ประธานหยิ่งยโสของฉัน - ตอนที่ 678
ตอนที่ 678 ชาวนากับงูเห่า
เขาพูดคำพูดที่น่าตกใจเหล่านั้นอย่างออกมาง่ายๆสบายๆ ทำเอาผู้ฟังตกใจจนสะดุ้ง
พวกเขาไม่เคยคิด ไม่กล้าแม้แต่จะคิดว่าฉู่ลั่วหานจะฟ้องหย่าหลงเซียวในเวลาวิกฤตแบบนี้ สิ่งที่คิดไม่ถึงยิ่งกว่าคือหลงเซียวหย่าออกมาตัวเปล่า ไม่เหลือทรัพย์สินของตระกูลสักนิดเดียว บ้านเพียงหนึ่งเซนยังไม่เก็บไว้?
นี่มัน…
มันเหลือเชื่อไปแล้ว นี่มันทำลายมุมมองทั้งสามไปเลย
หลงเซียวขมวดคิ้ว ใบหน้าคมคายของเขาไม่มีรอยยิ้มอยู่ ดวงตาสีเข้มมองไปที่หลงถิงที่นั่งอยู่ด้านหลังโต๊ะและกำลังจับจ้องไปทางหลงเซียวเช่นกัน
ในห้องเงียบมาก เงียบเหมือนไม่มีสิ่งมีชีวิตอยู่ ทนายมองหน้ากันแล้วกลืนน้ำลาย รอสองพ่อลูกอย่างเงียบๆ…ไม่สิ คนทั้งสองที่เคยเป็นพ่อลูกกันเริ่มสงครามกัน
เงียบ ไร้เสียง เดาว่ากินเวลาไปประมาณหนึ่งนาทีเต็ม แต่มันกลับให้ความรู้สึกที่นานเป็นชั่วโมง ในที่สุดหลงถิงก็ถูกสายตาหลงเซียวบังคับให้เปิดปากก่อน
“หลงเซียว แกทำผิดกฎหมายเรื่องโอนทรัพย์สิน เหอะๆ แกคิดดูดีๆสิ ข้างหลังนี้คือทนายที่น่าเกรงขามที่สุด มืออาชีพที่สุดในเมืองหลวง แกกล้าเล่นลูกไม้ต่อหน้าพวกเขางั้นหรอ เกรงว่าที่ที่แกต้องไปต่อจากนี้คือคุกแล้วล่ะ!” หลงถิงพยายามระงับความโกรธ แต่เส้นเลือดปูดขึ้นบนหน้ายังคงทรยศบ่งบอกความโกรธของเขา
หลงเซียวหันหน้า ร่างสูงหมุนในอากาศอย่างสมบูรณ์แบบราวกับนกอินทรีแล้วยิ้มให้กับทนาย “แน่นอนว่าผมรู้ว่าทนายเหล่านี้น่าเกรงขามที่สุดในเมืองหลวง แล้วผมจะกล้าใช้ช่องว่างทางกฎหมายต่อหน้าพวกเขาได้อย่างไรล่ะครับ? ผมแค่คิดว่า ถึงทนายความจะมีอำนาจแค่ไหนก็คงไม่มีมากไปกว่า ‘กฎหมายคู่สมรส’ หรอกใช่ไหมครับ?”
