ประธานหยิ่งยโสของฉัน - ตอนที่ 575
ตอนที่ 575 ไม่เอาอะไรไปเลย
สีหน้าของหลงถิงเหมือนซากศพ เขาอดกลั้นความโกรธและความแค้นเอาไว้ แล้วเผชิญหน้ากับดวงตาสีดำของหลงเซียว
ถ้าหากวันนี้หลงเซียวไปจากMBKจริงๆ กับสถานการณ์ในตอนนี้ MBKอาจจะเข้าสู่สภาวะวิกฤติอีกครั้งก็ได้ แต่มันก็ไม่แน่ เพราะเขาได้ไปร่วมมือกับบริษัทอื่นๆ อีกหลายเจ้าแล้ว บวกกับความมั่นคงของตัวMBKเอง แล้วสั่งให้หลงจื๋อกลับมา การที่จะกลับขึ้นมายั่งยืนอีกครั้งมันจะเป็นเรื่องที่ยากขนาดนั้นเลยเหรอ?
แต่……
ถ้าหลงเซียวยังอยู่ต่อโดยที่ใจของเขาไม่ได้อยู่ที่นี่แล้ว เขาก็คงไม่ยอมทุ่มเทเพื่อMBKอีกต่อไปแล้ว
หลังจากที่ผ่านการไตร่ตรองแล้ว หลงถิงก็ยืดอกขึ้นมาทำตัวเย่อหยิ่งเหมือนอย่างเคย แล้วยิ้มออกมาอย่างไม่สบอารมณ์ “หลงเซียว การกระทำที่ห้องประชุมผู้บริหารของแกในวันนี้ มันช่างทำให้ฉันผิดหวังจริงๆ! ถ้าแกต้องการออกจากMBKเพื่อไปสร้างทางใหม่ของตัวเอง ฉันก็จะไม่รั้งแกไว้”
หึหึ!
ดูแล้วเขาก็ยังไม่โง่ซะทีเดียว รู้ว่าถ้าเก็บเขาเอาไว้ก็คงไม่มีประโยชน์อะไรแล้ว เป็นอย่างนี้ก็ดี จะได้ไม่ต้องเสียเวลามาต่อล้อต่อเถียงกับเขาอีก
หลงเซียวโค้งคำนับด้วยความสุภาพ เอามือล้วงกระเป๋าข้างหนึ่ง ออร่าแห่งความสง่าแผ่ออกมาอยู่รอบตัว “ท่านประธานบริษัทได้เตรียมการที่จะให้ผมออกจากตำแหน่งไว้นานแล้ว แม้ว่ามันจะช้ากว่าที่ท่านคิดไว้สองเดือนก็ตามตอนนี้ผมเป็นคนขอจากไปด้วยตัวเองก็ถือซะว่าเป็นการสงเคราะห์แล้วกัน ผู้บริหารทุกท่านต่างก็คงจะยุ่งกันมาก จนลืมเลือนเรื่องนี้ไปกันหมดแล้วใช่ไหมครับ?”
ลองคิดทบทวนดูนะทุกคน ว่าเขาถูกขับลงจากตำแหน่งประธานที่ทรงเกียรตินี้ได้ยังไง และเขายังถูกเชิญกลับมาด้วยวิธีแบบไหนเพื่อมาสยบวิกฤตของMBKให้สงบลง
พอวันนี้วิกฤตได้ผ่านพ้นไปแล้ว หลงถิงใช้วิธีอะไรในการบั่นทอนอำนาจของเขา แล้วเสนอตำแหน่งให้หลงยี่กับหลงจื๋อมารับ
ขอแค่เป็นคนที่มีสมอง ก็ต้องดูออกอยู่แล้วว่าใครดีใครร้าย!
