ประธานหยิ่งยโสของฉัน - ตอนที่ 67
เราจะทยอยไล่แก้ให้ยามว่างอยากให้แก้เรื่องไหนคอมเมนต์ไว้นะคะ
แต่บางเรื่องเราก็ไม่มีไฟล์แล้วเหมือนกัน
ตอนที่ 677 ผมเหลือแต่ตัวแล้ว
น้ำเสียงที่พูดดังขนาดนี้ แถมยังคิดจริงๆหรอว่าตำแหน่งคุณชายใหญ่แห่งตระกูลหลงเป็นตำแหน่งที่เปี่ยมอำนาจ?
“ใช่ ผมไม่ใช่ คุณใช่”
หลงเซียวตอบกลับอย่างเป็นธรรมชาติที่ฟังดูแล้วเหมือนสุภาพอ่อนน้อม แต่จริงๆแล้วเขากำลังด่าหลงถิง
หลังจากเข้าใจสิ่งที่หลงเซียวพูด หลงจื๋อก็รู้สึกไม่สบายใจ การที่เขาจะจับหลงถิงไว้ก็ไม่เหมาะ จะเตือนหลงเซียวก็ไม่เหมาะ เขาไม่รู้จะทำอย่างไรดี
ทั้งๆที่เมื่อกี้พ่อพูดเสียดสีพี่ใหญ่ แต่คำที่ตอกกลับมาเหมือนคำพูดนั้นจะย้อนมาว่าเขาเสียมากกว่า
หลงถิงกัดฟันอย่างโกรธจัด แต่ก็เป็นเพียงชั่วขณะหนึ่งเท่านั้น เขาออกแรงดึงมือกลับแล้วชี้นิ้วหน้าหลงเซียวค้าง “ดี ในเมื่อแกคิดจะทุบหม้อจมเรือ เราก็ไม่มีอะไรจะพูดกันอีก ฉันยอมรับว่าฉันไม่ใช่พ่อแท้ๆของแก ตั้งแต่วันนี้ไปฉันจะไม่มีลูกชายอย่างแกอีก เตรียมสัญญาไว้ให้ดี วันนี้แกต้องส่งมอบหุ้นคืน”
หลงจื๋อก้มหน้ามองลง เป็นไปตามคาด…พี่ใหญ่เงียบไปตั้งแต่เมื่อคืนเพื่อจะทำให้พ่อคิดว่าตัวเองได้รับชัยชนะแน่ๆ แล้วค่อยตลบหลังกลับเพื่อที่จะไม่ให้พ่อสู้กลับได้
นี่คือพี่ชายที่เขาคุ้นเคย นี่คือสไตล์ของเขา
หลงจื๋อได้กลิ่นความสัมพันธ์ที่แตกร้าวที่อบอวลไปทั่วทุกมุมของห้อง มันเป็นบรรยากาศที่น่ากลัว น่าตกตะลึงอย่างมาก
ลั่วหานและส้งชิงเซวี๋ยนมองหน้ากัน ทั้งคู่ต่างก็อึ้ง
ลั่วหานไม่เคยรับรู้ข่าวใดๆมาก่อน เธอไม่คิดว่าหลงเซียวจะไวขนาดนี้ ตัดสินใจจะทำได้อย่างกะทันหันมาก
ไม่สิ เขาวางแผนไว้นานแล้ว เวลาจะต้องแม่นยำมาก แผนจะต้องวางอย่างรอบคอบ
หลงถิงหยิบโทรศัพท์ออกมาด้วยความโกรธ เขายังไม่ทันโทรออก ก็มีสายจากเหลียงจ้งซุน เขาดูตกใจกับข่าวมาก หลังจากกดรับสายเขาก็รีบพูดอย่างร้อนรนว่า “ท่านประธาน เกิดอะไรขึ้นกันแน่ครับ? ทำไมคุณชายใหญ่ถึงได้แถลงข่าวได้ เมื่อคืนเขายังเงียบไปทั้งคืนอยู่เลย!”
