ประธานหยิ่งยโสของฉัน - ตอนที่ 640
เราจะทยอยไล่แก้ให้ยามว่างอยากให้แก้เรื่องไหนคอมเมนต์ไว้นะคะ
แต่บางเรื่องเราก็ไม่มีไฟล์แล้วเหมือนกัน
ตอนที่ 640 หลอกลวง
หัวใจของจ้าวฟางฟางสิ้นหวังลงตามเสียงที่หยุดลง
ลูกสาวจำเธอไม่ได้แล้ว…..และเธอถูกปฏิเสธไม่ใช่แม่ด้วย
เธอวางโทรศัพท์ลงอย่างหมดเรี่ยวแรง และเคสโทรศัพท์รุ่นใหม่ที่ฝังเพชรเต็มไปหมดก็ระยิบระยับเล็กน้อย จนแสบตา แต่ในตอนนี้เธอกลับรู้สึกว่าแสงสว่างทุกอย่างกำลังพิพากษาดวงตาของเธออยู่ และกำลังจับเธอยืนอยู่บนแท่นพิพากษาอย่างนิ่งเงียบ จนแทบไม่สามารถไปไหนได้เลย
“โธ่ เธอเป็นอะไรไปหรอ? กำลังแสดงเป็นหลินไต้อวี้อยู่หรอ? ทำไมถึงร้องไห้แบบนี้แล้วล่ะ?”
น้ำเสียงประชดประชันของฉู่ซีหรานดังขึ้นจากนอกประตู โดยไม่มีสัญญาณบอกกล่าวล่วงหน้า น้ำเสียงไม่เบาและหนัก แต่กลับสามารถตบบนใบหน้าเธออย่างแรงหนึ่งที
จ้าวฟางฟางรีบยกมือปาดเช็ดน้ำตาทันที พร้อมกับเงยหน้ามองฉู่ซีหรานที่แต่งชุดเดรสอย่างสวยเสมอขึ้น “เธอเข้ามาตั้งแต่เมื่อไหร่หรอ?”
ฉู่ซีหรานยกมือกอดหน้าอกขึ้น และยิ้มอย่างประชดเล็กน้อย แล้วพูดว่า “เมื่อเธอร้องไห้จริงจังมาก แน่นอนว่าไม่รู้ว่าฉันเข้ามา แต่เห็นเธอร้องห่มร้องไห้เสียใจมากขนาดนี้ คงไม่พ้นเรื่องถูกสามีทำร้ายร่างกายแน่เลย ใช่ไหม?”
จ้าวฟางฟางขยับตัวนั่งอย่างผ่อนคลายมากขึ้น แล้วหยิบหมอนมาวางบนตักใบหนึ่งเพื่อปกปิดกระโปรง พร้อมกับเก็บซ่อนบาดแผลบนตัวด้วย “ฮ่าฮ่า ฉู่ซีหราน เธอดีมากกว่าฉันมากเท่าไหร่กัน? ตอนที่เธออ้อนวอนวิงวอนต่อเสิ่นเหลียว เธอคิดว่าฉันนึกไม่ออกหรอว่าเธอมีสภาพยังไง?”
ฉู่ซีหรานกำหมัดไว้อย่างแน่น และยิ้มอย่างเย็นชาขึ้น แล้วเดินเข้ามาทีละก้าว จนเหลือบเห็นยาฆ่าเชื้อบนโต๊ะ และยังมีสำลีที่เปื้อนเลือดด้วย ไม่ยากที่จะจินตนาการว่าจ้าวฟางฟางได้รับบาดเจ็บหนักแค่ไหน
เธอนั่งลงอยู่ตรงข้าม และยื่นมือหยิบขวดยาฆ่าเชื้อขึ้นมา “ฮ่าฮ่า จ้าวฟางฟาง ดูเหมือนตอนนี้เธอจะใจกล้าขึ้นมากเลยนะ กล้าต่อปากต่อคำกับฉันด้วย”
ตอนนี้จ้าวฟางฟางรู้สึกหัวใจสิ้นสลาย ไม่มีอารมณ์ต่อปากต่อคำกับเธอ “เธอจะคิดอยากเอายังไงหรอ?”
