ประธานหยิ่งยโสของฉัน - ตอนที่ 593
แต่บางเรื่องเราก็ไม่มีไฟล์แล้วเหมือนกัน
ตอนที่ 593 พี่น้องเปิดอก
บีบบังคับ?
ประโยคนี้เกรงว่าเขานั้นได้เก็บมานาน ต้องรวบรวมความกล้ามากๆ ถึงกล้าที่จะพูดออกมาล่ะมั่ง?
คำพูดพวกนี้ คนเป็นพี่น้องได้ยิน ความรุนแรงนั้นไม่น้อยกว่ามีด ดาบ
แต่หลงเซียวนั้นกับไม่มีปฏิกิริยาที่ร้ายแรงกับประโยคนี้เท่าไหร่ ใบหน้าที่ดูแล้วเหมือนเป็นการบอกว่าอย่ามาหาเรื่องนั้นได้หายไปเพราะหลงจื๋อ
เขาได้เทชาในกาออก เอาขวดที่ใส่ใบชา ใช้ที่คีบคีบใบชาใส่ลงไป ท่าทางนั้นสมบูรณ์แบบไร้ที่ติ “นายอยากรู้?”
เขาไปชงชาอย่างชำนาญไป แล้วก็ถามไป
สายตาของหลงจื๋อได้มองการกระทำของเขาอย่างห้ามไม่ได้ ได้ถูกเขานั้นดึงความสนใจ “ใช่ ผมอยากรู้ ผมอยากให้พี่บอกผมด้วยตัวเอง”
คำพูดที่แม่พูดออกมานั้น เขาเชื่อ เขาไม่มีเหตุผลที่ไม่เชื่อ ต่อให้เขาไม่เชื่อ ก็เถียงกับหลักฐานที่อยู่ตรงหน้าไม่ได้ เขาอยากจะโกหกตัวเองยังไง ก็ไม่เป็นประโยชน์
แต่ว่าเขาทำใจไม่ได้ อยากจะให้โอกาสตัวเอง โอกาสพี่ชายสักครั้ง
ถึงแม้ว่าผลสุดท้ายจะเหมือนเดิม
เสียงน้ำซ่าทำให้เขาหลุดออกจากภวังค์ หลงเซียวได้สะเด็ดน้ำไปรอบหนึ่ง ได้แช่ลวกรอบสอง
“ได้ ที่นายอยากรู้ ฉันจะบอกนายเอง ถามมาเถอะ” หลงเซียวนั่งอยู่ตรงนั้น ถือกาชงชา ค่อยๆ เขย่า ไอร้อนลอยขึ้น กระจายอยู่ตรงใบหน้าของเขา
หลงจื๋อรู้เลยว่า ตัวเองนั้นห่างไกลจากพี่ชายมาก พี่ชายนั้นยืนอยู่ในจุดที่สูงที่สุด ต่อให้พยายามสุดกำลังก็ไม่มีทางที่จะเทียบได้
“พี่ไม่ได้เป็นลูกชายแท้ๆ ของพ่อ” หลงจื๋อถาม
คำถามแรกเป็นคำถามที่บาดคมมาก
หลงเซียวเหมือนว่าจะเตรียมตัวมาเรียบร้อยแล้ว ไม่ตกใจเลยสักนิด คิดไปมันก็ถูก อะไรที่สามารถทำให้เขาเปลี่ยนความคิดได้ภายในคืนเดียวนั้น นอกจากเรื่องที่ปิดบังเมื่อปีนั้นแล้ว ก็ไม่มีอย่างอื่นแล้ว
เขาได้เทชาให้หลงจื๋อแก้วหนึ่ง “ชิมดู”
หลงจื๋ออึ้งไป เขากำลังรอคำตอบอย่างร้อนรนอยู่ จะไปมีกะจิตกะใจดื่มชาได้ยังไง! เขาร้อนรนจะตายอยู่แล้วเนี่ย!
“ดื่มชาก่อน เรื่องอื่นไม่ได้สำคัญ ชาต้องดื่มต้องที่ร้อนๆ” มุมปากของหลงเซียวนั้นประดับไปด้วยรอยยิ้ม สายตาที่ลึกลับนั้นเหมือนว่าจะมองเขาออก
หลงจื๋อรับมันมา จิบไปนิดหน่อย เป็นชาที่รสชาติดีจริงๆ สีหน้าของเขานั้นได้แสดงออกมาว่าคะแนนสูง
หลงเซียวเห็นใบหน้าที่อายุน้อยของเขา เห็นเขาที่ยังสดใสบริสุทธิ์ เห็นเขาพยายามที่จะเรียนรู้ในการเป็นผู้ใหญ่ ในใจนั้นอดไม่ได้ที่จะไม่อ่อนไหว
“เป็นไงบ้าง?”
