ประธานหยิ่งยโสของฉัน - ตอนที่ 529
ตอนที่ 529 ได้รับใบอนุญาตผ่านเข้าเมือง
เมื่อได้ยินเขาพูดแบบนี้ ลั่วหานก็ยิ้มมุมปากเล็กน้อย และพูดขึ้นว่า “คุณหัวหน้าหวังเป็นคนซื่อสัตย์ต่อหน้าที่การงาน แล้วฉันจะกล้ามีความคิดแบบนั้นต่อหน้าคุณได้ยังไงกันล่ะคะ?”
ผู้ชายวัยกลางคนที่นั่งอยู่ข้างซ้ายของหัวหน้าหวังเหลือบมองลั่วหาน จากนั้นดวงตาก็เปล่งประกายขึ้น เคยได้ยินมาก่อนว่าภรรยาของหลงเซียวเป็นลูกสาวคนโตของตระกูลฉู่ ไม่เพียงมีความสามารถ แถมมีหน้าตาโดดเด่นด้วย ต่อมาเกิดอุบัติเหตุขึ้น มีการเปลี่ยนใบหน้า….แต่คิดไม่ถึงว่าฉู่ลั่วหานที่เปลี่ยนใบหน้าจะมีหน้าตาสวยจนน่าตกใจกว่าที่เคยได้ยินมา
คุณหมอที่มีชื่อเสียง ภรรยาของตระกูลใหญ่ คณะกรรมการบริหารของบริษัทฉู่ซื่อ ไม่ว่าจะฐานะไหนก็ไม่มีใครกล้าปฏิเสธ
เธอยิ้มแย้มด้วยท่าทางสูงส่ง แทบจะมองไม่เห็นท่าทางประจบสอพลอข้าราชการจนน่าอายจากเธอเลย
ดูเหมือนการอยู่เคียงข้างหลงเซียว ทำให้เธอไม่เห็นคนเหล่านี้ในสายตาแล้ว
เขายิ้มและพูดว่า “คุณหมอฉู่ คุณก็มาหาหัวหน้าหวังเหมือนกันหรอ ฮ่าฮ่า วันนี้เขายุ่งจริงๆครับ”
ลั่วหานก้มหน้าลงเล็กน้อย ถึงแม้ไม่รู้ฐานะของคนเบื้องหน้า แต่ก็พอสามารถวิเคราะห์ฐานะจากการแต่งกายได้ เขาสวมเสื้อเชิ้ตสีเทา และสวมเสื้อคลุมรูดซิปสีดำข้างหลัง ซึ่งดูแล้วเหมือนกับเป็นหัวหน้า
“สวัสดีค่ะ ไม่ทราบว่าฉันควรเรียกคุณว่า?”
ผู้ชายส่ายมือเล็กน้อย “ผมหรอ? คุณไม่ต้องรู้หรอก วันนี้ผมไม่อยากแย่งซีนใครครับ”
ห่ะ? พูดแบบนี้แสดงว่า ตำแหน่งของเขาต้องสูงกว่าหัวหน้าหวังแน่?
หัวหน้าหวังมีสีหน้าไม่ค่อยดีตลอด คนที่มาขอร้องเขาช่วยเหลือมีเยอะมาก มีบางคนซักถามที่อยู่ของเขา สถานที่ที่เขาไปประจำด้วย ดูเหมือนลั่วหานเองก็เป็นหนึ่งในนั้นเหมือนกัน
เขาพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า “คุณหมอฉู่มาหาผมมีธุระอะไรหรอครับ? ว่ามาเลยครับ”
ลั่วหานไม่มีทางบอกตามตรงอย่างแน่นอน
เอายังไงดี?
