ประธานหยิ่งยโสของฉัน - ตอนที่ 679
ตอนที่ 679 โกรธ
จี้ตงหมิงยืนอยู่หน้าประตูห้องทำงานของหลงถิง คอยดูเวลารอเจ้านายออกมาอย่างร้อนใจ
เมื่อจู่ๆได้ยินเสียงด่าของหลงถิง จี้ตงหมิงก็คอยเงี่ยงหูฟังเตรียมพร้อมเสมอ แต่ข้างในนั้นไม่มีเสียงอะไรแล้ว ไม่งั้นเขารีบบุกเข้าไปเป็นสิ่งแรกโดยไม่สนอะไรทั้งนั้น ไปปกป้องนายก่อนแล้วค่อยว่ากันใหม่
แต่หลังจากเสียงด่านั้นหยุดลง ข้างในก็ไม่มีการเคลื่อนไหวใดๆอีก ใจจี้ตงหมิงเต้นตุ้มๆต่อมๆ แอบคิดว่าขอให้เจ้านายไม่ติดอยู่ข้างในเลย ขอให้ออกมาอย่างปลอดภัย!
ระหว่างที่นึกไปพลาง โทรศัพท์มือถือของจี้ตงหมิงก็ดังขึ้น ทำเอาเขาตกใจหมดมาก จึงหยิบโทรศัพท์ออกมาเห็นว่าเป็นสายจากคุณหญิง จึงพยายามทำใจให้สบาย รับสายแล้วกระซิบว่า “คุณหญิงครับ นายยังอยู่ในห้องทำงานของหลงถิงอยู่เลยครับ”
ตอนนี้ลั่วหานอยู่ในโรงพยาบาล หยวนชูเฟินเพิ่งตื่น เธอยังไม่รู้ว่าข้างนอกเกิดอะไรบ้าง หลังจากที่ลั่วหานฝากหยวนชูเฟินให้ส้งชิงเซวี๋ยนดูแล ลั่วหานกังวลสถานการณ์ฝั่งหลงเซียว แต่ก็ไม่กล้าโทรหาเขาโดยตรง จึงมาถามข้อมูลจากจี้ตงหมิงเอง
“เข้าไปนานแค่ไหนแล้ว? ข้างในมีการเคลื่อนไหวยังไงบ้าง?” ลั่วหานเดินไปที่ระเบียงแล้วกระซิบถาม ใกล้ๆหน้าต่างลั่วหานมองไปรอบๆ ลมฤดูใบไม้ร่วงเงียบสงัด ข้างล่างเห็นเงาแพทย์และพยาบาลที่กำลังเร่งรีบ
จี้ตงหมิงกัดริมฝีปาก “เข้าไปเกือบชั่วโมงครึ่งแล้วครับ เมื่อกี้ผมได้ยิน…” เมื่อคิดๆดู ถ้าเขาบอกเธอว่าหลงถิงโกรธ เธอคงจะเป็นห่วง จี้ตงหมิงคิดได้ดังนั้นจึงพูดเองเออเองว่า “หลงถิงกับนายเหมือนกำลังจะเจรจาอะไรบางอย่างอยู่ครับ ผมได้ยินไม่ถนัด แต่ผมไม่สามารถเอาเปรียบได้ครับ”
ตอนนี้ลั่วหานเชื่อ “อืม ถ้าเขาออกมา นายบอกเขาด้วยนะว่าแม่ตื่นแล้ว สถานการณ์ก็ปกติดี ให้เขาสบายใจได้”
“ครับ ผมจะรอต่ออีกสักครู่”
“อืม แล้วอีกอย่างข่าวด้านลบของฉันใกล้จะถูกปล่อยเร็วๆนี้แล้ว ตอนเขาออกมาคอยทำให้อารมณ์เขาคงที่ไว้ ทางฝั่งฉันโอเคดี อย่าให้กังวลจนเรื่องวุ่น”
จี้ตงหมิงเหม่อ เร็วขนาดนั้นเลยหรอ?!
นายยังไม่ออกมาเลย!
“ใช่!”
