ประธานหยิ่งยโสของฉัน - ตอนที่ 493
ตอนที่ 493 โรคอัลไซเมอร์
เวลานี้ ความรู้สึกอันแสนหวานเติมเต็มหัวใจของเธอที่ว่างเปล่ามาหลายวัน แต่คำพูดที่เธอจะพูดในวินาทีต่อไป มันเป็นเรื่องที่เจ็บใจและเศร้าโศกมาก
กินลงแรกๆยิ่งหวาน ยิ่งจะมีรสขมค้างอยู่ในคอ ซึ่งนี่ก็คือเป็นสาเหตุที่เธอไม่ชอบดื่มกาแฟรสหวาน
ลั่วหานเม้นปากที่สวยงามขึ้นมาอีกที จู่ๆเธอก็อยากให้หลงเซียวมองออกคำศัพท์ทางการแพทย์ทั้งหมด มองออกเกี่ยวกับสัญลักษณ์ทางการของหมอที่อยู่บนนั้น
เพราะเธอไม่อยากบอกข่าวร้ายกับเขาด้วยตัวเอง เธอไม่อยากเป็นคนโหดร้าย
ลั่วหานมองไปดูใบแสดงผลการตรวจสอบ เธอหวังเป็นอย่างยิ่งว่าตัวเองมีเวทมนตร์ในตัว สามารถเปลี่ยนแปลงตัวอักษรในข้างบนนั้นได้
“เป็นไร?หรือค่าสอบถามของหมอผู้เชี่ยวชาญในโรงพยาบาลหวาเซี่ยอย่างคุณนั้นสูงมากเหรอ ค่าที่จ่ายเมื่อกี้ยังไม่พอใช่ไหม?”หลงเซียวใช้มือข้างหนึ่งดึงเธอมาในอ้อมอกของตนเอง ใช้ความอุ่นของอุณหภูมิร่างกายตนเองทำให้เธอได้รับความอุ่น นิ้วมือของลั่วหานสั่นไม่หยุด กว่าจะได้พยายามเปิดกระดาษหลายแผ่นนั้นออกมา และให้เขาดูใบแรกก่อน”หลงเซียว สถานการณ์ของเธอแน่อยู่ คุณต้องเตรียมพร้อมให้ดี”
ผู้ชายที่อยู่ข้างหลังไม่ได้พูดอะไร แค่กอดไหล่ของเธอไว้อย่างแน่น”อืม”
ลั่วหานเริ่มอธิบาย”ก่อนอื่น ใบนี้เป็นใบแสดงผลการตรวจเลือด การแข็งตัวของเลือดในร่างกายคุณแม่ผิดปกติ เธอมีโรคโลหิตจางที่หนัก แต่เธอเหมือนไม่ได้ตระหนักถึงความสำคัญ และก็ไม่เคยได้ทำการตรวจสอบที่ละเอียดมาก่อน เธอเองได้รักษาโรคนี้เหมือนโรคโลหิตจางปกติ”
ลั่วหานชี้ไปที่ตัวเลขที่มีตัวอักษรภาษาอังกฤษผสมอยู่ในข้างบนให้เขาดู”ตัวเลขนี้ คนปกติเป็นสิบยกกำลังห้า แต่คุณแม่มีแค่สิบกำลังสาม ต่ำกว่าคนปกติเยอะมาก”
หลงเซียวมองไปดูตัวเลขที่มีpและรูปแบบ Elfaผสมอยู่ในข้างบน”การแข็งตัวของเลือดในร่างกายผิดปกติ ก็คือภาวะเลือดแข็งตัวผิดปกติ ฉันรู้อยู่”
ลั่วหานหันไปมองหน้าของเขา รู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย”คุณรู้หรือ?”
“นี่เป็นความรู้พื้นฐานทางการแพทย์ ฉันจะไม่รู้ได้ยังไงล่ะ แถมถ้าหากว่าฉันจำไม่ผิด โรคโลหิตจางรูปแบบนี้ต้องการปลูกถ่ายเซลล์ต้นกำเนิดเพื่อซ่อมแซมการทำงานของเม็ดเลือด”
ลั่วหานรู้สึกนับถือกับความรู้และไอคิวที่สูงของคุณหลง พยักหน้า”ใช่แล้ว ตอนนี้พวกเรากำลังใช้วิธีนี้ช่วยรักษาโรคโลหิตจางให้คุณแม่ แต่การรักษาโรคโลหิตจางไม่สามารถทำได้ในระยะสร้าง ต้องค่อยๆทำเป็น แต่ว่า…….”
