ประธานหยิ่งยโสของฉัน - ตอนที่ 609
ตอนที่ 609 ภูเขาห้านิ้ว
เขารู้แล้วจริงๆหรอ?
คิดๆไปแล้วก็ใช่ ถ้าหยวนชูเฟินฟื้นแล้ว เธอต้องบอกหลงเซียวอย่างแน่นอน นี่ก็อยู่ในการคาดการณ์ของเขา
หลงเซิ่งยิ้มอย่างไม่หวาดหวั่น ชาในถ้วยถูกส่งเข้าริมฝีปากอีกครั้ง “ดูเหมือนว่าแม่ของคุณจะบอกทุกอย่างกับคุณหมดแล้ว”
หลงเซียวยังคงเอนกายบนโซฟาดังเดิม สายตาเย็นชาไม่สะทกสะท้าน “ลุงน่าจะเตรียมตัวไว้ดีแล้ว ในเมื่อเป็นอย่างนี้เราก็มาเปิดใจคุยกัน คุณต้องการหุ้นของMBK จุดประสงค์คืออะไร?”
คำพูดของเขาชัดเจนจริงๆ ตรงไปตรงมาไม่อ้อมค้อม พูดอย่างตรงประเด็น
เห็นสถานการณ์ หลงเซิ่งก็ไม่ได้เล่นต่อสู้กับเขา “หึหึ หลงเซียว ลุงไม่ใช่คนถนัดในการบริหารบริษัท เคยทำการค้าล้มเหลวไม่เป็นท่า ยังดีที่มีเงินออมอยู่บ้าง ดังนั้นอยากจะอาศัยอยู่ภายใต้การบริหารของMBK เก็บเงินไว้ใช้ยามเกษียณ” หึ!
เกษียณ? หุ้น3เปอร์เซ็นต์ของMBK เขาตั้งใจจะเลี้ยงดูลูกๆหลานๆให้ครบสามชั่วอายุคนเลยหรอ!
หลงเซียวพูดรับคำพูดของเขาอย่างใจเย็น “ความคิดของลุงฟังดูดีมาก หารายได้อย่างเงียบๆ ยังสามารถถือโอกาสเข้าขบวนผู้ถือหุ้นของMBKได้ด้วย ถ้าต่อไปสามารถดึงคนที่มีปณิธานเดียวกันมาเข้าพวกอีกสักหน่อย ถ้าวันไหนไม่ระวังอาจกลายเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ที่สุดของ MBK อืม……พูดแบบนี้ คุณลุงก็อยู่ไม่ห่างไกลจากตำแหน่งท่านประธานของ MBKเลยนะ!”
หลงเซียวพูดคำพูดอยู่พักหนึ่งอย่างตามแต่อารมณ์ เฉพาะในประโยคสุดท้ายก็เพิ่มโทนเสียงหนักขึ้น มองไปที่หลงเซิ่งด้วยดวงตาที่ยิ้มแย้ม
“ฮ่าฮ่า! ฉันไม่เข้าใจกับคำพูดนี้ของคุณ หุ้นส่วนจิ๊บจ๊อย 3 เปอร์เซ็นต์ จะนึกไปถึงตำแหน่งประธานได้อย่างไร? ช่างห่างไกลเหลือเกิน หลงเซียว คุณน่าจะให้เกียรติลุงมากเกินไปแล้ว อายุของลุง ไม่มีปณิธานที่ยิ่งใหญ่ขนาดนี้หรอก”
หลงเซิ่งรู้สึกว่าชาถ้วยนี้ไม่ดี หลงเซียวทำอย่างขอไปที
“ดูเหมือนว่าคุณลุงจะไม่แข่งขันกับใคร แม้แต่พ่อของฉันยังเคยโกหก แต่คุณไม่เคยโกหก จู่ลุงกลับมาจากออสเตรเลีย ก่อนใช้โรงงานยาเป็นกระแสเพื่อช่วงชิงโรงพยาบาลหวาเซี่ย ยังใช้ชื่อเสียงของ MBK เพื่อดึงดูดกลุ่มคนให้ออกไปลงทุนด้านนอก คุณลุงยุ่งขนาดนี้ จำเป็นต้องใส่ใจสุขภาพด้วย!”