“สมกับเป็นพี่ชาย ชงได้รสชาติดีกว่าผมเยอะเลย” มือของเขาได้จับแก้วไว้แน่น เหมือนว่ายังไม่เริ่มแข่งขัน เขาก็ได้แพ้ไปแล้ว
หลงเซียวไม่ได้พูดคุยเรื่องชาต่อ กลับเข้าประเด็นหลัก เตรียมที่จะคุยกับน้องชายอย่างจริงจัง “เมื่อกี้นายพูดถูก ฉันนั้นไม่ได้เป็น ลูกชายแท้ๆ ของคุณพ่อ ระหว่างเรานั้นไม่มีความสัมพันธ์ทางสายเลือด ฉันกับเขา ฉันกับนาย ไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรในทางสายเลือดเลย”
หลังของเขานั้นตรง สองมือวางไว้ที่เข่า ท่าทางเหมือนว่าตัวเองนั้นไม่เกี่ยวอะไรกับโลกภายนอก
หลงจื๋อหัวเราะแห้งๆ ราวกับประชดตัวเอง ที่แท้ ทุกคนนั้นรู้หมด มีแค่เขา ที่เป็นไอ่โง่!
“เพราะงั้น เป้าหมายของพี่คืออะไร? พี่อยู่ๆ ก็ออกจากMBK ประกาศว่าเป็นศัตรูกับพ่ออย่างเปิดเผยในงานเลี้ยงเทศกาลไหว้พระจันทร์นั้น เพราะอะไรอีก?!” หลงจื๋อเริ่มโมโห น้ำเสียงเริ่มแข็งขึ้น ตั้งคำถามออกไป
เป้าหมายคืออะไร?
หึๆ! เป้าหมายของหลงเซียว แน่นอนอยู่แล้วว่าเป็นMBKทั้งหมด แน่นอนว่าอยากให้หลงถิงนั้นเสียชื่อเสียง เพื่อที่จะให้มือทั้งหมดที่ได้เปื้อนเลือดของตระกูลมู่นั้น ได้รับการตอบแทนที่สาสม!
แต่ คำพูดพวกนี้นั้นพูดกับหลงจื๋อได้เหรอ?
พวกเขาพึ่งพูดคุยไม่กี่คำ หลงจื๋อก็ได้ควบคุมอารมณ์ของตัวเองไม่อยู่แล้ว
“ก่อนที่นายจะกลับประเทศ ก็น่าจะได้ยินเรื่องที่เขาลือกันแล้วไม่ใช่เหรอ?”
“ใช่ ได้ยิน มันเกี่ยวกับพี่ทั้งหมด!!”
หลงจื๋อกำหมัดแน่น วางแผนมาสิบกว่าปี! แผนการ! ก็เพื่อที่จะบรรลุเป้าหมายของตัวเอง! พี่ชาย พี่ชายที่แสนดีของผม!
“อ้อ? ได้ยินอะไรมาบ้าง? เล่ามาให้ฟังหน่อย” หลงเซียวจิบชา
“พี่อยากจะฮุบบริษัทMBK พี่อยากจะครอบครองตระกูลหลงทั้งหมด” หลงจื๋อพูดไปทีล่ะคำ กัดฟัน ไฟโกรธที่กำลังเผาไหม้
เหอะ!
เป็นไปอย่างที่คิด โฉหวั่นชิงกับหลงถิงไม่มีทางพูดความจริงกับหลงจื๋อ
“ที่พวกเขาพูดนั้นถูก เป้าหมายของฉันนั้นเป็นตระกูลหลงทั้งตระกูลจริง”
อะไรนะ!
หลงจื๋อตกใจมากๆ คิดไม่ถึงว่าเขาจะยอมรับ! คิดไม่ถึงว่าเขาจะยอมรับว่าเป็นเรื่องจริง!!
“พี่ พี่ทำไม……พี่ทำได้ยังไง!”
ทำได้ยังไง?
ทำไมจะทำไม่ได้?
