ประธานหยิ่งยโสของฉัน - ตอนที่ 615
แต่บางเรื่องเราก็ไม่มีไฟล์แล้วเหมือนกัน
ตอนที่ 615 บอส ฝนและน้ำค้างอยู่คู่กันได้ไหม
นอกห้องพัก ท้องฟ้าในฤดูใบไม้ร่วงเต็มไปด้วยเมฆที่ถูกลมพัด แล้วก็เคลื่อนออกไปตามทิศทางของลมออกไปไกลอย่างช้าๆ
มือของลั่วลั่วถือแก้วใสๆไว้ ข้างในชงชาดอกกระเจี๊ยบอยู่ กลีบดอกสีแดงจมลงไปที่ก้นแก้ว เธอจิบไปคำหนึ่งและฟังเสียงถอนหายใจของส้งชิงเซวี๋ยนไปด้วยจ้องมองออกไปนอกหน้าต่าง
“
“ลุงส้งพูดถูก คนที่ทำงานอยู่ในวงการธุรกิจจะมีที่ไหนที่มือไม้สะอาด? เฮอๆ น้ำที่ใสสะอาดจนเกินไป จะไม่มีปลามาแหวกว่ายฉันใด คนที่แยกแยะเอาจริงเอาจังกับเรื่องต่าง ๆจนชัดเจนเกินไป ก็จะไร้ซึ่งมิตรสหายฉันนั้น IQ ของคนธรรมดาไม่สามารถอยู่รอดได้ ”
ส้งชิงเซวี๋ยนขบริมฝีปากของเขาด้วยความประหลาดใจเล็กน้อยกับความเห็นของลั่วหาน”ฉันไม่คิดว่านางพยาบาลของโรงพยาบาล เราจะเข้าใจกับเรื่องในวงการธุรกิจนี้ด้วย มาๆๆๆ ชนแก้วกัน ชนแก้ว”
ลั่วหานเบะปากแล้วมองเข้า “ชนแก้วอะไร? ลุงส้งอย่าเล่นแล้ว”
ส้งชิงเซวี๋ยนครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งก้มศีรษะลงแล้วดื่มชามองไปที่ชาในถ้วยน้ำชา“อย่างว่า บางครั้งคนเราก็ไม่อย่ามีชีวิตอยู่อย่างมีสติเกิน กว่าจะได้โง่ เวลาที่ควรโง่ก็ควรแสร้งทำแกล้งโง่”
ตามที่พูดอยู่บ่อยๆคนฉลาดนั้นโง่เขลาและคนที่ฉลาดอย่างแท้จริงมักจะไม่แสดงด้านที่ฉลาดและมีอำนาจมากที่สุดของตัวเองออกมา ยิ่งทำแบบนี้ ก็จะยิ่งป้องกันศัตรูได้ง่ายขึ้น และยิ่งทำแบบนี้ก็จะยิ่งฆ่าฝ่ายตรงข้ามได้อย่างไม่ทันตั้งตัว
ลั่วหานกำลังจะดื่มชาแก้วหนึ่งเสร็จและอีกสักพักก็จะเข้าเวร“ ใช่ กว่าจะได้โง่ ขั้นสูงสุดของการเป็นมนุษย์”
ส้งชิงเซวี๋ยนส่ายหัว“จุดสูงสุดของการเป็นมนุษย์ไม่ใช่แกล้งโง่ แต่เป็นการที่เห็นแล้วทำเหมือนไม่เห็น ยินแล้วเหมือนไม่ได้ยิน ไม่ตอบสนองกับสิ่งภายนอก ไม่เคยได้ยินเหรอ?”
ลั่วหานขมวดคิ้วขึ้นอย่างหมดคำพูด “ลุงส้งกลายเป็นนักวิจัยเก่าตั้งแต่เมื่อไหร่? ถึงมาพูดคุยเรื่องปรัชญาการใช้ชีวิตกับฉัน?”