เส้นเลือดหน้าผากของหลงถิงปูดขึ้นทันทีอย่างห้ามไม่อยู่ เขาเดินผ่านหลงเซียวไปที่ระเบียงห้องนั่งเล่นด้านนอก จากนั้นเขาถึงพูดด้วยความโกรธว่า “มันอดทนมาทั้งคืนก็เพื่อวันนี้! เมื่อวานไม่พูดอะไรสักคำทำตัวอยู่เหนือปัญหา เราล้างมลทินข่าวเพียงฝ่ายเดียวแล้วตอนนี้มันเอาแถลงการณ์มาหักล้างข่าวทุกอย่างของเมื่อวานหมด”
มันเป็นการตบหน้าอย่างแรง แถมยังลงมือจนรับมือไม่ทันจึงไม่สามารถแก้ไขไม่ได้
เหลียงจ้งซุนเข้าใจว่าหลงเซียว สำหรับเรื่องนี้เขาไม่สามารถมองโลกในแง่ดีได้จึงได้แต่ถอนหายใจ “ท่านประธานครับ ดูเหมือนว่าคุณชายใหญ่จะตัดสินใจตัดขาดจากตระกูลหลงแล้วล่ะครับ จะอยู่ก็อยู่ไม่ได้ ท่านคิดจะทำยังไงต่อ?”
หลงถิงเอานิ้วกดเส้นเลือดบนหน้าผาก “ตอนนี้จะทำอะไรได้อีกล่ะ? เอาหุ้นในมือมันคืนมาให้หมด! ในเมื่อมันไม่ต้องการก็เอาคืนมาให้หมด แล้วมีอีกนะ ประกาศออกไปว่าเรียกประชุมด่านจะมีเปลี่ยนแปลงส่วนของผู้ถือหุ้น”
เหลียงจ้งซุนตอบรับคำซ้ำแล้วซ้ำเล่า “แล้วนอกจากนี้ เราควรแถลงอีกครั้งมั้ยครับ? เราต้องแถลงข่าวกับสื่อด้วย ไม่เช่นนั้นเราจะเสียเปรียบไปมากกว่านี้”
หลงถิงตะคอกอย่างกลัดกลุ้ม “ไปทำเลย”
“ครับท่านประธาน ผมจะไปเดี๋ยวนี้ครับ” เหลียงจ้งซุนไม่กล้าพูดถึงหยวนชูเฟินเพราะกลัวว่าหลงถิงจะยิ่งโกรธมากขึ้นอีก เขาจึงรีบวางสาย
ขณะที่หลงถิงรับโทรศัพท์ สถานการณ์ข้างในก็ไม่ได้ผ่อนคลาย
หลงจื๋อระงับอารมณ์ไว้ไม่อยู่จึงพูดขึ้นว่า “พี่ใหญ่ทำไมพี่ถึงทำแบบนี้? เมื่อคืนพ่อชี้แจงกับสื่อไปแล้วว่าพี่ยังคงเป็นคุณชายใหญ่ของตระกูลหลงอยู่ ทำไมพี่ต้องปฏิเสธด้วย? วันนี้จู่ๆพี่ก็มาทำลายความหวังนี้ ทั้งพี่ทั้งพ่อต่างก็เผชิญหน้ากับสื่อไม่ติดทั้งนั้น”
“เสี่ยวจื๋อ นายยังไม่เข้าใจเจตนาของเขาใช่ไหม? สิ่งที่เขารักษาไว้ไม่ใช่ตำแหน่งของฉัน แต่เป็นประโยชน์ที่เขาได้รับจากมัน นอกจากนี้ในเมื่อพี่ไม่ได้เป็นคนของตระกูลหลงฉะนั้นก็ไม่สามารถใช้ตำแหน่งนี้ต่อไปได้อีก ความเสียหายทั้งหมดนี้ฉันจะขอรับมันไว้เอง”
หลงเซียวอธิบายกับหลงจื๋ออย่างอดทน พูดจบก็ถอนหายใจเบาๆ
หลงจื๋อเพียงต้องการให้เรื่องนี้เงียบ รักษาภาพครอบครัวที่สมบูรณ์แบบต่อไป แต่หลายๆเรื่องไม่สามารถเป็นไปตามที่คนคนหนึ่งจะหวังได้
