ประธานหยิ่งยโสของฉัน - ตอนที่ 5
ตอนที่ 5 ทะเลาะ ประสบการณ์แปลกใหม่
หลงเซียวปรายตามองฉู่ลั่วหานครู่หนึ่ง จากนั้นก็พูด ขึ้นด้วยน้ำเสียงนิ่งเฉย “คืนพรุ่งนี้ไปกินข้าวที่บ้านพ่อกับ
แม่”
เดิมที่คิดว่าเขาจะต้อนรับตนด้วยถ้อยคำเย้ยหยัน ใคร จะไปคิดว่าเขากลับวางระเบิดมาตรงๆแบบนี้
ตระกูลหลง? ถ้าจะบอกว่าบนโลกนี้ที่ไหนคือที่ที่เธอไม่ อยากไปที่สุด นั่นต้องเป็นบ้านของตระกูลหลง อีกทั้งยัง เป็นการกินข้าวในครอบครัว เป็นฝันร้ายชัดๆ !
ฉู่ลั่วหานเม้มปากแน่นตามจิตใต้สำนึกของตน บ้าน ของตระกูลหลง แค่คิดก็รู้สึกเสียวสันหลังแล้ว
แต่ว่า ต่อหน้าหลงเซียว เธอจะไม่มีวันแสดงความหวั่น ใจออกมา “ได้ค่ะ”
เธอตอบรับไปหนึ่งพยางค์ เหมือนไม่ได้รู้สึกอะไรกับ
เรื่องนี้
ในที่สุดหลงเซียวก็ละสายตาจากเอกสารแล้วเงยหน้า ขึ้น “ไม่ถามหรอว่าเพราะอะไร?”
แน่นอนว่าเธออยากรู้ จู่ๆก็ไปโดยที่ไม่ได้มีการเตรียม ใจ เป็นการสาดน้ำเข้าหน้าตนเองชัดๆไม่ใช่หรอ? ฉู่ลั่วหานทำคอแข็ง พยายามควบคุมอารมณ์ของ
ตนเองไม่ให้แสดงออกมา “ทำไมคะ?”
หลงเซียวก้มหน้าลงอ่านเอกสารอีกครั้ง “พรุ่งนี้เสี่ยวจี๋ %1 อกลับมาจากต่างประเทศ มีงานเลี้ยงต้อนรับที่บ้าน”
เสี่ยวจื่อ?
ฉู่ลั่วหานพูดทวนชื่อนี้ คิดอยู่นานครึ่งค่อนวันกว่าจะนึก ขึ้นได้ หลงเซียวมีน้องชายต่างแม่คนหนึ่ง ชื่อหลงจื่อ
เขาไปเรียนต่างประเทศเมื่อห้าปีที่แล้ว ตลอดระยะ เวลาที่ผ่านมาไม่เคยกลับมาสักครั้ง เมื่อก่อนมีข่าวเกี่ยว กับคุณชายทั้งสองคนของตระกูลหลงมากมาย คำพูด ต่อๆกันนั้น ทำให้น้ำเน่าเสียยิ่งกว่าละครเกาหลี
น้องชายของสามีคนนี้เป็นยังไงเธอไม่รู้แม้แต่น้อย
“ได้ค่ะ พรุ่งนี้ฉันจะไปค่ะ”
ฉ่ลั่วหานตอบคำถาม จากนั้นรอท่าทีตอบกลับของ หลงเซียว กลับไปที่บ้านในครั้งนี้ ไปด้วยกัน หรือต่างคน ต่างไปแล้วค่อยเจอกันที่หน้าประตู? ก่อนจะไปนั้นต้องมี การเตรียมการอะไรรึเปล่า?
หรือว่าไม่ควรบอกให้เธอรู้สักหน่อยหรือไง?