เหตุผลที่แท้จริงไม่เหมือนกันก็เท่านั้น แต่ว่าพวกนั้นไม่สำคัญอีกต่อไปแล้ว เสี่ยวจื๋อได้ฟังที่โฉหวั่นชิงพูด เชื่อเธอ นี้เป็นความสัมพันธ์ระหว่างแม่ลูกของพวกเขา
ความสัมพันธ์แบบนี้มีได้ยาก
และเป้าหมายของเขาก็คือตระกูลหลง ส่วนที่ว่าได้มีการพูดแบบไหนออกมานั้น หลงเซียวไม่แคร์
“อยากจะฟังเหตุผลไหม? ได้ ฉันบอกนาย” หลงเซียวยิ้มเรียบๆ รอยยิ้มที่เย็นชานั้นได้อยู่ไม่นาน
“ฉันไม่ได้เป็นลูกชายแท้ๆ ของหลงถิง หลงถิงไม่มีวันสืบทอดมรดกมาให้ฉัน ถ้าฉันยังอยู่ที่MBK สุดท้ายก็จะเป็น เสียบหนามของเขา เขาต้องทำทุกวิถีทางที่จะให้ฉันออกไป ถึงขั้นไม่สนว่าฉันจะเสียชื่อเสียงไหม เพราะงั้น ฉันเลยออกจะMBKเอง หลงถิงไม่มีวันสืบทอดมรดกมาให้ฉัน ถ้าฉันยังอยู่ที่”
นี่เป็นส่วนหนึ่ง แน่นอน คำพูดพวกนี้เป็นความจริง
หลงจื๋อสับสนไปหมด เขาจะไปรู้ได้ยังไงว่ามันจะมีอะไรที่ซับซ้อนเยอะขนาดนี้อยู่! ไม่เหมือนกับที่เขาคิดเลยสักนิด!
“แต่ว่าพี่ทำไมถึงได้พูดออกมาในงานเลี้ยงจนทำให้พ่อขายหน้าด้วย? ไม่ว่ายังไงคุณพ่อก็เลี้ยงพี่มาสามสิบปีนะ!” ในใจของหลงจื๋อได้ร้องไม่ยุติธรรมแทนคุณพ่อ
หลงเซียวพยักหน้า แล้วส่ายหน้า สับสนมึนงง “สามสิบปี? เหอะเหอะ เสี่ยวจื๋อ ยังต้องให้ฉันเล่าอีกเหรอว่าสามสิบปีที่ผ่านมานี้ฉันอยู่มายังไง?”
เขาไม่ได้ตอบ
“ก่อนอายุสิบห้า จริงอยู่ที่ฉันนั้นได้ใช้ชีวิตไม่ต่างอะไรกับคุณชายตระกูลเศรษฐี เทียบกับวัยเด็กของนายแล้ว ฉันโชคดีมากๆ เรื่องนี้ฉันไม่ปฏิเสธ แต่ หลังอายุสิบห้าล่ะ?”
เขาได้ถามกลับ ได้พาหลงจื๋อนั้นย้อนกลับไปคิด ตอนที่เขารู้จักหลงเซียวนั้น ท่าทางของหลงถิงที่มีให้เขานั้นไม่ค่อยที่จะดีนัก ดุ เข้มงวด ไม่มีความอ่อนโยน ราวกับพ่อที่โหดร้าย
เพราะงั้น หลงจื๋อได้เงียบเป็นการยอมรับ
“ฉันอายุยังไม่ครบยี่สิบก็สานต่อMBK ช่วงนั้น ฉันทำอะไรให้MBKบ้าง? นายจำได้ไหม?”
หลงจื๋อก็ยังเงียบเหมือนเดิม เพราะว่าเขาไม่รู้ว่าจะตอบอะไรดี
“เพราะฉะนั้น เสี่ยวจื๋อ ฉันเอาMBKกลับคืน มันผิดตรงไหน? ลองเปลี่ยนจุดยืน เปลี่ยนสถานะ ลองคิดอยู่ดีๆ” หลงเซียวพูดจบ ก็ได้ดื่มชาแก้วที่สอง
หัวของหลงจื๋อนั้นได้ก้มลง “พูดแบบนี้ พี่ไม่มีทางออมมือกับMBKแล้วใช่ไหม?”