เขาเข้าใจแล้ว ดังนั้นหลงจื๋อจึงพูดอย่างเศร้าสร้อย “ผมขอโทษ ผมขอโทษพี่แทนแม่ผมด้วย ข่าวนั่นแม่เป็นคนทำ ไม่ว่าแม่จะมีจุดประสงค์อะไร ก็ทำให้พี่เสียหาย มันเป็นความผิดของแม่ ผมต้องขอโทษ…”
หลงจื๋อยังคงกล่าวขอโทษอยู่หลายครั้ง ศีรษะของเขาก้มลงไปถึงหน้าอก คอก็งอจนไม่รู้จะงอยังไงได้อีก
“นายไม่จำเป็นต้องขอโทษฉัน ต่อให้เธอไม่พูดอะไร ฉันก็ต้องล้างมลทินตัวเอง เพียงแค่มันจะช้าจะเร็วเท่านั้น ที่จริงแม่กับพ่อของนายมีจุดประสงค์เดียวกัน แต่ก็เพื่อปกป้องผลประโยชน์สูงสุดของตัวเองเท่านั้น มันเป็นสัจธรรมของมนุษย์ มันจะผิดอะไร?” หลงเซียวปลอบโยนหลงจื๋ออย่างใจดีทำให้เขารู้สึกสบายใจขึ้นเล็กน้อย
ลั่วหานถอนหายใจด้วยความโล่งอก เห็นด้วยกับการกระทำของหลงเซียว
ความจริงท้ายที่สุดแล้วในเหตุการณ์ทั้งหมดนี้ หลงจื๋อเป็นผู้บริสุทธิ์ที่สุด เขามีส่วนร่วมในการแข่งขันโดยไม่รู้ตัว ถูกพ่อแม่ผู้ให้กำเนิดตัวเองผลักไปสู่จุดนี้อย่างไม่รู้ตัว
แถมเขาเป็นคนใจอ่อน ยอมแพ้ง่ายซึ่งยิ่งทำให้คนอื่นปวดใจไปด้วย
“พี่ อย่าเพิ่งปลอบผมเลย ตอนนี้พี่รีบคิดว่าตัวพี่จะทำยังไงดี พ่อจะต้องเอาทรัพย์สินที่พี่ถืออยู่กลับคืนมาแน่ๆ โครงการที่พี่กำลังลงทุนจะได้รับผลกระทบ พอพี่ไม่มีตำแหน่งในตระกูลหลงแล้ว คู่สัญญาพี่อาจจะต้องปรับตัวไปตามสถานการณ์ จุดยืนของผมไม่สะดวกที่จะช่วยพี่โดยตรงได้ พี่ต้องจัดการให้ดี”
ส้งชิงเซวี๋ยนลูบเคราแล้วพยักหน้าเห็นด้วย แม้ว่าหลงจื๋อจะเป็นคนอ่อนแอ แต่เขาก็มีจิตใจดี เขาเป็นเด็กดี
ไม่เหมือนบางคน ฉลาด มีความสามารถ แต่ทำแต่เรื่องเลวร้าย!
“ตำแหน่งคุณชายใหญ่ตระกูลหลงไม่ได้เป็นที่พึ่งพิงลงหลักปักฐานสำหรับฉัน ไม่ต้องห่วง” หลงจื๋อยิ้มและมองหลงเซียวด้วยสายตาที่อ่อนโยนอย่างเป็นธรรมชาติ
ดูเหมือนว่านี่ทำให้เขามีกำลังใจและได้รับสนับสนุนอย่างไม่ต้องสงสัย
หลังจากนั้นไม่นานหลงถิงก็กลับมา “หลงเซียว นักข่าวข้างนอกต้องอยากรู้ความเห็นของแกแน่ๆ ลงไปด้วยกันสิ จะได้เซนต์หนังสือสัญญาการเปลี่ยนแปลงส่วนของผู้ถือหุ้นด้วย”
“แน่นอนครับ” หลงเซียวยักไหล่สบายๆราวกับว่าทุกอย่างคุยกันได้
ขณะที่หลงถิงเดินออกไป หลงจื๋อพูดขึ้นว่า “พ่อ ไปไล่นักข่าวก่อนเถอะครับ การที่พี่แถลงข่าวไม่จำเป็นต้องเข้าไปยุ่งกับนักข่าว”
เมื่อนักข่าวปิดล้อมจะทำให้เกิดความโกลาหล
หลงถิงเหล่มองเขา “หลงจื๋อ แกเป็นลูกใคร?”