ใครจะไปรู้ว่าหลงเซียวเหมือนจะหงุดหงิด ไม่มีปฏิ กิริยาใดๆแม้แต่น้อย
หลังจากที่ชายหนุ่มดูเอกสารเรียบร้อยแล้วนั้น นิ้วชี้จับ
ปากกาเอาไว้แล้วเซ็นชื่อ ข้อนิ้วมือตรงนิ้วชี้เรียวยาว
เทียบกับปากกาสีดำ งดงามจนทำให้คนไม่อาจละ
สายตาได้ ปากกาตวัดด้วยความรวดเร็ว กดแรงลงไปบนกระดาษอย่างพอดี คล้ายกลัวว่าจะทำให้กระดาษฉีก
ขาด
มือสวย ตัวหนังสือสวย
ฉู่ลั่วหานมองตาค้างอย่างคนไร้ประโยชน์
หลงเซียววางเอกสารลง มองดูฉู่ลั่วหานที่ยังยืนอยู่ พูด ด้วยเสียงทุ้มต่ำเคล้าแรงดึงดูด มีธุระ?” ฉู่ลั่วหานดึงสติกลับมา ไม่ได้มีเรื่องกำซับเอาไว้ จึง
เข้าใจว่าต่างคนต่างไป
คุณหลงเซียวคุณรังเกียจฉันแค่ไหนกัน แม้แต่นั่งรถ คันเดียวกันคุณยังไม่ยอม
เขารังเกียจเธอ ก็ดีเหมือนกัน ฉันเองก็ไม่คิดอยากจะ
นั่งรถคันเดียวกับคุณ
“ฉันเป็นหมอประจำตัวคุณ ตอนนี้มาตรวจเช็คความ แข็งแรง พรุ่งนี้จะออกจากโรงพยาบาลได้หรือไม่นั้น ต้องตรวจดูก่อนถึงจะรู้ค่ะ”
หลงเซียวขมวดคิ้ว “ไม่ต้องตรวจแล้ว พรุ่งนี้ผมจะอ จากโรงพยาบาล”
ฉ่ลั่วหานแสยะยิ้ม “ต้องขอโทษด้วยนะคะคุณหลง ที่นี่ คือโรงพยาบาล ฉันคือหมอ คุณต้องฟังฉันค่ะ”
นานหลายปีกว่าหลงเซียวจะป่วยครั้งหนึ่ง ครั้งนี้เธอ ต้องทำหน้าที่ของตนเอง สำหรับความรู้สึกส่วนตัวนั้นเธอจะให้หลงเซียวจับได้ได้ยังไง?
เห็นได้ชัดว่าหน้าของหลงเซียวตึงไปหมด แต่ก็ยังคง ยื่นแขนออกมาให้
การเข้าร่วมกินเลี้ยงกับตระกูลหลงนั้นไม่ใช่เรื่องเล็กๆ ตั้งแต่หัวจรดเท้าต้องแปลงโฉมใหม่ทั้งหมด โดยเฉพาะ กลิ่นน้ำยาฆ่าเชื้อบนตัวเธอ คุณผู้หญิงของตระกูลหลง เกลียดที่สุด
วันที่สองเป็นวันหยุดสุดสัปดาห์ ฉู่ลั่วหานตื่นแต่เช้า หา เสื้อผ้าทั้งตู้แล้วพบว่าไม่มีชุดที่เหมาะสมเลยสักตัว
สำหรับการเป็นผู้หญิง สามารถเขียนตัวโตๆ ให้กับหมอ ฉูได้ว่าล้มเหลว
“สั้ว”
สูดลมหายใจเข้า ลู่ลั่วหานหยิบกระเป๋าแล้วออกไป ต้องเตรียมตัวให้พร้อม!
การเข้าร่วมงานเลี้ยงที่ผ่านมานั้น หลงเซียวจะเตรียม ชุดราตรีเอาไว้ให้ล่วงหน้าแล้วส่งมาให้ ฉู่ลั่วหานรู้ว่าเขา คงกลัวว่าเธอจะใส่ชุดที่ดูโทรมๆแล้วจะทำให้เขาขาย หน้า
แต่ว่าตอนนี้ละ ในใจของเขามีโม่หรูเฟยแล้ว จะมา สนใจภรรยาคนนี้อย่างเธอได้ยังไง
งานเลี้ยงในครอบครัวถูกจัดขึ้นเล็กๆ แต่การไป่งานนั้น ต้องเตรียมทุกอย่างให้เหมาะสม รูดซื้อเสื้อผ้าและ รองเท้านั้น ฉู่ลั่วหานรู้สึกเหมือนถูกขูดเลือดขูดเนื้อ การ แสดงในครั้งนี้มีราคาแพงจริงๆ!