หลงเซียวพูดจบ สายตาถี่ถ้วนไม่ได้ออกไปจากหน้าของหลงเซิ่งครู่หนึ่ง ทุกริ้วรอยของเขาอยู่ในสายตาของเขา ทุกการเปลี่ยนแปลงทางอารมณ์เล็กน้อยไม่สามารถหลีกหนีการจับกุมของเขาได้
รอยยิ้มของหลงเซิ่งไม่สงบนิ่งเหมือนเมื่อกี้ ความกลัวในใจ คาดไม่ถึงว่าหลงเซียวไม่เพียงแต่รู้ว่าเขาต้องการหุ้นMBK ยังรู้ว่าเขาแอบไปดึงคนของเมืองหลวงมาเป็นพวกด้วยหรอ?
หลงเซียวตรวจสอบเขา!
“หลงเซียว คุณพูดแบบนี้ ลุงน่าจะปฏิบัติตัวไม่ดี ลุงอยู่ศูนย์การค้าล้มลุกคลุกคลานมาหลายสิบปี ถึงกับไม่สามารถมีเพื่อนเก่าของตนเองได้เลยหรอ?”
“คุณลุงแกล้งทำเป็นไม่เข้าใจกับฉันงั้นหรอ? ก่อนหน้าคุณใช้ประโยชน์จากการตลาดของMBK สมรู้ร่วมคิดกับซัพพลายเออร์หลายรายอย่างลับๆ ติดสินบนให้ปลอมบัญชีให้กับMBK อีกอย่างติดสินบนให้ลงทุนตลาดการเงิน จากนั้นคุณลุงก็มองหาลงทุนกับเจ้าที่แน่นอน อย่าเผลอเอาของให้ใครไปแล้วอย่าหวังจะได้กลับคืนมา!”
ดวงตาที่ว้าลึกลงเพราะความแก่ชราแต่ฉับพลันหลงเซิ่งก็เบิกตากว้าง เขาตกตะลึงมองไปที่หลงเซียวทางด้านหน้าที่ทำตัวไม่เป็นทางการมาตลอด หัวใจเต้นอย่างบ้าคลั่งไม่อยู่กับเนื้อกับตัว “หลงเซียว คุณ……พูดอะไรอยู่?!”
หลงเซียวเอานิ้วแตะไปที่ขอบถ้วยชา น้ำชายังร้อนอยู่ อุณหภูมิของนิ้วมือของเขาถูกรีดด้วยขอบถ้วยชาที่ร้อน พูดอย่างช้าๆว่า “คุณลุงรู้สึกว่าวัดในเมืองหลวงเล็กเกินไป ไม่สามารถดูแลพระใหญ่รูปนี้ของท่าน ดังนั้นจึงนำเงินในมือไปลงทุนบริษัทไห่ลุนของเมืองหนิงไห่ เรื่องนี้เป็นไปได้ไหม?”
“คุณรู้ได้อย่างไร!”
ในที่สุดหลงเซิ่งไม่สงบอีกแล้ว เขากระแทกแก้วน้ำลงมา ชาสีน้ำตาลข้างในสั่นอย่างแรง เกือบกระเซ็นออกมา
ทว่าหลงเซียวยิ้มอย่างหยิ่งผยองมากขึ้น “ก่อนหน้าที่คุณลุงลงทุนกับบริษัทไห่ลุน คุณควรตรวจสอบให้ชัดเจนก่อนว่าบริษัทไห่ลุนเป็นไม้ใหญ่ที่คุณจะพึ่งพาอาศัยได้ไหม ตอนนี้ต้นไม้ใหญ่นี้ถูกถอนรากถอนโคน เกรงว่าเงินทุนของคุณลุงจะไม่กลับมาหรือเปล่า?”