ลั่วหาน ไม่ได้พูดอะไรมากกว่านี้ เธอวางสายแล้วเดินไปที่ห้องพักผู้ป่วย
เธอยังไม่ทันกลับเข้าไป ส้งชิงเซวี๋ยนก็ออกมาก่อน เขาวางนิ้วลงบนริมฝีปากเพื่อสื่อว่าไปหาที่เงียบๆคุยกัน
ทั้งสองเดินออกจากห้องพักผู้ป่วย แพทย์ที่เจ้าของไข้หยวนชูเฟินเข้ามาดูแลคนไข้ พวกเขาเดินตรงไปที่ชั้นล่าง นักข่าวออกไปแล้ว แต่เจ้าหน้าที่ห้องพยาบาลทั้งหมดมองไปที่ลั่วหานด้วยสายตาแปลกๆ
ลั่วหานเข้าใจอย่างแจ่มแจ้ง เธอแสยะยิ้ม “นี่แหละนะเรื่องดีๆไม่เคยสนใจ พอมีข่าวไม่ดีขึ้นก็สนใจกันไปทั่วเชียว ที่พวกเขามองฉันแบบนี้แสดงว่าข่าวการหย่าของฉันกับหลงเซียวคงออกมาแล้วสินะ?”
ส้งชิงเซวี๋ยนที่กำลังเดินได้ยินเสียงเธอเยาะเย้ยตัวเองอย่างสะเพร่า จึงก้าวกลับมาแล้วตาทั้งสองข้างก็เบิกกว้าง “ธะ ธะ เธอพูดว่าอะไรนะ? ธะเธอ…เธอ…เธอหย่ากับเซียวเอ๋อแล้ว!”
ลั่วหานถอนหายใจ ให้ตายเถอะ! ทำไมเธอถึงไม่ระวัง เมื่อเห็นท่าทางช็อกของเขา ลั่วหานก็ได้แต่หัวเราะแห้งๆแล้วเข้าจับแขนส้งชิงเซวี๋ยนอย่างสนิทสนมว่า “คุณลุงคะ อย่าเพิ่งตกใจค่ะอย่าเพิ่งตกใจ ฟังหนูพูด…”
“พูดบ้าพูดบออะไร! ฉันโกรธนะ! เรื่องใหญ่แบบนี้แต่ฉันกลับไม่รู้อะไรเลย! พวกเธอโตกันแล้วแถมเก่งมากด้วย ถึงหย่ากันโดยไม่บอกอะไรสักคำ!! เธอๆๆๆ!”
เขาเชื่อในความรู้สึกของทั้งคู่ว่ามันไม่มีวันพังจนหย่ากัน จะต้องมีเหตุผลอื่นแน่ๆ แต่เขาโกรธมาก!
ส้งชิงเซวี๋ยนเป่าหนวดและเบิกตาด้วยความโกรธพูดอะไรไม่ออก
ลั่วหานสังเกตมองรอบข้างอย่างตื่นตัว กำแพงมีหูประตูมีช่อง ไม่ว่าจะทำอะไรเธอก็ต้องระวัง “ลุงคะ อย่าถามอะไรตอนนี้เลยนะคะ รู้แค่ว่าหลงเซียวกับหนูหย่ากันแล้วก็พอ แล้วอีกอย่างช่วยปิดเรื่องนี้ไม่ให้แม่รู้ชั่วคราว กำชับหมอและพยาบาลให้อย่าพูดออกไป”
ส้งชิงเซวี๋ยนยังไม่หายโกรธ จึงไม่มีอารมณ์ไหนที่จะฟังคำอธิบายของเธอ เขาสะบัดแขนแล้วหันหน้าหนีไม่สนใจเธออย่างโกรธๆ “เฮอะ! ฉันไม่สนใจพวกเธอแล้ว! แอบหย่ากันไม่บอก ถ้าฉันตายก็ไม่ต้องมาสนใจ! เรื่องใหญ่ขนาดไหนกันถึงต้องแก้ปัญหาด้วยการหย่า! เธอยังมีลูกในท้องนะ! แล้วเสี่ยวลั่วลั่วจะทำยังไง?”