ความเป็นจริงก่อนหน้านี้หลงเซียวเคยให้บัตรเสริมกับ เธอ แต่ว่าเมื่อไหร่ที่เธอรูดบัตรนั้นระบบจะส่งข้อความ ไปบอกหลงเซียวทันที ฉู่ลั่วหานไม่อยากให้เขาเห็น
มองดูตัวเลขในบัญชีที่เหลือน้อยด้วยความรวดเร็ว ผ่านข้อความที่ส่งมาในโทรศัพท์ อยากจะด่าแม่จริงๆ !
“น้องสาวครับ”
ขณะที่ฉู่ลั่วหานเดินลงบันไดด้วยความปวดใจ เสียง ของชายหนุ่มที่อยู่ด้านบนก็ดังขึ้น หมอฉู่โมโหขึ้นมาใน ทันที
เงยหน้าขึ้นตะคอกด้วยเสียงเย็นชา “เรียกใครหะ! ผู้ชายที่อยู่ตรงหน้า เท่าที่ดูนั้นน่าจะยังอายุไม่ถึงยี่สิบ ห้าปี เสื้อผ้าที่ใส่ล้วนเป็นแฟชั่นของก้อปแบรนด์ใหญ่ ย้อมผมสีทอง เวลาที่ยิ้มนั้นดูอบอุ่นเหมือนแสงอาทิตย์
“ถ้างั้น พี่สาวครับ?”
ฉู่ลั่วหานขมวดคิ้วเป็นปม วันนี้อารมณ์ของเธอไม่ดีอยู่ แล้ว ยังต้องมาเจอกับวัยรุ่นนิสัยแย่ๆอีก “ใครคือพี่สาว ของนาย? พูดจาไม่เป็นหรือไง?”
ชายหนุ่มอายุน้อยเอียงคอยิ้ม “คนสวยครับ? แบบนี้ได้หรือยัง?”
มุมปากของชายหนุ่มยิ้ม แววตาใสชื่อนั้นทำให้ฉู่ลั่วหา นถึงกับด่าไม่ออก
เมื่อเห็นอารมณ์ของฉู่ลั่วหานเย็นลงกว่าครึ่งแล้ว ชาย หนุ่มจึงยิ้มแล้วพูดขึ้น “คนสวย คนสวย ผมขอถามหน่อย สิครับ โรงแรมนานาชาติตงฟางไปยังไง?”
โรงแรมนานาชาติตงฟาง? นั่นคือโรงแรมหกดาวที่หรู ที่สุดในเมืองหลวง
ฉู่ลั่วหานอดไม่ได้ที่จะมองดูวัยรุ่นคนนี้อย่างพิจารณา ถึงแม่ว่าจะแต่งชุดแบรนด์เนมออกจะดูรุ่มร่ามไปหน่อย แต่กางเกงยีนส์ขาดๆตัวนั้นของเขาฉู่ลั่วหานรูรู้จัก นั่นคือ กางเกงรุ่นใหม่ล่าสุดของแบรนด์ฝรั่งเศส ราคาเจ็ดหมื่น ถึงแปดหมื่นหยวน กระเป๋าเดินทางของเขาประทับด้วย โลโก้แอร์แมส โซ่คล้องกระเป๋าเป็นงานฝีมือรุ่นลิมิเต็ด ของCUCCI
อ่า ที่แท้ก็เป็นคุณชายนี่เอง ไม่แปลกเลยที่จะเอ่ยปาก ถามถึงโรงแรมนานาชาติตงฟาง
ฉ่ลั่วหานชี้ไปยังทางด้านหน้า “เดินตรงไป เลี้ยวขวา ตรงไปอีก อยู่ฝั่งขวา”
“โอเคครับ ขอบคุณมากนะครับ..คนสวย! ชายหนุ่มโค้งตัวลง กล่าวขอบคุณแล้วลากกระเป๋าเดิน ทางเดินไป’
จู่ๆฉ่ลั่วหานก็นึกบางอย่างขึ้นมาได้ เงยหน้าไปดูเวลา ก็ไม่เห็นหลังของชายหนุ่มแล้ว
แปลกจัง ทำไมรู้สึกเหมือนเคยเจอเขาที่ไหนมาก่อน? นั่งรถสาธารณะกลับคอนโด ตอนที่ฉู่ลั่วหานพึ่งเดินไป ถึงหน้าประตูโครงการนั้น ตาโตขึ้นมาทันที รถของหลง เซี่ยวมาอยู่ที่นี่ได้ยังไง?
