ประธานหยิ่งยโสของฉัน - ตอนที่ 67
ตอนที่ 67 ภายใต้ดวงอาทิตย์ ห้องเก็บอุณหภูมิ วันรุ่งขึ้น แสงแรกในตอนเช้าเพิ่มความสว่างให้กับ
ห้อง
ค่ลั่วหานตื่นแล้ว
เหมือนปกติเลย เธอตื่นมาแล้วเคยชินกับการยืด แขนขยับเอว แต่วันนี้กำลังจะยกแขนขึ้นมาก็พบว่ายก ไม่ขึ้น
ดวงตาเปิดช่องว่างทีละนิด สิ่งที่ทักทายเธอคือ ใบหน้ายอดเยี่ยมของหลงเซียว ฉู่ลั่วหานรีบก้มศีรษะ ลง ชุดนอนยังอยู่ แต่….เธอโดนเขากอดแน่นไปทั้งตัว นี่จะอธิบายอย่างไร?
ลูบหน้าผากเงียบๆ ฉู่ลั่วหานเข้าใจแล้ว เมื่อคืนเธอ ต้องนอนยืดตัวอย่างป่าเถื่อนแน่ๆ เมื่อก่อนตอนเธอไป เที่ยวกับลู่ซวงซวง สองคนนอนเตียงเดียวกัน กลางดึก ลู่ซวงซวงก็ถูกเธอเตะไปอยู่ใต้เตียง
จินตนาการในหัวถึงสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อคืน ฉู่ลั่วหา นกัดปากล่าง ด่าตัวเองว่าแม่งเอ๊ย! พอเงยศีรษะขึ้นมา ท่ามกลางแสงในตอนเช้า
ความเหนื่อยล้าอยู่ในใบหน้าหลับใหลของหลงเซียว ริมฝีปากบางของชายหนุ่มเม้มเล็กน้อย ดวงตาปิดสนิท แผ่ขนตาหนา อาจเป็นเพราะผ่อนคลายมากขึ้นในการนอนหลับ แม้แต่ใบหน้าที่ปกติเย็นชาก็มีความอบอุ่นอยู่
บ้าง
เป็นครั้งแรกที่เธอมองสามีตัวเองแบบนี้ สามีที่
แปลกหน้าและห่างเหิน
ระหว่างคิ้วเธอคือเขาทั้งหมด
“หลงเซียว….”
เธอเอ่ยเรียกเบาๆ เขาไม่ตอบสนอง หลับลึกมาก เธอใช้นิ้วสอดใต้จมูกเขาเพื่อตรวจสอบลมหายใจ อย่างซุกซน ลมหายใจอุ่นรดใส่นิ้วเธอ รู้สึกผ่อนคลาย
มาก
หลังจากหลงระเริงก็กลับสู่ความจริง ฉู่ลั่วหานอ อกมาจากอ้อมแขนเขาอย่างระมัดระวัง ดึงขาสองข้าง ออก ยกผ้าห่มแล้วลงจากเตียง
เดินออกจากประตูห้องนอนไป หลิงหลิงและชุน ชุนกำลังทำความสะอาดเฟอร์นิเจอร์ในห้องรับแขก สองสาวไม่รู้กำลังกระซิบอะไรกันอยู่ พูดไปยิ้มไป
ป้าเฉินเห็นฉู่ลั่วหานตื่นแล้วก็รีบพูดขึ้นอย่างสุภาพ “อรุณสวัสดิ์ค่ะ คุณนาย ตื่นเช้าจังเลย”
ฉ่ลั่วหานพยักหน้า พูดขึ้นเรียบๆ “สวัสดีค่ะ”
หลิงหลิงและชุนชุนก็เอ่ยทักทาย พอฉู่ลั่วหานอยู่ ในห้องรับแขกก็เกิดความเงียบขึ้น คนรับใช้ตัวน้อย สองคนทำงานกันอย่างเงียบๆ
ฉลูรั่วหานลงข้างล่าง “หนังสือพิมพ์มาหรือยังคะ?”