ชั่วพริบตาใบหน้าของหลงเซิ่งที่แก่ก็ดูเหมือนห้าหกขวบ ริ้วรอยที่ปลายตาลึกลงอย่างเห็นได้ชัด หนังตาตกลง ปิดตาดำ พูดช้าๆและเป็นจังหวะว่า “คุณทำให้บริษัทไห่ลุนล้มละลายใช่ไหม? คุณแค่ต้องการทำลายฉัน ไม่เสียดายที่ทำให้บริษัทบริษัทไห่ลุนทั้งหมดล้มละลายหรอ?”
เมื่อเขาเห็นข่าวการล้มละลายของบริษัทไห่ลุน ก็ตกใจจริงๆ โดยทั่วไปเงินที่ลงทุนในบริษัทที่ล้มละลายนั้นยากที่จะกู้คืน นั่นก็บ่งชี้ว่าที่เขาพยายามทุ่มเททรัพย์สินเงินทองไปก่อนหน้านี้ทั้งต้องมอดไหม้ไป
“ลุงอาจจะไม่ไว้วางใจหลานชายจนเกินไป เราเป็นครอบครัว ขัดแย้งกันแต่ก็ตัดกันไม่ขาด ฉันจะสามารถทำกับลุงได้อย่างไร? การล้มละลายของบริษัทไห่ลุน น่าจะเป็นเพราะโชคไม่ดี กลุ่มการเงินเป็นแบบนี้มาตลอด กระแสวิพากษ์วิจารณ์ในวันนี้ พรุ่งนี้ก็ไม่สามารถควบคุมสถานการณ์ได้ ถูกไหม”
หลงเซียววิเคราะห์สถานการณ์กับหลงเซิ่งอย่างอดทน โบกไม้โบกมือแสดงท่าทีให้เขานั่งลง อีกทั้งแสดงท่าทีให้เขาดื่มชาต่อ ดูเหมือนว่าสำนักชงชาในวันนี้จะไม่ได้รับการยกย่องว่าเป็นงานเลี้ยงที่หงเหมิน
หลงเซิ่งเหมือนนั่งอยู่บนพรหมเข็ม เขารู้สึกสังหรณ์ใจว่าจุดประสงค์ของหลงเซียวไม่ใช่ง่ายๆ ร้อนอกร้อนใจพูดว่า “ในเมื่อคุณรู้ทั้งหมดแล้ว บอกจุดประสงค์ของคุณมา”
“ดีมาก คุณลุงเปิดเผยตรงไปตรงมาแล้ว จุดประสงค์ของฉันง่ายมาก……”
พูดถึงตรงนี้ หลงเซียวฉีกยิ้มเบาๆ พูดเย้ยหยันว่า “คุณลุงใช้อำนาจคุกคามแม่ของฉันให้มอบหุ้นMBKให้ นี่คือบัญชีที่หนึ่ง คุณลุงรีดไถเงินทุนของMBK นี่คือบัญชีที่สอง ตอนนี้มีสองบัญชีที่ต้องคิดด้วยกัน คุณลุงเป็นคนเข้าใจง่าย น่าจะไม่ปฏิเสธขอเรียกร้องต่อไปของฉัน”
นิ้วราวหยกของหลงเซียวหยิบกาน้ำชา ค่อยๆเติมชาในถ้วยของหลงเซิ่ง
หลงเซิ่งนั่งไม่ติดแล้วจริงๆ สายตาเคลื่อนไหวไปกับน้ำที่ไหลลงมา กัดฟันพูดว่า “ขอเรียกร้องอะไร?”
วางกาน้ำชาลง หลงเซียวหยิบถ้วยน้ำชาส่งให้เขา ชาถ้วยนั้น……ก็เหมือนเผือกร้อน(สถานการณ์ที่ยากจะรับมือ)!