ทันใดนั้นหลงถิงก็กำหมัดแน่นแล้วทุบโต๊ะทำงาน “ปัง!” ด้วยแรงที่มากทำให้กลบเสียงหายใจและใจเต้นของทุกคนไว้ “หลงเซียว ทำอยู่ตั้งนานไม่รู้จักหย่า ทำไมต้องหย่าวันนี้ นี่มันเห็นได้ชัดว่าแกต้องการโอนทรัพย์สินเป็นชื่อของแกนี่”
หลงเซียวมองเหล่าทนายแล้วย้อนกลับไปที่หลงถิงด้วยขี้เกียจที่จะยืนคุยกัน หลงเซียวเลือกนั่งลงบนโซฟาที่อยู่ใกล้ตัวเขามากที่สุด เขายืดขาออก แล้วหยิบหนังสือสัญญาที่ทนายเตรียมไว้บนโต๊ะมามองผ่านๆเหมือนกำลังอ่านเรื่องตลก “คุณหลงคุณพูดไม่ถูกนะครับ ผมหย่ากันตั้งแต่เมื่อวานแล้ว ผมไม่ได้รู้ล่วงหน้านี่ครับว่าคุณหลงจะขอให้ผมมอบทรัพย์สินภายใต้ชื่อของผมคืน ดูเหมือนว่าผมไร้เดียงสาเกินไป ผมคิดว่าความรักระหว่างพ่อลูก 30 ปีที่ผ่านมา อย่างน้อยก็มีคุณค่าบ้าง”
เขาชี้เลขในเอกสารด้วยเสียงขี้เล่น
ทนายมองหน้ากัน แต่ไม่กล้าพูดมั่วซั่วจึงรอต่อไป
ใบหน้าของหลงถิงสั่นสะท้าน นิ้วหนากดลงบนโต๊ะ แต่ก็ยังไม่สามารถหยุดอาการสั่นของเขาได้ ปากบิดเบี้ยวด้วยความโกรธจัด “ฉันเลี้ยงดูแกมา 30 ปี แต่แกกลับมาแว้งกัดฉัน เหอะ! หลงเซียว! แกทำให้ฉันนึกถึงเรื่องชาวนากับงูเห่า แกนี่ช่างรู้จักสอนบทเรียนให้ฉันจริงๆ!”
ขณะที่หลงถิงกำลังสู้กับหลงเซียวด้วยปาก เขามองไปที่ทนายด้วยสายตาถามว่าหลงเซียวได้ทำผิดกฎหมายหรือไม่ มีวิธีให้คายเงินออกมามั้ย
ทนายความเข้าใจความหมายที่สื่อมาของหลงถิง พวกเขารีบถอยหลังไปที่มุมหน้าต่างประชุมตรวจสอบเงื่อนไขของกฎหมายต่างๆ
หลงเซียวเห็นทุกอย่างที่พวกเขาทำ ในใจก็ยิ่งรู้สึกขบขัน “ถ้าพูดเรื่องบทเรียน ผมควรจะขอบคุณคุณหลงมากนะครับ เคล็ดลับนี้ผมได้เรียนมาจากคุณ ตอนนั้นคุณใช้มันเก่งมากกว่าผมอีก แถมเคล็ดลับที่คุณหลงยังทำให้ดีกว่าของผมในวันนี้อีก คุณหลงดูเหมือนจะเก่งในด้านถีบหัวส่งเวลาหมดประโยชน์นี่ครับ แต่น่าเสียดายที่ผมโง่เกินกว่าจะเรียนรู้มันได้”
หลงเซียวเปลี่ยนขาที่ไขว่ห้างสบายๆ คำพูดนั้นเตือนหลงถิงว่าเขาใช้เวลา 10 ปีในสร้าง MBK ในวันนี้ พอ MBK มั่นคงแล้ว เขาก็กลับจัดการขับไล่ด้วยอุบายที่เลวร้ายเช่นนี้ ช่างเป็นเรื่องที่ได้เปิดหูเปิดตาจริงๆ!
ริมฝีปากของหลงถิงขยับพูดประชดประชันว่า “หลงเซียว แกมันก็แค่งูเห่าที่เลี้ยงไม่เชื่อง ฉันเลี้ยงดูแกมากับมือ ใช้ MBK เปลี่ยนแกให้เป็นอย่างทุกวันนี้ ตอนนี้แกกลับไม่รู้จักสำนึก ถ้าไม่มีตระกูลหลง ไม่มีฉัน ก็คงไม่มีแกในตอนนี้หรอก!”
ความโกรธสามารถทำให้คนสูญเสียความสามารถในการแยกแยะและยังทำให้สมองขุ่นมัว ตอนนี้หลงถิงเป็นเช่นนั้น
หลงเซียววางหนังสือสัญญาลง สิ้นเสียง”ป๊าบ!” หนังสือสัญญาก็วางอยู่บนโต๊ะ “คุณหลงพูดถูก ถ้าไม่มีคุณ ก็คงไม่มีผมวันนี้ ตอนนี้จริงๆตัวผมควรอยู่ที่อเมริกา อยู่ที่อังกฤษของคุณ อยู่ที่ไหนก็ได้ที่เป็นไปได้ คงอยู่กับพ่อผู้ให้กำเนิดแล้ว!”