“มาแล้วค่ะ วางอยู่บนโต๊ะห้องนั่งเล่น คุณชาย ชอบอ่านหนังสือพิมพ์ก่อนทานอาหาร” ป้าเฉินพูดขึ้น
ฉลูรั่วหานเดินตรงไปเปิดหนังสือพิมพ์สองสามฉบับ ทุกส่วน เธออยากเข้าใจสถานการณ์ปัจจุบันของ บริษัทฉู่ชื่อ แต่ก็หวังว่าจะไม่มีการเปลี่ยนแปลงใดๆ
ดีมาก ไม่มีข่าวบริษัทฉู่ชื่อ ไม่มีข่าวก็คือข่าวดี แต่นิ้วหยุดชะงัก เธอจ้องไปที่ข่าวที่พาดหัวใหญ่ หัวข้อข่าวสีดำขนาดใหญ่เขียนอย่างน่าประทับใจ “กลุ่มบริษัทMBKได้รับรางวัลสูงสุดในกลุ่มวิสาหกิจ นวัตกรรมของจีน คุณหลงถึงได้รับการสัมภาษณ์สุด พิเศษ”
ด้านล่างเขียนไว้อย่างชัดเจน “ประธาน บริษัทMBK ได้รับการเลื่อนตำแหน่งให้ติดอันดับความ มั่งคั่งในจีน กลายเป็นคนรวยที่สุดที่มีอายุน้อยที่สุด”
ตัวเลขด้านหลังคือฐานะทางสังคมของหลงเซียว ในปัจจุบัน
ลั่วหานนับจำนวนเลขศูนย์ มุมปากเหยียดตรง “ไม่แปลกใจที่เป็นนายทุนระดับสูง มีวิธีการหาเงิน จน กลายเป็นคนที่ร่ำรวยที่สุด”
ตอนนี้ไม่รู้ว่าเขาจะโอ้อวดอย่างไร และไม่รู้ว่ามีผู้ หญิงกี่คนมาอุทิศตน
รู้สึกไม่ค่อยสบายใจ ยิ่งเขาโดดเด่นมากเท่าไร ก็หมายความว่าระยะห่างของทั้งคู่ยิ่งไกลมากขึ้นเท่านั้น เธอกลัวว่าจะไม่กล้าอยู่เคียงข้างเขาอีก
ทิ้งหนังสือพิมพ์ไป ฉู่ลั่วหานรินน้ำเดือดหนึ่งแก้ว นึกถึงหลงจื่อที่โดนสั่งสอนก็พูดขึ้นอย่างไม่เป็น ทางการ “ป้าเฉิน ที่บ้านเก่าช่วงนี้เป็นไงบ้างคะ?”
ป้าเฉินบอกตามความจริง “คุณปู่และคุณนาย สบายดีค่ะ คุณไม่ต้องเป็นห่วงเลย” ฉู่ลั่วหานยกแก้วขึ้นมาดื่มน้ำหนึ่งอีก “คุณชายรอง
ล่ะคะ?”
ป้าเฉินได้ยินคุณชายรองก็ลังเลไปสักพักหนึ่ง ไม่ ได้พูดอะไร
“ทำไมเหรอคะ? มีอะไรที่ไม่สะดวกพูดเหรอ?”
ป้าเฉินพูดกับหลิงหลิงและชุนชุน “ไปห้องครัวดูสิ ว่าตุ๋นซุปเป็นไงบ้างแล้ว จัดเตรียมผักแล้วล้างให้ สะอาด”
หลังจากไล่ทั้งคู่ออกไปแล้ว ป้าเฉินก็พูดขึ้น
“คุณชายรองถูกทุบตีค่ะ เหมือนจะบาดเจ็บรุนแรงมาก คุณปู่ไม่ยอมให้เขาออกไปไหน แค่ให้หมอจ้าวมาดู เท่านั้น ฉันไปรับใช้คุณชายรอง เห็นเลือดบนเสื้อผ้า เขา ….ไม่รู้ว่าทำอะไรผิด ไปทำให้คุณปู่โกรธ”
นิ้วฉู่ลั่วหานบีบแก้วแน่น หลงถึงทำรุนแรงขนาดนี้ แม้แต่ลูกในไส้ก็ยังโหดร้ายขนาดนี้เชียว?
“คุณชายรองไม่ได้พูดอะไรเลยเหรอคะ?”