ลั่วหานปิดหน้า “ลุงส้งคะไม่โกรธพวกเราได้มั้ย? เดี๋ยวหนูจะอธิบายทุกอย่างให้ฟัง รับรองว่าลุงชอบ ตอนนี้ลุงบอกหนูมาก่อนว่าลุงจะบอกอะไรหนู?”
ส้งชิงเซวี๋ยนผงะไปชั่วขณะแล้วมองที่ลั่วหานอย่างไม่รับรู้ “ฉัน…ฉันจะพูดอะไรนะ? ดูสิ โกรธเธอจนนึกไม่ออกแล้ว!”
ลั่วหานขอโทษอย่างระมัดระวังแล้วช่วยลูบหลังให้ส้งชิงเซวี๋ยน “ถ้าลุงจำไม่ได้ก็ไม่เป็นไรค่ะ ไม่ต้องนึกแล้ว อย่าโกรธ อย่าโกรธเลยนะคะ”
ส้งชิงเซวี๋ยนตบหน้าผากอีก “นึกออกแล้ว เมื่อคืนเกาหยิ่งจือมาหาฉัน”
ลั่วหานกลัดกลุ้ม “เธอมาหาลุงทำไมคะ?”
ส้งชิงเซวี๋ยนแตะปลายจมูกลั่วหานแล้วพูดอย่างลึกลับซับซ้อนว่า “ฉันให้โอกาสเธอเดาสามครั้ง”
——
หลงเซียวเดินออกจากห้องทำงานของหลงถิง จี้ตงหมิงปรี่เข้าไปหาเขา “นายครับเป็นยังไงบ้าง?”
“เฮอะ!” หลงเซียวส่งเสียงเบาๆ เขาจัดปกเสื้อเชิ้ตสีขาว “หมาจนตรอก ต่อไปคงจะไล่กัดไปทั่ว”
จี้ตงหมิงรีบเดินตามหลงเซียว ทั้งสองก็เดินไปที่ทางเข้าลิฟต์ “นายจะรับมือยังไงครับ?”
แววตาหลงเซียวว่างเปล่า ตอนนี้ร่างกายของเขาเหมือนเครื่องทำความเย็น”หลงถิงหยิบโครงการเขตเมืองโบราณของเมืองเจียงเฉิงมาคุยเงื่อนไขกับฉัน ให้ฉันถอนคำแถลง”
“เขาพลาดท่าแล้วใช่มั้ยครับ?!” จี้ตงหมิงเผลอพูดออกมาอย่างตื่นเต้น พูดจบเขาพบว่าตัวเองพูดแรงไปจึงก็ปิดปากไม่กล้าพูดอะไรอีก
หลงเซียวกลับยิ้ม “ใช่ เขาพลาดท่าแล้ว”
จี้ตงหมิงยิ้ม “งั้น…”
“หาอะไรให้เขาทำ ให้กิจกรรมช่วยย่อยอาหารเสียหน่อย วันนี้ราคาหุ้นของ MBK กับบริษัทฉู่ซื่อตกฮวบ พรุ่งนี้ปล่อยให้บริษัทฉู่ซื่อตกลงต่อให้หลงถิงเป็นของหวาน”
จี้ตงหมิงพยักหน้า “ได้ครับ”
หลงเซียวพูดอย่างกระชับว่า “แล้วอีกอย่าง ช่วงนี้โครงการที่ MBK ร่วมมือกับบริษัทเสิ่นซื่อกำลังจะเริ่มแล้ว ส่วนข่าวเกี่ยวกับเสิ่นเหลียวก็เลือกเวลาดีๆแล้วปล่อยข่าว ให้ฝ่ายประชาสัมพันธ์ของ MBK กับบริษัทเสิ่นซื่อไปหาคำอธิบายกันเอง”
จี้ตงหมิงกะพริบตา “นาย…นายยังอยากใช้เรื่องของเสิ่นเหลียวกลบกระแสข่าวตอนนี้หรือครับ?”
หลงเซียวมองเขาอย่างเย็นชา “รู้เยอะจริง”
จี้ตงหมิงปิดปากแน่น โอเคโอเค เห็นได้ชัดว่านายจะไม่ปล่อยให้ข่าวด้านลบของการหย่าอยู่นาน ถ้าข่าวของเสิ่นเหลียวออกมาแล้ว งั้น…เหอะๆๆ!