เธอซักถามถึงประเด็นหลักเลย เพราะยังไงระหว่างพวกเธอสองคนก็ไม่มีอะไรต้องเกรงอกเกรงใจกันอยู่แล้ว
ฉู่ซีหรานยิ้มอย่างเย็นชาขึ้น แล้วใช้นิ้วที่สวมแหวนเคาะบนโต๊ะ “จ้าวฟางฟาง แล้วลูกชายของเธอล่ะ?”
จ้าวฟางฟางรู้สึกเจ็บปวดหัวใจ คิดไม่ถึงว่าเธอจะซักถามถึงอานอาน? เธอมีจุดประสงค์อะไร? คิดจะทำอะไร? หรือว่าเธอจะรู้เรื่องป่วยของอานอานแล้วหรอ?
“ช่วงนี้เมืองเจียงเฉิงอากาศไม่ค่อยดี เลยพาเขาไปเปลี่ยนบรรยากาศ อีกสักพักหนึ่งถึงจะกลับมา” จ้าวฟางฟางรู้สึกไม่ค่อยสบายใจ และมองสังเกตสีหน้าของฉู่ซีหรานอย่างละเอียด เพราะกลัวว่าเธอจะรู้ความจริงของอานอาน
ฉู่ซีหรานไม่รู้เรื่องป่วยของอานอานเลย เพียงแต่เธอแค่สงสัยว่า จ้าวฟางฟางทำใจปล่อยให้ลูกชายจากบ้านได้ยังไง อีกอย่างไอ้ชั่วเสิ่นคั่วคนนั้น เมื่อก่อนเห็นลูกชายเป็นของขวัญล้ำค่าอยู่ติดด้วยกันทั้งวันทั้งคืน แต่ช่วงนี้กลับไม่เห็นบ่นคิดถึงเลย
แปลกจัง!
“จ้าวฟางฟาง พวกเราสองคนมาพูดเปิดใจกันเถอะ พวกเราสองคนแต่งงานมาอยู่ตระกูลเสิ่น เพราะเห็นแก่อิทธิพลและทรัพย์สินของตระกูลเสิ่น เธอต้องการทรัพย์สินของตระกูลเสิ่นใช่ไหม?”
ฟังจากน้ำเสียงเหมือนไม่ใช่การซักถามเลย
แน่นอนว่า ไม่ต้องซักถาม
จ้าวฟางฟางรู้สึกเจ็บบาดแผล เลยโน้มตัวพิงลงบนเบาะเก้าอี้ด้วยท่าทางลำบาก แต่ไม่เผยรอยยิ้มออกมาเลย “แล้วยังไงหรอ? คิดอยากเอารูปภาพของฉันมาข่มขู่ฉันหรอ? คิดจะขูดรีดเงินของฉันหรอ?”
“ฮ่าฮ่า!” ฉู่ซีหรานหัวเราะดังขึ้น “เงินของเธอหรอ? จ้าวฟางฟาง เธอเห็นตัวเองสำคัญมากเกินไปแล้ว เธอมีเงินมากแค่ไหนกันหรอ? เงินเดือนเล็กน้อยที่เสิ่นคั่วให้ทุกเดือนกับเธอ แค่ซื้อกระเป๋าก็หมดเกลี้ยงแล้ว…..”
ฉู่ซีหรานเงยหน้าขึ้น “ฉันสามารถให้เงินก้อนใหญ่ให้เธอก้อนหนึ่ง เงินก้อนนี้เพียงพอให้เธอมีชีวิตอย่างสุขสบาย และต่อไปก็จะไม่ถูกทำร้ายร่างกายอีก แล้วยังสามารถพาลูกรักของเธอไปหาสถานที่ที่คนไม่รู้จักด้วย และใช้ชีวิตอย่างสงบสุข”
จ้าวฟางฟางฉีกปากยิ้มขึ้น “เธอกำลังไล่พวกฉันไปหรอ?”