ลั่วลั่วชีวิตก็คือการฝึกฝน “บางคนใช้ชีวิตมาทั้งชีวิตแล้วก็ยังไม่เข้าอะไรคือการมีชีวิตอยู่ บางคนก็สามารถเข้าใจก่อนสิ้นลมหายใจตาย แต่คนแก่อย่างก็ฉันหวังว่าเธอจะเข้าใจเช้าหน่อย”
ตาของลั่วหานหรี่ลงอีกครั้ง“ ลุงส้ง คุณไปแขวนธงรับดูดวงเถอะ ? หลอกคนเป็นงี้”
ส้งชิงเซวี๋ยนหัวเราะฮ่าๆ ลูบไปที่คางลูบจนเคราของเขาเรียบ“ อย่างไงฉันก็มีชีวิตยืนยาวกว่าพวกเธอมาตั้งหลายสิบปี เรื่องบางเรื่องฉันก็ผ่านมาก่อน แต่เรื่องบางเรื่อง คนที่ผ่านมาอย่างฉันนี่ก็พูดกับพวกเธอได้ไม่หมด พวกเธอต้องเจอแล้วเดินไปด้วยตัวเอง”
ลั่วหาน:“……”
วันนี้ลุงแก่เป็นอะไรเนี่ย? พูดพล่ามๆอยู่ได้
หลินซีเหวิน วิ่งมาด้วยความรวดเร็ว ในมือถือถือกระติกน้ำร้อนสีแดงไว้“ เฮ้! จะไปละเหรอ ตาลุงแก่? ฉันเพิ่งมาเอง มาดื่มอีกแก้วเถอะ!”
ส้งชิงเซวี๋ยนสอดมือทั้งสองข้างไว้ในกระเป๋าเสื้อ ไหล่ของเขาทรุดลง“ ไม่ดื่มแล้ว ไม่ดื่มแล้ว ถ้าดื่มอีกนี่ฉี่แตกแล้ว ฉันจะกลับไปดูเสี่ยวอันอัน เสี่ยวอันอันผู้น่าสงสาร ”
หลินซีเหวินพูดกับลั่วหาน “เกิดอะไรขึ้นกับศาสตราจารย์ส้ง เธอยั่วเขาอะไรหรือเปล่า?”
ลั่วหานยักไหล่ “ฉันไม่ได้เก่งขนาดนั้น คาดว่าช่วงนี้เขาน่าจะกำลังอ่านพระไตรปิฎกอยู่ สมองไม่ปกติแล้ว เธออย่าไปเรียนกับเขาล่ะ”
หลินซีเหวินรู้สึกหนาวสั่นไปวูบหนึ่ง กรอกน้ำไปด้วยพูดไปด้วยว่า”ฉันไม่อ่านพระไตรปิฎกหรอก ฉันยอมไปอ่านพระคัมภีร์มากกว่า”
ลั่วหานล้างแก้วชาให้สะอาด “ซีเหวิน ช่วงนี้เธอกับเสี่ยวจื๋อเป็นไงบ้าง ตอนนี้เขายุ่งมากเลยใช่ไหม?”
หลินซีเหวินดื่มน้ำเปล่าไปคำหนึ่งใหญ่ๆ พูดหลังกลืนลงไปแล้วว่า“ ยุ่ง ยุ่งจนจะไม่รู้จักมารดาเขาอยู่ละ ไม่มีเวลาจะมาสนใจฉันหรอก ทำอย่างกับเป็นความรักทางไกล”
“ธรรมดา ผู้นำอยู่ภายใต้ความกดดันอยู่แล้ว เธอสามารถไปพบเขาที่ MBK ได้ เขาคงต้องการเธอมากในตอนนี้”
หลินซีเหวินยุ่งกว่าจะออกจากเวรมาจนเท้ายังไม่ทันแตะพื้น “ ฉัน? ช่วงนี้ฉันไม่มีเวลา เธอไม่เห็นพวกพระเจ้าในห้อง VIPพวกนั้นเหรอ วันๆเอาแต่ไล่ตามถามฉัน ฉันหงุดหงิดจะตายอยู่ละ จะมีการผ่าตัดในช่วงบ่ายอีกเคสหนึ่ง แม้งเอ้ย ขาฉันถึงกับเล็กลงไปเลยช่วงนี้”
ลั่วหานก็สังเกตว่าช่วงนี้หลินซีเหวินดูโทรมลงเยอะมาจริงๆ นี้เธอมักจะนอนดึกและทำงานล่วงเวลาทุกคนทำงานหนักมาก“อดทนอีกหน่อยฉันยื่นเรื่องกับคณบดีแล้ว ทางโรงพยาบาลจะรับสมัครแพทย์ใหม่อยู่
หลินซีเหวินร้องซ้ำ ๆ ว่า “โอ้พระเจ้าหมอถังกลับมาเร็ว ๆ ! ประเทศต้องการนาย! โรงพยาบาลหวาเซี่ยต้องการนาย แฟนคลับ ๆ ของนายก็ต้องการนายเช่นกัน ไม่มีอาหารตาอยู่ตรงหน้าแล้ว ช่างเหงาว่างเปล่าเปลี่ยวจริงๆ!
