ประธานหยิ่งยโสของฉัน - ตอนที่ 602
แต่บางเรื่องเราก็ไม่มีไฟล์แล้วเหมือนกัน
ตอนที่ 602 ศัตรูของศัตรูก็คือเพื่อน
ดวงอาทิตย์สาดแสงยามอัสดง ย้อมสีเมฆให้เป็นสีแดง
รถเก๋งBMWสีดำคันนึงขับมาถึงด้านนอกประตูของโรงแรมฮิลตัน
บริกรรีบก้าวเท้าเดินเข้าไป โค้งตัวแล้วเปิดประตูด้านหลังของรถยนต์
“คุณเควิน เชิญครับ”
ตู้หลิงเซวียนลงจากรถ ด้วยท่าทีที่สุขุมไม่รีบร้อน แฝงด้วยความมั่นใจของคนชนชั้นสูงเล็กน้อย เขานำกระเป๋าเอกสารในมือส่งให้ถึงมือบริกร “ช่วยฉันนำเอกสารเหล่านี้ส่งไว้ที่ห้อง ขอบคุณ”
เขาพูดภาษาอังกฤษ ทั้งคล่องแคล่วทั้งช่ำชอง เมื่อยื่นมือออกก็เผยให้เห็นกระดุมแขนเสื้อของเสื้อเชิ้ตสีขาวสะอาด กระดุมแขนเสื้อฝังเพชรเม็ดเล็กๆหักเหกับแสงอาทิตย์ในยามเย็นเล็กน้อย ส่องแสงอย่างรุนแรง
“โอเคครับ”
บริกรนำกระเป๋าเอกสารและกระเป๋าเดินทางทั้งหมดของเขาไป เควินจัดระเบียบเสื้อสูท ยืนสูงตระหง่านเช่นนี้อยู่ข้างรถ ยกนาฬิกาข้อมือขึ้นมาดูเวลา หนึ่งทุ่มตรง
รอไม่ถึงหนึ่งนาที รถที่ขับอยู่ด้านหน้าไม่ไกล รถLincolnคันยาวสีดำ แบบรถที่องอาจมาถึงประตูด้านนอก ดึงดูดสายตาอย่างมากและบดบังแนวโน้มของรถหรูโดยรอบอยู่ไม่น้อย
ตู้หลิงเซวียนยิ้มมุมปากเล็กน้อย เดินมุ่งไปยังรถยนต์ที่จอดลง
คนขับรถลงจากรถแล้วเปิดประตู “คุณตู้ เชิญขึ้นรถครับ”
ตู้หลิงเซวียนพยักหน้า โค้งตัวเข้าไปในรถ นั่งลงบนเก้าอี้หนังแท้ ในรถที่กว้างขวางก็มองเห็นเหลียงจ้งซุนที่นั่งอยู่คู่กับคนขับ
ตู้หลิงเซวียนรู้ว่าเหลียงจ้งซุนคือคนที่มีบทบาทสำคัญข้างกายของหลงถิง ดังนั้นจะต้อวทำการทักทายกับเขาสักหน่อย “ผู้ช่วยเหลียง ไม่เจอกันนาน คิดไม่ถึงว่าคุณจะมารับฉันด้วยตนเอง”
เหลียงจ้งซุนปฏิบัติกับใครก็ล้วนมีท่าทีที่ถ่อมตัวและสุภาพอ่อนโยน รอยยิ้มเล็กน้อยของเขาที่ฝึกฝนมาหลายสิบปี มองไม่ออกว่าจริงหรือหรอก แต่รู้สึกได้ถึงความผ่อนคลายอย่างมาก
“ประธานตู้เกรงใจแล้ว คุณคือแขกผู้มีเกียรติของพวกเรา เดิมทีแล้วท่านประธานก็อยากจะมารับคุณด้วยตนเอง มีธุระชั่วคราวจึงทำให้ล่าช้า หวังว่าประธานตู้จะไม่ถือสา”
ที่บอกว่ามีธุระชั่วคราว ก็เพียงแค่พูดหลบเลี่ยงก็เท่านั้น
ตู้หลิงเซวียนนั่งตัวตรงมาก ขาวเรียวยาวทั้งสองข้างห้อยลงมา รถยนต์ขับไปด้วยความสุขุมและมั่นคงอย่างยิ่ง ไม่โยกถึงเขาเลยสักนิด
“ประธานหลงงานรัดตัว ฉันไม่กล้ารบกวนเขาง่ายๆหรอก เพียงแต่ ผู้ช่วยเหลียงสามารถบอกกับฉันได้ไหม ขณะนี้MBKตกลงใครเป็นคนกำหนดแผนการ? การรายงานข่าวของนักข่าวสื่อมวลชนวุ่นวายมากจริงๆ เหอะๆ มีคนบอกว่าขณะนี้คุณหลงยี่กำลังมีบทบาทที่เหมาะสมในMBK……..”