สองวันนี้ก็เงียบมาก คงไม่ได้ทำอะไรเขาอีก พอ คิดว่าถูกขังอยู่ในตระกูลหลง คิดๆ แล้วคุณชายรองน่า สงสารมาก
ป้าเฉินส่ายศีรษะ “ไม่ได้พูดค่ะ เราก็ไม่กล้าถาม
เหมือนกัน”
ฉู่ลั่วหานเห็นเธอหลบสายตา เดาว่าเธอต้องรู้อะไร บางอย่างแน่ๆ แต่ด้วยสถานะไม่สามารถเปิดเผยข้อ บกพร่องของเจ้านายได้
“อืม ไม่มีอะไรแล้ว ไปทำธุระเถอะค่ะ”
ทานอาหารเช้าเสร็จแล้ว หลงเซียวก็ไปทำงาน ฉู่ลั่ วหานเตรียมเขียนบทความ เหลือเวลาไม่มากแล้ว แป๊บ เดียวก็จะสิ้นเดือน
ตอนเช้าอ่านหนังสือมาสักพัก เปิดคอมพิวเตอร์ เตรียมแนวทาง โทรศัพท์ก็ดังขึ้นมา
หยิบขึ้นมาหนีบไว้ที่ไหล่ เคาะแป้นพิมพ์พร้อมพูด ขึ้น “ฮัลโหล?”
ทางนั้นไม่มีเสียง เธอถามอีกครั้ง “ใครคะ?” ยังคงไม่มีเสียง “พูดมาสิ ไม่พูดฉันวางนะ”
ยังคงไม่มีการตอบสนอง
ลั่วหานเอาโทรศัพท์ออกมา เห็นว่าเป็นการ โทรศัพท์ผ่านอินเทอร์เน็ต เป็นเบอร์สุ่ม คงโทรผิ ดล่ะมั้ง!
ผ่านไปสักพัก ถังจิ้นเหยียนก็โทรมา
“คุณหมอฉู่ แขนดีขึ้นไหม?”
ฉ่ลั่วหานได้ยินเสียงอ่อนโยนของเขา หัวใจก็ผ่อน คลาย “ดีขึ้นมาแล้วค่ะ ขอบคุณมากนะคะที่รองคณบดี เป็นห่วง”
“มันสมควรแล้วครับ คุณได้รับบาดเจ็บเพราะเรื่อง ของโรงพยาบาล ในฐานะผู้นำ ถ้าไม่ขอโทษจะสมควร เหรอครับ?”
ถังจิ้นเหยียนนั่งหน้าโต๊ะทำงาน มองกระถาง กล้วยไม้เอื้องข้างๆ มือ นี่คือสิ่งที่เกาหยิ่งจือให้มา แต่ ถังจิ้นเหยียนรู้สึกตั้งแต่แรกว่ากระถางนี้เหมาะกับฉ่ลั่ วหานมากกว่า
“รองคณบดีทำงานยุ่ง ไม่ต้องเป็นห่วงเรื่องเล็กๆ
หรอกค่ะ อีกไม่กี่วันฉันก็กลับโรงพยาบาลได้แล้ว ดีที่ เป็นมือซ้าย และไม่ต้องผ่าตัด ไม่เสียเวลาทำงาน” ฉ่ลั่วหานเตรียมวางสายและเขียนบทความ ถังจิ้น เหยียนก็พูดขึ้นทันที “คุณชอบต้นไม้อะไร? กล้วยไม้
ชอบไหม? กล้วยไม้เอื้อง ฉันว่ามันเหมาะกับคุณมาก”
นี่ข้ามหัวข้อไปไกลเกินหรือเปล่า?
“ฉันเหรอ? ได้หมดมั้งคะ ไม่ได้ศึกษาเกี่ยวกับ ต้นไม้ ไม่มีแนวความคิด” ฉู่ลั่วหานพลิกหนังสือ เพื่อ อ้างอิงเป็นกรณีศึกษา
“โอเค ฉันรู้แล้ว คุณพักผ่อนดีๆ นะครับ รอคุณมา ทำงานที่โรงพยาบาล”
ลั่วหานอธิบายไม่ถูก วางโทรศัพท์แล้วเคาะแป้น พิมพ์ต่อ ไม่ได้คิดอะไรมาก
ถังจิ้นเหยียนวางโทรศัพท์ลง รองคณบดีแผนก อายุรกรรมทางเดินหายใจก็เข้ามาพอดี “รองคณบดี นี่ คือข้อมูลที่ท่านต้องการ”
“วางลงได้เลยครับ เดี๋ยวผมดู”
“โอเคครับ”
รองคณบดีรายงานว่าทำงานเสร็จแล้วเตรียมจะ ออกไป ถังจิ้นเหยียนเงยศีรษะขึ้นพูด “แถวโรง พยาบาลมีตลาดดอกไม้และนกไหมครับ?”