“อย่าพูดหยาบคายแบบนี้สิ ฉันให้เงินก้อนใหญ่กับเธอ แถมยังรับประกันปัจจัยการดำรงชีวิตด้วย เธอยังอายุน้อย ไม่ควรเอาเวลามาเสียเวลากังไอ้แก่ที่ไร้ความสามารถที่นี้ ต่อไปเธออยากได้หนุ่มๆแบบไหนสามารถเลือกตามใจได้เลย ว่ายังไง?”
จ้าวฟางฟางเข้าใจแล้ว ดูเหมือนว่าฉู่ซีหรานหมดความอดทนแล้ว เธออดใจไม่ไหวอยากเตะตัวเองออกจากตระกูลเสิ่น เพื่อสะดวกต่อตัวเองที่จะช่วงชิงทรัพย์สินของตระกูลเสิ่น
ช่างน่าขำยิ่งนัก!
เธออดทนจากการถูกกลั่นแกล้งที่ตระกูลเสิ่นมาหลายปี เพื่อช่วงชิงทรัพย์สินของตระกูลเสิ่น เพราะเธอมีลูกชาย อย่างน้อยก็สามารถได้รับค่าเลี้ยงดูก้อนใหญ่ แล้วอย่างฉู่ซีหรานจะได้รับมากเท่าไหร่กัน?
“เธอคิดเอาเงินฟาดหัวฉัน เธอมองฉันผิดแล้วล่ะ ฉู่ซีหราน ฉันได้รับความลำบากมากขนาดนี้ จะไม่ยอมจากไปอย่างง่ายดายหรอก”
ฉู่ซีหรานกัดฟันแน่น ผู้หญิงโง่ที่สมควรตาย! เป็นไอ้ขี้แพ้แต่มีชีวิตดีกว่าไม่ดีกว่าหรอ?
“จ้าวฟางฟาง เธอไม่มีความอดทนมากขนาดนั้นหรอก หากเธอไม่รีบออกจากตระกูลเสิ่นอีก ฉันรับรองเลยว่า เธอจะต้องตายอย่างน่าอนาถแน่นอน” เธอวางขวดยาลงอย่างแรง จนยาที่อยู่ในขวดทะลักออกมาเล็กน้อย
จ้าวฟางฟางรู้อยู่แก่ใจว่า ไม่สามารถแสดงความอ่อนแอต่อหน้าฉู่ซีหราน เพราะยิ่งแสดงความอ่อนแอ เธอก็จะยิ่งล้ำเส้น
“เธอก็แค่มีรูปภาพของฉันแค่นั้นเอง เธอนึกว่าฉันไม่มีอะไรเลยหรอ? ฉู่ซีหราน เธอลองคิดดูบ้างว่า เรื่องที่เธอเคยทำหลายปีมานี้ตอนที่อยู่บ้านตระกูลเสิ่นมีอะไรบ้าง ลองนึกดูดีๆว่า เธอไม่เคยทิ้งร่องรอยบ้างเลยหรอ?” หลายเรื่องที่เคยทำ? ร่องรอยหรอ?
เพียงประโยคเดียวทำฉู่ซีหรานถึงกับเบิกตากว้าง แต่เธอก็รีบเปลี่ยนสีหน้าสงบนิ่งอย่างรวดเร็ว “เธอรู้อะไรมาหรอ?”
แน่นอนว่าจ้าวฟางฟางแทบไม่รู้อะไรเลย
“ไม่อยากให้คนรู้ก็อย่าไปทำ เธอนึกว่าฉันรู้อะไรมาล่ะ?”