เขาเปิดประเด็นเสร็จ ก็ไม่ได้พูดต่อ แต่ทว่าใช้สายตามองปฏิกิริยาตอบโต้ของเหลียงจ้งซุนจากในกระจกมองหลัง
เหลียงจ้งซุนกล่าวอย่างยิ้มแย้มว่า “ประธานตู้เป็นคนฉลาด คนที่ฉลาดกับข่าวเล็กๆน้อยๆนี้แล้ว เป็นธรรมดาที่จะรู้วิธีเลือกอย่างมีสติปัญญา อีกอย่าง ฉันเชื่อว่าเมื่อเปรียบเทียบกับที่ประธานตู้ได้ยินมาแล้ว บางทีคุณก็ควรจะเชื่อในสิ่งที่ตนเองเห็น”
ตู้หลิงเซวียนกล่าว “ผู้ช่วยเหลียงพูดถูก ฉันได้รับการสั่งสอนแล้ว” เหลียงจ้งซุนแค่ยิ้มๆเท่านั้น
ตู้หลิงเซวียนถามคำถามเหล่านี้ออกมา เห็นจุดประสงค์ได้อย่างชัดเจนว่า เขากำลังทดลองหยั่งเชิง แล้วเขายังกำลังเยาะเย้ยถากถางตระกูลหลง
อย่างรวดเร็วมาก รถยนต์ก็มาถึงคฤหาสน์ของตระกูลหลง ตู้หลิงเซวียนก็ได้รู้จักแล้วว่า ที่เรียกว่า “ได้เห็นด้วยตนเอง หมายความว่ายังไง
รถเก๋งLincolnเข้ามาจอดยังลานคฤหาสน์ของตระกูลหลง ถึงแม้ว่าจะเป็นฤดูใบไม้ร่วง คฤหาสน์ตระกูลหลงก็ยังมีดอกไม้บานตามฤดูกาลอยู่ไม่น้อย ดอกเดซี่และดอกดาวเรืองเป็นหลัก อาคารหลักคฤหาสน์สามชั้นตกแต่งสไตล์ยุโรป
ตู้หลิงเซวียนเดินออกมาจากประตูรถ เห็นหลงจื๋อที่ยืนเผชิญหน้าอยู่บนขั้นบันได
คนทั้งสองต่างฝ่ายต่างมองซึ่งกันและกันในระยะห่างระยะนึง ปฏิกิริยาโต้ตอบของตู้หลิงเซวียนเรียบเฉยเป็นธรรมชาติ แต่ปฏิกิริยาของหลงจื๋อช่างคนละเรื่องกันเลย!
ทำไมถึงเป็นตู้หลิงเซวียน! พ่อบอกว่าวันนี้จะมีแขกมาคนนึง แต่ยังไงเขาก็นึกไม่ถึงเลยว่า คาดไม่ถึงว่าคนคนนี้ก็คือตู้หลิงเซวียน!
คนที่จีบพี่สะใภ้เมื่อก่อน คู่หมั้นของแอนน่า ตู้หลิงเซวียนที่มีความเกี่ยวข้องในการแข่งขันทางธุรกิจกับพี่ใหญ่!