ลั่วหานหยิบใบแสดงผลการตรวจสอบออกมาอีกใบหนึ่ง”นี่เป็นการตรวจสอบทางด้านหัวใจที่คุณแม่ทำ โรคโลหิตจางที่รุนแรงจะนำไปสู่ภาวะหัวใจทำงานหนัก ตอนนี้คุณแม่มีอาการระบบเผาผลาญช้าและหัวใจเต้นช้าด้วย ซึ่งจะส่งผลให้กลไกของร่างกายจะแก่เร็วขึ้น”
ลั่วหานกัดฟัน ไม่พูดอีก แค่มองไปทางหลงเซียวอย่างอ่อนโยน หวังว่าเขาก็สามารถผ่อนคลายสักหน่อย
หลงเซียวนำใบที่ดูแล้ววางลง พูดเหมือนกับว่ารู้ความในใจของเธอ”โรคโลหิตจางสามารถค่อยๆรักษาได้ ส่วนปัญหาของหัวใจฉันเชื่อว่าคุณมีวิธีเองอยู่แล้ว สิ่งที่คุณจะพูดกับฉันนั้นไม่ใช่สิ่งพวกนี้ บอกมาตรงๆกับฉันว่า เนื้องอกในสมองของแม่เป็นยังไงบ้างแล้ว?”
ลั่วหานหวังว่าหลงเซียวจะสามารถโง่หน่อย อย่ามองเพียงตาเดียวก็รู้ความในใจของเธอ แต่เขาฉลาดเกินไป หลอกเขาไม่ได้ ลั่วหานกัดฟันไว้ แทบจะได้ยินเสียงการชนกันของฟัน จากนั้นพูดว่า”เออ……นี่ นี่เป็นภาพ CT ของเนื้องอก ตำแหน่งของเนื้องอกอันตรายมาก อยู่ด้านหลังของระบบประสาทส่วนกลาง ฉันจะอธิบายคร่าวๆให้คุณก่อน”
ลั่วหานชี้ไปที่ตำแหน่งสี่เหลี่ยมในรูปภาพ”ตำแหน่งส่วนนี้ของสมองมนุษย์มีหน้าที่ควบคุมการเคลื่อนไหวทางกายเป็นหลัก ส่วนข้างหลังเป็นตำแหน่งที่ควบคุมความทรงจำและไอคิว ถ้าข้างหน้าได้รับอิทธิพลก็จะส่งผลให้เป็นอัมพฤกษ์แม้กระทั่งกลายเป็นสภาพผักก็เป็นไปได้ ส่วนถ้าข้างหลังได้รับอิทธิพลก็จะกลายเป็นคนบ้า”
หลงเซียวขมวดคิ้วทันที ดวงตาที่มืดดำค่อยๆเงยขึ้นมา”คุณหมายความว่า?”
ลั่วหานหลับตาลง และนำตัวเองเข้าใกล้อ้อมอกของเขา”เป็นอย่างที่คุณคิด ถ้าเนื้องอกของคุณแม่ร้ายแรงขึ้นมา ก็จะส่งผลต่อปราสาทส่วนนี้ สมองกลีบขมับเป็นหน่วยควบคุมความจำที่สำคัญที่สุด รวมไปถึงข้างๆพวกนี้ ทั้งหน่วยควบคุมการพูดสื่อสารและออกกำลังต่างๆล้วนจะได้รับผลกระทบด้วย”
นิ้วมือชี้ไปที่ตำแหน่งต่างๆของระบบประสาทและอธิบายให้เขาครั้งหนึ่ง จากนั้นก็เงียบขรึมอีกที รอรับคำตอบรับจากเขา
หลงเซียวยังไม่ได้โง่จนไม่รู้พวกนี้ จากนั้นพูดว่า”พูดมาตรงๆเลย ถ้าเนื้องอกรุนแรงขึ้นจะส่งผลอะไร?”
