ประธานหยิ่งยโสของฉัน - ตอนที่ 601
แต่บางเรื่องเราก็ไม่มีไฟล์แล้วเหมือนกัน
ตอนที่ 601 มือของเขาอบอุ่นมาก คล้ายกับฤดูใบไม้ผลิ
ทางด้านของถังจิ้นเหยียนนั้นยังไม่ได้ตอบกลับ จู่ๆเสียงนึงก็ถูกทำให้เงียบอย่างกะทันหัน “จิ้นเหยียน ต่อไปเลย เกมส์นี้จบแล้วค่อยไปนอน ฉันไปเข้าห้องน้ำมาครั้งเดียวทำไมคุณถึงไม่รอ?”
เสียงที่นุ่มนวลอย่างมาก ไม่เหมือนเป็นการต่อว่า
“โอเค แป๊ปนึง” ถังจิ้นเหยียนตอบกลับคำนึง
ลั่วหานกล่าว “คุณ……”
“อืม พ่อฉัน คุณจะอยู่เป็นเพื่อนเขาเล่นหมากรุก——คุณมีธุระอะไร? พูดมา”
ไม่รู้ว่าเพราะเหตุใด ความทุกข์เหมือนอุดอยู่ในลำคอของลั่วหาน ปรากฏว่าคำถามที่มีทั้งหมดของเธอล้วนเป็นเสียงสะอื้น พูดไม่ออก
“คุณ…..พ่อของคุณเขาสบายดีไหม? ฉันยังไม่เคยได้เจอเขาเลย” หลังของลั่วหานเปียกชื้น
“เขา? สองปีมานี้สุขภาพร่างกายไม่ค่อยดีนัก รักษามาโดยตลอด”
“อ้อ…..” ลั่วหานกล่าวอย่างไม่มีแรง
“เป็นอะไรไป? คุณไม่สบายหรอ? ไม่สบายใช่ไหม?” ปฏิกิริยาที่ไวของหมอ แป๊บเดียวถังจิ้นเหยียนก็รู้สึกได้ถึงว่าเสียงไหนที่ผิดปกติ
ลั่วหานจึงพบว่าเธอร้องไห้อย่างคาดไม่ถึง น้ำตาไหลลงมาอาบแก้ม แต่มือนึงของเธอก็กำลังให้น้ำเกลือ มือนึงก็กำลังรับโทรศัพท์ จนปัญญาที่จะเช็ด
เปื้อนบนผ้าห่มเล็กน้อย สูดลมหายใจเข้าจมูก “สองวันมานี้อากาศค่อนข้างเย็น ฉันเป็นหวัด มีเสียงที่จมูกใช่ไหม?”
ถังจิ้นเหยียนขมวดคิ้วเล็กน้อย เขายืนอยู่ที่ระเบียง มองแสงสีในยามราตรีอันกว้างใหญ่ที่นิวยอร์ก ทิวทัศน์ยามราตรีที่สวยงาม คุณตั้งครรภ์ เป็นหวัดไม่สามารถทานยาได้ ให้คนรับใช้ต้มน้ำขิงให้คุณสักหน่อย นอนหลับพักผ่อนอยู่ในบ้าน คุณพยายามทำให้เคยชิน แต่อย่าให้ลูกได้รับความทุกข์ไปด้วย”
ถังจิ้นเหยียนพบว่าตนเองพูดมากเกินไปแล้ว คาดไม่ถึงว่าจะอธิบายไปมากขนาดนี้โดยไม่รู้ตัว พูดจบก็คิดได้ทันทีว่า “ฉันพูดมากไปแล้ว……คุณเป็นหมอ จะไม่รู้เรื่องเหล่านี้ได้ยังไง?”
ลั่วหานยิ้มด้วยความขมขื่นอย่างมาก “จิ้นเหยียน ถ้าคุณไม่ไปจะดีมากแค่ไหน ฉันก็คงไม่ต้องมาพยายามเข้มแข็ง ฉันสามารถบีบคั้นคุณได้”
ถังจิ้นเหยียนนำมือข้างนึงสอดเข้าไปในกระเป๋ากางเกง พิงที่ราวจับระเบียง “รับสมัครผู้ช่วยที่มีความสามารถสักสองสามคน จำเป็นต้องปล่อยวางในสิ่งที่ควรปล่อยวาง ร่างกายเป็นสิ่งสำคัญที่สุด”
ลั่วหานยิ่งฟังก็ยิ่งอยากร้องไห้
แย่จริง!
เป็นใครไปไม่ได้! แม่งคือใครก็ได้! ทำไมถึงต้องเป็นถังจงรุ่ยด้วย ทำไมต้องเป็นพ่อของจิ้นเหยียนด้วย!