ฉู่ซีหรานลุกขึ้นยืนอย่างกะทันหันขึ้น แล้วยื่นมือดึงคอเสื้อของจ้าวฟางฟางขึ้น พร้อมเผยสายตาเย็นชา “จ้าวฟางฟาง ถ้าเธอกล้าแตะต้องฉัน ฉันจะทำให้เธอต้องตายก่อน!”
จู่ๆจ้าวฟางฟางก็ไม่คิดคำนึงอะไร และไม่กลัวอะไรอีกแล้วขึ้น
“ฉู่ซีหราน พวกเราสองคนเสมอกันแล้ว เธอคิดอยากให้ฉันตาย แต่ฉันก็มีวิธีการทำให้เธอตายได้เหมือนกัน หากไม่อยากเสี่ยงก็ระวังหน่อย เธอกับแม่ของเธอ ทางที่ดีที่สุดอย่าให้ความสนใจกับฉันมากไปหน่อยเลย หากฉันต้องตาย เธอก็จะต้องตายเหมือนกัน หากลูกชายของฉันเป็นอะไรไป ฉันรับรองเลยว่า เธอก็จะเห็นลูกชายของเธอได้รับกรรมด้วยเหมือนกัน”
จ้าวฟางฟางไม่มีที่พึ่งพา และไม่มีหนทางถอย เธอมีแต่ความคิดเดินไปข้างหน้าเท่านั้น
……
ณ รีสอร์ทส่วยหวินเจียน
แสงอาทิตย์ยามบ่ายสาดส่องแสงอ่อนๆ จนทำให้ผู้คนรู้สึกครึ่งหลับครึ่งตื่น
ลั่วหานกับลั่วหานนั่งเบื้องหน้าหน้าต่าง โดยตรงกลางของทั้งสองคนมีกระดานหมากรุกอยู่ ลั่วหานกำลังจับหมากสีขาวตัวหนึ่ง ขณะเดียวกันก็ลังเลจะเดินไปข้างหน้ายังไง
ในมือของหลงเซียวก็ถือหมากตัวหนึ่งเหมือนกัน เป็นหมากสีดำที่เสียบอยู่กลางนิ้วมือของเขา ซึ่งหมากสีดำตัดกับนิ้วมือขาวของเขาอย่างชัดเจน
“ลั่วลั่ว คุณครุ่นคิดอยู่สองนาทีแล้วนะ” หลงเซียวยิ้มและพูดเตือนเธอขึ้น โดยในน้ำเสียงแทบไม่มีความต้องการเร่งเธอเลย แต่เป็นน้ำเสียงอ่อนโยน
ลั่วหานไม่กล้าวางหมากตามอำเภอใจ เพราะหากแพ้….ตัวเองต้องสูญเสียเยอะมาก!
ก่อนเล่นหมากรุกทั้งสองคนได้ตกลงกันแล้ว ถ้าหากลั่วหานแพ้ ไม่กี่เดือนต่อมา เธอต้องลาออกอยู่รักษาตัวอยู่ที่บ้าน และต้องฟังการวางแผนของเขาด้วย
โธ่ สวรรค์ แบบนี้ไม่ใช่เป็นการประหารชีวิตลั่วหานหรอ? เธอเป็นคนที่ไม่ชอบอยู่ว่างๆ
ในทางกลับกัน ถ้าหากหลงเซียวแพ้ ลั่วหานสามารถไปทำงานที่โรงพยาบาลหวาเซี่ยต่อ จนกระทั่งก่อนถึงกำหนดคลอดหนึ่งเดือน
ดังนั้นลั่วหานจึงระมัดระวังและรอบคอบแบบนี้!
ลั่วหานกัดนิ้วมือของตัวเอง แล้วหรี่ตาลงเล็กน้อย “ชนะสองในสามเป็นยังไง?”
