ประธานหยิ่งยโสของฉัน - ตอนที่ 536
ตอนที่ 536 ดูแลเขาดีๆ
ขณะที่รับสายของโจวโร่หลิน ลั่วหานกำลังตรวจผู้ป่วยที่ป่วยเป็นโรคกล้ามเนื้อหัวใจอักเสบขั้นรุนแรง เนื่องจากโจวโร่หลินไม่ค่อยโทรหาเธอ ลั่วหานจึงรับสายและวางไว้บนไหล่
“เกิดอะไรขึ้น?”
เมื่อลั่วหานถามแบบนี้ คุณปู่วัย60-70ปีที่นั่งอยู่ด้านหน้าก็คิดว่ากำลังถามตัวเอง ดังนั้นจึงนั่งตัวตรง และยื่นสมุดข้อมูลของตัวเองด้วยมือสองข้าง “ผมเป็นโรคกล้ามเนื้อหัวใจอักเสบและช่วงนี้เหมือนจะเป็นหนักกว่าเดิม เวลานอนหลับในตอนกลางคืนจะรู้สึกแน่นอกและหายใจถี่ บางครั้งถ้าไม่นอนตะแคงก็จะหายใจไม่ออก……”
เมื่อชายชราเริ่มบทสนทนาก็พูดอย่างไม่หยุด อธิบายอาการป่วยของตัวเองอย่างละเอียดหนึ่งรอบ แล้วยังกลัวว่าจะอธิบายได้ไม่ละเอียดพอ จึงพูดอีกคำอย่างระมัดระวังว่า “คุณหมอ แบบนี้พอไหม?”
ลั่วหาน:“……”
เมื่อกี้เธออยากจะพูดขัดการพูดอธิบายของผู้ป่วย แต่ผู้ป่วยดูท่าทางจริงจังและวิตกกังวลมาก เธอจึงรับฟังต่อไป และในขณะเดียวกันก็พลิกดูเอกสารประวัติการรักษาของผู้ป่วยก่อนหน้านี้ด้วย
“พอแล้ว พอแล้ว”
ความจริงไม่จำเป็นต้องพูดละเอียดขนาดนี้ อีกเดี๋ยวฟังอัตราการเต้นของหัวใจ ดูว่าเมื่อก่อนเขาเคยใช้ยาอะไรบ้างลั่วหานก็สามารถรู้สภาพของผู้ป่วยได้แล้ว
โจวโร่หลินนั่งอารมณ์เสียอยู่บนทางเดินในโรงพยาบาล นิ่งเฉยไปสักครู่ นึกว่าตัวเองโทรผิด “นางฟ้า สิ่งที่ฉันพูดเมื่อกี้ไม่ถูกเหรอ?คุณดูเหมือนไม่ค่อยอยากจะรับฟังนะ”
โจวโร่หลินเหลือบมองไปที่ประตูของตรวจแวบหนึ่ง กัดริมฝีปากไว้ เกาจิ่งอานช่างเป็นคนที่สำออยจริงๆเลยเรื่องแค่นี้ก็ต้องมาโรงพยาบาลให้เป็นเรื่องใหญ่ด้วย แถมระหว่างที่คุณหมอกำลังทำการรักษา นายคนนี้ก็ยังจะร้องโหยหวนอีกด้วย สำออยกว่าเด็กน้อยเสียอีก
ดูถูกเหยียดหยามเป็นหมื่นครั้ง!