“ฉันรู้” ลั่วหานเศร้าเสียใจ สะอื้นไห้
บนระเบียงมีลม ลมพัดฟิ้วๆๆเขามาในสายโทรศัพท์ รวมกับน้ำเสียงของถังจิ้นเหยียนที่อบอุ่น “พักผ่อนเถอะ โทรศัพท์ปล่อยรังสีต่อร่างกาย เป็นอันตรายต่อทารกในครรภ์ ไม่รับสายไว้ที่หูโดยตรงจะดีที่สุด”
ลั่วหานนำมือถือออกเล็กน้อย นำหัวซุกเข้าผ้าห่ม ฮือๆๆร้องไห้เล็กน้อย เธอไม่ร้องไห้ล่ะก็ในลำคอจะต้องอัดอั้นจนแตกเป็นแน่!
“อืม ฉันไปเล่นหมากรุกเป็นเพื่อนพ่อนะ”
“โอเค”
“ใช่แล้ว…..ฝากความคิดถึงถึงพ่อของคุณด้วยนะ”
เดิมทีในใจก็เต็มไปด้วยคำถามและความโมโห แต่ได้ฟังน้ำเสียงของถังจิ้นเหยียนแล้ว ลั่วหานก็พูดไม่ออกเลยสักคำ จบลงไปแบบนี้โดยไม่รู้ตัว
ถังจิ้นเหยียนหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา ก้าวเท้ากลับไปยังห้องรับแขก
ถังจงรุ่ยกล่าวอย่างหัวเราะเอิ๊กอ๊ากว่า “มาเร็วเข้า ที่ระเบียงเย็นขนาดนั้น รบกวนการรับโทรศัพท์มากไหม? โทรศัพท์อะไรถึงต้องวิ่งไปรับไกลขนาดนั้น? กลัวฉันได้ยินหรอ?”
ถังจงรุ่ยอายุใกล้จะหกสิบแล้ว บนใบหน้ามีรอยเหี่ยวย่นเล็กๆน้อยๆ เขาสวมชุดนอนกำมะหยี่สีน้ำตาลเข้ม ในมือหยิบตัวหมากหมากรุกตัวนึง
ถังจิ้นเหยียนยิ้มแล้วกล่าวว่า “คือหมอฉู่ที่ฉันเคยพูดกับคุณ”
พูดพลาง เขาก็นั่งลง มองไปที่กระดานหมากรุก มองหาหมากที่ตนเองเดินเป็นตัวสุดท้าย
ถังจงรุ่ยร้องอ๋อ “คือหมอฉู่ที่คนนั้นที่คุณชอบใช่ไหม?”
ถังจิ้นเหยียนเคยพูดถึงหมอฉู่กับพ่อมาก่อน เพื่อไม่ให้เป็นการยุ่งยากมากเกินไป เขาไม่ได้พูดถึงชื่อของฉู่ลั่วหาน และที่แน่นอนคือไม่สามารถพูดว่าเธอคือภรรยาของหลงเซียว
“อื้ม คือเธอ ตอนนี้เธอแต่งงานแล้ว ทั้งยังตั้งครรภ์แล้วด้วย”
พ่อถังเสียใจแทนลูกชายอย่างชัดเจน “โอ้ น่าเสียดาย ในตอนนั้นคุณชอบผู้หญิงคนนี้มากขนาดนั้น เพียงแต่ ผู้หญิงคนนี้เป็นคนเมืองหลวงใช่ไหม?”