รอบนี้เธอตายแน่ ไม่ว่าจะไปทางไหนล้วนต้านการโจมตีจากหลงเซียวไม่ได้เลย เขามีหมากสีดำต่อต่อกันอยู่ ส่วนหมากของเธอยังไม่ถึงไหนเลย เพราะกลัวถูกเขาสกัดกั้น เลยละเลยสถานการณ์ของตัวเอง
หลงเซียวยื่นมือจับคางของเธอ แล้วพูดขึ้นว่า “ไม่”
โธ่เอ๋ย!
ลั่วหานไม่ค่อยยินยอม เลยพูดอย่างปลิ้นปล้อนว่า “สามี หมากที่ฉันเดินเมื่อกี้ เหมือนกับฉันตาลายเลย ขอเดินใหม่ได้ไหม?”
หลงเซียวแอบหัวเราะในใจ โดยที่ยังคงเผยสีหน้าไม่พอใจขึ้น “ไม่เอา เดินหมากแล้วมารู้สึกเสียใจภายหลังไม่ได้นะ แพ้เป็นแค่เรื่องเล็กน้อย แต่ทำนิสัยไม่ดีนี่ไม่ได้นะ”
นิสัยไม่ดีแกสิ! ตอนนี้เธอคิดแค่อยากชนะ!
ลั่วหานร้องโวยวายในใจเงียบๆ เธอน่าจะรู้เกมของหลงเซียวตั้งนานแล้ว และไม่ควรตอบรับเขาอย่างมั่นใจในตัวเองขนาดนั้น
“ที่รัก ไม่ใช่ว่าคุณตั้งใจเก็บตัวพำนักอยู่ที่นี้หรอกหรอ? หมากเกมนี้พวกเราเล่นกันมาครึ่งชั่วโมงแล้ว” หลงเซียวพูดขึ้น
ทั้งสองคนสามารถเล่นกันถึงขั้นนี้ได้ถือว่าเก่งมากแล้ว และสามารถเห็นเทคนิคของลั่วหานไม่ธรรมดา เพียงแต่มาพบกับคู่แข่งขั้นเทพอย่างหลงเซียวเท่านั้น
“ที่รัก ฉันหิวแล้ว คุณช่วยไปหยิบขนมมาให้ฉันหน่อย กินขนมเพิ่มพลังเสร็จค่อยมาเล่นต่อ” ลั่วหานใช้ให้หลงเซียวจากไป เพื่อเธอจะฉวยโอกาสเปลี่ยนหมากสักหน่อย!”
หลงเซียวมองความคิดของเธอออก เลยพูดว่า “เล่นตานี้ให้จบก่อน เดียวผมกินขนมเป็นเพื่อนคุณ ทางครัวเตรียมขนมเค้กไว้ไม่น้อยเลย ล้วนเป็นขนมที่คุณชอบกินทั้งนั้นเลย ไม่ใช่ว่าคุณอยากกินขนมไข่แดงหรอกหรอ? ทางครัวกำลังทำแบบสดใหม่อยู่ ได้ยินว่าแป้งบาง ไส้หอม อีกอย่างเพิ่งออกจากเต้า แป้งจะนุ่มมาก คุณไม่ชอบหรอ?”
บ้าจริง!
ตอนแรกไม่ค่อยหิว แต่เมื่อเขาพูดแบบนี้ เธอก็รู้สึกหิวไม่ไหวแล้ว คิดไม่ถึงว่าเขาจะสามารถบรรยายถึงขนมไส้ไข่แดงได้น่ากินมากขนาดนี้!