ลั่วหานเขียนสองสามบรรทัดลงบนสมุดประวัติผู้ป่วยอย่างรวดเร็ว เป็นตัวหนังสือตามมาตรฐานของแพทย์ ดูผ่านๆเหมือนยันต์ปราบผี เมื่อดูอย่างละเอียด ก็ยังเหมือนยันต์ปราบผีอยู่ดี
จากนั้นก็ป้อนตัวหนังสือลงบนคอมพิวเตอร์ เลือกรายการที่จะต้องทำการตรวจ ไม่นานก็พิมพ์สลิปออกมาสองใบเธอเซ็นชื่อตัวเองลงตรงมุมล่างขวา
จากนั้น ลั่วหานได้พูดอธิบายอาการของชายชราในปัจจุบันโดยคร่าวๆ โดยพยายามหลีกเลี่ยงการใช้คำศัพท์ที่รุนแรง ใช้คำศัพท์ที่ฟังรื่นหูมาก ยังโชคดีที่อาการของเขาไม่หนักมาก มิเช่นนั้นเธอก็ไม่กล้าที่จะบอกกับผู้ป่วยโดยตรง คิดแล้วก็แปลก ชายชรามาหาหมอด้วยตนเอง คาดไม่ถึงว่าจะไม่มีญาติมาด้วย
“หืม?เมื่อกี้คุณพูดว่าอะไรนะ?ฉันกำลังนั่งตรวจคนไข้ ”ลั่วหานยื่นสมุดบันทึกการรักษาและสลิปให้ผู้ป่วย ขยับโทรศัพท์ออกเล็กน้อย แล้วพูดกำชับว่า“คุณลุงคะ คุณนำสลิปนี้ขึ้นไปชำระค่าใช้จ่ายที่ห้องโถงชั้นหนึ่งก่อน ชำระเสร็จแล้วไปทำ CT ที่ชั้นแปด เมื่อผลออกมาแล้วค่อยมาหาหมอที่ห้องตรวจอีกครั้ง เข้าใจไหมคะ?”
ทางด้านโจวโร่หลิน:“……”
เมื่อกี้ที่เธอพูดไปมากขนาดนั้น ถูกเมินเฉยทั้งหมด!
ชายชราอารมณ์ดีมาก“อืม เข้าใจเข้าใจ ไม่ใช่ครั้งแรกที่มาโรงพยาบาลหวาเซี่ยแล้ว ฮ่าฮ่าฮ่า ที่นี่ ใหญ่มากจริงๆเลย ก่อนหน้านี้ผมหลงทางมาหลายครั้งแล้ว ยังโชคดีที่มีพยาบาลคอยนำทาง ขอบคุณคุณมากครับคุณหมอ”
หลังจากที่อธิบายชัดเจนแล้วลั่วหานลุกขึ้นส่งชายชราจากไป “ไม่ต้องขอบคุณหรอก คุณไปชำระค่าใช้จ่ายก่อนเถอะ”
“ขอบคุณครับคุณหมอ ขอบคุณจริงๆ!”ชายชราพยักหน้าขอบคุณอย่างไม่หยุด จนกระทั่งจากไปก็ยังยิ้มอยู่
โจวโร่หลินนั่งอยู่บนเก้าอี้อย่างไม่มีชีวิตชีวา ในหูข้างหนึ่งเป็นเสียงร้องโหยหวนของเกาจิ่งอาน ในหูอีกข้างหนึ่งเป็นเสียงของลั่วหานที่กำลังถามไถ่อย่างอบอุ่นกับผู้ป่วย มันช่างสุดยอดจริงๆเลย
“หมอฉู่ อยู่ที่โรงพยาบาลหวาเซี่ยคุณเป็นคุณหมอศัลยแพทย์ที่มีหน้าที่แค่ผ่าตัดไม่ใช่หรือ?ทำไมจะต้องมานั่งตรวจคนไข้ด้วย?อีกอย่างคนไข้เมื่อกี้ ดูเหมือนจะอยู่แผนกอายุรกรรมใช่ไหม?”