ความรู้สึกดีใจเอ่อล้นขึ้นมา มือของฉู่ลั่วหานที่ถือ กระเป๋าอยู่นั้นจับแน่นขึ้นมา หรือว่าคืนนี้จะไปด้วยกัน?
ใครจะไปรู้ หลังจากที่ประตูถูกเปิดออก คนที่ออกมาก ลับคือหยังเซินซึ่งเป็นคนขับรถของหลงเซียว
“คุณผู้หญิงครับ บอสให้ผมส่งนี่มาให้คุณครับ” หยัง เซินคลายยิ้ม
ใจของฉู่ลั่วหานหล่นวูบ ทุกครั้งที่ตั้งความหวังล้วนต้อง ผิดหวัง แต่เธอกลับไม่ยอมจำสักที!
“ของอะไรคะ?”
หยังเซินเปิดประตูหลังรถ หยิบถุงออกมาสองใบ มองดู โลโก้ของถุงกระดาษนั้น คิ้วของฉู่ลั่วหานเลิกขึ้น
“บอสบอกว่างานเลี้ยงในครอบครัวคืนนี้ คุณ…เอา อันนี้ไปด้วยครับ เป็นของขวัญที่จะให้คุณชายสอง”
ฉู่ลั่วหานยิ้มแห้งๆ ท้ายที่สุดแล้วคงกลัวว่าเธอจะทำให้ เขาขายหน้า แม้แต่ของขวัญก็ซื้อเสร็จแล้ว สำหรับการสร้างภาพนั้น เขายอมที่จะใช้เงินจริงๆ
“ถ้าคุณผู้หญิงไม่มีอะไรแล้ว ผมขอตัวกลับก่อนนะ ครับ”
ขณะที่หยังเซินกำลังจะไปนั้น ในใจของฉู่ลั่วหานก็ ร้อนรนขึ้นมา “คุณหลงเซียวเขา…เป็นยังไงบ้างคะ?”
“อ่อ! บอสออกจากโรงพยาบาลตั้งแต่สิบโมงเช้าแล้ว ครับ ตอนนี้อยู่ที่บริษัท คุณผู้หญิงวางใจได้ครับ บอส อาการดีขึ้นมากแล้ว”
ฉู่ลั่วหานพยักหน้า “งั้นก็ดีค่ะ คุณกลับไปเถอะ”
ฉู่ลั่วหานเปลี่ยนชุดราตรีที่พึ่งซื้อมาใหม่ ชุดเดรสสีดำ ยาว ดูเรียบง่ายแต่ก็เผยให้เห็นหุ่น ไม่ได้ดูโอ่อ่าเกินไป และไม่ได้ดูโบราณเกินไป
รองเท้าส้นสูงสีแดง ไม่ว่าจะเป็นความสบายหรือรูป ทรงล้วนไม่มีที่ติ
ฉู่ลั่วหานมองดูตนเองในกระจก รู้สึกหวั่นใจ ว่ากันว่าผู้
หญิงต่างก็ต้องรักสวยรักงาม แต่นานเท่าไหร่แล้วนะที่
เธอไม่ได้แต่งหน้าแต่งตัวแบบนี้?