ลั่วหานนอนอยู่ในอ้อมอกของเขา และกอดเขาไว้อย่างแน่น จากนั้นพูดอย่างไม่ค่อยชัดเจน”จะเกิดโรคอัลไซเมอร์ ก็คือโรคสมองเสื่อมที่พบมากในคนแก่นั่นเอง”
มือที่กอดเธอไว้อยู่นั้น เมื่อได้ยินคำพูดพวกนี้ ก็เกิดการตอบสนองขึ้นมา เห็นได้ชัดว่าเขาแข็งตัวขึ้นมา มือที่สัมผัสแขนของเธออยู่นั้นก็ค้างอยู่อย่างนั้น ไม่ได้ขยับเป็นเวลานาน
“โรคอัลไซเมอร์……”เขาครุ่นคิดเกี่ยวกับหลายคำนี้ ครุ่นคิดว่าคำพูดนี้รุนแรงขนาดไหน จากนั้นราวกับว่าสมองระเบิดขึ้นมา
เขาหลับตาลงอย่างเจ็บปวด เพียงได้ยินการหายใจของเขาหนักขึ้นทีละครั้ง แต่ไม่เห็นสีหน้าของเขา ฟังแต่เสียงหายใจก็ทำให้รู้สึกสงสารเขาจนเกือบจะร้องไห้ออกมาแทนเขา
ลั่วหานลุกขึ้นมาจากอ้อมอกของเขา และกอดเขาไว้ด้วยมือตัวเอง”หลงเซียว คุณอย่าทำแบบนี้ พวกเราจะคิดวิธีมารักษาเธอ ผู้เชี่ยวชาญด้านนี้ของสหรัฐฯก็ได้มาแล้ว คุณแม่จะค่อยๆดีขึ้นแน่นอน”
หลงเซียวนำหน้าฝังเข้าไปในอ้อมอกของเธอ หายใจของเขาถูกกรองด้วยกลิ่นกายที่หอมของเธอ”ถ้าเทียบกับการตาย โรคอัลไซเมอร์อาจเป็นทางเลือกที่ดีกว่า”
ถ้าหากการตายกับโรคอัลไซเมอร์ให้เขาต้องเลือกอย่างหนึ่ง นั้นเขายอมจะเลือกสิ่งหลัง เพราะอย่างน้อยเธอยังมีชีวิตอยู่ เขายังสามารถแสดงความกตัญญูในฐานะที่เป็นลูก
ลั่วหานใช้มือหวีผมที่แข็งของเขา”เออ ไม่ว่าผลเป็นยังไง ล้วนดีกว่าการตาย”
เธอหยิบแผนการรักษาออกมา ชุดหนึ่งเป็นการผ่าตัด อีกชุดหนึ่งเป็นวิธีเคมีบำบัด”ถ้าใช้การผ่าตัด โอกาสที่สำเร็จคือร้อยละ20 มีโอกาสสูงมากที่จะตายในระหว่างการผ่าตัด แต่ถ้าใช้เคมีบำบัด มันสามารถชะลอความตาย และหากเธอสามารถรอดไปได้มันอาจจะฆ่าเซลล์มะเร็งได้ด้วย ”
หลงเซียวพูดอย่างมั่นใจ”เคมีบำบัด”
คาดไม่ถึงว่าเขาตอบอย่างรวดเร็วแน่วแน่แบบนี้!
“คุณไม่อยากฟังกระบวนการโดยละเอียดหรือ?วิธีการเคมีบำบัดจะมาพร้อมกับผลข้างเคียงมากมาย”ในฐานะที่เป็นคุณหมอ เธอว่าเธอจำเป็นต้องบอกข้อดีข้อเสียของแต่ละแผนการรักษาให้เขาทราบหมด แต่ในฐานะที่เป็นภรรยา เธอไม่อยากให้เขารู้สักอย่างเลย
หลงเซียวแตะหลังของเธออย่างใจเย็น และจูบไปที่หน้าผากของเธอ”คุณนึกว่าสามีของคุณนั้นโง่จริงหรือ?แม้ว่าจะไม่เคยเป็นโรคมะเร็งมาก่อน แต่ฉันก็มีความรู้พื้นฐานการแพทย์อยู่ ใช้วิธีเคมีบำบัดเลย ไม่ว่ามีผลข้างเคียงใดๆ ฉันเชื่อว่าคุณแม่ล้วนจะรับไหว”
ได้หรือ?ลั่วหานไม่รู้ว่าจะตอบอย่างแน่ใจขนาดนี้ไหม อย่างน้อยถ้าอยู่ในมุมมองของหมอ เธอรู้สึกเป็นห่วงเล็กน้อย
ไม่ว่าเป็นมะเร็งประเภทไหน คนที่ตายเพราะวิธีเคมีบำบัดนั่นนับไม่ถ้วนจริงๆ
“ฉันก็เชื่อว่าเธอจะทำได้แน่นอน!”