“มีครับ ใช้เวลาเดินสิบนาทีก็ถึง ออกจากประตู ใหญ่ไปเลี้ยวขวา คุณมีอะไรหรือเปล่าครับ?”
ถังจิ้นเหยียนยิ้มอย่างสง่างาม “มีธุระนิดหน่อย คุณไปทำงานต่อเถอะครับ”
รีสอร์ทหยีจิ่ง
“คุณนาย คุณโม่มาแล้ว…คุณโม่ คุณนายอยู่ห้อง ทำงานชั้นสองค่ะ คุณ..”
“ฉันรู้ว่าเดินยังไง!”
เพิ่งได้ยินบทสนทนา โม่หรูเฟยก็ผลักประตูห้อง ทำงานออกไป โม่หรูเฟยกำลังยืนอยู่ที่ประตูในชุด แฟชั่น มุมปากยิ้มอย่างเย่อหยิ่ง
“ฉู่ ลั่วหาน เธอมีความสามารถจริงๆ กล้ากลับมา จริงๆ สินะ”
โม่หรูเฟยพิงบานประตูอย่างชำนาญ เหมือนเมีย หลวงกำลังถามเมียน้อย
ฉลั่วหานกำลังพิมพ์อยู่ “โม่หรูเฟย พี่เซียวของเธอ ไม่อยู่บ้าน ถ้าเธอมาหาเขา มันไม่ใช่เวลา”
เธอเวียนศีรษะเพราะวิทยานิพนธ์ ไม่อยาก ทะเลาะกับโม่หรูเฟย
โม่หรูเฟยเดินมาข้างเธอ “เฮ้ ฉู่ ลั่วหาน แขนหักเห รอ? คนเป็นหมอถ้าไม่มีแขน ต่อไปก็จะเป็นคนพิการ ตอนนี้เธอวิ่งแจ้นมาตระกูลหลง คิดอยากจะให้พี่เซียว เลี้ยงดูสินะ!”
“ฉันไม่มีเวลามาพูดไร้สาระกับเธอ ออกไปซะ” มือ ข้างหนึ่งของฉู่ลั่วหานใช้การไม่ได้ เคาะแป้นพิมพ์ใช้ กำลังและดำเนินการก็ช้า ทำมาตั้งนานแล้วเพิ่งเขียน ได้หนึ่งพันตัวอักษร
“เธอแกล้งทำเป็นจริงจังอะไร! ฉู่ ลั่วหาน เธอมันชั้น ตำเข้ากระดูก! ยัยชั้นต่ำ!”
โม่หรูเฟยขโมยแป้นพิมพ์หยิบขึ้นมา กด ปุ่มdeleteค้างไว้ไม่ยอมปล่อย จากนั้นสักพักคำบน หน้าจอก็ถูกลบทิ้งหมด!
วิทยานิพนธ์ที่เธอพิมพ์ออกมาด้วยความยาก ลำบาก ไม่เหลือแม้แต่ตัวอักษรเดียว!
“โม่หรูเฟยเธอบ้าไปแล้วเหรอ? ฉันกับหลงเซียวยัง ไม่ได้หย่ากัน ที่นี่คือบ้านของฉันกับเขา เธอจะมาบ้า คลั่งที่นี่ไม่ได้ ออกไป!”
โม่หรูเฟยกอดอก “ออกไป? เธอคอยดูนะ ว่า ระหว่างเราสองคนใครต้องออกไปกันแน่”
ในขณะนี้ ป้าเฉินเดินมา พูดเสียงทุ้ม “คุณนายคะ ของของคุณโม่วางไว้ที่ไหน?”
ฉ่ลั่วหานออกจากประตูไป เห็นกล่องเล็กกล่อง ใหญ่สิบกว่ากล่องในห้องรับแขก “นี่มันอะไร?”