“อย่างแรก เงินทุนของคุณลุงถูกบริษัทไห่ลุนติดดอย หาวิธีตามกลับมาให้ทั้งหมด ยังต้องมอบให้MBK ส่วนรายการบัญชีทำอย่างไร คุณลุงมีวิธีมากกว่าฉัน”
หลงเซียวยิ้มเล็กน้อย
ใบหน้าหลงเซิ่งหมองลง ไม่พูดจา
“อย่างที่สอง ขณะนี้คุณตู้หลิงเซวียนผู้ถือหุ้นรายใหญ่ที่สุดของบริษัทบริษัทไห่ลุนกำลังช่วงชิงโครงการพลังงานใหม่อยู่ คุณลุงใช้ประโยชน์เรื่องของบริษัทไห่ลุนจัดการให้เขาออกไป คุณลุงเคยเห็นข่าวทำนองเดียวกันนี้มามาก ไม่แปลกตาใช่ไหม?”
หลงเซิ่งเงยหน้าขึ้น ใบหน้าบึ้งตึงทำให้รอยเหี่ยวย่นคลายออก
“อย่างที่สาม ในเมื่อคุณรู้ว่าแม่ของฉันอยู่โรงพยาบาลหวาเซี่ย คิดว่าพ่อของฉันก็รู้เหมือนกัน สถานการณ์ของแม่ในใจคุณลุงก็ชัดเจนแล้ว ถ้ามีใครบุ่มบ่ามมารบกวนชีวิตของแม่ฉันอีก เกิดเรื่องอะไรขึ้นกับเธอ คุณลุงต้องรับผิดชอบแต่เพียงผู้เดียว!”
ดวงตาของหลงเซิ่งเบิกโพลง ฉับพลันถ้วนในมือก็เอียง น้ำข้างในหกออกมาซะส่วนใหญ่ ทำให้โต๊ะไม้เนื้อแข็งสีแดงเปียก ไหลติ๋งๆลงพื้น เสียงน้ำหยดเหมือนเสียงหัวใจของเขาที่เต้นรัว
“หลงเซียว ขอเรียกร้องของคุณมันมากเกินไปแล้ว!”
“มากไปหรอ? ฉันยังพูดไม่จบ” หลงเซียวส่งถ้วยมาที่ริมฝีปากของตนเอง จิบเล็กน้อย “อย่างที่สี่ ในเมื่อคุณลุงกับญาติฝ่ายพ่อมีความผูกพันธ์กับMBKขนาดนี้ ต่อไปต้องพึ่งพาพวกคุณช่วยออกแรงแทนบริษัท”
ประเด็นที่สี่ก็คือเตือนสติหลงเซิ่ง ยังกล้าลงมือกับMBKอีก เขาจะทำให้พวกเขาตายอย่างน่าอับอายอย่างแน่นอน!
ใบหน้าของหลงเซิ่งไม่น่าดูมากแล้ว
“อันสุดท้าย ลุงอยู่โรงพยาบาลรบกวนการพักผ่อนของแม่ฉัน ไม่ควรไปโรงพยาบาลเพื่อขอโทษเธอด้วยตนเองหรอ? อืม ใช่ หากเธอเต็มใจที่จะให้อภัยคุณ ก็คุยกับฉันอีกครั้งได้ เพียงแต่ว่า คุณก็เข้าใจนิสัยของแม่ฉัน เธอจริงจังมาก”
ห้าเงื่อนไขทับลงมาใส่หัวใส่หน้าโครมๆ บนหัวของหลงเซิ่งเทียบเท่ากับภูเขาห้านิ้ว ทับครืนๆให้เขาตาย!
เขาไม่เพียงแต่ต้องก่อกวนบริษัทไห่ลุน ยังต้องคายเงินทั้งหมดที่กินเข้าไปออกมา!