ลั่วหานมองประเมินหัวหน้าหวังและพบว่า เขามีสีหน้าเหลือง นอกจากบนใบหน้ามีริ้วรอยที่ผู้ชายวัยกลางคนมักมีแล้ว ยังมีรอยด่างอยู่ไม่น้อย แถมในดวงตามีเส้นเลือดแดงจางๆอยู่ด้วย ดังนั้นเธอเลยพูดขึ้นว่า “คุณรู้จักคุณลู่ซวงซวงไหมคะ? ฉันเป็นเพื่อนกับเธอค่ะ ที่ฉันมาวันนี้ไม่ได้มาขอร้องคุณช่วยเหลือค่ะ แต่เธอบอกกับฉันว่า ตอนที่เธอออกแบบชุดแต่งกายให้กับคุณนั้น พบว่าสุขภาพของคุณไม่ค่อยดี ฉันเป็นหมอเลยมาเยี่ยมดูคุณค่ะ”
ลั่วหานยิ้มอย่างอ่อนโยน พร้อมกับเผยสีหน้าจริงใจขึ้น
ทันใดนั้นผู้ชายที่นั่งหันหลังลั่วหานก็หันหน้ามา เขาวางถ้วยชาลง และหันข้างเล็กน้อย แล้วทักทายอย่างมิตรไมตรีว่า “คุณหมอฉู่ คุณเป็นหมอที่ทำหน้าที่ได้ดีมากเลยครับ ฮ่าฮ่า”
ลั่วหานรู้สึกแปลกใจเล็กน้อย เพราะคนที่พูดคิดไม่ถึงว่าจะเป็นศาสตราจารย์จู ที่เคยเจอที่โรงพยาบาล และเป็นผู้้เชี่ยวชาญอาวุโสการทหารของมหาลัยกลาโหม !
โลกเล็กเกินไปหรือเปล่า?
ลั่วหานพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนว่า “ที่แท้คือศาสตราจารย์จูนี่เอง เมื่อกี้ฉันมองไม่เห็นเลยจำไม่ได้ ต้องขอโทษด้วยจริงๆนะค่ะ”
ศาสตราจารย์จู หัวเราะฮ่าฮ่า สุขภาพร่างกายของเขากลับมาแข็งแรงเหมือนเดิมแล้ว แถมตอนนี้มีแก้มป่องขึ้นมาด้วย “ไม่เป็นไร ฮ่าฮ่า ผมรู้สึกแปลกใจกับคุณมาก คุณกล้ามากที่มาหาหัวหน้าหวังที่นี่คนเดียว ฮ่าฮ่า คุณไม่เคยได้ยินหรอว่า ข้าราชการมีความเจ้าเล่ห์”
ศาสตราจารย์จูจ้องมองหัวหน้าหวังด้วยสายตาคลุมเครือ จากนั้นฝ่ายตรงข้ามก็นิ่งเงียบลง
ลั่วหานวางกระเป๋าถือลง และนั่งลงบนเก้าอี้ว่างตัวสุดท้าย เธอนั่งลงด้วยท่าทางเป็นธรรมชาติ “แต่ฉันเคยได้ยินว่าหัวหน้าหวังเป็นคนซื่อสัตย์และตรงไปตรงมา และไม่ใช่อย่างที่ทุกคนเคยได้ยินมาด้วย”
หัวหน้าหวังไม่มีความรู้สึกร่วมด้วย เขาพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า “ไม่ต้องพูดให้หน้าผมหรอก!”
คนด้านข้างพูดว่า “หัวหน้าหวังคุณนายแห่งตระกูลหลงมาช่วยดูแลสุขภาพของนาย นายควรให้เกียรติเธอหน่อยไหม?”
ลั่วหานพูดขึ้นว่า “คุณหัวหน้าหวังค่ะ คุณภาพการนอนของคุณช่วงนี้ไม่ค่อยดีหรือเปล่าคะ? อย่างเช่นนอนหลับยาก อดหลับอดนอน ฝันเป็นจำนวนมาก? เวลาขับพิษในตับคือเวลาตอนกลางคืนห้าทุ่มถึงเวลาตอนตีหนึ่ง ซึ่งในเวลานี้ต้องนอนหลับลึกนะค่ะ ไม่เช่นนั้นส่งผลกระทบต่อตับ หากตับไม่ดี บนใบหน้าก็จะมีรอยด่าง และมีสีหน้าไม่สดใสค่ะ”
เธอพูดถูกต้อง ช่วงนี้เพราะเขามีงานบริษัทใหญ่ในเมืองหลวงไม่กี่แห่ง แถมยังมีเรื่องทุจริตระหว่างเมืองหลวงกับเมืองเจียงเฉิงด้วย แบบนี้เขาจะนอนหลับลงได้ยังไง