ประตูลิฟต์เปิดออก เท้าที่ก้าวออกมานั้นเป็นร่างที่เหนื่อยล้าของหลงจื๋อ
“พี่ พี่จะกลับแล้วหรอ?” หลงจื๋อดูจนตรอก ชุดสูทของเขาถูกดึงมาอย่างเห็นได้ชัด หลงเซียวนึกถึงนักข่าวที่อยู่ชั้นล่างก็เข้าใจ
“อืม จะกลับแล้ว เรื่องที่ควรพูดพูดไปชัดแล้ว” หลงเซียวกับหลงจื๋อคุยกันตรงทางเข้าลิฟต์ ข้างหลังหลงจื๋อคือหลงยี่ ข้างหลังหลงเซียวคือจี้ตงหมิง
สี่คนแปดตาต่างมีความคิดของตัวเอง
หลงจื๋อพยักหน้า “นักข่าวด้านล่างถูกไล่ออกไปแล้ว”
“ดี”
เมื่อจบการสนทนาที่เรียบง่าย หลงเซียวก็ก้าวขึ้นออกจากลิฟต์วีไอพี พาเขาออกจาก MBK ที่บรรยากาศแย่ๆ
หลงจื๋อมองพี่ชายที่กำลังค่อยๆเดินจากไปด้วยความรู้สึกที่ขาดอะไรไป เขายิ้มอย่างขมขื่น “ไม่คิดเลยจริงๆว่าเราจะมาไกลถึงจุดนี้”
หลงยี่ตบไหล่เขาแล้วยิ้ม “คนอุดมการณ์ต่างกันคบกันไม่ได้ นายกับเขาไม่ใช่คนที่อยู่ในอุดมการณ์เดียวกัน ไม่ช้าก็เร็วก็ต้องจากกัน”
หลงจื๋อไม่คิดคุยให้มากความกับหลงยี่ หลงจื๋อปัดมือเขาออกแล้วตรงไปห้องทำงานของหลงถิง
ไม่ถึง 5 นาทีข่าวการหย่าของหลงเซียวกับฉู่ลั่วหานแพร่ไปยังสื่อใหญ่ๆทุกสื่อ เอาชนะข่าวเมื่อคืนและข่าวเมื่อเช้านี้ได้สำเร็จจนกลายเป็นข่าวยอดฮิต TOP1!
“หลงเซียวออกจากตระกูลหลง แล้วถูกฉู่ลั่วหานหลอกแต่งงานเอาเงิน”
“ตัวตนหลงเซียวถูกเปิดเผย ภรรยาก็ทิ้งจาก”
“เวลาตกทุกข์ได้ยากเราจะเห็นตัวตนที่แท้จริงของคน ฉู่ลั่วหานหลอกเอาทรัพย์สินหลงเซียวไปหมดตัว”
หัวข้อข่าวเช่นนี้เต็มโทรศัพท์ คอมพิวเตอร์ ไอแพดและหน้าจอสี่เหลี่ยมทุกที่ ดังนั้นพวกเขาด่าลั่วหานว่าเป็นผู้หญิงที่เนรคุณ
หลงเซียวนั่งกุมขมับอย่างปวดหัวในรถ “อาหมิง วงการสื่อควรจะจัดระเบียบใหม่แล้วว่ามั้ย? ไอ้พวกนี้คืออะไรกัน?”
จี้ตงหมิงตกใจจนตัวสั่น “เออ…นายครับ ยุคนี้เป็นยุคอินเทอร์เน็ต ทุกคนบนโลกอินเทอร์เน็ตมีสิทธิ์ที่จะพูดได้ แถมพวกเขาไม่ได้ลงทะเบียนด้วยชื่อจริงอีก ทุกคนต่างพ่นคำพูดออกมาตามใจ มันยากครับที่จะจัดระเบียบได้”
“แม่มึงสิโว้ย!”