ลังเลอยู่ครู่หนึ่ง ฉู่ลั่วหานหยิบโทรศัพท์ออกมา กัดฟัน แน่น กดโทรหาหลงเซียว
เสียงรอสายดังตู๊ด ตู๊ด ตู๊ด ไม่นานก็มีคนรับสาย ฉู่ลั่ วหานตกใจ คิดไม่ถึงว่าเขาจะรับโทรศัพท์เร็วแบบนี้
ด้วยความรวดเร็ว เสียงของหลงเซียวดังออกมา “มีธุระ
อะไร?”
เสียงทุ้มต่ำนั้น คล้ายกลับทะเลน้ำลึก แม้จะมีโทรศัพท์ มากั้นแต่เสียงนั้นก็ชวนฟังจนติดใจ มือของฉู่ลั่วหานกระ ชับชายเสื้อแน่น นิ้วชี้บีบแน่นจนเปียกชื้น
“ฉันได้รับของแล้วนะคะ….” ฉู่ลั่วหานอยากจะพูด ขอบคุณ แต่คำพูดถึงคอก็ถูกกลืนลงไป สองคำนี้ เธอไม่ สามารถพูดบอกกับหลงเซียวได้จริงๆ
เงียบอยู่นาน คล้ายกับว่ากำลังรอคำพูดประโยคถัดไป ของเธอ จากนิสัยของหลงเซียวแล้วนั้น การที่สามารถ อดทนรอฟังเธอพูด เธอรู้สึกซึ้งใจแล้ว
สูดลมหายใจเข้า คู่ลั่วหานเปลี่ยนเรื่องคุย “ตอนที่คุณ ออกจากโรงพยาบาลฉันไม่อยู่ อย่าลืมกินยาให้ตรงเวลา อาการจะได้ไม่ต้องกำเริบนะคะ”
ตึกMBKขนาดใหญ่ย่านการค้า CBD ในเมืองหลวง มือ ซ้ายของหลงเซียวจับโทรศัพท์เอาไว้ มือขวาพลิก เอกสาร คิ้วขมวดเป็นปม
คำพูดเตือนของหมอจากฉู่ ลั่วหาน ทำให้หลงเซียวจับ เอกสารในมือแน่น แทบจะทำกระดาษยับไปหมด ผู้หญิง คนนี้ มีวิธีทำให้เขาโมโหมากเท่าไหร่กันนะ?
เลขาที่ยืนอยู่ตรงหน้ารอเอกสารเมื่อเห็นท่าทีที่เปลี่ยน ไปของเขา ตกใจจนก้มหน้าลง ไม่กล้าส่งเสียง
หลงเซียวหยิบกาแฟขึ้นมา กำลังจะดื่ม เสียงหนึ่งดัง ขึ้น เขาชี้ไปที่แก้วน้ำ เลขารับรู้ รีบยื่นเทน้ำร้อนให้กับ หลงเซียว
ย้ายกาแฟไปมุมตรง หลงเซียวจับแก้วน้ำร้อนเอาไว้ แล้วค่อยวางโทรศัพท์เอาไว้ข้างหูใหม่
ฉูลั่วหานรอฟังด้วยใจที่ร้อนรน เสียงก้องแก้งๆนั้นคือ เสียงอะไร? ขณะที่เธอรอจนแทบจะทนไม่ไหวแล้วนั้น เสียงของหลงเซียวก็ดังขึ้น “ทิ้งคนไข้เอาไว้แล้วออกไป ทำไม? อยากจะชดเชยทีหลังหรอ?”