“เด็กยังรู้เรื่องพวกนี้เลย ไม่จำเป็นต้องมาพูดที่นี่หรอก!”หัวหน้าหวังแสดงจุดยืนไม่ต้องการให้เกียรติเธอ
ลั่วหานไม่รีบร้อนใจ ยังคงยิ้มแย้มรักษาจรรยาบรรณอาชีพของหมอ และพูดขึ้นว่า “คุณหัวหน้าหวังมีความรู้รอบตัวกว้างขวางดีนะค่ะ ฉันนี่ไม่ประเมินความสามารถของตัวเองเลย แต่ฉันก็ยังอยากเตือนคุณสักหน่อย คุณเป็นถึงข้าราชการคนสำคัญของเมืองหลวงต้องดูแลรักษาสุขภาพด้วยนะค่ะ ถ้าหากไม่รังเกียจ ฉันสามารถจัดทำแบบแผนช่วยการนอนหลับให้กับคุณได้นะค่ะ”
เธอยิ้มแย้มอย่างจริงใจ ไม่มีเจตนาร้าย
ศาสตราจารย์จู หัวเราะฮ่าฮ่าขึ้น ในฐานะทหาร เขาไม่ชอบการอ้อมค้อม พวกเขาสองคนพูดคุยน่าเปลื้องแรงมาก “หัวหน้าหวังฉันขอบอกนายว่า คุณหมอฉู่ไม่ใช่คนประจบสอพลอ ฉันเคยทดสอบตอนอยู่ที่โรงพยาบาลหวาเซี่ยมาแล้ว รู้ไหมว่าผลลัพธ์เป็นยังไง? เธอดำเนินการอย่างไม่ไว้หน้าใครเลย จนทำให้ฉันเกือบตาย! ฮ่าฮ่าฮ่า ดังนั้นไม่ว่าเธอมีเรื่องอะไร นายต้องรับฟังเธอ”
หัวหน้าหวังคิดไม่ถึงว่า แม้แต่ศาสตราจารย์จู ที่เป็นคนเมินเฉยกลับวิจารณ์เธอด้านดีแบบนี้ จากนั้นเขาก็เผยสีหน้าผ่อนคลายขึ้น “ในเมื่อเป็นแบบนี้ งั้นคุณมีอะไรก็ว่ามา”
ศาสตราจารย์จู ส่งสายตากับลั่วหานเล็กน้อย จากนั้นก็ตบมือบนบ่าของผู้ชายที่อยู่ตรงข้าม “ไปกันเถอะ เรื่องสุขภาพของหัวหน้าหวังสำคัญกว่า พวกเราอย่ารบกวนเลย”
“ฮ่าฮ่า ครับ ไปกันเถอะ ไว้ผมเลี้ยงเหล้าให้กับคุณนะครับ” ผู้ชายถือเสื้อคลุมเดินออกไป
ศาสตราจารย์จู ยิ้มและพูดว่า “เลี้ยงเหล้าหรอ งั้นขอผ่านเลย ผมไม่อยากไปโรงพยาบาลอีกแล้ว ฮ่าฮ่า ครั้งก่อนตอนที่อยู่โรงพยาบาล ฉันถูกคุณหมอฉู่ทำให้ตกใจจนตับเกือบแตก เลยรู้ว่าต้องใช้ชีวิตอย่างมีคุณภาพ และหวงแหนชีวิต!”
ลั่วหานถอนหายใจอย่างผ่อนคลาย สวรรค์ช่วยฉันเลยจริงๆ!
ขณะที่ศาสตราจารย์จู กับผู้ชายคนนั้นเดินออกไปนอกห้อง ทั้งสองคนก็สะดุ้งตกใจทันที
พวกเขาแทบไม่อยากเชื่อเลยว่า หลงเซียวยืนอยู่ตรงระเบียงทางเดิน ซึ่งอยู่ห่างจากห้องที่พวกเขาอยู่ใกล้มาก และดูท่าทางเหมือนพร้อมบุกเข้าไปทุกเวลา!
โอ้พระเจ้า คนๆนี้บินมาจากไหนกัน?
ศาสตราจารย์จู สูบลมหายใจเข้าลึกๆ ขณะที่จะกล่าวทักทาย –– หลงเซียวก็ยกนิ้วชี้วางบนริมฝีปากเพื่อให้พวกเขาเงียบๆ จากนั้นก็อมยิ้มเล็กน้อย
ทั้งสองคนเป็นคนมีไหวพริบ เลยสามารถเข้าใจความหมายของหลงเซียวทันที และยิ้มอย่างเงียบๆ
ผู้ชายคนนั้นพูดด้วยน้ำเสียงแผ่วเบาว่า “เกิดอะไรขึ้น? ภรรยาคุยธุระข้างใน ส่วนสามีอยู่เป็นบอดี้การ์ดข้างนอกหรอ?”
