ประธานหยิ่งยโสของฉัน - ตอนที่ 525
ตอนที่ 525 เพราผมรักคุณ
หลงเซียวจับบ่าเธออย่างแรง พร้อมกับพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนว่า “ผมเป็นผู้ชาย มีบางเรื่องที่ผมต้องเป็นคนทำ คุณนั่งลงเถอะ ผมทำแปบเดียวเอง”
ลั่วหานโต้เถียงเขาไม่ได้ ขอเพียงมีความสุขก็ยอมแล้ว
หลงเซียวไปวัดอุณหภูมิน้ำอุ่นที่ห้องน้ำ แล้วเปิดน้ำลงอ่างน้ำ เมื่อลั่วหานจ้องมองร่างเงาของเขา เธอก็คลี่ปากยิ้ม จากนั้นความรู้สึกเหนื่อยล้าทั่วร่างกายก็หายหมดทันที
ที่แท้เป็นเวลานี้เองที่น่าประทับใจมากที่สุด มากกว่าการบอกผมรักคุณซ้ำแล้วซ้ำเล่า นั้นคือตอนที่ตัวเองรู้สึกเหนื่อยล้า แต่ฝ่ายตรงข้ามปฏิบัติอย่างอ่อนโยน และแสดงพฤติกรรมที่ปกป้องเธอ
มีผู้ชายบางคนที่ทำได้เพียงพูด สามารถพูดจนสวยหรู ซึ่งในสังคมมักให้ความสำคัญต่อผู้ชายประเภทนี้
มีผู้ชายบางคนเป็นหุ่นยนต์ทำได้เพียงกระทำ กระทำอย่างไม่หยุดหย่อน แต่ขาดคำพูดหยอดหวาน
ส่วนสามีของเธอเป็นผู้ชายประเภทที่สมบูรณ์แบบทั้งวาจาและการกระทำสอดคล้องกัน ด้านหนึ่งก็สามารถกระซิบคำพูดน่าฟังและไพเราะให้กับเธอ อีกด้านก็ดูแลปกป้องเธอเหมือนกับเจ้าหญิง
สามีของเธอ เธอรักมาก รักเป็นอย่างมาก!
ลั่วหานนั่งไม่ลงแล้ว เธออยากสร้างความสัมพันธ์ที่ดีต่อกันแล้ว
ห้องนอนนี้เกิดเรื่องราวมากหลายอย่างเกี่ยวกับเธอ เขาและโม่หรูเฟย ที่นี่บรรจุความสุข ความเศร้า ความแค้นไว้มากมาย เพราะด้วยเหตุนี้เลยมีกลิ่นไอของชีวิตแน่นหนามาก
นี่เป็นบ้านของเธอ บ้านของพวกเขา แม้จะเป็นแค่บ้านหลังหนึ่งก็ตาม
เหมือนกัน บนหัวเตียงในห้องนอนก็มีรูปภาพคู่ของเธอกับหลงเซียว เธอสวมชุดจีนโบราณสีขาว เขาสวมชุดสูท พวกเขาสองคนยืนใกล้ชิดกัน โดยที่ข้างหลังมีดอกไม้บานสะพรั่งอยู่
ช่วงเวลานั้นสงบดีมาก กับช่วงเวลาก็มั่นคง ซึ่งถือเป็นช่วงเวลาสมบูรณ์แบบที่เข้ากันได้เป็นอย่างดี
ลั่วหานเดินไปดูห้องนอน เพราะรอนานมากแล้วยังไม่มา และอยากรีบแช่น้ำอุ่นผ่อนคลายเร็วๆด้วย
“ที่รัก ใกล้เสร็จแล้วครับ”
เสียงของหลงเซียวดังขึ้นมาจากข้างใน เพราะกลัวลั่วหานใจร้อน เขาเลยรายงานความคืบหน้า
“ค่ะ” ลั่วหานยิ้มตอบ หลงเซียวในตอนนี้ช่าง….ดีเลิศมากเลย!