ถังจิ้นเหยียนนะเหรอ……
สายตาลั่วหานปรากฏความเศร้าออกมาวูบหนึ่ง ช่วงนี้เธอก็คิดถึงถังจิ้นเหยียน คิดอยู่ว่าเขาอยู่อเมริกาเป็นไงบ้าง คิดอยู่ว่าเขาจะรู้เรื่องที่ถังจงรุ่ยเคยทำไว้ในอดีตไหม
คิดอยู่ๆ ลั่วหานก็ละเมอไป
หลินซีเหวินเขย่ามือเธอ “หมอฉู่? เป็นอะไรไป?”
“หื้ม? ไม่เป็นอะไร ฉันกลับออฟฟิศก่อนนะ” ลั่วหานยกขาเรียวยาวของเขาขึ้นแล้วเดินออกจากห้องดื่มน้ำ
หลินซีเหวินส่ายหัวและพูดกับตัวเองว่า “วันนี้ทุกคนแปลกมากหลงจื๋อแปลก ลุงตาแก่ส้งแปลก หวาเทียนก็แปลก และหมอฉู่ก็แปลกเช่นกัน”
เมื่อเดินกลับไปที่ออฟฟิศ โทรศัพท์ของลั่วหานก็สั่นขึ้น เธอหยิบมันขึ้นมาดู
ลู่ซวงซวงส่งวีแชทมา ส่งมาแบบรัวๆ
“ที่รักตามไอเดียที่เธอเสนอมา ฉันได้เปลี่ยนการออกแบบชุดแต่งงานแล้ว นี่เป็นแบบร่างสุดท้ายเธอลองดูสิ้ ชอบไหม?”
ลั่วหานคลิกที่รูปภาพ ภาพแรกคือด้านหน้า จากนั้นด้านหลัง ด้านข้างและรายละเอียดก็ปรากฏขึ้น
“ สวยจริงๆ! ดีไซเนอร์รุ่นใหญ่ออกแบบชุดแต่งงานให้ตัวเอง ไม่ธรรมดาจริงๆ!”
ลั่วหานชอบสไตล์ชุดแต่งงานที่ออกแบบโดย ลู่ซวงซวงมากเนื้อบางเบาและหรูหรากระโปรงฟู ๆ และมีสไตล์สีก็สวยมากถ้าใส่อยู่บนตัวเธอต้องสวยมากๆแน่
ลู่ซวงซวงมีความสุขมาก “จริงเหรอ เธอรู้สึกงี้จริงเหรอ! สุดยอดไปเลย ตาเธอนี่ ถ้าเธอดูแล้วได้แสดงว่ามันเยี่ยมจริงๆ! งั้นฉันก็จะตกลงตามนี้แล้วนะ เดี๋ยวกลับไปให้ช่างทำโครงแบบ แล้วเริ่มเย็บ แต่ชุดนี่ล้วนเป็นงานฝีมือ อย่างน้อยก็ต้องประมาณครึ่งเดือนถึงจะเสร็จ”
งานฝีมือที่ว่าหมายถึง ดอกไม้ที่เย็บไว้ด้านบน เครื่องประดับ ลวดลายต่างๆ ล้วนต้องเย็บทีละเข็มทีละเข็ม
“เธอกับหวาเทียนเลือกวันแต่งยัง? เขาขอแต่งงานกับเธอยัง?”
วิกฤตทางธุรกิจบ้านอาของหวาเทียนก็ผ่านไปแล้ว เขาก็ควรขอเธอแต่งงานแล้วหรือเปล่า?