พวกบริหารทุกคนต่างพากันเงียบ สิ่งที่หลงเซียวพูดมานั้นไม่ผิดเลยสักนิด มันเป็นเพราะหลงถึงลำเอียงไปทางหลงจื๋อมากจริงๆ ไม่ใช่แค่เพียงครั้งเดียวที่เขากดดันหลงเซียว แต่ทุกครั้งในห้องการประชุมพฤติกรรมที่หลงถิงทำกับหลงเซียวนั้นมันก็เกินไปจริงๆ
โชคดีที่ทุกๆ ครั้งหลงเซียวสามารถรอดพ้นจากมันด้วยมันสมองที่ชาญฉลาดของเขา แต่โดยรวมแล้วมันก็ดูน่าหดหู่ใจจริงๆ
ทุกๆ คนต่างใช้แววตาที่แตกต่างกันจ้องมองไปที่หลงถิง ไม่มีใครกล้าพูดเรื่องการรั้งหลงเซียวเอาไว้อีกแล้วบรรยากาศดำรงไปด้วยความประหลาด
สีหน้าของหลงถิงเดี๋ยวแดงเดี๋ยวขาว จนสุดท้ายก็กลายเป็นสีซีดเผือด “หลงเซียว วันนี้ถ้าแกเดินออกจากMBKไปแล้วต่อไปก็อย่าคิดจะก้าวเท้าเข้ามาอีกเป็นอันขาด”
สงสัยคงเครียดจัด หลงถิงถึงได้พูดทิ้งท้ายออกมาอย่างนั้น
หลงเซียวค่อยๆ แย้มมุมปากออก ใบหน้าที่งดงามจนไร้ที่ติได้ปรากฏรอยยิ้มที่แสนเจ้าเล่ห์ออกมา “ไปเหรอครับ ครั้งนี้ผมเป็นคนเลือกที่จะจากไปเอง จะกลับไม่กลับนั้นมันก็ต้องขึ้นอยู่กับอารมณ์ของผมอีกที”
แล้วหลงถิงก็รู้สึกไม่ปลอดภัยขึ้นมาในทันที สิ่งที่หลงเซียวพูดมันหมายความว่ายังไง หรือว่าอนาคตเขายังคิดที่จะกลับมายึดครองMMBKอีกอย่างนั้นเหรอ?
จากแววตาที่เปลี่ยนไปอย่างกะทันหันของหลงถิงทำให้หลงเซียวก็มองเห็นสิ่งที่ตัวเองต้องการขึ้นมาทันที ถูกต้อง หลงถิงที่กำลังหวาดระแวง!
ตั้งแต่นี้ไป เขาจะทำให้ทุกๆ วันของหลงถิงผ่านไปด้วยความหวาดระแวงอย่างนี้ ทำให้เขาต้องผวาตื่นขึ้นในยามดึก ให้เขาหวนนึกถึงเรื่องราวเมื่อสามสิบปีก่อนครั้งแล้วครั้งเล่า บังคับให้เขาต้องมองดูมือที่เปื้อนเลือดของตัวเอง!
พอคิดถึงตรงนี้ มือที่อยู่ในกระเป๋ากางเกงของหลงเซียวก็ค่อยๆ ม้วนเข้าหากันจนกลายเป็นกำปั้นที่แสนแข็งกล้า
“ไสหัวออกไป! ออกไปจากMBKเดี๋ยวนี้! ไสหัวไป!” หลงถิงชี้ไปทางประตูของห้องประชุมในทันที นิ้วของเขากำลังสั่นเครือเพราะการใช้แรงมากเกินไป ก้อนไขมันบนหน้าของเขาก็กำลังสั่นเหมือนกัน มีเส้นเลือดเส้นใหญ่ผุดขึ้นมาตรงลำคอของเขา
แต่หลงเซียวยังคงทำตัวสง่าอยู่ ยังคงดูผ่อนคลาย หลงเซียวหันไปโค้งคำนับให้บรรดาผู้บริหารที่อยู่ในห้องอย่างสุภาพ “คุณอาทุกท่านครับ ผมต้องขอขอบพระคุณเป็นมากเลยที่ให้ความไว้วางใจผมตลอดสิบปีที่ผ่านมานี้ เส้นทางของธุรกิจ ความสำเร็จต้องมาก่อน ผมหวังว่าMBKจะสามารถก้าวหน้าต่อไปได้อย่างไม่หยุดหย่อน แต่ก็นะ ถ้าท่านใดที่อยากจะลองเปลี่ยนรสชาติดูบ้างละก็ แก้วน้ำชาของผมก็พร้อมที่จะยกให้พวกท่านทุกเมื่อเลยครับ”
เลือดอันร้อนฉานของหลงถิงได้พุ่งปรี๊ดขึ้นไปยังหัวสมอง เมื่อกี้เขาพูดว่าอะไรนะ! เขากล้ามากที่มาชักชวนผู้คนต่อหน้าเขาแบบนี้! ขุดรูตรงกำแพงกันต่อหน้าต่อตา!