“อย่าเพิ่งนอน อาบน้ำเสร็จค่อยนอน” จู่ๆเสียงของเขาที่ผสมผสานกับเสียงน้ำไหลก็ดังขึ้น
“ไม่นอนหรอกค่ะ เดียวอีกสักพักฉันไปนะค่ะ”
ลั่วหานเดินมาสำรวจตู้เสื้อผ้า โต๊ะแต่งหน้า โต๊ะมุมหัวเตียง ซึ่งส่วนใหญ่ในลิ้นชักล้วนว่างเปล่าหมดเลย เพราะสิ่งของที่วางเมื่อก่อนหมดอายุ เลยถูกกำจัดทิ้งหมด และไม่ได้ซื้อมาทดแทนด้วย!
มีเพียงลิ้นชักหนึ่งที่ข้างในวางสิ่งของอยู่ไม่น้อย ซึ่งเป็นประเภทเอกสารทั้งนั้นเลย
ลั่วหานหยิบสิ่งของข้างในออกมา ข้างในมีใบการโอนเงินของธนาคารไม่กี่ใบ ซึ่งล้วนเป็นหลงเซียวที่โอนไป โดยเวลาคือเมื่อสามปีที่แล้ว ในจำนวนนั้นมีตัวเลขสูงมาก ซึ่งเป็นรายการโอนบริจาคให้กับเขตประสบภัยของทวีปแอฟริกา
พระเจ้า!
ลั่วหานนึกออกป้ายสรรเสริญที่เขตประสบภัย จู่ๆเธอก็รู้สึกเหมือนหัวใจจะกระโดดออกมาจากในปาก
เป็นจำนวนเงินที่สูงมาก! คุณหลงช่างร่ำรวยมากจริงๆ!
และยังมีใบรายการอีกส่วนหนึ่ง ไม่รู้ว่าโอนเงินให้กับใครอย่างต่อเนื่อง ซึ่งหากรวบรวมเงินด้วยกันสร้างความตกตะลึงเป็นอย่างมาก อีกอย่างยังโอนเงินให้กับคนๆเดียวด้วย
คุณหลงสามารถควบคุมเงินของตัวเองได้ตามอำเภอใจ ซึ่งลั่วหานไม่ก้าวก่าย ด้วยเหตุนี้เธอเลยเลิกดูและรีบเก็บทันที
ข้างในสุดของลิ้นชักมีก้อนสีขาวอยู่ก้อนหนึ่ง ลั่วหานเหลือบมองเห็นก้อนกระดาษก้อนหนึ่งอยู่ เธอขมวดคิ้วด้วยความสงสัย ทำไมถึงมีก้อนกระดาษอยู่ด้วยล่ะ?
เพราะไม่ใช่วิสัยของหลงเซียวเลย
เธอหยิบก้อนกระดาษออกมาอย่างสงสัย แล้วคลี่กระดาษเปิดออก ซึ่งเนื้อหาบนกระดาษเกือบทำให้ลั่วหานหายใจแทบไม่ทัน!
ใบแรกคือหนังสือยืนยันการตายของเธอ ในเนื้อหาเขียนชื่อ วันเดือนปีเกิด วันมรณะ สาเหตุการตายของเธออย่างชัดเจน โดยที่ส่วนล่างมีลายนิ้วมือสีแดงประทับไว้อยู่
ไม่ยากที่จะคาดเดา นี่เป็นลายนิ้วมือของหลงเซียว
หนังสือยืนยันการตาย….คิดไม่ถึงว่าจะเป็นหนังสือยืนยันการตาย!
ลั่วหานตกใจจนเอามือปิดปาก พร้อมกับออกแรงปิดปากเงียบ สามารถพูดได้ว่า ในตอนนั้นหลงเซียวคิดว่าเธอตายแล้วจริงๆหรอ?
ลั่วหานหันหน้ามองห้องน้ำ บนกระจกสะท้อนร่างเงาของหลงเซียวอยู่ ชั่วพริบตาลั่วหานรู้สึกตกใจมาก
ฉู่ลั่วหานเสียชีวิตแล้ว เมื่อเธอเห็นแบบนี้ก็รู้สึกช็อกตกใจมาก
แต่เรื่องที่น่าช็อกตกใจไม่ใช่เรื่องนี้
ลั่วหานคลี่เปิดกระดาษอีกใบ เป็นหนังสือการแต่งงาน ในเนื้อหาเขียนอย่างชัดเจนว่า หลงเซียวกับโม่หรูเฟยเป็นสามีภรรยากัน
ข้างล่างเป็นลายเซ็น ด้านหนึ่งเป็นลายเซ็นต์ของโม่หรูเฟย อีกด้านหนึ่งเป็นลายนิ้วมือของหลงเซียว ซึ่งเหมือนกับลายนิ้วมือเมื่อสักครู่เลย
เธอจำได้ว่าบนนิ้วชี้ของเขามีลายก้นหอย เป็นลายวงกลม
ทำไมในบ้านถึงมีของแบบนี้?
