ประธานหยิ่งยโสของฉัน - ตอนที่ 630
ตอนที่ 630 หมาจิ้งจอกไม่มีอะไรดีงั้นเหรอ
เกาจิ่งอานถูกคนทั้งสี่พาเข้าไปในลิฟต์ตรงขึ้นไปชั้น 28
ลิฟต์ตัวนี้ความเร็วสูงมาก เฉลี่ยแล้วใช้เวลา 2 วินาทีในการขึ้นไปแต่ละชั้น เวลาเขามีจำกัด จะต้องกำจัดสี่คนนี้ในลิฟต์
ยิ่งกว่านั้นจะต้องทำก่อนถึงชั้น 26 ดังนั้นมีเวลาประมาณ 12 วินาทีในการจัดการ
เกาจิ่งอานปรายตามองตัวเลขชั้นในลิฟต์ มีทั้งหมดสองแถว จัดเรียงเป็นรูปตัว S ตั้งแต่ขนาดเล็กไปจนถึงขนาดใหญ่ เขาต้องให้ลิฟต์เปิดหนึ่งครั้งในชั้นสี่ แปด สิบสอง สิบหก ยี่สิบ ยี่สิบสี่ และชั้นยี่สิบหกอย่างละครั้ง
เพื่อไม่ให้มีข้อผิดพลาดให้ประตูลิฟต์เปิดหลายครั้ง เพื่อที่จะโยนลูกกระจ๊อกทั้งสี่ออกไป!
เท้าของเกาจิ่งอานเหยียบประตูลิฟต์และกล่าวด้วยรอยยิ้ม “สุดหล่อ มีอะไรก็พูดกันดี ๆ อย่าทำร้ายกันเลย เงินขาดมือไหม? ฉันมีนะ ผู้หญิงล่ะเอาไหม? สวยโบราณหรือสวยเฉี่ยว นางแบบระดับโลก อวบอึ๋ม เน็ตไอดอลหน้าใสก็ได้นะ”
หนึ่งในนั้นมองลงมา “คุณเกา เรื่องพวกนี้คุณเก็บเอาไว้ไปพูดกับลูกพี่เราเถอะ!”
พูดจบ สองคนก็ดึงแขนของเกาจิ่งอานอย่างโหดร้ายแล้วผลักเขาเข้าไปในลิฟต์
แม่ง! อีกนิดเกือบจะทำเกาจิ่งอานล้มไปแล้ว แรงก็เยอะ ทำอะไรก็แรง ไม่ได้ปฏิบัติกับเขาให้สมกับที่เป็นประธานของบริษัทอึนเคอเลย
เด็กเปรต!
มือทั้งสองข้างของเกาจิ่งอานถูกไพร่ไว้ข้างหลัง เขาอาศัยความรู้สึกเมื่อครู่ ในการแยกและกดชั้นของลิฟต์ที่แผง ลิฟต์จะหยุดที่ชั้นต่าง ๆ
หลังจากเตรียมงานเรียบร้อยแล้ว เกาจิ่งอานอาศัยแสงเพื่อดูว่ามีใครอยู่นอกลิฟต์ เขาตั้งท่าแขนและขาและนับถอยหลังในใจ
“สาม…สอง…”
เสียงติ๊งดังขึ้น ทันใดนั้นลิฟต์ก็หยุดที่ชั้นสี่
ทั้งสี่คนประหลาดใจอย่างเห็นได้ชัด ทำไมลิฟต์ถึงหยุด?
ประตูลิฟต์เปิดออกและข้างนอกไม่มีใคร เกาจิ่งอานจ้องไปที่ประตูลิฟต์ ประตูบานคู่นั้นค่อย ๆ ปิดลง ทีละนิด ๆ…
“ปัง! !”
ในเวลานั้นเองเกาจิ่งอานยื่นเท้าแล้วถีบออกไป ชายที่สวมรองเท้าหนังสีสดใสข้างประตูลิฟต์ไม่ทันได้ระวังตัว ร่างเขาเซแล้วกระเด็นออกไป
ทันทีที่ตัวเขากระเด็นออกไป ประตูลิฟต์ก็ปิดทันที!