ถังจงรุ่ยเดินหมากรุก นำม้าขึ้นไป เหมือนกับเป็นการขัดขาของถังจิ้นเหยียน
หลงจิ้นเหยียนกล่าว “อ้อ….ใช่ เมืองหลวง แม่เสียชีวิตไปตั้งแต่ยังเด็กมาก เธอโตมากับพ่อ หลังจากนั้นพ่อเขาก็แต่งงานใหม่”
ถังจงรุ่ยเดินหมากไปอีกตา หมากของเขาเดินข้ามแม่น้ำไป
ถังจงรุ่ยกระพริบตา หัวเราะเหอะๆแล้วกล่าวว่า “อย่างนั้นหรอ….ภูมิหลังครอบครัวดูน่าสงสารนะ ครอบครัวเล็กๆของเมืองหลวงสามารถเลี้ยงดูสั่งสอนให้เป็นผู้เชี่ยวชาญแผนกศัลยกรรมหัวใจที่ยอดเยี่ยมได้ ไม่ใช่เรื่องง่ายเลยจริงๆ”
“เปล่า ไม่ถือว่าเป็นครอบครัวธรรมดาทั่วไป พ่อของเธอเป็นนักธุรกิจคนนึง ประกอบกิจการบริษัทประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก เพียงแต่หลังจากนั้นพ่อของเธอก็เสียชีวิต กำลังทรัพย์ภายในบ้านจึงตกต่ำ”
ตัวหมากหมากรุกของถังจงรุ่ยยังแขวนอยู่บนกระดานหมากรุก เป็นเวลานานแล้วและยังไม่มีผลสรุปต่อไป “เกิดอะไรขึ้น? เมืองหลวงจะพูดว่าใหญ่ก็คือใหญ่ จะพูดว่าเล็กก็เล็ก ครอบครัวเธอทำอะไรล่ะ? บางทีฉันอาจจะรู้จัก”
“ตามที่เล่าคือเมื่อก่อนเป็นธุรกิจการค้า”
ตระกูลฉู่ คู่สมรสเสียชีวิต ผู้ชายแต่งงานใหม่ ธุรกิจการค้า……
นำเอาปัจจัยต่างๆเหล่านี้มารวมเข้าด้วยกัน ทำไมถึง…..ทำไมถึงเหมือนกันขนาดนี้!
ถังจงรุ่ยนำปืนใหญ่หนึ่งกระบอกมาวางด้านหน้าหมากของเขา สีหน้าไม่แน่ใจเล็กน้อย “พ่อของเธอ…..ชื่ออะไร?”
ถังจิ้นเหยียนแปลกใจเล็กน้อย ทำไมพ่อถึงสนใจเรื่องนี้ขนาดนี้นะ? ปกติเขาจะเป็นผู้คงแก่เรียนที่ไม่สนใจฟังเรื่องราวบนโลก ในความคิดมีแต่วิชาความรู้และนักเรียนของเขา
“ชื่อของพ่อเธอฉันไม่รู้ แต่เมื่อก่อนธุรกิจครอบครัวของเธอชื่อการค้าขายบริษัทฉู่ซื่อ”
“ปัง!”
หมากรุกของถังจงรุ่ยก็กระแทกลงบนกระดานหมากรุกทันที ทำให้เปลี่ยนความครึกครื้นของเกมส์กระดานหมากรุก
“พ่อ? คุณเป็นอะไรไป?” ถังจิ้นเหยียนมองเขาด้วยความแปลกใจ พบว่าใบหน้าของเขาเปลี่ยนเป็นสีเขียว ดวงตาจ้องมอง คล้ายกับตกใจ
“ฉัน…..ไม่เป็นไร ฉันไปพักผ่อนก่อนนะ”
——
โรงพยาบาลหวาเซี่ย ห้องผู้ป่วยVIP
ภาพเงาสีดำของหลงเซียวที่เหมือนดั่งนกเหยี่ยวพรวดพราดเข้าไป ลมหนาวพัดความอ่อนโยนบนร่างกายของเขาออกไป ความเดือดดาลแทบจะระเบิดออก!
“ลั่วลั่ว!”
หัวใจของลั่วหานก็กระตุกทีนึง ทำไมมาเร็วขนาดนี้!!
หมอซุน! คุณมันคนทรยศ!
ลั่วหานหัวเราะเหอะๆเล็กน้อย คิ้วทั้งสองที่ดูสวยน่ารัก ใบหน้าที่เป็นสีดอกท้อสวยงาม “สามี คุณมาแล้ว”
หลงเซียวหน้าบึ้ง ทั้งรักสุดใจทั้งโมโห แต่ถึงอย่างไรความโมโหก็พ่ายแพ้ให้กับความรักและทะนุถนอม เขาโน้มตัวเข้าใกล้เธอ ลูบผมของเธอ ปาดที่แก้มของเธอ ลูบๆที่ท้องน้อยของเธอ “ยังเจ็บอยู่ไหม?”
ลั่วหานส่ายหน้า “ไม่เจ็บ เดิมทีก็ไม่เจ็บ หมอซุนพูดไร้สาระใช่ไหม? คำพูดของหมอนั่นไม่ต้องเชื่อ หมอก็ชอบพูดโม้อาการของโรค หลอกเงินของคนในครอบครัว!”
สีหน้าท่านเซียวมืดครึ้ม “พูดจาเหลวไหล! เขากล้าหลอกฉัน? หมอซุนบอกว่าตอนที่คุณมาหาสถานการณ์รุนแรงมาก เกิดเรื่องอะไรขึ้น?”
หมอซุนบ้า กลับไปต้องใส่ซิปที่ปากให้เขาสักอันนึง!