ลั่วหานลุกขึ้นยืนและบิดเอวไปมาสองสามครั้ง เพื่อคลายกล้ามเนื้อและกระดูกของทั้งร่างกาย “อืม ช่วงนี้ไม่มีการเคสผ่าตัดแบบใหญ่ๆ ก็จะดูแลผู้ป่วยแผนกศัลยกรรมและแผนกอายุรกรรมไปพร้อมกัน อีกอย่างแผนกทรวงอกก็ไม่ได้แบ่งเป็นแบบภายนอกหรือภายในอย่างเข้มงวดด้วย”อธิบายมามากขนาดนี้แล้ว ลั่วหานจึงถามว่า“เมื่อกี้คุณบอกว่าคุณอยู่กับใครนะ?”
โจวโร่หลินได้รับการความเจ็บปวดเป็นหมื่นครั้ง หมื่นครั้ง!
“หมอฉู่ คุณรักษาคนไข้อย่างทุ่มเทสุดใจจริงๆเลยนะ เมื่อใดที่พบผู้ป่วยเรื่องอื่นๆก็จะไม่สำคัญอีกต่อไป เอาเถอะเอาเถอะ ก็คือ ฉันอยู่กับเกาจิ่งอาน……”
โจวโร่หลินเล่าเหตุการณ์ที่เจอมาในวันนี้ให้ลั่วหานอีกครั้งด้วยความโมโห ในตอนท้ายยังพูดด้วยความโกรธแค้นอีกหนึ่งประโยคว่า “ช่างอารมณ์เสียมากจริงๆ!ฉันไม่มีทางที่จะให้อภัยไอ้เกาจิ่งอานบ้านั่นเด็ดขาด!คนบ้า!!”
ลั่วหานเป่าถ้วยชา และจิบชาร้อนๆหนึ่งคำ หลังจากตั้งท้องเธอก็ไม่ดื่มกาแฟอีก และไม่ดื่มชาที่เข้มข้นอีก แต่เปลี่ยนมาดื่มชาอบดอกไม้ หรือน้ำเปล่าแทน
“ทำไมฉันถึงรู้สึกว่าเกาจิ่งอานก็ไม่ได้ดูไม่น่าให้อภัยมากขนาดนั้นหล่ะ?เมื่อกี้เขาเพิ่งจะเป็นวีรบุรุษที่ช่วยสาวงาม เกือบจะตายเพราะช่วยคุณเลยนะ คุณควรจะขอบคุณเขาดีๆใช่ไหม?”
โจวโร่หลินกระโดดขึ้นในทันที ปฏิกิริยารุนแรงมาก มากเกินไปด้วยซ้ำ“ไม่มีทางเด็ดขาด!ชีวิตนี้ฉันจะรักแค่อากวางเท่านั้น ไม่ว่าเกาจิ่งอานจะทำอย่างไรฉันก็จะไม่ให้อภัยเขา นางฟ้า คุณบอกเขานะ ต่อไปนี้อย่ามายุ่งกับฉันอีก มันน่ารำคาญมากจริงๆ”
โอ้?คาดไม่ถึงว่าเกาจิ่งอานก็มีวันนี้เหมือนกัน?ช่างเป็นเรื่องน่าแปลก ที่จะมีหญิงสาวคนหนึ่งที่จะรำคาญจนไม่อยากจะมองอีกเป็นครั้งที่สอง
ไม่รู้ว่าเมื่อเกาจิ่งอานได้ยินด้วยตัวเองจะมีปฏิกิริยาแบบไหน
“เขาขอโทษคุณอย่างจริงใจ ท่าทางก็ดูดี คุณไม่คิดจะให้อภัยเขาจริงๆเหรอ?”ลั่วหานจิบชาหนึ่งคำ ขณะเดียวกันผู้ป่วยอีกคนก็ได้มาถึงด้านนอกประตูแล้ว
ลั่วหานพยักหน้าให้เขา บอกว่าให้เขาเข้ามา
“ไม่ว่าอย่างไรฉันก็ไม่ให้อภัยเขา !ฉันจะให้เขารู้สึกผิดและโทษตัวเอง!”