“ผม…ผมแค่ว่ากันไปตามเนื้อผ้าเท่านั้นเอง”
“ถ้าไม่เข้าใจ ก็อย่าพูดซี้ซั้ว” หลงถิงดุเขาอย่างทนไม่ไหว สถานการณ์ตอนนี้ทำให้เขาตกอยู่ในสภาพอึดอัด เขาไม่มีเวลาต่อล้อต่อเถียงกับหลงจื๋อ
ลั่วหานอ่านข้อความในโทรศัพท์เสร็จ ก็เดินไปด้วยความกังวล เธอกระซิบบอกหลงเซียวเบาๆ “เมื่อกี้หวาเทียนเพิ่งบอกฉันว่าทั้งประตูใหญ่ ประตูหลังของโรงพยาบาลมีนักข่าวเต็มไปหมด ระวังตัวนะ”
หลงเซียวพยักหน้า “อยู่ที่นี่อย่าไปไหน ถ้าเธอไม่เป็นไร ฉันก็จะไม่เป็นไร”
ลั่วหานพยักหน้าสัญญาอย่างแน่วแน่ “ไม่ต้องห่วง โล่ข้างหลังนี้จะไม่เกิดเรื่องอะไร”
เข็มเวลาชี้ไปที่เก้าโมงครึ่ง
กระดานเปิดแล้ว
ไม่ต้องดูก็รู้ว่าราคาหุ้นของบริษัทฉู่ซื่อกับ MBK คงไม่ดีแน่ ราคาหุ้นของบริษัทซุนซื่อและบริษัทอื่นๆก็คงจะพุ่งสูงขึ้นอย่างแน่นอน แต่ไม่เป็นไร สิ่งที่สูญเสียจะต้องกลับมาแน่นอน
“เชิญครับคุณหลง”
หลงเซียว หลงถิง หลงจื๋อและบอดี้การ์ดที่ตามหลังหลงถิงออกจากห้องพักผู้ป่วยทีละคน ไม่นานพวกเขาก็เดินลงมาชั้นล่าง ครั้งนี้พวกเขาเดินมาทางประตูหลัก
ลั่วหานมองส้งชิงเซวี๋ยนแล้วพูดว่า “ลุงส้งเจออะไรมั้ยคะ? สถานการณ์ในวันนี้ลุงเคยคิดว่าจะเกิดมั้ย?”
ส้งชิงเซวี๋ยนเอนตัวลงบนโซฟาแล้วกอดอก “เคยคิด แต่มันต่างจากที่ฉันเคยคิดไว้ ในเมื่อเซียวเอ๋อรู้ฐานะที่แท้จริงของตัวเอง ก็คงจะประกาศไม่ช้าก็เร็ว เขาจะต้องช่วยตระกูลมู่ล้างมลทินในอนาคต นี่เป็นส่วนหนึ่งของแผนเขา เขาน่ะทำการใหญ่ ฉันจะรอดูว่าเขาจะทำอย่างไรต่อไป”
ลั่วหานเงียบ “ลุงเป็นคนที่ผ่านประสบการณ์มาก่อนจริงๆ ลุงรู้เยอะมากเลย”
รู้ดีกว่าเธออีก
หลงเซียวและหลงถิงมีบอดี้การ์ดคอยคุ้มกัน พวกเขาเพียงแค่ตอบคำถามของนักข่าวง่ายๆ การออกจากที่ล้อมนั้นกินเวลาไปกว่า 20 นาที
รถของจี้ตงหมิงจอดรออยู่นอกประตู เมื่อเห็นคนออกมาเขาก็เข้าไปหา “นายครับเราจะไปไหนครับ?”
หลงเซียวยื่นมือออกไปทางหลงถิง “คุณหลง รถของคุณอยู่ที่ประตูหลัง งั้นนั่งรถผมไปสิครับ”
หลงถิงตัวสั่นด้วยความโกรธ “หลงเซียว แกวางแผนทุกอย่างไว้แล้ว?”