ศาสตราจารย์จู ยื่นมือทำมือเชิญผู้ชายคนนั้นลงข้างล่าง แล้วพูดขึ้นว่า “ดูไม่ออกหรอ? คุณหลงเซียวมาปกป้องภรรยาของเขา หากภรรยาของเขาตกเป็นฝ่ายเสียเปรียบ เขาพร้อมบุกเข้าไปเอาชีวิตของหัวหน้าหวังทันที ไม่รู้หรอว่า หลงเซียวรักภรรยาของเขามากแค่ไหน”
ผู้ชายคนนั้นหันหน้ามองแวบหนึ่ง แล้วยิ้มแย้ม “สิบปากว่าไม่เท่าตาเห็นจริงๆ มิน่าบนอินเตอร์เน็ตถึงลือกันให้แซด ดูเหมือนจะเป็นความริง”
ภายในห้อง
หัวหน้าหวังรินน้ำชาลงถ้วยชา และรินน้ำชาให้กับลั่วหานหนึ่งถ้วยด้วย พร้อมกับพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาเหมือนเดิมว่า “ทุกคนไปกันหมดแล้ว ต้องการอะไรหรอ?”
คนที่เป็นข้าราชการมีสายตาหลักแหลมจริงๆ คงรู้ตั้งนานแล้วว่าการมาของเธอผิดปกติ
ลั่วหานยิ้มแย้ม
หัวหน้าหวังเผยท่าทางแสดงให้เธอจิบน้ำชา “ผมไม่ได้เป็นคนโง่สักหน่อย คุณคิดว่าผมเชื่อว่าที่คุณมาเพราะเรื่องสุขภาพของผมหรอ? อย่าทำให้เสียเวลาเลย มีอะไรก็พูดมา”
ลั่วหานจิบน้ำชาคำหนึ่ง แล้วพูดขึ้นว่า “คุณหัวหน้าหวังเป็นคนฉลาด งั้นฉันไม่พูดอ้อมค้อมแล้วนะค่ะ ที่ฉันมาหาคุณในวันนี้ เพราะอยากให้คุณหัวหน้าหวังเห็นใจคนๆหนึ่ง แม่เลี้ยงของฉันถูกคนกักขังเธอด้วยวิธีผิดกฎหมายที่ประเทศญี่ปุ่น ตอนนี้เธอไม่มีใบอนุญาตผ่านเข้าเมืองเลยไม่สามารถกลับประเทศได้ ฉันรู้ว่าคุณสามารถ ดังนั้นหวังว่าคุณจะให้ความร่วมมือ”
แน่นอนว่าหัวหน้าหวังรู้ว่าแม่เลี้ยงที่เธอพูดถึงหมายถึงใคร “คุณหมายถึงฟางหลิงหยู้หรอ?”
ลั่วหานเผยสีหน้าแปลกใจเล็กน้อย ยิ้มและซักถามว่า “ไม่ทราบว่าคุณหัวหน้าหวังรู้จักเธอด้วยหรอคะ?”
หัวหน้าหวังก้มจิบชาเล็กน้อย พร้อมกับเปลี่ยนท่านั่งเพื่อกลบเกลื่อนสายตาของตัวเอง ในตอนที่เธอถูกกักขังที่ประเทศญี่ปุ่น มีคำสั่งห้ามเดินทางจากเมืองเจียงเฉิง ข้าราชการต่างส่งข่าวคราวต่อกัน ดังนั้นเขารู้แน่นอน เพียงแต่เขาไม่มีอำนาจจัดการที่เมืองเจียงเฉิง และสังคมราชการเป็นแบบนั้นด้วย หากก้าวก่ายเรื่องที่ไม่ใช่ของตัวเองก็จะถูกเล่นงาน
“เคยได้ยินมาก่อน” เขาตอบอย่างง่ายดาย
ลั่วหานพูดต่อว่า ” แม่เลี้ยงของฉันไม่ได้ทำผิดกฎหมาย เธอเป็นแค่แม่บ้านธรรมดา เพราะทำใครบางคนไม่พอใจเลยถูกขับไล่ ได้โปรดคุณหัวหน้าหวังมอบความยุติธรรมด้วยนะค่ะ”
ลั่วหานยกถ้วยชาขึ้นเพื่อแสดงความเคารพ
หัวหน้าหวังกำลังใช้ดุลยพินิจพิจารณา
ลั่วหานได้แต่รอคอย และคาดหวัง
ไม่นานเขาก็พูดขึ้นว่า “ผมสามารถให้ใบอนุญาตผ่านเข้าเมืองกับคุณได้”
ลั่วหานแอบดีอกดีใจในใจเงียบๆ เพราะกลัวเขาเปลี่ยนคำพูด จากนั้นเธอก็ลุกขึ้นยกถ้วยชา “คุณหัวหน้าหวังช่างเป็นข้าราชการที่สำคัญของเมืองหลวงจริงๆ ฉันขอดื่มเพื่อให้เกียรติต่อคุณ” เธอดื่มน้ำชาจนหมดถ้วยด้วยท่าทางโล่งใจ
หัวหน้าหวังส่ายมือ “คุณต้องการแค่ใบอนุญาตผ่านเข้าเมืองอย่างเดียวหรอ? ไม่อยากรายงานต่อทางการกับคนที่ทำร้ายเธอหรอ?”