แต่ตอนนี้เธอไม่ใช่คุณหมอ เธอเป็นเครือญาติของผู้ป่วย เครือญาติที่สามารถเสียสละผลประโยชน์ทุกอย่างเพื่อแลกกับการมีชีวิตอยู่ของสมาชิกในครอบครัวตัวเอง!
ลั่วหานพูดเสร็จ ก็จับหลงเซียวไว้และจูบไปที่ริมฝีปากของเขาอย่างลึก ส่งมอบความอ่อนหวานอ่อนโยนของตัวเองให้เขาอย่างกล้าหาญและเอาใจ
หลงเซียวถูกการจูบของเธอทำจนมึนงง”เป็นไร?”
ลั่วหานกอดคอของเขาไว้ น้ำตาในดวงตายังไม่แห้ง กลับหัวเราะออกมา”ให้ช็อคโกแลตเม็ดหนึ่งของฉันแก่คุณ
“เออ?”หลงเซียวยังคงขมวดคิ้วอยู่ และถามอย่างมึนงง
ลั่วหานผลักคิ้วที่ขมวดอยู่ของเขาให้เป็นปกติ”ช็อคโกแลตของฉัน ไม่หวานหรือ?”
หลงเซียวกว่าจะเข้าใจได้ จากนั้นก็ยิ้มและมองเธอด้วยสายตาที่ลึกซึ้ง”หวาน หวานมาก รสนี้ฉันจะกินตลอดชีวิต”
“โอเค เอาของคุณมาแลก”
“แน่นอน!ตลอดชีวิต”
พักอยู่ที่บ้านครึ่งวันเช้า หลังจากกินข้าวเสร็จสองคนก็ไปพร้อมกันที่โรงพยาบาล ทั้งสองบอกกับคุณหมอว่า พวกเขาจะใช้วิธีเคมีบำบัด
โฮเท่อก็เริ่มเตรียมแผนการใช้เคมีบำบัดอย่างรวดเร็ว และได้เตรียมอุปกรณ์ที่ทันสมัยที่สุดของสหรัฐฯ และอุปกรณ์ที่ควบคู่กันทุกอย่างล้วนได้จัดเตรียมตามมาตรฐานสูงสุด
หลงเซียวเซ็นสัญญาที่เกี่ยวข้อง ใช้ฐานะที่เป็นลูกชายในการรับประกัน เวลาไม่ถึงครึ่งวันทุกอย่างก็เตรียมพร้อมแล้ว
ลั่วหานรู้สึกนับถือเขาจริงๆ ช่วงเวลาหลายวันนี้ที่เธออยู่ในโรงพยาบาล เรื่องทุกอย่างยุ่งเหยิงมากจนเธอไม่รู้จะต้องจัดการยังไง แต่เขาเพิ่งได้กลับมาไม่กี่ชั่วโมง ก็จัดการเรื่องทุกอย่างได้อย่างเป็นระเบียบเรียบร้อย
เขาเป็นแบบที่เรียกว่าเข้มแข็งเด็ดเดี่ยว แบบที่เรียกว่าจอมเผด็จการ นับถือจริงๆ!
ลั่วหานยกกาแฟแก้วให้เขา”สมควรที่จะเป็นประธานจริงๆ ประสิทธิภาพในการทำงานทำให้คนธรรมดาอย่างฉันเทียบเท่าไม่ได้เลย”
หลงเซียวดื่มกาแฟลงไปคำหนึ่ง ขมวดคิ้ว รสชาติกาแฟของโรงพยาบาลแย่อย่างที่คิด
“นี่ถือว่าเป็นการประจบสอพลอวิธีหนึ่งไหม?”