โจวโร่หลินกัดฟัน ดวงตาของเธอแทบจะหลุดออกจากเบ้าตา และยิงระเบิดปรมาณูขนาดยักษ์หลายลูกใส่ร่างของเกาจิ่งอาน
“คนไข้ของฉันมาแล้ว ไม่ว่าคุณจะให้อภัยเขาหรือไม่ เรื่องที่เขาช่วยชีวิตคุณไว้ คุณจะต้องรับผิดชอบ ไปอยู่เป็นเพื่อนเขาเถอะ แค่นี้นะ”
เมื่อลั่วหานพูดจบก็วางสายไป และยิ้มอ่อนให้ผู้ป่วย “เชิญนั่งค่ะ”
โจวโร่หลินโมโหจนอยากจะกรี๊ด ทำไมคำตอบที่ได้รับนั้นแตกต่างจากที่ตัวเองคาดหวังไว้อย่างสิ้นเชิง?
เกาจิ่งอานได้ทำแผลเรียบร้อยแล้ว เจ็บปวดมากจนส่งเสียงโอดครวญ เท้าเอวไว้และเดินออกมา ใบหน้าที่หล่อเหลาดูน่าเกลียดราวกับถูกทุบตีมา “โจวโร่หลิน ผมเกือบพิการแล้วคุณรู้ไหม?”
ในใจของโจวโร่หลินแอบด่าว่าสมน้ำหน้า และพูดอย่างยิ้มเยาะว่า “ใช่เหรอ?ตรงไหนที่พิการหล่ะ?ล้มหัวฟาดพื้นจนเป็นปัญญาอ่อนแล้วเหรอ?”
เกาจิ่งอานกัดฟัน เหี้ย!
ตอนที่เล่นไพ่นกกระจอกยังดูเป็นสาวน้อยที่อ่อนโยนอยู่เลย หลังจากคืนนั้นเพียงคืนเดียวก็กลายเป็นผู้หญิงห้าวเลยทันที ผู้หญิงช่างน่ากลัวจริงๆ!
“หลังเกือบจะหัก เส้นเอ็นอักเสบ”ส่วนจะเป็นตำแหน่งไหนนั้น เกาจิ่งอานไม่ได้พูด
เส้นเอ็นด้านหลังบั้นท้ายเชื่อมต่อกับกล้ามเนื้อหลังทั้งหมด กล้ามเนื้อจะมีอาการปวด อาการปวดแบบนี้เหมือนกับผูกเส้นเลือดและเส้นเอ็นทั้งหมดเป็นเส้นเดียวกัน เพียงแค่ขยับเล็กน้อยก็จะปวดไปทั้งตัว
อีกอย่างอาการปวดของกล้ามเนื้อแตกต่างจากอาการบาดเจ็บภายใน เพียงแค่สัมผัสก็จะปวดมาก
รู้สึกปวดจี๊ดสะใจมาก
โจวโร่หลินเชื่อบางไม่เชื่อบ้าง“แค่ล้มแค่นี้ก็เส้นเอ็นอักเสบแล้ว?ร่างกายของคุณเกาช่างบอบบางและมีราคาจริงๆ ยังเดินไหวไหม?ขยับได้ไหม?”
เกาจิ่งอานเจ็บจริงๆ ตอนนี้ยังไม่สามารถยืดหลังให้ตรงได้เลย เขาแค้นจนอยากจะกัดคน แต่ต้องกลั้นไว้ “เหอะเหอะ ไม่ตายหรอก แต่ว่า กว่าจะหายก็เกือบร้อยวัน!โอ๊ย!”
โจวโร่หลินดูเขาเหมือนจะปวดมากจริงๆ จึงช่วยพยุงแขนเขาไว้ “เห็นแก่ที่คุณช่วยฉันในวันนี้ ฉันจะช่วยคุณครั้งหนึ่ง ฉันจะพยุงคุณเอง ไปเถอะ”
เกาจิ่งอานสงสัยอย่างจริงจังว่าเธอจะใช้โอกาสนี้ในการทุบตีเขา หรี่ตาลงอย่างระแวง“ผมเจ็บจริงๆ คุณอย่าขยับไปมานะ”
“ชิ!สำออย!ไม่ขยับหรอกหน่า!”โจวโร่หลินอดไม่ได้ที่จะถอนหายใจ แสดงเหมือนจริงเกินไปหรือเปล่า?