ไอ้ชาติชั่ว ไอ้ชาติหมา!
พวกผู้บริหารต่างพากันหัวเราะ “น้ำชาของคุณชายใหญ่นั้น ถ้าพวกเรามีโอกาสจะต้องไปลิ้มลองอย่างแน่นอนครับ”
หลงเซียวก้าวเท้าทั้งสองข้างออก รองเท้าที่ทั้งยาวทั้งเงาเหยียบลงบนที่เป็นสีขาว ทิ้งไว้เพียงแค่แผ่นหลังสีดำให้ผู้คนได้เชยชม ท่ามกลางสายตาที่มองมาของพวกผู้บริหาร เขาได้ก้าวเดินจากไปอย่างไม่รีบไม่ร้อน
“ท่านประธานบริษัทครับ คุณ……คิดจะปล่อยคุณชายใหญ่ให้จากไปอย่างนี้จริงๆ เหรอครับ? คุณเองก็น่าจะรู้ถึงบทเรียนในครั้งก่อนแล้วว่า……มันไม่ใช่เรื่องเล็กๆ เลยนะครับ”
ท่านประธานบริษัทครับ ครั้งนี้ที่คุณชายตัดสินใจที่จะก้าวออกจากMBKไปนั้น มันเกิดเรื่องอะไรขึ้นกันแน่ครับ? ระหว่างพวกคุณพ่อลูกเกิดความขัดแย้งอะไรขึ้นครับ? ตั้งแต่เมื่อคืนจนถึงตอนนี้ข่าวยังออกมาอย่างไม่หยุดหย่อนเลยนะครับ”
“ท่านประธานบริษัทครับ……”
“พอได้แล้ว! หุบปากเดี๋ยวนี้! ไสหัวออกไปให้หมด ออกไปเดี๋ยวนี้!” หลงถิงปวดหัวจนแทบระเบิดแล้ว กำปั้นของกำถูกยกขึ้นมานวดอยู่ตรงขมับ แต่ก็ยังไม่สามารถทำให้ความเจ็บปวดทุเลาลงได้
ที่นอกประตู
พอจี้ตงหมิงกับแอนดี้เห็นหลงเซียวออกมา ทั้งสองก็รีบวิ่งเข้าไปประกบซ้ายขวาของเขาทันที
“นายครับ เป็นยังไงบ้างครับ? ผลสรุปในที่ประชุมเป็นยังไงบ้างครับ?”
“ท่านประธานคะ คุณจะไปจากMBKจริงๆ เหรอคะ?”
หลงเซียวยกแขนขึ้นมาเพื่อดูเวลาแล้วค่อยตอบคำถาม “คุณแอนดี้ครับ คุณช่วยจัดการกับของทุกอย่างที่เป็นของผมในห้องทำงานให้ที แล้วเอาไปไว้ในรถ กุญแจรถวางอยู่บนโต๊ะทำงานแล้วครับ”
แอนดี้ตกใจจนรีบถามกลับไปว่า “ท่านประธานคะ คุณจะไปจากMBKจริงๆ ใช่ไหม?”
“ใช่ครับ ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ประธานของบริษัทMBKจะไม่ใช่ผมอีกต่อไปแล้ว ผมเป็นเพียงแค่หุ้นส่วนทั่วไปของMBKเท่านั้น” หลงเซียวพูดไปเดินไป ย่างเท้าไปอย่างเบาหวิว เหมือนกับเพิ่งวางกระเป๋าที่แบกอยู่กลางหลังลงไปแล้ว
จี้ตงหมิงถามต่อ “นายครับ แล้วนายจะเอายังไงต่อครับ?”
ในเมื่อคิดที่จะก้าวออกจากMBKแล้ว เขาก็คงต้องมีลู่ทางของตัวเองเตรียมไว้อยู่แล้วสิ?