ในใจของหลงจื๋อไตร่ตรองความเหมาะสมเล็กน้อย จึงยกเท้าก้าวไปยังด้านหน้าสองก้าว จึงยื่นมือกล่าวยิ้มอย่างเป็นมิตรว่า “ประธานตู้ สวัสดีครับ”
ตู้หลิงเซวียนก้าวฝีเท้าออกไป ทันทีก็เช็คแฮนด์กับหลงจื๋อ “เคยได้ยินมานานแล้วว่าคุณชายรองหลงยังหนุ่มและมีอนาคต คิดไม่ถึงว่าจะหนุ่มขนาดนี้ ประธานหลงทำให้ฉันต้องขยี้ตามองใหม่ เป็นเกียรติที่ได้พบ เป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้พบ”
ถึงแม้ว่าจะเป็นคำชมเชยทั้งหมด แต่คนที่ฟังกลับไม่รู้สึกถึงการประจบสอพลอ ไม่ทะนงตัวเลยสักนิด แต่กลับฟังสบายมาก
นี่คือพื้นฐานของการมีอำนาจ!
คนที่มีความคิดอุดมการณ์ทั้งสองคนพูดยิ้มพลางเดินเข้าห้องโถงคฤหาสน์ หลงถิงนั่งอยู่บนโซฟายาวย้อนยุคสไตล์ยุโรป ถ้วยชาสามถ้วยวางบนโต๊ะไม้แดงยาล้อมรอบไปด้วยโซฟาสามตัว ด้านในเป็นชาแดงเอิร์ลเกรย์ที่ชงไว้
ตู้หลิงเซวียนเข้าใจถึงดีไซน์และการตกแต่งจัดเรียงของสถานที่ทั้งหมด รอบๆไม่พบหลงยี่และหลงเซิ่ง ในใจเขาก็พอที่จะเข้าใจแล้วว่า ดูท่าตระกูลหลงนี้——มีความน่าสนใจจริงๆ!
“ประธานหลง สวัสดีครับ”
หลงถิงซุกซ่อนสายตาที่เยือกเย็นและอุบายแผนการเอาไว้ ยิ้มออกมาด้วยความเมตตาและอ่อนโยน “ประธานตู้ต้องสุภาพอะไรกับฉัน? วันนี้พวกเราอยู่ในบ้าน ไม่ต้องแบ่งตำแหน่งหน้าที่ แค่พูดคุยดื่มชากัน เสี่ยวตู้ รีบนั่งลงเถอะ”
หลงจื๋อสังเกตจากสีหน้าและคำพูด แต่ก็ไม่เข้าใจว่าตกลงการพบหน้ากันในวันนี้มีกี่ความหมาย
ตู้หลิงเซวียนนั่งลง ทั้งทั้งสามนั่งบนโซฟาสามตัว ต่างคนต่างก็ยกน้ำชาขึ้นมาลิ้มรส
ก่อนอื่นก็ประเมินค่าชาแดงที่ดื่มเข้าไปอึกนึง จากนั้นก็ทักทายปราศรัยถึงคนในบ้านของทั้งสองฝ่าย คำพูดส่วนใหญ่เป็นคำพูดที่ไม่ได้เกี่ยวข้องสำคัญ
บรรยากาศภายนอกดูแล้วเป็นการคุยเล่นเรื่อยเปื่อยอยู่ครึ่งชั่วโมง ในที่สุดหลงถิงก็ตัดเข้าประเด็นหลัก
“เสี่ยวตู้ ช่วงนี้คุณลงทุนทางการเงิน หลักๆคือโครงการไหนบ้าง?”