จัดการได้หนึ่ง!
แต่นั่นก็เท่ากับเกาจิ่งอานประกาศตัวแล้ว
“อ๊ะ! !”
ด้วยความเร็ว กำปั้นทักทายใบหน้าของเกาจิ่งอานลมกำปั้นทำให้เกิดความโกรธและพลังที่รุนแรง ทำให้ใบหน้าของเกาจิ่งอานเสียรูป
“แม่งเอ๊ย! ต่อยคนอย่าไปต่อยหน้า! ต่อยแล้วนายจะชดไหวรึไง! หน้ากูเป็นสิ่งล้ำค่านะเว้ย!” เกาจิ่งอานหลบใบหน้าอย่างรวดเร็ว เขาหันหัวไปอีกด้านอย่างแรง แสงและเงาสีดำบินผ่านหูของเขาไป!
“ปัง! !”
กำปั้นตกลงไปอย่างแรงและกระแทกศีรษะของคนคนหนึ่ง แต่คนคนนั้นไม่ใช่เกาจิ่งอาน แต่เป็นหนึ่งในชายชุดดำ เกาจิ่งอานจับศีรษะของเขาไว้ แล้วเอียงมุมปาก
“พวกเดียวกันก็ต่อย? หน้าไม่อาย!”
“ปึงปัง!”
“ตึง!”
ประตูลิฟต์ปิดลง ทั้งหมัดทั้งลูกเตะถูกปล่อยออกมาอย่างบ้าคลั่งในลิฟต์นั้น เกาจิ่งอานอ้าขาจัดการกับการโจมตีจากทุกทิศทาง แต่ก็ยากที่จะไม่ให้ตัวเองโดนไปอยู่หลายดอก
……
จางหย่งปีนท่อน้ำขึ้นไปแล้วกระโดดไปที่คอมเพรสเซอร์เครื่องปรับอากาศ ร่างนั้นดูเหมือนแมงมุมตัวติดกำแพง นิ้วของเขากำท่อน้ำไว้แน่นและเขาก็มองเข้าไปในห้องชุด
หน้าต่างเปิดอยู่ ห้องรับแขกไม่มีใคร จางหย่งถอนหายใจ กัดฟันแล้วขยับเข้าไปที่ระเบียงช้า ๆ ขอบด้านนอกนั้นแคบมาก เท้าของเขาทำได้แค่เพียงเหยียบแบบเขย่ง หากพลาดเพียงเล็กน้อยอาจตกลงไปได้
ตายหยังเขียด
จางหย่งถอนหายใจอีกครั้ง อย่ามองลงไปอีก ในท่าทางของปลาคราฟกระโดดข้ามประตูมังกร เหวี่ยงตัวเขาเข้าไปในห้องสวีท ด้วยเท้าทั้งสองข้างฝ่ามือค้ำพื้นและเสียงก็เงียบมาก
เสียงน้ำดังซู่ซ่าดังมาจากในห้องน้ำ แขกกำลังอาบน้ำ จางหย่งถอนหายใจอีกครั้ง
ประตูอยู่ไม่ไกลแล้ว จางหย่งปรายตาแล้วขยับเข้าไป เท้าเหมือนแผ่นอุ้งเท้าแมวก้าวไปบนพื้นเบา ๆ
ใกล้ประตูแล้ว ใกล้แล้ว!
จางหย่งกลั้นหายใจและตั้งสมาธิ ไม่กล้าจะหายใจแรง มือจับลูกบิดกำลังจะเปิดมันออก ทันใดนั้นเสียงในห้องน้ำก็หยุดลง!
หยุดแล้ว! ไม่มีการเคลื่อนไหวอีก ไม่บอกกล่าว จู่ ๆ ก็หยุดไปเฉย ๆ!