โม่หรูเฟยลงบันไดทีละขั้น “นี่มันของของฉัน ต่อ ไปฉันจะมาที่นี่บ่อยๆ ยังไงแล้วศึกษาก่อนคลอดเด็ก แยกจากพ่อไม่ได้ เธอว่าไงล่ะ? เธออย่ามองฉันด้วย สายตาแบบนี้นะ ทั้งหมดนี้ป้าก็เห็นด้วย ถ้าจะโทษก็ โทษที่ตัวเองไม่ท้องสิ”
เธอไม่ท้องเด็กคนนี้ เป็นการช่วยเธออย่างยิ่งใหญ่ จริงๆ
ถ้าไม่ท้อง เกรงว่าจะไม่สร้างความประทับใจให้กับ หยวนชูเฟิน และยิ่งไม่มีโอกาสได้มาเยี่ยมชมห้องหอ ของหลงเซียว
แต่ในอนาคตก็จะดี เธอค่อยๆ แทนที่ฉู่ลั่วหาน กลายเป็นภรรยาของหลงเซียว! ลั่วหานเอานิ้วกดราวบันได “ตามใจ” หยวนชูเฟินอยากให้เธอออกไปจากตระกูลหลงเร็วๆ ไม่อย่างนั้นคงไม่เห็นด้วยกับเรื่องไร้สาระเซ่นนี้ จู่ ลั่วหานรู้สึกเศร้าในใจ ยิ้มอย่างขมขื่น
เมียน้อยมีลูกเพื่อสร้างความมั่นคงให้ตัวเอง เกม เก่าๆ แบบนี้ พวกเขาชอบเล่นมาก
น่าตลกสิ้นดี
โม่หรูเฟยต้องการอยู่ห้องนอนใหญ่ชั้นสอง ป้าเฉิน เข้าไปห้าม “คุณโม่ ห้องใหญ่เป็นห้องของคุณชายและ คุณนายค่ะ คุณอยู่ห้องสำหรับแขก…”
“เธอไม่มีสิทธิ์พูดอะไร! ห้องสำหรับแขก? เธอให้ หลานชายในอนาคตของตระกูลหลงอยู่ห้องสำหรับ แขก? ฉันว่าเธออยากตายแล้วล่ะ ไสหัวไปซะ!”
ป้าเฉินจากไปอย่างนอบน้อมให้โม่หรูเฟย หลิง หลิงและชุนชุนก็ไม่กล้าพูดอะไร
ฉ่ลั่วหานเห็นเรื่องตลกนี้ “ป้าเฉิน ให้เธอย้ายไปอยู่ นั่นแหละ พวกเธอไปทำธุระเถอะ” เธอกลับไปที่ห้องทำงานอย่างเหนื่อยล้า พยายาม
ซ่อมวิทยานิพนธ์ที่ถูกลบทิ้ง พบว่าเธอลบไฟล์เอกสาร
โดยตรง โม่หรูเฟยเธอทำเกินไปแล้ว!
คนรับใช้ยัดสิ่งของทั้งหมดของฉู่ลั่วหานลงไปใน กระดาษลัง ผลิตภัณฑ์ดูแลผิว เครื่องประดับ เสื้อผ้า สองสามชื้นในตู้เสื้อผ้าก็ถูกยัดลงไปยับยู่ยี่ด้านใน นี่ คือการเก็บกวาดออกจากห้อง
“ฉู่ ลั่วหาน ของเน่าอย่างเธอครองห้องนอนใหญ่ฉันละอายใจแทนเธอจริงๆ แต่ก็ไม่เป็นไร ต่อไปจะไม่มี ผีน่าสงสารแบบนี้อีกแล้ว! เธอด้วยเหมือนกัน ไสหัว ออกไปจากที่นี่ดีๆ ซะ!”
เฮอะ!
“คุณชาย กลับมาแล้วเหรอคะ วันนี้คุณโม่….
หลงเซียวกลับมาแล้วเหรอ?
การแสดงออกของฉู่ลั่วหานและโม่หรูเฟยเปลี่ยน ไปทั้งหมด โม่หรูเฟยเอานิ้วเรียวจิ้มหน้าผากเธอ เล็บ ยาวฝังคริสทัลจิ้มหน้าผากเจ็บนิดหน่อย
“ฉู่ ลั่วหาน พ่อของลูกเรากลับมาแล้ว ที่นี่เธออย่า คิดจะเข้ามาอีกนะ”
หลงเซียวเงยศีรษะขึ้นมองปลายบันไดเลื่อน เกลียว มีอะไรบางอย่างกองอยู่ด้านบนสุดของบันได ขมวดคิ้วเล็กน้อย ยกเท้าก้าวขึ้นบันไดทีละขั้น….