คำว่าพ่อผู้ให้กำเนิดเป็นเหมือนขวากหนามในหัวใจของหลงถิง พอเขาดึงมันออกหนึ่งครั้ง เขาก็จะรู้สึกเจ็บหนึ่งครั้ง หนามนั้นฝังรากลึกลงไปในหัวใจของเขาอย่างดื้อรั้นไม่สามารถดึงออกมาได้ มันจะอยู่กับเขาไปตลอดชีวิต
พูดจบหลงเซียวก็ตบที่วางแขนโซฟาแล้วดูท่าทางลนลานของหลงถิงอย่างเฉื่อยชา เขาสนุกกับมันมาก!
หัวของหลงถิงเหมือนถูกน้ำเย็นสาดใส่ ทำให้หัวแทบระเบิด
“แกจะรู้อะไร! แกไม่รู้เข้าใจอะไรทั้งนั้น พ่อผู้ให้กำเนิดอะไรกัน? แกคลอดออกมาหลังจากพ่อตายแล้ว” หลงถิงต้องการใช้ความแข็งกร้าวปิดบังความตื่นตระหนกไว้ อันที่จริงเขาทำมันได้ดีทีเดียว
น่าเสียดายที่คนที่เขาเผชิญหน้าด้วยคือหลงเซียว ดังนั้นกลอุบายนี้จึงดูน่าขันมาก
หลงเซียวรู้สึกรำคาญจึงตะโกนเรียกหัวหน้าทนายของหลงถิงอย่างไม่อดทน “เจอรึยัง? ผมละเมิดกฎหมายไหน ข้อบังคับข้อไหน? ต้องติดคุกกี่ปี? หรือจะลิดรอนสิทธิ์ทางการเมือง”
ทนายต่างพากันหาข้อมูลอย่างวุ่นวาย พอถูกถาม สีหน้าของพวกเขาก็อึกอัก “คุณชายใหญ่ คุณบอกว่าภรรยาคุณเป็นคนฟ้องหย่าและขอให้คุณหย่าออกไปตัวเปล่าใช่มั้ยครับ? นี่มัน…ดูไม่มีเหตุผลเอาซะเลยใช่ไหมครับ? ถ้าคุณเป็นคนขอหย่าแล้วสละทรัพย์สินของตัวเองก็ดูจะสมเหตุสมผลกว่า”
ดวงตาของหลงถิงกลับมาลุกโชนด้วยความหวังอันริบหรี่ จึงถามต่อ “หลงเซียว แกยังกล้าเจ้าเล่ห์อีกเหรอ? ความผิดฐานเจตนายัดยอกทรัพย์สินไม่ใช่เรื่องเล็กนะ แกพร้อมที่จะฟ้องร้องสินะ”
เมื่อเขาได้ไพ่ที่จะชนะก็ยืดมันขึ้น เพื่อรอดูเรื่องตลกของหลงเซียวกับจุดจบที่น่าเศร้า
หลงเซียวกดนิ้วไปที่ขมับของเขา เม้มริมฝีปากของเขาราวเด็กที่ทำผิดมาแล้วต้องการอ้อนผู้ใหญ่ “นั้นสิครับคุณหลง ผมเองก็อกหัก แต่ภรรยาผมกำลังท้อง ตามกฎหมายแล้วผู้หญิงที่ตั้งครรภ์มีสิทธิ์ที่จะขอหย่ากับสามี แล้วกฎหมายนี้ยังจะคุ้มครองสิทธิของหญิงตั้งครรภ์อย่างเต็มที่ด้วย”
อะไรนะ?!
หัวใจของหลงถิงร่วงลงพื้น เขาก็ถูกคำพูดของหลงเซียวตบหน้า โดนกระแทกเข้ากับหน้าผาด้วยเจ็บปวด
ฉู่ลั่วหานท้องแล้วหรอ!
5 ปีที่ผ่านมาไม่เกิดอะไรขึ้นแต่กลับมาท้องในอย่างงี้หรือ?! เธอท้องไม่ได้ไม่ใช่หรอ?! แล้วท้องได้ยังไง?
หรือว่าเป็นแค่การสร้างเรื่อง?