ลั่วหานยังให้น้ำเกลือไม่ทันเสร็จ สามารถใช้เพียงมือข้างเดียวลูบมือเขาเท่านั้น “เอาล่ะ เมื่อตอนที่มาฉันเจ็บมากจริงๆ คนทั้งหมดล้วนไม่ดีแล้ว แต่ก็ไม่ใช่ความผิดฉันนะ!”
หลงเซียว: “…….ไม่ใช่ความผิดคุณหรอ? ความผิดใครล่ะ? ฉันไม่ยกโทษให้เขา!”
เชี่ย!
โมโหอย่างมาก ถ้าฟางหลิงหยู้อยู่ ก็พุ่งตรงออกนอกหน้าต่างไปอย่างรวดเร็วใช่ไหม?
ลั่วหานกล่าวอย่างเกียจคร้าน “ความผิดของคุณ ทั้งหมดล้วนเป็นความผิดของคุณ ฉันเป็นทุกข์จนถึงขนาดนั้น ล้วนคือคิดถึงความคิดของคุณ!”
หลงเซียว: “………”
เรียนรู้คำพูดได้อย่างรวดเร็ว!
ลั่วหานเห็นเวลายังเช้าอยู่ ธุระของเขาทางด้านนั้นมีมาก จึงกล่าวว่า “เอาล่ะ ฉันดีขึ้นแล้ว คุณกลับไปเถอะ หลังเลิกงานค่อยเข้ามา หมอพยาบาลอยู่ทั้งนั้น ฉันไม่เป็นไรหรอก”
หลงเซียวจะเห็นด้วยไหม?
“ฉันออกมาเพื่ออยู่เป็นเพื่อนคุณ บริษัทจัดการเรียบร้อยแล้ว มีปัญหาสามารถโทรมาหาฉันได้ ตอนนี้คุณสำคัญที่สุด” หลงเซียวกดที่ไหล่ของเธอ ปากบางๆจูบลงที่หน้าผากของเธอ
เธอไม่แน่ใจถึงสาเหตุ เขาไม่ถามก็แล้วกัน หมอซุนบอกว่าเธอมีอารมณ์ตื่นเต้นที่มากเกินไปทำให้เกิดอาการแพ้ท้อง เขาอยากจะรู้ต่างหาก ตกลงคือใครกันที่คิดถึงจะตายแล้ว!
แสงแดดกำลังพอดี แสงอาทิตย์ตอนบ่ายฤดูใบไม้ร่วงที่อบอุ่น สาดแสงลงมาจากชั้นบรรยากาศที่อยู่ไกลๆ แสงสีทองบนพื้น กลิ่นหอมอ่อนๆของห้อง
“คุณมาอยู่ที่นี่ อะไรก็ทำไม่ได้ สิ้นเปลืองเวลามาก ตอนนี้เป็นช่วงวิกฤตของบริษัทฉู่ซื่อ คุณควรจะเห็นแก่ส่วนรวม”
หลงเซียวมองๆห้องผู้ป่วย มองไปรอบๆก็พบกับหนังสือสองสามเล่ม จึงดึงออกมาเล่มนึง “เจ้านาย คุณทนเห็นฉันพักผ่อนแบบนี้ไม่ได้หรอ? ฉันจำได้ว่าช่วงแรกที่คุณให้ฉันไปบริษัทฉู่ซื่อ สัญญาว่าจะให้เงินเดือนและสวัสดิการกับฉันอย่างดีที่สุด แถมยังเป็นภรรยาที่งดงามดั่งบุปผา? ทำไม? หลอกฉันให้ขึ้นเรือโจรสลัดแล้วคิดจะเบี้ยวหรอ?”
ลั่วหาน: “………..”
คุณชนะแล้ว
ดึงผ้าม่านทั้งหมดเปิดออก ทำให้แสงอาทิตย์ส่องแสงเข้ามา ส่องผมของลั่วหานให้เป็นแสงเรืองรองหลากสี
“ไม่ใช่อะไรก็ทำไม่ได้ ฉันสามารถให้การอบรมสั่งสอนลูกของเราก่อนคลอดได้” หลงเซียวจริงจังอย่างมาก
ลั่วหาน “ท่านเซียว ทารกในครรภ์สองเดือนกว่า จะอบรมสั่งสอน?”
“ทำไมจะไม่ได้ล่ะ?”
ได้ ได้ ได้!