หลงจื๋อหยิบถ้วยชามาปิดครึ่งนึงของใบหน้าตนเอง หลับตาลง สะท้อนเงาในน้ำ
ตู้หลิงเซวียนกล่าวว่า “ธนาคาร การบริหารการเงิน การลงทุน สัดส่วนของอสังหาริมทรัพย์ก็มีประมาณร้อยละยี่สิบ”
นิ้วมือของหลงจื๋อบีบแก้วแน่น แอบชำเลืองมองหลงถิง พอนัดตู้หลิงเซวียนมาพบที่บ้าน ยังพูดด้วยความสุภาพขนาดนี้ คงไม่ใช่จุดประสงค์ที่จะร่วมมือกับตู้หลิงเซวียนนะ!
แต่ตู้หลิงเซวียนคือคู่ต่อสู้แข่งขันของพี่ใหญ่!
หลงถิงพยักหน้าติดต่อกัน คล้ายกับว่าชื่นชอบอย่างมากในรูปแบบการบริหารธุรกิจของเขา “ฉันได้ยินมาว่า คุณกำลังลงทุนที่บริษัทไห่ลุน มาจากการแข่งขับบริษัทฉู่ซื่อหรอ?”
ตู้หลิงเซวียนหัวเราะเหอะๆ “ธุรกิจน่ะ ยากที่จะหลีกเลี่ยงการแข่งขัน เพียงแค่บังเอิญที่ฉันได้พบกับคุณชายใหญ่ของคุณ ต้องขอโทษด้วยจริงๆ”
“ไม่ๆๆ คุณตู้สามารถบีบบังคับหลงเซียวและบริษัทไห่ลุนเพื่อบรรลุข้อตกลงได้ นี่คือการแสดงออกของความสามารถคุณ ลูกชายฉันความสามารถไม่เท่าคนอื่น เป็นความผิดของเขาเอง”
หลงจื๋อสังเกตเห็นถึงอะไรบางอย่าง!
พ่อเชื้อเชิญตู้หลิงเซวียน ดูแล้วเขาจะเคยพ่ายแพ้ต่อพี่ใหญ่มาก่อน!
“พ่อ พี่ใหญ่ฉันลงทุนล้มเหลวที่เมืองหนิงไห่ เกรงว่ายังมีสาเหตุอื่นๆอีก ความสามารถของคุณตู้ฉันไม่สงสัย แต่ว่าการแข่งขันเรื่องนี้ บางครั้งยังมีปัจจัยอื่นๆอีก”
ดังเช่นการใช้กลอุบายหักหลัง เช่นเจตนาไม่ดีในการเพิ่มลดราคา เช่นหาโอกาสในการฉกฉวยธุรกิจอย่างลับๆ
หลงถิงจ้องมองไปยังเขา “ฉกฉวยก็คือฉกฉวย ไม่มีด้วยเหตุผลอะไรล้วนก็เป็นข้ออ้าง!”
หลงจื๋อกัดฟันอย่างไม่สบายใจ ไม่พูดอะไรอีก
ตู้หลิงเซวียนกล่าวว่า “ดูเหมือนว่าคุณชายรองจะศรัทธาคุณหลงเซียวอย่างมาก”
“แน่นอน!” หลงจื๋อพูดโดยไม่ต้องคิด
หลงถิงจ้องมองเขาอีก กล่าวต่อกับตู้หลิงเซวียนว่า “เสี่ยวตู้ ฉันมีโครงการความร่วมมือนึงที่นี่ เมืองหลวงมีบริษัทไม่น้อยล้วนเป็นบริษัทที่กำลังแข่งขันกัน โครงการนี้ประสบความสำเร็จมาแล้วครั้งนึง นำมาซึ่งผลกำไรที่มากพอดูเลยทีเดียว ซึ่งแน่นอน บริษัทฉู่ซื่อก็กำลังแข่งขันช่วงชิง”
หลงจื๋อเบิ่งตาตะลึงงันทันที “พ่อ?”