ลั่วหานกัดริมฝีปากเล็กน้อย “ที่รัก หรือว่าพวกเราเปลี่ยนกฎกันดีไหม? ให้ฉันไปทำงานที่โรงพยาบาลอีกสามเดือน รอให้อายุตั้งครรภ์ครบหกเดือนค่อยกลับมาอยู่บ้าน”
ลั่วหานยกนิ้วชี้วาดกลางอากาศขึ้น ขอร้องความคิดเห็นที่ไม่ตรงกันของหลงเซียวอย่างจริงจัง
หลงเซียวแทบไม่ให้โอกาสปรึกษาหารือกันเลย “ไม่ เราไม่คาดหวังให้คุณออกไปทำงานหาเงิน ภารกิจของคุณคือบำรุงร่างกายให้แข็งแรง และคลอดลูกที่มีร่างกายแข็งแรงด้วย”
เมื่อเห็นเรื่องน่าปวดหัวของเถียนเถียน หลงเซียวก็ตัดสินใจอย่างเด็ดขาดให้ภรรยาเสพสุขเหมือนดั่งราชินี เพื่อจะส่งผลดีต่อลูกในท้องด้วย
แต่เขาคงลืมไปว่า ภรรยาบ้างานของเขา หากเป็นคนว่างงานจะเป็นบ้า
หลินซีเหวินโอบแขนของหลงจื๋อไว้ จากนั้นก็เดินมาถึงห้องโถงที่ทั้งสองคนนั้นหลบซ่อนกันอยู่ ขณะเดียวกันก็เห็นพวกเขากำลังเล่นหมากรุกกันอยู่จากที่ไกล ด้วยเหตุทำเอาหลินซีเหวินถึงกับผิดหวัง
“อืม อุตส่าห์ได้พักร้อนอยู่คฤหาสน์ คิดไม่ถึงกลับมาเล่นหมากรุก! เสียเวลามาก!”
หลงเซียวพยักหน้าเล็กน้อย “ใช่ เสียเวลามากเลย! ”
ลั่วหานยังคงปวดหัวอยู่ แต่เมื่อเงยหน้ามองเห็นหลินซีเหวินก็ยิ้มขึ้นมาทันที “ที่รัก ดูสิใครมา?”
หลงเซียวไม่เชื่อแผนหลอกลวงของเธอ “ไม่ได้ผลหรอก มาต่อกันเถอะ”
“ไม่เชื่อ คุณก็หันหน้าไปดูสิ” ลั่วหานขมวดคิ้ว และยิ้มหน้าบาน
หลงเซียวหันหน้ามองอย่างลังเล แต่เมื่อเห็นแขกก็เผยสีหน้าประหลาดใจ “เสี่ยวจื๋อ? นายมาได้ยังไง?”
หลินซีเหวินส่ายมือ “สวัสดีค่ะ คุณหลง”
หลงจื๋อยิ้มและพูดว่า “หลินซีเหวินบอกว่า คุณกับพี่สะใภ้พักร้อนกันที่นี้ ผมเลยมาเยี่ยมครับ ที่นี่บรรยากาศดีจริงๆ เป็นครั้งแรกที่ผมมาเลย”
หลงเซียวพยักหน้า และพูดว่า “อืม”
หลินซีเหวินหัวเราะฮ่าฮ่า “พวกคุณกำลังเล่นหมากรุก? ใครชนะหรอ?”
ลั่วหานหัวเรานะฮ่าฮ่า “พวกเธอมาได้เวลาพอดีเลย พวกเราเพิ่งเล่นเสร็จตาแรก!”
หลงเซียวขมวดคิ้วชิดกัน และหันหน้ามองเห็นเกมบนหมากรุกมีการเปลี่ยนแปลง
หลงจื๋อจ้องมองหมากของพวกเขาชั่วครู่ จากนั้นก็ปรบมือเสียงดังขึ้น “พี่สะใภ้เป็นคนชนะ! คิดไม่ถึงว่าพี่สะใภ้จะชนะพี่ใหญ่ได้! แต่พี่ใหญ่ก็เล่นได้ร้ายกาจครับ!”
ลั่วหานเผยท่าทางภาคภูมิใจขึ้น พร้อมกับพยักหน้ายิ้มต่อหลงเซียว แล้วพูดยั่วโมโหว่า “ยอมรับ ยอมรับว่า วันนี้คุณหลงอ้อมมือให้ทำให้ฉันสามารถชนะตาแรก แต่ต้องขอโทษด้วยนะ ฉันชนะ ฮ่าฮ่า!”
หลงเซียว “….