“คุณกับผมทำงานร่วมกันมา 30 ปี คุณไม่รู้จักผมอีกหรอ?” หลงเซียวยิ้มอย่างสุภาพทำให้หลงถิงโกรธมากขึ้น
หลงถองขึ้นรถหลงเซียวไปอย่างช่วยไม่ได้ จี้หมิงตงขับรถตรงไปยังย่านธุรกิจ CBD
แบล็กโรลส์โรลมาถึงตึก MBK ในรถไม่มีใครพูดอะไรตลอดทาง มีแค่การรับสายโทรศัพท์ของตัวเอง ประสานงานของตัวเอง
บริษัททั้งสองฝั่งกำลังทำการประชาสัมพันธ์ในช่วงวิกฤต ทีมประชาสัมพันธ์ของ MBK แข็งแกร่งกว่าของบริษัทฉู่ซื่อ และดีพร้อมกว่าบริษัทฉู่ซื่อ ทำให้หลงถิงแทบไม่ต้องกังวลเรื่องนี้
แต่บริษัทฉู่ซื่อมีพวกไป๋เวยลงมือบัญชาการ หลงเซียวจึงวางใจ
หลังจากในใจคิดดีแล้ว ทั้งสองก็ขึ้นลิฟต์วีไอพีตรงไปที่ห้องทำงานของประธาน
เมื่อทั้งสองเข้ามาทีมทนายของหลงถิงก็ยืนรอด้วยความเคารพ หัวหน้าทนายความส่วนตัวของหลงถิงชื่อจีนต้าจ้วง ผู้ซึ่งไม่เคยแพ้คดีมาก่อน
เพราะเขา MBK จึงไร้ปัญหาข้อพิพาททางกฎหมาย
และคราวนี้ปืนทรงพลังกระบอกนี้เล็งไปที่หลงเซียว
หลงถิงนั่งบนเก้าอี้แล้วพูดด้วยสีหน้าเคร่งว่า “เอาสัญญาให้มัน”
ทนายถือเอกสารในมือทั้งสองข้างแล้วพยักหน้า “เชิญท่านประธานดูก่อนครับ”
“ไม่ต้อง เอาให้มันไป”
หลงเซียวยิ้ม รอไม่ไหวขนาดนี้เกรงว่าก็คงจะต้องผิดหวังแล้ว
ทนายทำงานร่วมกับหลงเซียวหลายครั้ง เขาเคารพหลงเซียว ในเวลานี้เขารู้สึกอึดอัดในใจ “คุณชายใหญ่ เชิญดู…”
หลงเซียวหลับตา “ไม่ต้องดูหรอก”
“คุณหมายถึงว่าจะเซนต์ไปเลยหรือครับ” ทนายไม่อยากจะเชื่อหูตัวเอง
หลงเซียวยิ้มเยาะ “แน่นอนว่า…ไม่ใช่”
หลงถิงตบโต๊ะอย่างแรง “ไม่เซนต์? แกไม่ใช่ลูกของฉันอีกต่อไปแล้วทรัพย์สินพวกนี้ไม่ใช่ของแก!”
หลงเซียวจัดชุดสูทแล้วนั่งไขว่ห้างลงบนโซฟา เขานั่งเผชิญหน้ากับทนาย 5 คนซึ่งทุกคนคุ้นเคยกับเขาเป็นอย่างดี
“ใช่ ผมไม่ใช่ลูกชายของคุณอีกต่อไป แต่ในขณะเดียวกันผมก็ไม่ใช่สามีของคุณฉู่ลั่วหานอีกต่อไป ผมต้องขอโทษคุณหลงด้วยนะครับ ผมหย่าแล้ว”
“อะไรนะ?!” หลงถิงลุกขึ้นยืนด้วยความโกรธ เนื่องจากเขาลุกเร็วจึงทำให้สมองเขามึนงงไปชั่วขณะ จึงใช้มือยันโต๊ะเพื่อพยุงตัวเอาไว้
เหล่าทนายตกใจเสียยิ่งกว่า คุณชายใหญ่…หย่าแล้วงั้นหรอ?
หลงเซียวยกมือขึ้นแล้วพูดอย่างไร้เดียงสาว่า “มันง่ายมาก ผมเป็นสามีที่ไม่ค่อยดีนัก ภรรยาผมจึงฟ้องหย่า ดังนั้นเราจึงเซนต์ชื่อร่วมกันในข้อตกลง เนื่องจากผมมีปัญหาฝ่ายเดียวจึงทำให้ชีวิตแต่งงานต้องพังลง ผมจึงจำเป็นต้องหย่าแล้วออกมาตัวเปล่า ซึ่งหมายความว่าตอนนี้ผมไม่มีเงิน ไม่มีหุ้นหรืออสังหาริมทรัพย์แม้สักเซนเดียว”