ทนายยังที่เมื่อกี้เพิ่งตรวจสอบเงื่อนไขการหย่าร้างทางกฎหมาย ตอนนี้ก็กำลังตรวจสอบเงื่อนไขการปกป้องสิทธิ์และผลประโยชน์ของหญิงตั้งครรภ์ ทนายทั้ง 6 ช่วยกันหาจนหนังสือแทบจะปลิว
ท่ามกลางความวุ่นวาย หลงเซียวดูเหมือนเป็นนอกที่ยืนดูอยู่ แม้ตรงหน้าจะวุ่นวาย เขากลับไม่สะทกสะท้านอะไร “ถ้าโยงมาเรื่องค่าเลี้ยงดูบุตร ค่าใช้จ่ายที่ภรรยาเก่าผมต้องสูญเสีย แล้วยัง…” หลงเซียวถูคิ้วอย่างอ่อนแรง “ผมผิดเองที่ประมาทเกินไป ในงานเลี้ยงกลางคืนของเทศกาลไหว้พระจันทร์ผมได้ประกาศต่อสื่อไปแล้วว่าผมได้โอนทรัพย์สินทั้งหมดในชื่อของผมให้กับอดีตภรรยา ตอนนี้เธอยังถือหนังสือการโอนของผมอยู่ ผมพอจะมีทางไหนบ้าง”
หลงเซียวแบมือออกมาด้วยสีหน้าอัดอั้น ท่าทีนั้นบอกหลงถิงว่าฉันจะทำอะไรได้อีก? ฉันก็หมดหวังมาก ฉันผิดเองที่หุนหันพลันแล่นเกินไป แต่ในเมื่อเรื่องมันมาถึงขนาดนี้แล้วก็จนใจ
ในที่สุดหลงถิงก็เข้าใจทั้งหมดแล้ว!
จากความอัดอั้นของหลงเซียว เขาได้จัดการแผนทั้งหมด หลงเซียวเตรียมการไว้นานแล้ว! ตั้งแต่งานเลี้ยงในวันไหว้พระจันทร์ เขาได้ปูทางไว้แล้ว!
การโอนทรัพย์สินไม่ใช่เรื่องบังเอิญ แต่เป็นแผนที่วางอย่างรอบคอบทีละขั้นตอนๆ
แผนจนถึงตอนนี้ของเขา คือการไม่เหลือหุ้นกับทรัพย์สินของ MBK ไว้เลย
หลังจากที่เข้าใจดีแล้ว หลงถิงก็ทรุดตัวลงบนเก้าอี้ล้อเลื่อนแล้วหายใจหอบแรง พูดอะไรไม่ออก
เมื่อหลงเซียวเห็นว่าเขาโกรธมากจึงปลอบโยนเขาด้วยความหวังดีว่า “คุณหลงครับ สำหรับคุณแล้ว MBK เพียงสูญเสียหุ้นเพียงเล็กน้อย ตระกูลหลงเสียอสังหาริมทรัพย์ เงินทุนไปจำนวนหนึ่งเอง คุณเสียใจมาก แต่สำหรับฉันก็เหมือนกัน ดังนั้นพวกต่างตกอยู่ในชะตากรรมเดียวกัน”
ทันใดนั้นตาของหลงถิงก็เบิกกว้าง แก้วน้ำเหล็กถูกเขวี้ยงมาทางหลงเซียว “โครม”
เห็นว่ามันกำลังจะกระทบกับหัวหลงเซียว เขาเอนหลังหนี แก้วน้ำก็ลอยผ่านหน้าไปชนภาพจิตรกรรมฝาผนัง
ภาพจิตรกรรมฝาผนังถูกแก้วน้ำกระแทบใส่แล้วแก้วน้ำก็แตกทันที
ถ้ามันโดนหัวของหลงเซียวจริงๆ หลงเซียวตายแน่อย่างไม่ต้องสงสัย
ความผิดฐานฆ่าคนตาย ฆาตกรมีความพยายามที่ต้องการฆ่าจริงๆ!