“ลั่วลั่ว?”
เธอสะดุ้งตกใจทันที หลงเซียวไม่รู้ตัวว่าตัวเองเดินมาอยู่เบื้องหลังของเธอตั้งแต่เมื่อไหร่ เขาเช็ดมือทั้งสองข้างแห้งแล้ว แต่เพราะเมื่อกี้สัมผัสกับน้ำอุ่น มือเลยร้อนนิดหน่อย เมื่อยื่นมือสัมผัสกับตัวเธอก็ทำให้เธอสะดุ้งเหมือนกับโดนไฟช็อก
ลั่วหานอยากเอากระดาษเก็บไว้ แต่ไม่ทันเวลาแล้ว
จู่ๆหลงเซียวก็เผยสายตาเย็นชาขึ้น ทำไมของพวกนี้ถึงยังอยู่อีก?
เขายื่นมือหยิบกระดาษสองใบมา “ล้วนเป็นของไร้ประโยชน์ อย่าดูเลย”
ลั่วหานหันหน้าจ้องมองเขาอย่างเมินเฉย แล้วยื่นมือหยิบกระดาษสองใบกลับคืนมา และยิ้มพูดว่า “ไม่อธิบายให้ฟังสักหน่อยหรอ? คุณหลง”
หลงเซียวพยักหน้าเล็กน้อย เขาไม่อยากพูดอธิบายอะไร จู่ๆเขาก็โอบกอดลั่วหานไว้ “ลายนิ้วมือผมไม่ได้เป็นคนทำและยินยอม”
ลั่วหานสามารถจินตนาการได้ “แล้วเกิดอะไรขึ้นหรอ?”
“ในตอนนั้นผมมีสภาพจิตใจอ่อนแอมาก เมาหลับอยู่บ้านเป็นเวลานาน ของเหล่านี้ตอนผมตื่นมาก็ปรากฏตัวแล้ว เป็นหลงถิงที่ฉวยโอกาสตอนผมเมาทำแบบนั้น เมื่อมีหนังสือยืนยันการเสียชีวิตของคุณก็สามารถตัดชื่อคุณออกจากสำเนาทะเบียนบ้านได้”
ลั่วหานยิ้มมุมปากเล็กน้อย เธอรู้แผนการของหลงถิง “ไม่เพียงแค่นี้ ฉันยังกลายเป็นภรรยาที่เสียชีวิตของคุณ ซึ่งเมื่อเป็นแบบนี้คุณก็สามารถอยู่กับโม่หรูเฟยได้ หลงถิงนี่เก่งเรื่องวางแผนจริง!?”
หลงเซียวยังคงขมวดคิ้วไม่คลาย “ใช่ครับ เป้าหมายของเขาคือทำให้ผมอยู่กับโม่หรูเฟย”
ลั่วหานยกกระดาษทั้งสองใบด้วยสองมือขึ้น “แล้วยังไงต่อหรอ?”
