียนแสยะยิ้มและพูด “ดูที่คุณพูดเข้าสิ ผู้ป่วยทุกคนจะแทนที่ตัวเองได้ที่ไหนกัน ไม่งั้นคงตกใจกลัวกันหมดแล้ว”
ลั่วหาน หัวเราะออกมาอย่างอดไม่ได้ และพูด “นี่คือความแตกต่างระหว่างผู้หญิงกับผู้ชาย คุณไปทำงานเถอะ ฉันจะดูเคสพิเศษเหล่านี้ต่อ”
“ถึงแม้ว่าฉันไม่ค่อยเข้าใจความคิดของผู้หญิงมากนัก แต่ฉันไม่สามารถสนับสนุนความคิดของหมอฉู่ที่จะช่วยโลกนี้ได้ ไปทำงานล่ะ ไปหาเงินแต่งงาน!”
หวาเทียนโบกมือและเดินออกไป ลั่วหาน มองเขาก็หัวเราะออกมาอย่างอดไม่ได้ จะแต่งงานงั้นเหรอ ความสัมพันธ์ของเขากับสาวน้อยซวงซวงพัฒนาไปถึงขั้นที่จะคุยเรื่องแต่งงานแล้วสินะ
ลู่ซวงซวงยัยเด็กคนนี้ ไม่คิดจะบอกเธอสักคำ
ลั่วหาน เดินไปด้วยดูข้อมูลไปด้วย ล้วนแต่เป็นเคสพิเศษหมดเลย เด็กบางคนต้องอาศัยอยู่ในห้องพักฟื้นเป็นเวลานานเนื่องจากโรคหัวใจกำเริบหลายครั้งและอยู่รอดได้ด้วยออกซิเจน และเด็กบางคนยังต้องการอุปกรณ์ทางการแพทย์เพื่อช่วยให้หัวใจเต้นเป็นปกติ
เพียงแต่ เธอดูไปดูมา ดวงตาของเธอก็ถูกสะกด พลิกดูข้อมูลของเด็กหลายคน เธอก็เห็นคำอธิบายของอาการป่วยที่คุ้นเคย ถูกต้อง คุ้นเคยเกินไป คุ้นเคยจนสามารถจดจำได้
สำหรับเด็กเคสชายที่อายุสองขวบกว่า คำอธิบายอาการป่วยของเขาเหมือนของเด็กที่ได้รับการดูแลอย่างดีเป็นการส่วนตัวจากส้งชิงเซวี๋ยน ซึ่งมีอาการป่วย การตอบสนอง และวิกฤตที่เหมือนกัน
ถึงแม้ในข้อมูลจะไม่มีรูปภาพของเด็ก แต่สามารถบอกได้จากวันเกิดและผลการตรวจร่างกายของเด็กว่า เด็กคนนี้เป็นลูกชายของจ้าวฟางฟาง
จ้าวฟางฟางได้เปิดเผยการขอความช่วยเหลือจากทางอินเทอร์เน็ต ซึ่งแสดงให้เห็นว่าอาการของเด็กกลับมากำเริบอีกครั้ง มีอาการหน้ามืดเป็นลม ซึ่งเหมือนอาการของเถียนเถียน
หากอาการแย่ลง เขาจะอยู่ในอาการโคม่าเป็นเวลานาน และต้องอาศัยเครื่องช่วยหายใจและเครื่องกระตุ้นหัวใจเพื่อรักษาอาการป่วย เมื่อถึงตอนนั้นเขาก็จะกลายเป็นเจ้าชายนิทราที่มีแค่ลมหายใจและการเต้นของหัวใจ
เธอคาดการณ์ไว้แล้วว่าอาการของลูกชายของจ้าวฟางฟางจะมาถึงวันนี้ แต่ไม่ได้คาดหวังว่าลูกคนที่สองจะแย่ยิ่งกว่า
จ้าวฟางฟางกลัวว่าจะรีบไปนะสิ
เมื่อนึกมาถึงตรงนี้ ลั่วหานรีบเดินกลับไปที่ห้องทำงาน แล้วหยิบโทรศัพท์บนโต๊ะขึ้นมา กดหมายเลขสองสามตัวแต่ก็หยุดลง