สิ่งที่ลั่วหานคิดอยู่ตอนนี้คืองี้
“เขาหรอ? ยังเลย ช่วงนี้โรงพยาบาลของพวกเธอยุ่งจะตายไป เขาพูดว่าเหนื่อยทุกวัน จะมีเวลาไปเดทที่ไหน รอเขายุ่งเสร็จค่อยคุย”กัน ลู่ซวงซวงปลอกใจตัวเอง
“ถ้าผ่าตัดเสร็จก็สบายแล้ว แต่ซวงซวง เธอต้องเตรียมใจให้พร้อมก่อน งานของหมอนี่มันยุ่งจริงๆ และยังเข้าเวรดึกอยู่บ่อยๆ ไม่ได้อิสระเหมือนเธอ เพราะฉะนั้นต่อไปถ้าเธออยู่กับหวาเทียนแล้วก็ต้องรู้จักเข้าใจด้วยนะ”
ลั่วหานพูดไว้ก่อน “คำว่าหมอนี่พูดออกไปดูดีมาก แต่ความลำบากเหนื่อยมีแต่ตัวเองนั่นแหละที่รู้เอง”
“ ฉันรู้ ในเมื่อฉันตัดสินใจจะแต่งงานกับเขาฉันก็เตรียมใจไว้แล้ว เขายุ่ง ฉันสามารถดูแลเขาได้ เขาไม่มีเวลาสนใจฉัน ฉันก็ทำงานของฉันต่อให้ดี”!
อะไรกับอะไรเนี่ย!
ลั่วหานหัวเราะแล้วพูดว่า “ รู้ตัวดีใช้ได้ ถ้างั้นฉันไปห้องคนไข้ละ เธอก็อยู่นี่อย่าดื้อละ”
“ห้ะ? จะไปแล้วเหรอ? อยู่คุยกับฉันอีกสักพักสิ!”
ลั่วหานพูดประโยคสุดท้ายออกมา “เมื่อกี้พูดว่าไรนะ? เข้าใจ!”
เชอะ!ฉันเข้าใจผู้ชาย ไม่ได้บอกว่าจะเข้าใจผู้หญิง อย่าไป! ไม่เอา!
เฮอเฮอ!
ลั่วหานหัวเราะ แล้ววางมือถือลงไปห้องคนไข้
หลังคุยกับลู่ซวงซวงไปไม่กี่คำ ลางสังหรณ์ใจเมื่อกี้หายไปครึ่งหนึ่งเลย
ดูเหมือนว่ายังไงผู้หญิงก็ควรจะมีเพื่อนสาวที่ไว้คุยกันไม่กี่คนไว้
——
บริษัทฉู่ซื่อ ออฟฟิศประธาน
จี้ตงหมิง กู้เยนเซินไป๋เวยทั้งสามล้วนนั่งถือเอกสารนั่งดูตรงโซฟา
หลงเซียวนั่งอยู่ที่หลัก ในมือก็ถือเอกสารตัวเดียวกันไว้
กู้เยนเซิน เปิดปากพูดออกมาคนแรก “ตู้หลิงเซวียนี่ไม่ใช่ขี้เหล้าทั่วไปจริงๆ เวลาวิกฤตอย่างนี้ก็รู้จักทำอะไรออกมาได้ดี ยอมรับผิดเอง และยังไม่ยอมที่จะปล่อยให้ตัวเองดูแย่ถึงจะเสียทรัพย์”
ไป๋เวยพยักหน้าเห็นด้วย เธอให้หน้ากู้เยนเซินน้อยมาก “เงินหลายหมื่นล้านนี้ บอกให้ก็ให้ ไม่ธรรมดาจริงๆ แค่ดูจากเรื่องนี้ ก็รู้เลยว่าตู้หลิงเซวียนจัดการเรื่องได้ดีมาก” ศัตรูนี่ต้องระวังให้ดีๆนะท่านประธาน
หลงเซียวพยักหน้า
จี้ตงหมิงพูด “ตู้หลิงเซวียนรู้ถ้าศึกหนักผ่านไป อย่างน้อยเขาก็ยังก่อกู้บริษัทหลันเทียนได้ทั้งหมดแบบไม่ไปกระทบอะไร ไม่พูดไม่ได้ว่าตู้หลิงเซวียนี่มือเซียนจริงๆ”
หลังหลงเซียวฟังพวกเขาพูดจบ วางเอกสารลง “ใช่ ตู้หลิงเซวียนเขาไม่กลัวศัตรู เขาเก่ง มีกลยุทธ์ ใจกล้า ที่สำคัญคือบนตัวของตู้หลิงเซวียนมีความเป็นปรปักษ์นั้นหนักมาก เขามีความคิดที่จะแก้แค้นอยู่ในระดับหนึ่ง หรือจะพูดว่า ทุกสิ่งที่เขาสูญเสียในวันนี้ วันหน้าเขาก็จะเอาคืนไปทั้งหมดอย่างแน่นอน”
ทั้งสามพยักหน้า เห็นด้วย
คิดดู ตู้หลิงเซวียนกล้าที่จะล่อหมาป่าด้วยมือเปล่า ฝังระเบิดไว้ที่บริษัทไห่ลุน แล้วจะเฝ้านิ่งดูดายกับหลงเซียวได้ไง?