หลงเซียวก้าวเท้าเข้าไปในลิฟต์ ทั้งสองคนก็ตามเขาเข้าไปในทันที จากนั้นหลงเซียวจึงพูดขึ้น “เอาของของผมส่งไปที่ฉู่ซื่อ เดี๋ยวคุณกู้จะจัดการต่อเองครับ”
ฉู่ซื่อเหรอ?!
“สรุปว่าคุณจะไปที่ออฟฟิศของฉู่ซื่อใช่ไหมครับ? ต่อไปคุณจะไปรุ่งเรืองอยู่ที่ฉู่ซื่อใช่ไหมครับ?!” จี้ตงหมิงรู้สึกดีใจเป็นอย่างมาก! การต้องใช้ชีวิตอยู่ในที่วุ่นวายอย่างMBKนั้น ในทุกๆ วันยังต้องเรื่องปวดหัวมากมาย เทียบกับฉู่ซื่อที่ดูเรียบง่ายไม่ติดเลย อีกทั้งถ้าไปที่นั่นยังสามารถแสดงความสามารถได้อย่างเต็มที่ด้วย!
แต่สีหน้าของแอนดี้กลับดูแย่ลง “ท่านประธานแล้วพวกเราหล่ะคะ? ถ้าคุณไปแล้ว แล้วเราจะทำยังไง?”
ประตูลิฟต์เปิดออก หลงเซียวก็เดินตรงไปยังห้องทำงานของประธาน เนื่องจากหยุดงานไปหลายวัน ในห้องจึงไม่มีใครใช้งาน บนโต๊ะของเลขาก็โล่งอยู่เหมือนกัน
“การที่ผมไปอยู่ที่ฉู่ซื่อ คุณคิดว่าผมไม่ต้องการเลขากับผู้ช่วยเหรอครับ?” หลงเซียวตอบไปอย่างอ้อมๆ
แอนดี้ดีอกดีใจ สายตาเป็นประกาย “ขอบคุณท่านประธานมากๆ เลยนะคะ! ฉันจะไปเก็บของเดี๋ยวนี้เลยค่ะ เดี๋ยวฉันจะขับรถไปส่งของให้คุณด้วยตัวเองเลยค่ะ ต้องรบกวนรถของคุณแล้วนะคะ!”
แอนดี้ที่อยู่บนรองเท้าส้นสูงเดินไปเปิดประตูอย่างกระตือรือร้น เก็บของใช้ของหลงเซียวอย่างรวดเร็วและเรียบร้อยช่างดูเป็นมืออาชีพซะจริงเลย
หลงเซียวหันมาสั่งจี้ตงหมิง “โครงการที่MBKกำลังทำอยู่ดำเนินไปถึงไหนแล้วคุณก็รู้ดี จากนี้ควรทำยังไงต่อคุณน่าจะรู้ดีนะครับ?”
“จี้ตงหมิงพยักหน้าด้วยใบหน้าที่ยิ้มแย้ม “ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของผมเองครับนาย!”
“ดูคุณจะมีความสุขมากเลยใช่ไหม? คุณอยากให้ผมออกจากMBKอย่างนั้นเหรอ?” หลงเซียวเอ่ยถาม
จี้ตงหมิงโบกไม้โบกมือ “ไม่ครับไม่ครับ ผมแค่อยากเห็นเจ้านายของผมมีความสุขเท่านั้นเอง ไม่ต้องถูกคนบางคนมาทำให้อารมณ์เสีย ต่อให้ที่นี่ไม่ต้องการข้า แต่ข้าก็ยังมีที่ให้ไป! ใช่ไหมครับ?”
หลงเซียวยิ้มแล้ว “ดีใจสินะ?”
ใช่ มันก็ควรจะดีใจอยู่แล้ว!