ฉลูรั่วหานเม้มปาก เสียงเรียบนิ่งของหลงเซียวทำให้เธอ รู้สึกประหม่าขึ้นมา “วันนี้ไม่ใช่เวรของฉัน อีกอย่างคุณ เองก็อาการดีขึ้นมากแล้ว”
น้ำเสียงนั้น ดูแข็งเล็กน้อย
หลงเซียวชี้ไปที่บนโต๊ะไม้ ครู่หนึ่ง ก็โมโหขึ้นมา “ผมว่า ในอนาคตคุณคงไม่อยากเข้าเวรแล้ว อยากจะหยุดงาน ผมช่วยคุณได้นะ”
ลั่วหานไม่สามารถทนได้แล้ว หลงเซียวกระแทกกระ ทั้นส่อเสียดแบบนี้คืออะไร “ฉันไม่มีอารมณ์มาทะเลาะ กับคุณ คืนนี้เจอกันที่บ้าน”
ฉู่ลั่วหานตัดสายในทันที ไม่ควรโทรไปเลยจริงๆ! เลขาเหงื่อแตก หันไปมองดูหลงเซียวอีกครั้ง สีหน้า
ของคนด้านหลังดูอารมณ์ดีขึ้นเล็กน้อย หลงเซียวเซ็นชื่ออย่างรวดเร็ว แล้วให้เธอออกไป
“ทะเลาะ?”
คำเพียงสองพยางค์ ปากของหลงเซียวแสยะยิ้มขึ้นมา ดุจมีด ดาบ เผยให้เห็นถึงความเจ้าเล่ห์
กลางคืน ณ บ้านตระกูลหลง
บ้านตระกูลหลงตั้งอยู่บนโครงการขนาดใหญ่ใจกลาง เมือง ตัวบ้านเป็นสไตล์ยุโรปศตวรรษที่แล้ว ตึกหลักของ วิลล่าสูงสามชั้น เชื่อมติดกันสองตึกขาวเล็กๆ ด้านหน้า คือสวนขนาดใหญ่ บ้านหลังนี้ดูโดดเด่นที่สุด
ค่ำคืนมาถึง รถสีดำมาถึงหน้าประตูหน้าคันหลังคัน รถ ของหลงเซียวเปิดประตูออกก่อน หลงเซี่ยวสวมสูทรตัด เย็บมือจากช่างอิตาลีของอามาร์นี่ ดูสง่า ตัวของเขา ทำให้อากาศรอบๆกดต่ำ จนแทบจะหายใจไม่ออก
ฉู่ลั่วหานสวมชุดเดรสตัวยาว ผมยาวสลวยถูกจัดแต่ง เป็นสไตล์ที่สวยงาม ใบหน้าสวยเรียวเล็ก แต่งแต้มด้วย เครื่องสำอางจางๆ เหมือนดอกกุหลาบบานๆที่กระจาย กลิ่นหอมกรุ่นในยามค่ำคืน
พริบตาเดียว รู้สึกเหมือนถูกดึงตัวกลับไปยังช่วงเวลา หนึ่งในอดีต
ทั้งสองร่างเผชิญหน้ากันไม่กี่วินาที ฉู่ลั่วหานเดินด้วย รองเท้าส้นสูง เอื้อมมือไปคล้องแขนของเขา วินาทีที่ คล้องแขนของเขานั้น หัวใจของเธอเต้นแรง คล้ายกับว่าเจอของมีค่า
อยู่นิ่งๆ แต่กลับไม่วางใจ อยู่นิ่งๆ แต่กลับรู้สึกดีใจ
“ผมรู้ว่าคุณไม่อยากจะมาที่นี่ แต่ในเมื่อมาถึงแล้ว ก็ ต้องทนให้ได้ จำเอาไว้ว่าคุณเป็นใคร จำเอาไว้ว่าค่าของ คุณคืออะไร”
ความรู้สึกดีใจที่เกิดขึ้นเมื่อครู่นั้นดับลงในทันที ฉูลั่ วหานรู้สึกปวดใจ กัดฟันแล้วพูดขึ้น “คุณวางใจเถอะค่ะ
ฉันรู้! ”
“คุณรู้ก็ดีที่สุดแล้ว”
คำพูดของหลงเซียว ทำให้ฉู่ลั่วหานรู้สึกทรมานและ โมโหขึ้นมา