“หลงเซียว คุณทำเด็ดขาดเกินไปแล้ว! พูดอีกอย่างฉันก็เป็นลุงของคุณ!” เส้นเลือดดำบนหน้าผากของหลงเซิ่งเต้นเบาๆ เดือดดาลจนถึงที่สุดแล้ว
หลงเซียวลุกขึ้นอย่างสบายใจ ภาพบุคคลสูงใหญ่สง่างามยืนอยู่ที่สูง เสื้อสูทรีดเรียบไม่มียับสักนิด เขามองลงไปที่หลงเซิ่ง มือหนึ่งล้วงกระเป๋ากางเกง “ถ้าคุณไม่ใช่ลุงของฉัน ฉันมีร้อยวิธีที่จะทำให้คุณไม่มีคุณสมบัติพอที่จะนั่งคุยกับฉัน คุณลุงคิดๆดู ในปีนั้นตระกูลคางหายไปอย่างไรในชั่วข้ามคืน นึกดูอีกที ทำไมเสิ่นเหลียวถึงติดคุก? แล้วก็ เมืองเจียงเฉิงทางด้านนั้น……”
พูดแล้วหยุด เพียงพอที่จะทำให้หลงเซิ่งสั่นสะท้านด้วยความกลัว
หลงเซิ่งรู้สึกได้ทันทีว่าคำพูดเหล่านี้น่ากลัวมาก ในปีนั้นคางเฉิงเจี๋ยตายไม่ดี ต่อมา……
“โอเค ฉันรับปากคุณ ฉันจะทำห้าเรื่องที่คุณบอก” นี่หลงเซิ่งเพิ่งสังเกตว่า เหงื่อเย็นๆซึมออกมาจากหน้าผาก
หลงเซียวก้าวเท้ายาว เดินไปที่หน้าประตูแล้วหันกลับมาพูดว่า “ใช่แล้วคุณลุง เวลาเร่งด่วน สามวันพอไหม?”
สามวัน?
“พอ……พอแล้ว”
หลงเซียวยิ้มมุมปาก รอยยิ้มที่เข้าใจความหมายอย่างยิ่ง “งั้นก็รบกวนคุณลุงด้วย”
โครม!
พร้อมเสียงปิดประตู หลงเซิ่งเหมือนถูกคนเจากระดูกออกมาหมด นั่งนิ่งอยู่บนโซฟาไม่ขยับตัว
……
ห้องทำงานท่านประธาน
หลงเซียวยืนอยู่หน้าต่างยาวจรดพื้นมองออกไปไกล จี้ตงหมิงยืนอยู่ข้างๆ จี้ตงหมิงเตี้ยกว่าเล็กน้อย ไหล่อยู่ต่ำกว่าเขา
“เจ้านาย การแถลงข่าวของบริษัทไห่ลุนจบแล้ว ตู้หลิงเซวียนเตรียมฟ้องร้องประธานของบริษัทไห่ลุน”
หลงเซียวพยักหน้า มือขวาของเขางอเก้าสิบองศา กำปั้นรองรับข้อศอกของแขนซ้าย มือซ้ายเท้าคาง “เดาได้เลย บอกประธานวัง ตู้หลิงเซวียนไม่กล้าลงมือ ให้เขาวางใจ”
จี้ตงหมิงพูด “ประธานวังเชื่อใจเจ้านายของเขา 100 เปอร์เซ็นต์ ตอนนี้ทรัพย์สินภายใต้ชื่อของเขาโยกย้ายไปหมดแล้ว ทั้งหมดอยู่ภายใต้ชื่อของท่านแล้ว ตู้หลิงเซวียนต้องการจะฟ้องร้องคดีกับประธานวัง ทางอ้อมก็คือท้าทายกับคุณ เขารู้จักจัดลำดับความสำคัญ”
นิ้วชี้ซ้ายของหลงเซียวถูจมูกจากบนลงล่างสองครั้ง “ตู้หลิงเซวียนมีบริษัทหลันเทียนสนับสนุนอยู่เบื้องหลัง เขาไม่กลัวการฟ้องร้องคดี ถึงแม้ว่าจะดันทุรังดึงเขาก็สามารถดึงบริษัทฉู่ซื่อลงไปด้วย”
อารมณ์จิตใจของจี้ตงหมิงตกลงไปอยู่ที่ก้นเหว “ใช่ บริษัทฉู่ซื่อกับบริษัทหลันเทียนมีช่องว่างขนาดใหญ่มาก ถ้าทำตามกระบวนการทางกฎหมายจริงๆ ไม่ว่าจะแพ้หรือชนะก็ไม่ใช่ผลดีต่อพวกเรา”
“หึ! ดังนั้นฉันจึงหาศัตรูมารับมือให้กับตู้หลิงเซวียนแล้ว ตู้หลิงเซวียนยื่นมือออกมาไม่ถึงที่นี่ ให้พวกเขาต่อสู้ก่อน พวกเรารอจังหวะบุกโจมตี”
หลงเซียวผ่อนคลายเสร็จแล้ว ค่อยๆหันกลับไปที่โต๊ะทำงานทางด้านนั้น
“ห๊ะ? ศัตรูแบบไหนกัน? ตู้หลิงเซวียนไม่ใช่คนธรรมดานะเจ้านาย ในกรณีไปตีเสือไม่กลายเป็นว่าถูกเสือจับกิน ท่านจะไม่สูญเสียตำแหน่งขุนพลไปหรอ?”