“ใช่”
คำตอบที่ไม่มีความลังเลเลยแม้แต่น้อย
เวลานี้ โทรศัพท์ที่หลงจื๋อว่าอยู่บนโต๊ะได้สั่นขึ้น ชื่อที่แสดงบนนั้นได้โผล่ออกมาแวบหนึ่ง เขาก็ได้เอามันขึ้น
“เสี่ยวจื๋อ ลูกทำไมขับรถไปที่นั่น ลูกไปเจอกับใคร? เป็นหลงเซียวใช่ไหม! ลูกตัวระวังนะ!”
หลงถิงได้ส่งข้อความมา
รถของเขานั้นมีGPSอยู่ เห็นที่ที่หลงจื๋ออยู่
หลงจื๋อล่ะจนปัญญาจริงๆ เรื่องตั้งมากมายของตระกูลตัวเอง ที่เขาแทบเทียบไม่ได้เลยกับขนเส้นเดียว! เขานั้นเป็นไอ่โง่มาตั้งยี่สิบกว่าปี!
“เหอะๆ ……เหอะๆๆ!”
จู่ๆ หลงจื๋อก็ได้หัวเราะออกมา ตอนแรกนั้นเสียงยังเบา หลังๆ นั้นควบคุมไม่ได้ ยิ้มหัวเราะยิ่งบ้าคลั่ง ยิ่งหัวเราะยิ่งควบคุมไม่ได้ ราบกับคนบ้า หัวเราะจนนั่งไม่อยู่ หัวเราะจนตัวสั่น!
หลงเซียวก็ยังมองเขานิ่ง รอให้เขานั้นใจเย็นลง
อยู่นาน หลงจื๋อได้เช็ดน้ำตา จากนั้นก็ได้ดื่มชาจนหมด “ผมเป็นคนของตระกูลหลง ผมเป็นลูกของพ่อ ผมจะปกป้องMBK ปกป้องคุณพ่อ!”
หลงเซียวหัวเราะ
ที่เขารอก็คืออันนี้
“ดีมาก ถ้ารู้ฐานะของตัวเองแล้ว นายก็ต้องใช้กำลังทั้งหมด ความรู้ทั้งหมดของนาย คนของนาย แผนการ มาต่อกรกับฉันสักตั้ง”
หลงเซียวไม่อ่อนน้อม ไม่เกรงใจ ไม่คิดว่าเขาเป็นเด็กอีกต่อไป
“วางใจเถอะ ผมทำแน่!!”
หลงเซียวได้ลุกตัวขึ้น กลัดกระดุมหนึ่งเม็ด “หลงจื๋อ ฉันจะไม่คิดว่าเพราะเคยเป็นพี่น้องแล้วจะออมมือให้นะ”
หลงจื๋อกำลังโมโหอยู่ ได้เถียงกลับไป “ผมไม่ต้องการ!”
ได้เอาเสื้อโค้ต สวมใส่ “ฉันนั้นมีประสบการณ์เยอะกว่านายกี่ปี แต่ว่าประสบการณ์พวกนี้ได้สร้างผลกำไร ก็ได้ให้นายเอามาต่อกรกับฉัน สินทรัพย์ของMBK นายสามารถกลับไปถามแผนกการเงิน แหล่งสินค้า ช่องทาง การเงิน พนักงาน แบรนด์ ไม่ว่าด้านไหนของMBKก็ได้ดีกว่าบริษัทฉู่ซื่อในตอนนี้มาก นี่เป็นช่องทางที่ดี เพราะงั้น ฉันที่พูดออกไปว่าจะแข่งขันกับนายนั้น ไม่ได้เป็นการรังแกนายเลยสักนิด”
หลงจื๋ออยากจะเถียง แต่เขาไม่รู้ว่าจะเถียงกลับยังไง
หลงเซียวมองกุญแจรถที่วางไว้ด้วยกัน โลโก้ของLincoln โลโก้ของRolls-Royce ในใจได้หวั่นไหวไปพักหนึ่ง ทันใด เขาก็ได้เอาของตัวเอง
หลงจื๋อได้เบิกตากว้าง มองหลงเซียวราวกับเจอผี
“อีกอย่าง ถึงแม้ว่าพวกเรานั้นเป็นคู่แข่งกัน แต่ถ้านายเจอกับปัญหาอะไร ก็สามารถมาถามฉันได้” หลงเซียวพูดจบ เตรียมตัวที่จะออกไป “ยังมีอะไรที่อยากถามอีกไหม?”
หลงจื๋อได้นั่งนิ่งอยู่ตรงนั้น เหมือนกับหินที่แกะสลัก ไปสักพัก เขาถึงได้มองไปยังคนตัวสูงราวกับจะสูบเลือด
“พี่ ทำไมถึงได้เห็นแก่ตัวแบบนี้?”