ลั่วหานทำปากเบี้ยว”ใช่”
“ถ้าการประจบสอพลอสามารถกลายเป็นแบบอื่น ฉันว่าฉันจะเต็มใจยอมรับมากกว่านี้”
หลงเซียวล้อเธอเล่นอย่างชั่วๆ
ลั่วหานยิ้มอย่างขมขื่น
ตามจริงในใจเศร้าจนอกจะแตกแล้ว ยังมีอารมณ์มาเกี้ยวพาราสีกับเธออีก สัญชาตญาณในการปลอมตัวของเขานี่เธอสู้ไม่ไหวจริงๆ
“โอเค แลกเป็นอย่างอื่นก็ได้ กาแฟอเมริกายี่ห้อหวาเซี่ยแก้วหนึ่งให้คุณ ค่อยๆชิมดูนะ ดื่มเสริมเข้าไปเยี่ยมคุณแม่”
“ไปเยี่ยมตอนนี้เลยดีกว่า ฉันกลัวว่ามันจะยากที่จะดื่มกาแฟแก้วนี้หมดในสักพัก”
“เชอะ เวลาไหนแล้วยังเรื่องมากอีก!”
“แน่นอน เราต้องเป็นคนพิถีพิถัน ไม่ว่าอยู่ในสถานการณ์ใดๆล้วนต้องรักษาความสูงส่งและสง่างามไว้อยู่”
“เชอะ!ก็คือการถือตัวทำเป็นว่าหยิ่งไง ไม่ดื่มก็ช่างเถอะ คืนฉันมา”
“ไม่ได้ กาแฟที่ภรรยาของฉันทำให้ ฉันจะดื่มให้หมดแน่นอน”
ทั้งสองคนโต้เถียงกันอยู่นอกห้องป่วยสักพักหนึ่ง อารมณ์ที่ตึงเครียดได้ผ่อนคลายลงเล็กน้อย แน่นอนว่าในที่สุดกาแฟไม่ได้ดื่มหมด หลงเซียววางแก้วลงและกอดไหล่ของลั่วหานไว้
“เข้าไปเถอะ”
ภายในห้องป่วย หยวนชูเฟินเปิดหนังสือเล่มหนึ่งออก กำลังนั่งดูอยู่บนโซฟา
“แม่”
พอได้ยินเสียงของลูกชาย ดวงตาของหยวนชูเฟินก็เปล่งประกายออกมา พอหันไปเห็นว่าเป็นลูกชาย รอยยิ้มของเธอก็ยิ่งสดใสอ่อนโยนขึ้นมา ราวกับว่าอาการป่วยนั้นหายไปแล้วครึ่งหนึ่ง
“เซียวเอ๋อ?กว่าที่คุณจะได้กลับมา!”
หยวนชูเฟินลุกขึ้นมา ผ้าห่มผืนบางบนตักก็ร่วงลงพื้น ลั่วหานก้มตัวลงไปหยิบ ส่วนหยวนชูเฟินได้กอดหลงเซียวไว้ ราวกับว่าได้จากกันหลายปีเชียว กอดจนไม่ยอมจะปล่อยมือ
“ท่านเซียว ให้คุณแม่ดูคุณดีๆหน่อยสิ!”
หลงเซียวรู้สึกเจ็บปวดใจมาก ยิ้มและแตะหลังเธอ”ฉับกลันมาแล้ว ทีหลังไม่ไปไหนอีกแล้ว จะอยู่กับแม่ที่นี่”
“โอเค อยู่กับฉัน อยู่กับฉันที่นี่!ดีมาก ดีมากเลย!คุณรีบมานั่ง รีบมาที่นี่!”
หยวนชูเฟินทำตามเหมือนกับเด็ก ดึงหลงเซียวไปนั่งในโซฟา
ลั่วหานพับผ้าห่มเสร็จ ก้มหน้าหน้ายิ้มพร้อมพูดว่า”แม่ วันนี้รู้สึกยังไงบ้างคะ?ดีขึ้นหน่อยไหมคะ?”
จู่ๆหยวนชูเฟินก็เก็บมือกลับไป เบิกตากว้างและมองอย่างระมัดระวัง ซ่อนตัวเองไว้ข้างหลังของหลงเซียวและถามอย่างหวาดกลัว”คุณ……คุณเป็นใครเนี่ย?”