หลงถิงไม่สนใจปฏิกิริยาตอบโต้ของหลงจื๋อ หันไปหยิบแฟ้มเอกสารจากในลิ้นชักของโต๊ะไม้แดง “นี่คือข้อมูลของโครงการ ด้านในมีผู้เข้าแข่งขันจำนวนมาก ที่ได้เปรียบมากที่สุดก็คือบริษัทฉู่ซื่อและบริษัทซุนซื่อ คุณต้องการเพียงแค่ชนะพวกเขา……”
ตู้หลิงเซวียนไม่รีบร้อนที่จะรับ แต่กลับจิบชาอีกอึกนึง “โอ้? เรื่องดีๆขนาดนี้ ทำไมประธานหลงถึงต้องการให้ฉันล่ะ?”
ดวงตาของหลงถิงยิ้มเผยให้เห็นริ้วรอยเล็กน้อย “ศัตรูของศัตรู ก็คือเพื่อน คุณฉลาดขนาดนี้ ไม่เข้าใจคงเป็นไปไม่ได้”
……
“พ่อ! ทำไมคุณมอบโครงการนี้ให้กับตู้หลิงเซวียน! คุณก็รู้ชัดเจนว่าเขาคือศัตรูที่มีกำลังมากของพี่ใหญ่!”
หนึ่งชั่วโมงให้หลัง หลงจื๋อที่อยู่ที่ห้องรับแขกกับหลงถิงเกือบจะทะเลาะวิวาทกันขึ้นมา หลงถิงวางถ้วยชาลงอย่างเย็นชา ลุกขึ้นแล้วตบที่บ่าของหลงจื๋อ “เสี่ยวจื๋อ ตอนนี้คุณและพี่ใหญ่ของคุณอยู่ในช่วงสถานการณ์แข่งขัน พวกคุณคือคู่ต่อสู้! และตู้หลิงเซวียนปืนหนึ่งกระบอกนี้ เขาสามารถกวาดล้างอุปสรรคเหล่านี้ให้ราบคาบได้”
“นี่คือการหักหลังที่ชั่วร้าย! ไม่ใช่การแข่งขัน! ฉันไม่เห็นด้วย ฉันจะบอกพี่ใหญ่!” หลงจื๋อหันตัวกลับด้วยท่าทางโกรธ จะโทรศัพท์หาหลงเซียว
“เสี่ยวจื๋อ!” หลงถิงตำหนิด้วยความโกรธ “เสี่ยวจื๋อ พี่ใหญ่คุณก็คือพยัคฆ์ตัวนึง คุณไม่สามารถชนะเขาได้! ครั้งนึงคุณก็พ่ายแพ้มาแล้ว MBKก็เป็นของเขา ฉันจะบอกคุณให้หลงจื๋อ ถ้าMBKพ่ายแพ้ ฉันจะทำให้คุณไม่ได้พบเจอกับแม่ของคุณไปตลอดชีวิต!”
หลงจื๋อกำโทรศัพท์ในมือแน่น “คุณพูดอะไร?” พ่อลูกจ้องมองกัน กลิ่นอายของความเยือกเย็นปกคลุมลงมา การเข้าครอบครองของเผด็จการไร้ซึ่งออกซิเจนโดยรอบ “ฉันพูดชัดเจนมากแล้ว คุณก็ฟังได้เข้าใจอย่างมาก เสี่ยวจื๋อ ฉันและแม่ของคุณสร้างMBKมา ยังเทียบกับเขาไม่ได้?! อีกอย่าง คุณฟังนะ ถ้าหลงเซียวพ่ายแพ้ เขายังมีบริษัทฉู่ซื่อ บริษัทโม่ซื่อ ถ้าคุณพ่ายแพ้ คุณจะสูญเสียMBK สูญเสียแม่ของคุณ สูญเสียทุกสิ่งทุกอย่าง!”
ดวงตาของหลงจื๋อแสดงให้เห็นถึงความเศร้าและความโกรธ “นี่คือคุณบังคับฉัน!”