หลงถิงพลั้งมือ คว้าแก้วกาแฟอย่างไม่เต็มใจ เตรียมจะเขวี้ยงมันอีกครั้ง
หลงเซียวยืนขึ้นเดินไปที่โต๊ะทำงาน เขาใช้มือข้างหนึ่งพยุงโต๊ะไม้มะฮอกกานีที่สะอาดแล้ว เขาเอนตัวไปข้างหน้าใช้นิ้วจับขอบถ้วยกาแฟแล้วแย่งไป
แล้วพูดด้วยน้ำเสียงที่มีเพียงพวกเขาสองคนเท่านั้นที่ได้ยินว่า “คุณหลงคิดจะฆ่าคนหรือครับ? ขอโทษด้วยที่ทำให้คุณต้องผิดหวังเสียแล้ว”
หลงถิงกัดฟัน หน้าเขาสั่นอย่างเห็นได้ชัด “หลงเซียวแกอย่ามาบังคับฉันนะ!”
หลงเซียวก้มหน้ามองลงไปที่แก้วกาแฟ กาแฟข้างในยังดื่มไม่หมด “คุณหลงชมผมเกินไปแล้ว ผมจะบังคับคุณได้ยังไง? ผมหมดเนื้อหมดตัว อะไรก็ไม่มี คุณ MBK คิดจะจัดการผม มันง่ายเกินไปมั้ย?”
หลงเซียววางแก้วกาแฟเขาแล้วเตือนอย่างเป็นมิตรว่า “อายุมากแล้วอย่าดื่มกาแฟ มันจะทำให้โกรธง่ายนะครับ”
“ผมออกจากตระกูลหลง ไม่มีหุ้น ไม่มีเงิน เหอะๆ หลงเซียวน้าหลงเซียว ตอนนี้เป็นเสือที่ถูกถอดเขี้ยวซะแล้ว ไม่ได้เรื่องเลยจริงๆ”
หลงเซียวพยักหน้าเห็นด้วยกับความคิดเห็นของเขา “ใช่ตอนนี้ผมก็เป็นแค่เสือนอกป่าที่ถูกสุนัขรังแก คุณหลงนั้นมากความสามารถ อย่ารังแกผมเลยนะครับ”
ทนายล้วนรู้ว่าหลงเซียวเรียกหลงถิงว่าหมา นับประสาอะไรกับหลงถิงเอง
“หลงเซียว แกลองคิดดูว่าจะไปเผชิญหน้ากับสื่อ เผชิญหน้ากับผู้ถือหุ้นของแกได้ยังไง แล้วยังมีอีก แกจะวิธีจัดการปัญหาบริษัทฉู่ซื่อยังไง! มาอวดเก่งต่อหน้าฉันแต่จะให้แกตายไม่สวยแน่”
หลงถิงหมดแรงโต้เถียง เขาเข้าใจวิธีการของหลงเซียว เพราะในเมื่อเขาเลือกที่จะโอนทรัพย์สินกับการหย่าร้าง เขาจึงต้องมีทีมทนายมืออาชีพหนุนหลังให้การคุ้มครองทางกฎหมายอย่างเพียงพอ
เขาหนีปัญหาไม่ได้
หรือพูดอีกอย่างคือหากว่ากันตามทางกฎหมายแล้วเขาไม่สามารถเรียกคืนหุ้นกลับมาได้ ไม่มีทาง
หลงเซียวจัดชุดสูทแล้วพูดทำนองไม่คิดจะทำอะไรกับสิ่งที่เป็นอยู่ว่า “คุณหลงครับ ตอนนี้ผมเป็นแค่คนเร่ร่อน พอหย่าแล้วผมไม่มีแม้แต่ที่อยู่ด้วยซ้ำ งั้นให้ผมทำงานที่ MBK เป็นไงครับ? โอ้ ผมจำได้ว่าวันนี้ตอนเช้าที่โรงพยาบาลคุณยังชวนผมไปอยู่บ้านตระกูลหลงอยู่เลย ไม่รู้ว่าตอนนี้ยังจะนับอยู่หรือเปล่านะครับ? ผมอยู่ที่บ้านตระกูลหลงมาหลายสิบปีจนชินแล้ว การให้ผมไปนอนห้องเดิมคงจะไม่รบกวนคุณมากนะครับ”
หลงเซียวนั่งหันข้างบนโต๊ะครึ่งก้น ยิ้ม ราวกับคนจรจัดที่ขอที่อยู่
ทนายตกตะลึง ท่านเซียว…ท่านเซียวเป็นอะไรไป?
หลงถิงโบกมือชี้ไปที่ประตูห้องทำงานแล้วก่นด่าสาปแช่ง “ออกไป! ไสหัวไปจากที่นี่!”