หลังจากเสียงน้ำหายไป อย่างน้องเจ้าตัวก็ต้องใส่เสื้อผ้าใช่ไหมล่ะ? !
จางหย่งเสี่ยงดวง ค่อยๆหมุนลูกบิดประตู
แต่หลังจากนั้นกลับมีเรื่องใหญ่ที่ใหญ่เสียจนจางหย่งก็ไม่ได้เตรียมใจ ยังไม่ทันที่เขาจะเปิดประตู ร่างขาวก็เดินออกมาจากห้องน้ำด้วยความรวดเร็ว
จางหย่งใจเต้นไม่เป็นจังหวะ ตัดสินใจ คลิกมือจับประตูหมุน!
“ใคร!”
เสียงของผู้หญิงที่รีบร้อนและเย็นชามุ่งมั่นดังมาพร้อมกับเสียงนั้นร่างสูงและผอมผู้หญิงคนนั้นถูกห่อด้วยผ้าขนหนูอาบน้ำสีขาวและวิ่งไปด้วยเท้าเปล่าราวกับดาบที่แหลมคม ให้จางหย่งตะลึง
“พรึ่บ!”
คางของจางหย่งถูกมือของหญิงสาวคนนั้นจับไว้มั่นในทันที ขากรรไกรถูกล็อกระหว่างนิ้วของเธอและไม่สามารถขยับได้
เก่ง! อีกฝั่งจะต้องเก่งมากแน่นอน!
จางหย่งสีหน้าเปลี่ยนไป ดวงตาเปิดกว้างจ้องมองไปที่ใบหน้าที่สงบและไร้ความรู้สึกมากเกินไป
วินาทีแรก เธอ…แม่งโคตรนิ่ง!
วินาทีที่สอง เธอ…แม่งโคตรสวย!
ดูแล้วคงเป็นความสวยแบบเย็นชาหน้านิ่ง ใบหน้างดงามดูเหมือนจะผ่านการทำศัลยกรรมมาหลายครั้งราวกับแกะตามแบบที่วิจิตรออกมา
วินาทีที่สาม เธอ…แม่งโคตรหอม กลิ่น Gucci.Guilty.Platinum กลิ่นน้ำหอมหรูราคาแพง
ไม่เพียงแต่รสนิยมดี เธอยังรวยมากอีกด้วย!
ไอ้เวรเอ๊ย! ทำไมเขาจะต้องมาคิดอะไรไร้สาระตอนนี้ด้วย!
“แฮ่ม ๆ!” จางหย่งกระแอมสองครั้ง “ผมเข้าผิดห้อง”
คิ้วของหญิงสาวยาวและเข้มราวกับริบบิ้นสีดำสองเส้นที่สลักไว้บนดวงตาที่ลึกของเธอ
ใช่ ล้ำลึก ดวงตาของเธอลึกกว่าชาวตะวันออก และดูมีสายเลือดชาวตะวันตก ดังนั้นผิวจึงขาวมาก หน้าตาจึงเด่นมากเป็นพิเศษ
เธอหรี่ตา “ผิดเหรอ? งั้นก็จ่ายค่าเสียหายมา”
เสียงของเธอเยือกเย็นราวกับน้ำค้างแข็งจากนั้นเธอก็ยกขาขึ้น!
“ชิ!”
จางหย่งตกใจ ร่างกายด้านหน้าของเขากดเข้ากับร่างกายของหญิงสาว ทั้งสองตัวประกบกันอย่างรวดเร็วและควันก็ลอยขึ้นจากพื้น!
“shit!”
หญิงสาวสบถออกมาเสียงดังแล้วพลิกมือเพื่อโจมตีอีกครั้ง
“กริ๊ง!” เสียงออดประตูดังขึ้น เสียงออดที่รุนแรงมากในความเงียบทำให้ประสาทของทั้งคู่นั้นตระหนก หญิงสาวดูจะตกใจมากกว่าจางหย่งด้วยซ้ำ
เธอจับคางของจางหย่งแล้วหันไปด้านข้างเพื่อดูหน้าจอทีวี หลังจากเห็นคนที่ด้านนอก หญิงสาวก็ก่นด่า Fuck ขึ้นมา
ออดยังดังอย่างไม่ลดละ หญิงสาวกัดฟัน
“คุณหนูใหญ่! เปิดประตู!”