หลงเซียวนั่งลงบนเก้าอี้ นำขาที่เรียวยาวซ้อนทับกัน นำมือกางออกแล้ววางลงที่ฝ่ามือซ้าย มือขวาพลิกทีละหน้าทีละหน้า “คุณอยากฟังอะไร? ฉันจะอ่านให้คุณฟัง”
ลั่วหานเหม่อมองแสงอาทิตย์ที่ส่องลงมายังหลงเซียวอย่างเคลิบเคลิ้ม แสงสะท้อนกลับเขาที่นั่งอยู่ ภาพเงาที่สวยงามชวนให้หลงใหล “ดีทั้งหมด” ต้องการเพียงแค่คุณอ่าน
หลงเซียวและเธอมองตากัน ยิ้มๆ “ไม่เลือกเฉพาะของที่ชอบ เลี้ยงง่ายดี”
พ่อง!
นี่คือหนังสือที่รวบรวมกลอนบทกวีเล่มหนึ่ง หลงเซียวอ่านบทประพันธ์ร้อยแก้วของจูจือชิงก่อนรอบนึง
พลิกหน้าไปเห็นบทกวีหนึ่งบท “บทกวีของหลี่หยวนเซิ่ง 《ฉันอยากสิ้นเปลืองเวลาไปกับคุณ》”
ลั่วหานพยักหน้า “ฉันชอบอันนี้”
“โอเค” คุณชอบ เขาก็จะอ่านอย่างตั้งใจแน่นอน เพียงแต่เขายังไม่ทันได้อ้าปาก มือถือก็สั่น เขามองแวบนึง แล้วจึงนำมือถือเปลี่ยนเป็นโหมดเครื่องบิน
ลั่วหาน: “………”
เสียงอ่านช้าๆความอ่อนพริ้วของความสงบหลงเซียวปานประหนึ่งไวน์แดงที่แอลกอฮอล์ต่ำ “ฉันอยากสิ้นเปลืองเวลาไปกับคุณ ดังเช่นก้มหน้ามองปลา เช่นนำถ้วยชาวางไว้บนโต๊ะ………ยังอยากสิ้นเปลืองไปกับการดูตะวันตกดินด้วยกัน เช่นเดินเล่น ตลอดจนเวลาผ่านไปถึงดวงดาวเต็มท้องฟ้า…….”
เสียงของหลงเซียวราวกับเหล้าที่ตื่นแล้ว ระเหยออกมาจากในแก้ว กลิ่นหอมนั้นซึมซับไปในทุกๆเซลล์ ลมพัดเข้ามา เปิดผมหน้าม้าที่หน้าผากของเขา เขาพยักหน้าเล็กน้อย ขนตายาวๆดูดีมาก ลั่วหานมองด้วยจิตใจที่อ่อนไหว กลายเป็นเหล้าหยดนึงในแก้วเหล้าของเขา
เขานำการประพันธ์บทกวีด้านหลังมาดูต่อหลายรอบ ด้วยความจำที่ดีจึงท่องได้ทั้งหมดแล้ว ดังนั้นจึงถือโอกาสวางหนังสือ มองไปที่ตาของลั่วหาน ริมฝีปากของเธอ กล่าวต่อว่า: “ฉันอยากสิ้นเปลืองเวลาไปด้วยกันกับคุณ……จนกว่าทั้งหมดจะสูญเปล่า อยู่ด้านหลังของพวกเรา กางปีกบางๆออก”
ลั่วหานหมกมุ่นอยู่ในโลกที่สับสนวุ่นวายของสายตาเขา หนังสือเล่มนั้นการประพันธ์บทกวีสวยงาม ถูกผสมด้วยน้ำเสียงของเขาก็ยิ่งกินใจ
ปลายนิ้วของเขาอบอุ่นมาก ฝ่ามือก็อบอุ่น คล้ายกับฤดูใบไม้ผลิ มือใหญ่พลิกไป จับที่นิ้วเรียวเล็กของเธอ จูบลงที่ริมฝีปาก “ลั่วลั่ว ฉันอยากเสียเวลาไปกับคุณแบบนี้ ดังเช่นตอนนี้”
ดังเช่นตอนนี้ มันดีจริงๆ!
ลั่วหานซาบซึ้งใจจนจะร้องไห้ ดวงตาที่แดงเปียกชุ่ม “ฉันไม่ต้องการเสียเวลาไปกับคุณ ฉันอยากทำให้ทุกวันที่ผ่านไปมีความหมาย! ต้องการเติมเต็มทุกนาที ทุกวินาที”
“จริงๆแล้ว ต้องการแค่อยู่ด้วยกันกับคุณ ไม่คิดทำอะไรเลย ก็ไม่นับว่าเสียเวลา ทุกนาทีทุกวินาทีของฉัน มีคุณอยู่ก็เหมือนถูกเติมเต็มไปแล้ว”