หลงเซียวยืนอยู่ตรงข้างหน้าต่างที่ยาวถึงพื้น แล้วมองดูเมืองหลวงจากจุดที่สูงๆ ห้องทำงานห้องนี้เขาใช้มันมาสิบปีจากนักธุรกิจวัยรุ่นที่อายุเพียงยี่สิบ เติบโตเป็นผู้ทรงอิทธิพลที่สุดคนหนึ่งในวงการ
เขาเคยทำงานอย่างบ้าคลั่ง เขาเคยนั่งเขียนแผนงานหลายวันติดต่อกันทั้งที่ยังป่วยอยู่ เพื่อที่จะต่อกรกับคู่แข่งเขาเคยค้นหาข้อมูลทางด้านธุรกิจมากมายจากห้องนี้ นี่เขาเติบโตจากเด็กหนุ่มที่มีแต่คนหัวเราะเยาะว่าเป็น “เด็กไม่สิ้นกลิ่นน้ำนม” มาเป็นบุรุษที่ใครๆ ต่างก็ให้ความยำเกรงได้ยังไงนะ?
หึหึ!
พอมานึกๆ ดูแล้ว มันช่างเป็นเรื่องที่น่าขันสิ้นดี บริษัทที่เขาทุ่มเทด้วยชีวิต กับย้อมไปด้วยเลือดของพ่อตัวเอง คนที่เขานับถือเหมือนพ่อมาตลอด สุดท้ายก็คือศัตรูของตัวเอง!
“ท่านประธานค่ะ ฉันเก็บของเสร็จหมดแล้ว คุณคิดว่ายังมีอะไรตกหล่นอีกไหมคะ? หรือยังมีอะไรในห้องนี่ที่คุณยังอยากเอาไปอีกไหมคะ?”
หลงเซียวส่ายหน้า “ไม่แล้วครับ ของที่เหลือก็ปล่อยมันไว้ตรงนี้ก่อน”
ยังไงต่อไปมันก็ต้องกลับมาเป็นของเขาอยู่ดี
“ค่ะท่านประธาน!”
แอนดี้จัดข้าวของได้สองลัง แล้วเธอกับจี้ตงหมิงก็ยกออกไปคนละลัง
ห้องทำงานที่ว่างเปล่าไปในเวลาอันสั้น ทำให้เงาร่างนั้นดูโดดเดี๋ยวขึ้นมาทันที
หลงเซียวไม่อยากอยู่ต่อแล้ว เขาจึงหันหลังแล้วเดินจากไป
ที่ประตูหน้ามีนักข่าวยืนรอเต็มไปหมด หลงเซียวตรงไปยังลานจอดB2 จี้ตงหมิงเปิดประตูรถออก “นายครับ นายจะไปไหนครับ?”
“กลับบ้าน”
“ครับนาย!”
จี้ตงหมิงขับรถไปทางถนนหลักที่อยู่ตรงประตูหน้าของMBK มองผ่านกระจกรถไปก็เห็นนักข่าวมากมายที่รายล้อมอยู่เขาลดความเร็วลง ตอนนี้พวกนักข่าวกำลังยืนเบียดกันแย่งสัมภาษณ์พวกผู้บริหารอยู่ตรงประตู ดูครึกครื้นดี
หลงเซียวที่นั่งอยู่หลังรถ เงยหน้าขึ้นมามองป้ายMBKที่ส่องแสงระยิบระยับ นัยน์ตาที่ดำสนิทเหมือนยามค่ำคืนของเขากำลังจ้องมองไปที่ยอดตึก
“ตงหมิง คุณคิดว่าวิสัยทัศน์ที่มองจากยอดตึกน่าจะดีกว่าหรือเปล่าไหมครับ?”
จี้ตงหมิงแหงนหน้าขึ้น แล้วมองไปยังยอดตึก เป็นยอดตึกที่สูงมาก บานกระจกบนนั้นเล็กเอามากๆ ที่นั่นคือห้องของประธานบริษัท เป็นบัลลังก์สูงสุดของราชา!
“อืม น่าจะดีกว่านะครับ!”
หลงเซียวพูดออกมาด้วยเสียงที่ทุ้มลึก “ผมก็คิดว่าน่าจะดีกว่าเหมือนกัน”
จี้ตงหมิงใช้สติปัญญาทั้งหมดที่มีของตนเองพยายามคิดตาม จนสุดท้ายเขาก็เข้าใจสักที และเขาก็ตกใจกับคำตอบของตัวเองจนอึ้งไป!