ลั่วหานยิ้มอย่างถ่อมตน และพูดว่า “บทลงโทษของผู้กระทำผิดเป็นหน้าที่ของคุณ แล้วฉันจะกล้าก้าวก่ายยังไง?”
การช่วยเหลือฟางหลิงหยู้เป็นความต้องการส่วนตัวของเธอ ส่วนเสิ่นเหลียว เธอเชื่อว่าหัวหน้าหวังต้องมีวิธีจัดการแน่
“ฮ่าฮ่า! คุณหมอฉู่ ได้ยินว่าคุณเป็นหมอที่เก่ง สามารถรักษาคนไข้ แต่ผมคิดว่าคุณคงไม่สังเกตเก่งแค่สีหน้าของผมอย่างเดียวหรอกใช่ไหม?”
แม้แต่ความคิดความอ่านของเขาก็อ่านออกด้วย
ลั่วหานก้มโค้งเคารพเล็กน้อย ถึงเวลาต้องร่ำลาแล้ว “หัวหน้าหวังเป็นคนมีเมตตา ซื่อสัตย์ ไม่จำเป็นต้องซักถามฉันหรอกค่ะ”
หัวหน้าหวังรินน้ำชาให้กับตัวเอง “คุณหมอฉู่กลับบ้านดีๆนะครับ ผมไม่ไปส่งนะครับ”
ลั่วหานกล่าวร่ำลาขึ้น “ฉันควรพูดว่า เรามีโอกาสได้พบกันอีก แต่ฉันเป็นหมอ หวังว่าคุณหัวหน้าหวังจะมีสุขภาพร่างกายแข็งแรง และอย่าได้พบฉันจะดีกว่า”
หัวหน้าหวังเงยหน้ามองเธอจากไป
ลั่วหานเดินเปิดประตู และถอนหายใจอย่างโล่งอก ขณะเดียวกันก็มีลมพัดเข้ามาทำให้เธอรู้สึกสบาย
จากนั้นลั่วหานก็สูบลมหายใจดึงสติกลับมา และเหลือบเห็นผู้ชายคนหนึ่งสวมชุดสีเทาเงินยืนอยู่ตรงระเบียงทางเดิน เขาทำทรงผมทรงหน้าม้าปัดข้าง และเอามือข้างหนึ่งยัดใส่กระเป๋ากางเกง พร้อมกับอมยิ้มมาหาเธอ
ลั่วหานอ้าปากกว้างเป็นรูปทรง O “ที่รัก คุณมาอยู่ที่นี่ได้ยังไงหรอ?”
หลงเซียวยักคิ้วเล็กน้อย เลยก้าวเท้าเดินมาข้างเธอ แล้วช่วยถือกระเป๋าให้กับเธอ “ได้ยินว่าน้ำชาที่นี่รสชาติไม่เลวเลย ผมเลยมาชิมสักหน่อย คิดไม่ถึงว่าที่รักของผมจะชอบรสชาติจะเหมือนกัน”
ลั่วหานแค่นเสียงหัวเราะประชด แล้วยิ้มจางๆ “คุณเช็คบันทึกการเดินทางของรถยนต์ฉันหรอ?”
แสงจันทร์สวยสง่า และบรรยากาศที่มีกลิ่นอายโบราณได้นำผู้คนดำดิ่งลงในห้วงเวลา หลงเซียวอดใจไม่ไหวจูบบนหน้าผากของเธอ “ข้อความที่เธอส่งมีเนื้อหาไม่ชัดเจน แล้วจะให้ผมวางใจได้ยังไง? คิดไม่ถึงว่าเรื่องแบบนี้จะมาจัดการด้วยตัวเอง!”