ความประทับใจของส้งชิงเซวี๋ยนที่มีต่อจ้าวฟางฟางนั้นแย่มาก พ่อของเด็กคนนี้คือเสิ่นคั่ว และส้งชิงเซวี๋ยนก็ไม่ได้รู้สึกดีกับเขาเลยแม้แต่น้อย
เขาคงไม่ได้อารมณ์ดีขนาดนี้ เพราะต้องใช้ทั้งเวลาและกำลังมากมายเพื่อช่วยเธออีกครั้ง
ลั่วหาน กลับไปกดปุ่มโทรออก กดหมายเลขอีกครั้ง สักครู่ก็มีเสียงคนรับสาย
“ที่นี่คือเครือข่ายความช่วยเหลือของโรงพยาบาลหวาเซี่ย ยินดีให้บริการ สวัสดีค่ะ คุณต้องการติดต่ออะไรคะ”
พนักงานบริการลูกค้าที่นั่นให้บริการลูกค้าด้วยความเคารพและสุภาพ
ลั่วหาน ดูข้อมูลของผู้ป่วย และพูด “สวัสดีค่ะ ฉันต้องการหาข้อมูลของใครบางคนจากไซต์ช่วยเหลือซึ่งกันและกัน ฉันจะให้ IDของผู้ป่วยกับคุณ ฉันต้องการให้คุณช่วยค้นหาเวชระเบียนของผู้ป่วยที่ได้ไปพบแพทย์ในโรงพยาบาลอื่นๆให้ค่ะ”
คนทางนั้นปฏิเสธด้วยความลำบาก “ฉันอภัยด้วยคุณผู้หญิง พวกเราไม่สามารถเปิดเผยข้อมูลของคนไข้ได้”
ลั่วหาน ลูบผมยาวของเขา และปัดผมไปไว้ข้างไหล่ “คุณคะ ฉันคือฉู่ลั่วหาน ศัลยแพทย์จากโรงพยาบาลหวาเซี่ย ฉันมีสิทธิ์นี้ใช่หรือไม่”
เจ้าหน้าที่ทางนั้นพูดว่า “ตามข้อบังคับ คุณต้องแสดงใบรับรองที่เกี่ยวข้อง และส่งรูปถ่ายบัตรประชาชนทางอินเทอร์เน็ตหนึ่งใบให้ฉัน แต่ฉันให้ได้แค่ข้อมูลติดต่อและที่อยู่ของคนไข้ของคุณเท่านั้น ต้องเป็นผู้มีอำนาจสูงสุดของทางเราเท่านั้นถึงจะเปิดคลังข้อมูลได้ทั้งหมด”
ฉันให้ข้อมูลติดต่อและที่อยู่ของคนไข้ได้เท่านั้นเรามีอำนาจสูงสุดที่นี่ สามารถเปิดไลบรารีทรัพยากรทั้งหมดได้”
ลั่วหาน พูดไม่ออก “ผู้มีอำนาจสูงสุดอะไร”
เครือข่ายความรักก็มีผู้มีอำนาจสูงสุดงั้นเหรอ
“ถูกต้อง ผู้มีอำนาจสูงสุดคือตัวแทนทางกฎหมายของโรงพยาบาลหวาเซี่ยนั่นก็คือคุณหลงเซียวแห่งบริษัทMBK หากคุณสามารถระบุตัวตนของคุณหลงได้ ฉันจะเปิดคลังทรัพยากรให้คุณได้”
ลั่วหาน เกือบทำโทรศัพท์หลุดมือ “บัตรประชาชนคุณหลงเหรอ เหอะ ฉันเป็นภรรยาของเขา ใช้ทะเบียนสมรสได้ไหม”
“ขออภัยคุณผู้หญิง เราต้องการยืนยันแค่บัตรประชาชนและลายเซ็นของคุณหลงเท่านั้น อย่างอื่นไม่สามารถทำได้”
“ฉันเป็นภรรยาของเขา ก็ไม่ได้เลยเหรอ”
“ไม่ได้จริงๆ ต้องแสดงเลขบัตรประชาชนของคุณหลงเท่านั้น”
“ผ่าม!”
ลั่วหาน วางสายโทรศัพท์ลงทันที ทำอะไรกัน ภรรยาของหลงเซียวไม่สามารถทำได้ ต้องยอมรับมันงั้นสิ!
ผู้มีอำนาจสูงสุดอะไร จำเป็นต้องเปลี่ยนแปลง!