“แล้วแต่คุณจะเข้าใจยังไง แต่นี่ก็คือกฎการอยู่รอดของธุรกิจ ผู้ที่เหมาะสมที่จะมีชีวิตรอด”
นี่คือกฎการอยู่รอด ยี่สิบกว่าปีที่ผ่านมา เขาคอยอบรมสั่งสอนกับหลงเซียวมาโดยตลอด ขณะนี้ได้ถูกนำมาใช้กับหลงจื๋อ
——
โรงพยาบาลหวาเซี่ย
ลั่วหานกำลังหลับอยู่ ในห้องผู้ป่วยเงียบสงบมีเพียงเสียงกรอบแกรบของลมที่พัดผ่านผ้าม่าน
ในขวดแจกันดอกไม้ที่หัวเตียงปักเต็มไปด้วยดอกกุหลาบและดอกลิลลี่ กลิ่นหอมโปรยปรายไปทุกซอกทุกมุม
หลงเซียวออกมาจากเตียงผู้ป่วย เดินไปถึงด้านหน้าหน้าต่างที่ยาวจรดพื้นของห้องรับแขก จึงนำมือถือมาปรับเอาโหมดเครื่องบินออก ต่อจากนั้นก็ดูเอสเอ็มเอสที่ได้ส่งมาหลายข้อความ
กู้เยนเซิน: “บริษัทไห่ลุนเห็นชอบแล้ว พวกเขาตกลงที่จะร่วมมือกับโครงการของพวกเรา ตอบโต้การแข่งขันด้วยเจตนาร้ายของตู้หลิงเซวียน”
กู้เยนเซิน: “แบบแปลนโครงร่างตึกสูงบริษัทไห่ลุน ส่งไปในกล่องข้อความของคุณแล้ว หลังจากดูเสร็จแล้วตอบกลับพวกเขาด้วย”
หลงเซียวตอบกลับไปคำนึง “ได้”
เอสเอ็มเอสของจี้ตงหมิง “เจ้านาย เสิ่นเหลียวได้ส่งบุคคลภายในไปตรวจสอบเรื่องความล้มเหลวของโครงการ ฉันอยู่ที่เมืองเจียงเฉิงแล้วเพื่อใช้วิธีเบี่ยงเบนสายตา”
“เจ้านาย ดูเหมือนว่าเสิ่นเหลียวและเสิ่นคั่วจะคิดหาเจิ้งเฉิงหลินเพื่อปกป้องคนผิด แต่เจิ้งเฉิงหลินปฏิเสธ”
เหอะ!
หาคนของเขาพบที่นั่นแล้ว!
หลงเซียวตอบกลับคำนึง “อืม”
ต่อจากนั้น เอสเอ็มเอสของเจิ้งซิน “ท่านเซียว วันนี้เสิ่นเหลียวและเสิ่นคั่วมาหาพ่อของฉัน หวังว่าพ่อฉันจะนำโครงการส่องมอบให้เบื้องบนพิจารณาใหม่อีกครั้ง แต่พวกเราปฏิเสธไปแล้ว เพียงแต่ฉันอยากจะรู้ว่า เวลานี้ทำไมคุณถึงต้องการที่จะยุติโครงการของตระกูลเสิ่น?”
ด้านบนผ่านไปแล้วสิบกว่านาที เป็นเอสเอ็มเอสที่สองของเจิ้งซิน “ท่านเซียว สามารถบอกฉันถึงสาเหตุได้ไหม??”
หลงเซียวกอดอกด้วยแขนข้างเดียว ยืนอยู่ที่หน้าหน้าต่างมองดวงดาวที่เต็มท้องฟ้าด้านนอก ดวงดาวดั่งหยกชิ้นเล็กชิ้นน้อย ตกแต่งความมืดยามค่ำคืนของสีฟ้า
“ง่ายมาก โครงการของตระกูลเสิ่นรุกรานผลประโยชน์ทางธุรกิจ”
เขาเพิ่งจะส่งออกไป คาดไม่ถึงเอสเอ็มเอสของเจิ้งซินก็ตอบกลับมาทันที “ท่านเซียว มีเรื่องรบกวนเล็กน้อย เกรงว่าคุณจะต้องมาที่เมืองเจียงเฉิงด้วยตนเองอีกรอบนึง”