“คุณเกา จ่ายยาเรียบร้อยแล้ว” คุณหมอใส่ชุดกาวน์สีขาวคนหนึ่งเดินมาอย่างรวดเร็ว ในมือถือถุงพลาสติกทางการแพทย์ไว้หนึ่งใบ ด้านในมีขวดยามากมาย
โจวโร่หลินเบ้ปาก “ต้องขนาดนี้เลยหรือ?ยาเยอะขนาดนี้?”
คุณหมอทำหน้าจริงจัง “กล้ามเนื้ออักเสบไม่ใช่เรื่องเล็กนะ จำเป็นต้องระวัง!ยาเหล่านี้สำหรับทาภายนอกวันละสามครั้ง ตอนที่ทายาอย่าลืมนวดเบาๆ ตามทิศทางรอยผิวหนัง มิเช่นนั้นจะปวดมาก อีกอย่างจะไม่เอื้อต่อการฟื้นตัว ยาแก้ปวดแก้อักเสบจ่ายให้สำหรับหนึ่งวัน ยาพวกนี้ทานเยอะไม่ดี”
คุณหมอยื่นยาให้กับโจวโร่หลินโดยตรง มองไปที่เธอ กำชับอย่างจริงจังว่า “อีกอย่าง ต้องประคบร้อนให้เขาเบาๆก่อนนอนหนึ่งครั้ง ครั้งละสิบนาที ใช้ผ้าขนหนูร้อน จะช่วยให้เลือดไหลเวียนได้ดี แก้ฟกช้ำ”
โจวโร่หลินรู้สึกงงมาก เส้นเอ็นอักเสบไม่ใช่เหรอ?กลายเป็นกล้ามเนื้อได้อย่างไร?คาดไม่ถึงว่าเกาจิ่งอานจะหลอกเธอ!
ไม่เป็นไรไม่ใช่เหรอ?ทำไมถึงต้องทานยาและทายาด้วย?
“คุณหมอ เขาไม่เป็นไรใช่ไหม?”โจวโร่หลินรู้สึกไม่สบายใจ
เกาจิ่งอานขยิบตาให้คุณหมอ จากนั้นดวงตาก็หรี่ลงด้วยความเจ็บปวด และส่งเสียงโอดครวญไปพร้อมกันๆกัน
โจวโร่หลิน:“……”
คุณหมอกระแอมไอ“ไม่เป็นไร?คนบาดเจ็บมาขนาดนี้จะไม่เป็นไรได้อย่างไร?ผมจะบอกคุณ ครั้งนี้เขาบาดเจ็บหนักมาก จำเป็นต้องได้รับการดูแลดีๆ ถ้าหากประมาท อาจจะเป็นอัมพาตครึ่งซีกได้”
ไอ้เหี้ย!ขนาดนั้นเลยเหรอ?
เกาจิ่งอานมุ่ยปาก แล้วกลั้นรอยยิ้มตรงมุมปากไว้
โจวโร่หลินกระตุกมุมปาก ยิ้มอย่างกลืนไม่เข้าคายไม่ออก “โอ้……โอเค ฉันเข้าใจแล้ว”
คุณหมอพยักหน้า ราวกับกำลังบอกลา “ดูแลแฟนหนุ่มของคุณดีๆ สิ่งที่สำคัญที่สุดสำหรับผู้ชายก็คือเอว เอวดี ในอนาคตถึงจะ……คุณเข้าใจดี”
โจวโร่หลินรีบชี้แจง “คุณหมอคุณเข้าใจผิดแล้ว……”
“โอ๊ย!”เกาจิ่งอานส่งเสียงด้วยความเจ็บปวด ทิ้งน้ำหนักตัวลงที่เธอ
“คุณเป็นอย่างไรบ้าง?ไม่เป็นไรใช่ไหม?”โจวโร่หลินตกใจมาก แม่งเอ๊ย อย่าพิการไปจริงๆนะ!