“นายครับ หลังจากออกไปแล้ว คุณตั้งใจที่จะบุกกลับมาอีกใช่ไหมครับ? แถมยังพุ่งเป้าไปที่ยอดตึกด้วย?!”
เชี่ย! แค่คิดเลือดในตัวของเขาก็เดือดพล่านแล้ว เจ้านายของเขาเดินจากไปอย่างสง่างาม โดยไม่เอาอะไรไปเลย ก็เมื่อเตรียมการสวนกลับอย่างเต็มที่ ฆ่าไม่เลี้ยงอย่างนั้นเหรอ?
นี่มันเท่เป็นบ้าเลย! ในหนังเขาก็แสดงกันอย่างนี้แหละ!
หลงเซียวตอบกลับมาอย่างง่ายๆ “อยากทำอะไรสนุกๆ ไหม? เรามาเล่นเกมกัน”
“อยากครับ! อยากมากเลยครับ! นายครับ คุณอยากให้ผมเล่นเป็นตัวอะไรครับ? เบี้ย? ม้า? บิชอป? หรือว่าเรือครับ? ผมได้หมดเลย! ผมยินดีที่จะเป็นส่วนหนึ่งในแผนการที่ยิ่งใหญ่ของนายท่าน ผมยอมสละเลือดเนื้อทุ่มสุดกำลังเพื่อเป้าหมายของท่านเลยครับ!”
หลงเซียวขมวดคิ้ว การตอบรับของจี้ตงหมิงดูจะเวอร์ไปหน่อยนะ “เบี้ย ม้าที่พูดมาคืออะไร? คุณคือแม่ทัพที่ยอดเยี่ยมของผมนะ ไม่ใช่ทหารใหม่สักหน่อย หรือคุณอยากจะดูที่ฉู่ซื่อตลอดไปเลย?”
“โอ้ว!!! ใช่ๆๆ ผมไม่เป็นเบี้ย งั้น……” จี้ตงหมิงรู้สึกตื่นเต้นมาก จนสมองเบลอไป
หลงเซียวพูดขึ้น “ขับรถก่อนเถอะครับ อะไรควรทำก็ทำไปก่อน
“ครับ! นายท่าน!”
หลงเซียวหยิบมือถือออกมา เมื่อหนึ่งชั่วโมงก่อนลั่วหานได้ส่งข้อความเสียงมาให้เธอ
เขาเอามือถือมาวางไว้ที่หู แล้วได้ยินเสียงพูดของลั่วหานดังขึ้น “สวัสดีค่ะคุณหลง ตอนนี้คุณออกจากMBKแล้วใช่ไหมคะ? ต่อไปคุณก็คือคนตกงานแล้วนะคะจริงไหม?
ดังนั้น ฉันจึงหางานใหม่ให้คุณงานหนึ่ง เมื่อกี้ฉันเพิ่งพูดกับไป๋เวยไป ฉันบอกให้เธอไปประชาสัมพันธ์ที่บริษัทแล้วว่าจากนี้ไปคุณจะเข้ามาบริหารที่ฉู่ซื่อและโม่ซื่อ ดำรงตำแหน่งประธานบริษัทของบริษัทฉู่ซื่อนะคะ
งานใหม่ของคุณอาจจะไม่ได้ยิ่งใหญ่เหมือนงานเดิม ห้องทำงานก็เล็กกว่า แต่ว่าค่าตอบแทนก็ถือว่าใช้ได้เลยนะคะ! ถ้าตอบรับคำเชิญกรุณากดหนึ่ง แต่ถ้าไม่ตอบรับคืนนี้ก็ไม่ต้องกลับบ้านนะคะ”
ค่าตอบแทนใช้ได้เหรอ? ภรรยาที่แสนสวยสินะ?
ฮึฮึ!
พอฟังข้อความเสียงที่ลั่วหานส่งมาแล้ว หลงเซียวก็ได้ยิ้มออกมาอย่างมีความสุข
เขากดไปที่ปุ่มข้อความเสียง แล้วตอบกลับไปด้วยเสียงที่น่าหลงไหลว่า “ครับ นายหญิง ผมยอมรับครับ”