เมื่อเห็นเธอฉีกกระดาษ หลงเซียวก็เคลื่อนสายตาตามการกระทำของเธอ “หลังจากที่คุณกลับมา ผมเลยให้แผนกที่มีความรับผิดชอบช่วยพิสูจน์อีกครั้ง จากนั้นก็ดึงรายชื่อคุณกลับมาในทะเบียนบ้าน และเป็นภรรยาของผมต่อไป”
หลงเซียวพูดเปิดประเด็นกว้างเกินไป จนละเลยรายละเอียดปลีกย่อยที่เธออยากรู้ เพื่อความปรองดองของสามีภรรยา เพื่อความรู้สึกของภรรยา เขาตัดสินใจกลบทิ้งเรื่องราวระหว่างสามปีนั้นจนหมดสิ้น
“เอาล่ะ ฉันยังไม่ตาย และโม่หรูเฟยก็ไม่ได้แต่งงานกับคุณด้วย เรื่องเหล่านี้ฉันไม่ถือสาหรอก แต่ฉันมีเรื่องหนึ่งที่ไม่เข้าใจ ในเมื่อหลงถิงต้องการกำจัดคุณ เพราะกลัวคุณจะเป็นอุปสรรคของเขา แล้วทำไมถึงยังให้คุณแต่งงานกับโม่หรูเฟยล่ะ? โม่หรูเฟยไม่ใช่คนธรรมดา หากแต่งงานด้วยช่วยเสริมความน่าเกรงขามเลยนะค่ะ”
หลงเซียวมองดูเวลา “เปลี่ยนเสื้อ อาบน้ำก่อน ส่วนเรื่องพวกนี้เดียวผมค่อยอธิบายให้คุณฟัง”
ลั่วหานไม่ยอม “คุณย่อยสรุปเนื้อเรื่องก็ได้ หากคุณเล่าจบฉันจะไปอาบน้ำทันที”
หลงเซียวหัวเราะเบาๆ แล้วยื่นมือเตะบนจมูกของเธอหนึ่งที ผู้หญิงตั้งท้องช่างไวต่อความรู้สึกจริงๆ “ง่ายดายมากเลย หลงถิงไม่อยากให้ผมมีความสุข สิ่งที่ผมต้องการ เขาจะคิดหาวิธีการทำลาย ไม่ว่าจะเป็นคนที่รัก การแต่งงาน หรือการงานของผมก็ตาม”
ขณะที่พูดเขาก็เผยสายตาเศร้าหมองเล็กน้อย และพูดว่า “เพราะผมรักคุณ ดังนั้นหลงถิงเลยคิดหาวิธีการแยกพวกเรา และบังคับให้ผมแต่งงานกับโม่หรูเฟย คนที่ผมไม่ได้รัก นี่เป็นขั้นแรกที่เขาอยากทำลายผม”
และเป็นแผนการที่น่าหวาดกลัวที่เขามารู้ทีหลัง
“แล้วเบื้องหลังตระกูลของโม่หรูเฟยล่ะ?” ลั่วหานซักถามอย่างจริงจังขึ้น
หลงเซียวยกมือประคองเธอ แล้วเอาเท้าทั้งสองข้างของเธอเหยียบลงบนเท้าของตัวเอง เมื่อเขาก้าวเท้าหนึ่งก้าว เธอก็จะเคลื่อนตามการกระทำของเขา “หลงถิงให้ผมแต่งงานกับโม่หรูเฟย เพราะอยากเขมือบกินบริษัทโม่ซื่อทีละนิด เขายอมเสียผมเพื่อได้รับสมบัติจากตระกูลโม่”
เรื่องนี้เขาก็เพิ่งคิดออกทีหลัง
ลั่วหานอ้าปากค้างขึ้นด้วยความตกใจ เธอเสียหลักเล็กน้อย เพราะลืมตัวเลยว่าตัวเองวางเท้าลงบนเท้าของหลงเซียวอยู่ “โอ๊ย…..”
โชคดีที่หลงเซียวมีปฏิกิริยาตอบสนองเร็ว เลยรีบดึงเธอเข้ามาโอบกอดไว้ “ที่รัก ใจเย็น อย่าตื่นตระหนก”
“ที่รัก หลงถิงช่างน่ากลัวเหลือเกิน! คุณต้องระมัดระวังตัวให้ดี!” น่ากลัวเกินไปแล้ว ต้องเป็นคนมีเทคนิคการแสดงขั้นสูงมากถึงจะสามารถต้านทานได้
หลงเซียวยิ้มอย่างผ่อนคลายขึ้น “น่ากลัวแล้วยังไง? แต่สุดท้ายผมก็มองออกไม่ใช่หรอ? แถมยังไม่สามารถทำร้ายคุณด้วย สุดท้ายทำให้คุณยิ่งเข้มแข็งมากขึ้นด้วย”
“ฉันเชื่อคุณค่ะ!” ลั่วหานยิ้มแย้ม
“ห่ะ? ทำไมหรอ?” เมื่อกี้ยังตกใจหวาดกลัวอยู่เลย
“เพราะฉันรักคุณ!” ลั่วหานพูดตามเขา แล้วยื่นมือลูบจมูกของเขาหนึ่งที
“อืม! ครับ!”