เห็นแก่ตัว?
นี่เป็นครั้งแรกที่มีคนกล่าวหาเขาแบบนี้
“เสี่ยวจื๋อ รอนายชนะฉันก่อน ค่อยมาต่อว่าฉันเถอะ”
“ผมจะไปชนะพี่ได้ยังไง!”
หลงจื๋อรีบลุกขึ้น ได้ก้าวเดินเข้าไป มือก็ได้ไปกระชากคอเสื้อโค้ตของหลงเซียว!
การกระทำของเขาเร็วมาก หลงเซียวไม่ทันได้ระวังตัว ก็เลยทำให้เซ
“งั้นก็พยายาม พยายามให้มากๆ เพื่อที่จะเอาชนะฉัน ถ้าเกิดนายแพ้ MBKก็จะเป็นของฉัน” หลงเซียวได้มองไปที่มือของเขา เส้นเลือดได้ปูดขึ้น ไฟโกรธได้ปะทุ เห็นที เขายังมีเลือดเนื้อ ไม่ใช่เด็กที่ไม่ได้เรื่องอะไรเลย
“ตอนนี้ผมก็เอาชนะพี่ได้!”
“ฟุ้บ——”
หลงจื๋อได้ปล่อยหมัด ปล่อยตรงออกไป หมัดได้ผ่านหน้าไป ต่อยโดนอากาศจนทำให้ผมขยับเล็กน้อย
“ปัง!”
หลงเซียวได้จับมือเขาไว้ ล็อกมือของเขาไว้แถวขากรรไกรของตน นัยน์ตาที่ดำสนิทได้มองไปที่เขา “นี่เป็นการต่อกรของนายที่มีให้ฉันเหรอ?”
หลงจื๋อกัดฟัน “ใช่! ฉันมองนายผิดไปหลงเซียว! ที่ผ่านมานี้ ฉันมองผิดไปตลอด!”
เจ็บใจเหรอ? เสียใจเหรอ? ปวดใจเหรอ? ทรมานใจเหรอ?
มีหมด
สำหรับหลงจื๋อแล้ว หมดนี้มันหนักเกินไป
แต่ว่าหลงเซียวทำไมจะไม่มีความรู้สึกนี้?
เขาไม่มีทางที่จะล้มเลิกการทำร้ายตระกูลหลง เขาก็ไม่มีทางมองข้างหลงจื๋อไปได้
เพราะงั้น เขาจะทำลายภาพลักษณ์พี่ชายที่แสนดีในใจของหลงจื๋อ บังคับให้เขาเดินออกมา จับอาวุธเหมือนกับลูกผู้ชาย
เลือกทางนี้แล้ว ก็จะไม่เสียดายที่หลัง
“ถ้ารู้ว่าผิดแล้ว งั้นก็แต่ตั้งแต่ตอนนี้ หลงจื๋อ ฉันไม่ได้มีความอดทนสูง เพราะงั้นทางที่ดีนายก็เข้าสู่สภาวะของตัวเอง คว้าโอกาสไว้ให้ดี ชะตากรรมของตระกูลหลงจะเป็นยังไง ต้องดูนายแล้ว”
หลงเซียวปล่อยมือหลงจื๋อ จัดคอเสื้อโค้ตของตัวเอง
หลงจื๋อได้ส่ายหน้า “หึๆ ขนาดผมชงชายังไม่ใช่คู่แข่งของพี่……”
“ทุกอย่างมันต้องเรียนรู้มาก่อน”
หลงเซียวก้าวขา——
“ผมอย่างจะถามคำถามสุดท้าย” เสียงของหลงจื๋อเบาลง น้ำเสียงอ่อนลง
“ได้”
หลงจื๋อเดินไปหาเขา มองเขาตรงๆ ร่างสีดำสองร่างที่เหมือนกัน ความสูงเกือบเท่ากัน “บอกผม พ่อแท้ๆ ของพี่คือใคร? พี่นามสกุลอะไร?”
หลงเซียวพยักหน้า “ฉันตอบนายได้ว่า——สามสิบปีก่อน คืนที่ตระกูลมู่ได้ถูกฆ่าล้างตระกูลที่อเมริกา นายรู้หรือเปล่า?”
“……”
“สามสิบปีก่อน มู่เส้าเอินที่มีชื่อเสียงโด่งดัง นายรู้จักไหม?”