กู้เยนเซินขยับก้นนั่งขึ้นไปเข้าใกล้อีกหน่อย “ก้าวต่อไปของตู้หลิงเซวียนคงจะเป็นการโจมตีตบริษัทฉู่ซื่อ ชายหลงมีแผนการอะไรยัง?”
“ตู้หลิงเซวียนยังไม่มีท่าทีอะไร ฉันก็ยังไม่เข้าใจทิศทางของเขา พวกเราต้องนิ่งรอจังหวะบุกตี” ฝ่ามือของหลงเซียว กดกองเอกสารพวกนั้นไว้ ท่อนบนสุดเขียนว่า “ตู้หลิงเซวียนออกมาขอโทษสาธารณะ”
“อีกอย่างตอนนี้บริษัทฉู่ซื่อถือว่าเป็นช่วงที่กำลังรุ่งอยู่ ไปแข่งกับบริษัทหลันเทียนไม่ติดหรอก ไปโจมตีเขามากก็ไม่ได้ อย่างแรกคือเราต้องรักษาความก้าวหน้าของบริษัทฉู่ซื่อไว้ก่อน”
หลังหลงเซียวพูดจบ คนไม่กี่คนก็พยักหน้าเห็นด้วย
บริษัทฉู่ซื่อยังอ่อนกว่าที่จะแข่งกับบริษัทหลันเทียน
ไม่โอเคอยู่ก็จริง แต่ความจริงเราก็ต้องไปเผชิญกับมัน
หลังคุยหัวข้อของตู้หลิงเซวียนเสร็จ หลงเซียวกล่าวว่า “ตอนนี้อย่าไปเปลืองแรงกับเรื่องตู้หลิงเซวียนมาก หลักๆคือต้องมุ่งเน้นไปที่โครงการพลังงานใหม่ ไป๋เวย แจ้งฝ่ายการตลาดและฝ่ายเทคนิคมาประชุมตอนบ่าย 2 โมง”
ได้ค่ะประธาน
หลงเซียวออกคำสั่งต่อ “ชายกู้ คงต้องรบกวนนายไปธนาคารยื่นเอกสารการเปลี่ยนแปลงอำนาจการครอบครองของบริษัทไห่ลุนก่อน”
กู้เยนเซินประหลาดใจเล็กน้อย “ชายหลง กับผมยังต้องเกรงใจอะไร? ผมนี่ไม่คุ้นเลยนะ”
“งั้นยังไม่ไปอีก?” ใบหน้าของหลงเซียวตึงขึ้น คนนี้นี่มีแนวโน้มชอบถูกทำร้าย
“ไปไปไป เดี๋ยวไปแล้ว”
จี้ตงหมิงคลายไหล่และพูดด้วยรอยยิ้มว่า “บอส เกี่ยวกับวันหยุดพักผ่อน ฝ่ายควบคุม ถามว่า เราจะจัดตั้งกิจกรรมส่วนร่วมไหม อันนั้นอะไรนะ ปกติทุกคนต่างคิดว่าบอสอยู่สูงเข้าใกล้ยาก จะให้โอกาสฝนกับน้ำค้างเท่าเทียมกันนี้ได้ไหม เหมือนแบบจัดตั้งกิจกรรมสถานที่ภายนอก แล้วบอสเข้าร่วมด้วย”
กู้เยนเซินสาบาน ว่าเขาไม่ได้ตั้งใจ!
เป็นพวกน้องที่ฝ่ายควบคุมเสนอออกมาจริงๆ ร้องขอให้มาถามดู เขาก็ไม่กล้าที่จะกล้าเสนอออกมาให้ท่านเซียวหรอก!
ไป๋เวยไอ
กู้เยนเซินไอ
จี้ตงหมิงรีบพูดขึ้นมาว่า “เฮอเฮอเฮอ บอสเราวันหนึ่งมีเรื่องเป็นหมื่นล้าน ไม่มีเวลางั้นก็ไม่เป็นไร เดี๋ยวฉันบอกพวกเขาอีกที เป็นบอสนี่จะว่างมากเหรอพวกไม่รู้เรื่องนี้ก็จริงๆเลย”
ใครจะไปรู้ว่าหลงเซียวกลับถามว่า “วันไหน? เตรียมจะไปไหน?”