ความกดดันและกลุ้มใจในใจของเขาถูกเธอปัดกวาดหมดแล้ว ในตอนนี้เขารู้สึกเบิกบานใจเหมือนดอกไม้บานสะพรั่ง
ณ คฤหาสน์ตระกูลหลง
หลงถิงนั่งอยู่ในห้องทำงาน จากนั้นเสียงเรียกเข้าจากโทรศัพท์ก็ดังจนทำลายความเงียบในห้องทันที
สายตาของเขามองทอดอยู่ที่เอกสาร ขณะเดียวกันก็ยื่นมือหยิบโทรศัพท์วางข้างหู และพูดขึ้นว่า “ใครครับ?”
ในสายมีเสียงหัวเราะอย่างอ่อนช้อยดังขึ้น เธอดูอารมณ์ดี ซึ่งความรู้สึกมีความสุขแบบนี้อาจที่จะบรรยาย “พี่หลงถิง ฉันเอง หวั่นชิงที่ฉันโทรศัพท์มาหาพี่ เพราะอยากบอกพี่ว่า เสี่ยวจื๋อมาถึงอเมริกาแล้ว เพิ่งลงจากเครื่องบินค่ะ”
บนใบหน้าของเธอยิ้มแย้มเต็มไปด้วยความสุข จนริ้วรอยตรงหางตาย่นอย่างเห็นได้ชัด เธอหันหน้ามองลูกชายที่อยู่ในห้องรับแขก ขณะเดียวกันก็ยกมือกุมหน้าอกเพื่อเตือนสติตัวเองด้วย
หลงถิงตอบอืมขึ้น “ในเมื่อเห็นเขาแล้ว ต่อไปก็ดำเนินการตามแผนของผมเลย หากทำเรื่องพัง ผมจะนำตัวคุณกลับมาทันที”
โฉหวั่นชิง พูดด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนว่า “ฉันรู้แล้วค่ะ พี่หลงถิง เมื่อกี้ฉันถามเสี่ยวจื๋อแล้ว เขาบอกว่าพี่หยวนชูเฟิน….ยังไม่กลับบ้าน จริงหรอคะ?”
โฉหวั่นชิงตั้งใจรอคอยคำตอบของฝ่ายตรงข้ามอย่างรีบร้อน เธอหวังอยากได้ยินคำตอบยืนยัน และหวังเป็นอย่างมากว่าชั่วชีวิตนี้ผู้หญิงคนนั้นจะไม่ปรากฏตัวอีก!
หลงถิงขว้างเอกสารในมือดังปังขึ้น “จัดการเรื่องของตัวเองเถอะ ถามอะไรเยอะแยะ? เรื่องของหยวนชูเฟิน ทางที่ดีเธออย่าก้าวก่ายดีกว่า”
โฉหวั่นชิงสะดุ้งตกใจ และรีบพูดเปลี่ยนเรื่อง “เสี่ยวจื๋อโตเป็นผู้ใหญ่ขึ้นมากแล้ว เขาเหมือนกับคุณตอนวัยรุ่นเลย ขอบคุณพี่หลงถิงมากที่ดูแลลูกชายของพวกเราดีมากขนาดนี้”
หลงถิงเคาะโต๊ะอย่างรำคาญใจเล็กน้อย “ยังมีเรื่องอื่นอีกไหม? ถ้าไม่มีวางสายล่ะนะ”
เขาวางสายทิ้งทันที โดยไม่สนใจคำตอบของโฉหวั่นชิงเลย
โฉหวั่นชิงกำโทรศัพท์ และกัดฟันไว้อย่างแน่น ขณะเดียวกันก็จ้องมองลูกชายที่หล่อเหลาในห้องรับแขก
ยี่สิบปีกว่าแล้ว เธอแยกอยู่กับหลงถิงมายี่สิบกว่าปี มีลูกชายก็พบไม่ได้ ใช้ชีวิตเร่รอนมาโดยตลอด เธอรอมายี่สิบกว่าปีแล้ว เธอไม่ยอมให้ทุกอย่างสูญเปล่าอย่างแน่นอน!