หลงเซียวระเบิดคำสบถที่น้อยนักจะได้ยินแล้วกระแทกโทรศัพท์ด้วยความโกรธ “รีบติดต่อเจ้าของของ BAT สามบริษัทอินเทอร์เน็ตรายใหญ่เดี๋ยวนี้ แล้วตั้งค่าแบนคำพูดโจมตีแย่ๆนี้ให้เป็นคำศัพท์ที่ไม่เหมาะสม น่าจะช่วยจัดการได้”
จี้ตงหมิงตอบรับ “ครับ ผมจะไปติดต่อเดี๋ยวนี้ครับ”
นายลงมือจัดการแล้ว เขาโกรธแล้ว
หลงเซียวหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาอีกครั้ง ต้องติดต่อลั่วหาน เธอเห็นข่าวนี้แล้วไม่รู้ว่าสภาพจิตใจเธอจะเป็นไงบ้าง
ยัยคนโง่ ผลของการหย่านี้ เกรงว่าเธอจะคิดไม่ถึง
จี้ตงหมิงหัวเราะแหะๆแล้วพูดว่า “นายครับ ความจริงคุณหญิงรู้เรื่องนี้แล้วครับ เธอยังโทรมาหาผมโดยเฉพาะเพื่อกำชับให้ผมคอยสงบสติอารมณ์ของนาย อีกอย่าง…ผมคิดว่าคุณหญิงอยากให้นายสบายใจ เธอรู้ผลกระทบด้านลบของข่าวตั้งนานแล้ว”
หลงเซียวบีบโทรศัพท์ราวกับจะให้หน้าจอบุบ “ดังนั้น?”
“ดังนั้นคุณหญิงบอกว่า อย่าให้นายกังวลจนทำเรื่องวุ่นวาย เธอยังให้ผมบอกนายอีกด้วยว่า คุณแม่ตื่นแล้วครับ” จี้ตงหมิงพูดจบ เขาก็อยากหาที่ซ่อนตัวทันที
ภูเขาน้ำแข็งที่นั่งเบาะหลังกำลังจะถล่มแล้ว!
หลงเซียวกำหมัดแน่นแล้วทุบเบาะหนัง “ไปโรงพยาบาลก่อน”
“ได้ครับ”
——
ลั่วหานเดาไปสามครั้ง แต่มันผิดทั้งหมด
ส้งชิงเซวี๋ยนลูบเคราแล้วพูดด้วยใบหน้าบึ้งตึง เป็นไงล่ะ? ไม่คิดว่าตัวเองฉลาดแล้วเหรอ? แล้วยังกล้าโกหกชายแก่อย่างฉัน”
ลั่วหานหัวเราะอ้อนเหมือนเด็ก “ใช่ๆๆ หนูผิดไปแล้ว ยอมรับผิดแล้ว”
ส้งชิงเซวี๋ยนถอนหายใจ “พวกเธอนี่น้า จะทำอะไรมักคิดตรงๆทื่อๆ ฉันอายุมากแล้ว ไม่สามารถเล่นกับคนหนุ่มสาวได้หรอกนะ”
“ไอ้หยา ขนลุก!” ลั่วหานใช้สองมือบีบไหล่ให้เขา “ใจเย็นๆ ใจเย็นๆนะคะ เดี๋ยวหนูจะยกชาดีๆให้กระปุกนึงเลย ชาใหม่ๆจากภูเขาจิงถิง!”
“เฮอะ!” ส้งชิงเซวี๋ยนเอียงหัว ประทับใจมาก ใบหน้าตึงเครียด
ลั่วหานรู้นิสัยใจคอของเขาจึงเพิ่มของ “จากนั้นให้ชุดน้ำชาอีกชุดกาน้ำชาสีม่วงจากโรงชาแดง”
ส้งชิงเซวี๋ยนหันหลังทันที “คำไหนคำนั้นนะ?”
“แน่นอนค่ะ! คำไหนทำนั้นแน่! ตอนนี้บอกเรื่องเกาหยิ่งจือได้รึยังคะ?” ข้อมือลั่วหานยกจนปวดไปหมดแล้ว
ส้งชิงเซวี๋ยนกรุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง “คำขอของเธอมันแปลกไปอยู่บ้าง ฉันยังคิดไม่ตก เธอขอให้ฉันออกใบมรณบัตรปลอมให้เธอ เธอว่า…เกาหยิ่งจือจะมีแผนการชั่วร้ายรึเปล่า?