หญิงสาวตกตะลึง พวกเขารู้แล้ว?
ทำยังไงดี?
“คุณหนูใหญ่! เปิดประตู! ไม่อย่างนั้นพวกเราไม่เกรงใจ” ที่ด้านนอกประตูมีเสียงตะโกนและเสียงการใช้กำลัง
หญิงสาวตัดสินใจ “นายอยากออกไปไหม?”
จางหย่งพยักหน้า “ใช่!”
“ดี ฉันจะพานายออกไป นายต้องร่วมมือกับฉัน” หญิงสาวพูดอย่างสงบแล้วหันไปจับประตู
ทันทีที่ประตูเปิด หญิงสาวก็บิดร่างสูงของจางหย่งให้อยู่ต่อหน้าเธอ มือหนึ่งคว้าคอเขาให้ทาบทับตัวเธอไว้ ในขณะเดียวกันก็ประกบริมฝีปากสีแดงและจูบ จางหย่ง
สมองของจางหย่งพังลงทันที สมองมันว่างเปล่าและว่างเปล่า!
หญิงสาวประกบปากจูบเขาแนบแน่น แขนที่เหมือนงูเกาะอยู่ที่คอของเขา พัวพัน ความต้องการและสำรวจลึกเข้าไป…ช่ำชองและไร้ทิศทางรุนแรงละเร้าใจ
ขาเรียวยาวเกี่ยวขาของจางหย่งไว้และกายขึ้นด้านบน
ชายชุดดำจำนวนหนึ่งที่เข้ามา เมื่อเห็นฉากที่เร่า…ร้อนนี้
เห็นหน้าของหญิงสาวไม่ชัดเจน มีแต่ความเปล่งประกาย เป็นเหมือนสายฟ้าฟาดในดวงตาพวกเขา พวกเขาถึงกับสะดุ้ง ทำให้ไม่แน่ใจว่าใช่คนที่ตามหาหรือไม่
“ไสหัวไป!”
ในตอนนี้จางหย่งคำรามด้วยความโกรธ เสียงตะโกนที่ดุดันทำให้คนเหล่านั้นตกใจกลัว และรีบถอยออกไป
เสียงปังดังขึ้น ประตูถูกปิดลง
ทันใดนั้นหญิงสาวก็ผละออกจากจางหย่ง แล้วรีบจัดชุดคลุมอาบน้ำให้เรียบร้อย “คุณไปเถอะ”
เธอพูดให้ไปเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ปล่อยให้จางหย่งยืนตัวตรง เขาหลงระเริงไปกับการปล่อยตัวเมื่อครู่ แล้วลืมวันลืมคืนไปสิ้น ใครจะรู้เพียงชั่วพริบตาทั้งหมดก็กลายเป็นแค่ภาพลวงตา
“ไสหัวไป!” หญิงสาวตะโกน
จางหย่ง: “…”
เขาลืมแล้วว่าตัวเองออกมาได้ยังไง มีเพียงกลิ่นน้ำหอมที่รุนแรงเท่านั้นที่ยังคงติดอยู่บนร่างกาย ดำเนินการผ่านปลายประสาทของเขา จากส่วนกลางสมอง ทุกอณู
“คนอะไรวะ!”
เสียงของเกาจิ่งอานดังเข้ามาในหูเขา
จางหย่งได้สติ “เข้ามาแล้ว มาที่ชั้น 26 มาเอาของ!”
เกาจิ่งอานถึงห้องแล้ว มือหนึ่งถือปืนพกอเมริกันบราวนิ่งหนึ่งกระบอก กระสุนด้านในไม่ใช่ของจริงแต่เป็นกระสุนยาสลบ
“รอนาย!”
“ได้!”