คุณหมอสอดมือทั้งสองข้างลงไปที่กระเป๋าเสื้อกาวน์ ยิ้มและพูดอย่างมีเลศนัยว่า “เป็นห่วงเขาขนาดนี้ ยังจะบอกอีกว่าไม่ใช่แฟนหนุ่ม?ฮ่าฮ่าฮ่า คู่รักทะเลาะกัน ต่อไปนี้ก็รักกันดีๆนะ”
เกาจิ่งอานยิ้มและพูดว่า “รักกันดีๆ แน่นอน”
คุณเดินจากไปโดยก้าวขากว้างๆ ด้านหลังดูหล่อและสง่างาม
โจวโร่หลินหยิกเขาอย่างแรง“เกาจิ่งอาน คุณหมายความว่าไง!”
“โอ๊ย เจ็บนะ!โอ๊ย เจ็บจะตายอยู่แล้ว ไม่ไหวแล้ว……”เขาทำใบหน้าบิดเบือนอย่างโอเว่อร์ ร่างสูงทิ้งน้ำหนักตัวทับลงบนตัวของโจวโร่หลินอีกครั้ง น้ำหนักเกินครึ่งทิ้งลงมาที่เธอทั้งหมด สีหน้าที่หลับตาขมวดคิ้วนั้นไม่เหมือนว่ากำลังแสดง
“โอเคโอเค ฉันพาคุณไปเอง”
——
“หมอฉู่ ทุกคนถึงกันหมดแล้ว รอแค่คุณเท่านั้น เจ้าของวันเกิดของเราจะเริ่มตัดเค้กแล้วนะ!”คุณหมอเข้าเวรแผนกศัลยกรรมวิ่งมาเรียกลั่วหาน
หลังจากลั่วหานอ่านเคสสุดท้ายเสร็จแล้ว ก็วางเครื่องช่วยฟังเสียงหัวใจลง “ไวขนาดนี้เลยเหรอ?ฉันจะรีบไป”
หลังจากจัดระเบียบตัวเองเล็กน้อย ลั่วหานก็ไปที่ห้องประชุดแผนกศัลยกรรมทรวงอก ตอนที่เธอไปในนั้นมีคนสิบกว่าคนยืนอยู่ ทุกคนกำลังร้องเพลงสุขสันต์วันเกิดอย่างคึกคัก บรรยากาศคึกคักมาก
ลั่วหานเปิดประตู เงยหน้าขึ้นเห็นเสื้อกาวน์สีขาวมากมาย ในบรรดาคนเหล่านั้น มีคนหนึ่งที่โดดเด่นกว่าใคร
ถังจิ้นเหยียนสวมชุดสีขาว ผูกเนกไทสีน้ำเงินเข้มลายขวางไว้ ริมฝีปากบางยิ้ม รอยยิ้มกระจายไปทั่วใบหน้าที่สง่างามและอ่อนโยน
แม้ว่าจะขาวไปทั้งหมด เขาก็ยังคงโดดเด่น สามารถมองออกในแวบแรกในระยะไกล
“ลั่วหาน เรากำลังรอคุณอยู่เลย”ถังจิ้นเหยียนยิ้มอย่างอ่อนโยน เสียงนุ่มนวลไพเราะมาก
“ขอโทษนะ ฉันมาสาย เจ้าของวันเกิด สุขสันต์วันเกิดนะคะ!”ดวงตาที่สว่างสดใสของลั่วหานมองไปที่แพทย์ชายด้านข้างของถังจิ้นเหยียนด้วยรอยยิ้ม