หลงเซียวเปิดเอกสาร “เฒ่าเจ้าเล่ห์ของตระกูลหลงปรากฏตัวออกมา ก็ไม่ธรรมดา ถึงแม้จะตีเสือไม่ได้ การสูญเสียเป็นเพียงแค่สิ่งที่ขัดขวางทำให้คนอื่นสะดุด”
จี้ตงหมิงกลืนน้ำลาย กรองคนหลายคนในตระกูลหลง แล้วต้องสะดุ้งตกใจ Oh my god คงจะเป็นหลงเซิ่งใช่ไหม?
สุนัขจิ้งจอกตัวนี้ถูกเจ้านายบังคับให้ออกจากภูเขาจริงๆหรอ?
“เก่งมาก! เจ้านายคุณเก่งเกินไปแล้ว!”
จี้ตงหมิงไม่ได้ตื่นเต้น ยกนิ้วโป้งชื่นชม
ความตื่นเต้นยังไม่ทันผ่านไป ประตูห้องทำงานก็ถูกเคาะอีกครั้ง หลงเซียวขมวดคิ้ว “เข้ามา”
ครั้งนี้คนที่เข้ามาคือหวังเค่ย
“ท่านประธาน ฉันมีเรื่องจะมาพบคุณ” สองมือห้อยลงอย่างสุภาพ เสื้อสูทบนตัวที่ไม่แพง แต่เรียบร้อยมาก บนใบหน้ามีความอ่อนเพลียเล็กน้อย ปัญหาที่พบบ่อยเกี่ยวกับทำคอมพิวเตอร์เป็นเวลานาน
จี้ตงหมิงรู้ว่าต้องออกไปโดยจิตใต้สำนึก ปิดประตูใหญ่ห้องทำงานทั้งคู่ที่เปิดอยู่
หลงเซียวชี้ไปที่เก้าอี้สูงตัวเดียวที่อยู่ตรงข้าม “นั่งลงแล้วพูด”
หวังเค่ยพยักหน้า จับมุมทั้งสองของเสื้อสูทแล้วนั่งลง “ท่านประธาน ฉันพบของบางอย่างในระบบรักษาความปลอดภัยของบริษัทฉู่ซื่อ ไม่รู้ว่าควรพูดไหม”
หลงเซียวขมวดคิ้วเล็กน้อย “ในเมื่อเกิดเรื่องแล้ว ก็ควรจะพูด”
“โอเค งั้นฉันก็จะพูดตรงๆ ระบบรักษาความปลอดภัยของบริษัทฉู่ซื่อมีช่องโหว่ ที่แปลกก็คือ ช่องโหว่นี้ไม่ได้สูญเสียสถิติหรือข้อมูลใดๆ คาดไม่ถึงว่าจะมีคนโอนเงินเข้าบริษัทฉู่ซื่อจำนวนไม่น้อย ฉันเคยตรวจสอบแล้ว เป็น XXปีกับ XXปีไม่เหมือนกัน ก็เป็นสองปีที่ฟางหลิงหยู้บริหารบริษัทฉู่ซื่อได้ยากลำบากที่สุด มีคนโอนเงินเข้าสามร้อยล้านติดต่อกันอย่างลับๆ”
หลงเซียวหยุดเซ็นต์ชื่อไปชั่วขณะ “ใครเป็นคนโอนเงิน?