“แหวกหญ้าให้งูตื่นแล้ว ต้องบุกแล้ว” เกาจิ่งอานประกอบปืนเสียงดังแกรก ๆ ๆ เสียงจากทางนั้นชัดเจนมาก
จางหย่งขึ้นลิฟต์ตรงไปชั้น 26 “เข้าใจแล้ว”
ติ๊ง ติ๊ง ติ๊ง ๆ ๆ!
จางหย่งใจเต้นแรงและเร็ว การเต้นของหัวใจที่ทรงพลังแทบจะทะลุและกระโดดออกมา รสชาติของสิ่งที่เพิ่งเกิดขึ้น…เรียกว่า…มันทำให้จิตใจของคนต้องสับสนอลหม่าน
จางหย่งรีบเข้าไป สีหน้าของเขายังไม่เป็นธรรมชาติ
เกาจิ่งอานโยนปืนให้เขากระบอกหนึ่ง “นายเป็นบ้าอะไรเนี่ย? เมื่อกี้เกิดเรื่องอะไรขึ้น?”
จางหย่งลองความรู้สึกของปืนพกเหล่ตาข้างหนึ่งและเล็งไปที่เส้นสามจุด “เจอหมาจิ้งจอกตัวหนึ่ง”
เกาจิ่งอานตรึงปืนสำรองไว้ที่เข็มขัดและชำเลืองมองไปที่เขา “หึ ๆ จิ้งจอก? ตัวเมียงั้นสิ?”
จางหย่งเก็บปืนพกออกไปยกเท้าข้างหนึ่งและยึดเชือกผูกรองเท้าของเขา
“เดาสิ!”
เกาจิ่งอานยกข้อมือขึ้นมองไปที่จุดสีแดงที่กะพริบและหัวเราะเยาะ “ไม่ว่าจะตัวผู้หรือตัวเมีย จิ้งจอกก็ไม่มีอะไรดีหรอก”
“เชี่ย!”
เกาจิ่งอานไม่ได้โต้เถียงกับเขาเกี่ยวกับสุนัขจิ้งจอก เขาพูดขึ้นพร้อมกับถูคาง “นายจะเอาทางไหน?”
หมายถึงสินค้าที่อยู่สองทิศทาง
“ซ้าย” จางหย่งเหลือบไปมองข้อมือแล้วพูดอย่างมั่นใจ
ทางซ้ายยากกว่าและมีปัจจัยเสี่ยงสูงกว่า เป็นงานที่ไปและไม่มีวันกลับมาจริง ๆ
เกาจิ่งอานไปทางขวา แต่ก็ไม่ได้ดีเลย
“ได้ ทำให้เร็วและไว จบเรื่องแล้วเจอกันที่สะพานไทปา ก่อนเที่ยงคืนถ้าฉันไม่ปรากฏตัวก็ไม่ต้องรอ”
“เหมือนกัน”
เที่ยงคืนถือเป็นเส้นตาย เป็นหรือตายก็จะได้รู้ในเวลานั้น
เกาจิ่งอานหมุนลูกบิดประตูด้วยมือข้างเดียวหันศีรษะไปเม้มริมฝีปากบางของเขาแล้วยิ้มให้จางหย่ง “ที่นี่ไม่เลวนะ อยากจะเล่นไหม?”
จางหย่งยักคิ้วข้างหนึ่ง มือที่ถือปืนทำท่าทางการ์ด “นายเดาสิ?”
เกาจิ่งอานยิ้มแล้วส่งสายตากรุ้มกริ่ม “งั้นก็ต้องรอด ฉันจะเลี้ยงนายให้เปรมเลย”
ทั้งสองออกจากประตูพร้อมกัน หันหลังชนกันแล้วเดินไปคนละทาง
จางหย่งเป็นคนมีความมุ่งมั่นที่ชัดเจน “เกาจิ่งอาน เจ้านายดูคนไม่ผิด นายเป็นพี่น้อง นายเป็นลูกผู้ชายตัวจริง