ประธานหยิ่งยโสของฉัน - ตอนที่ 69
ตอนที่ 69 เด็กไม่มีพ่อไม่ได้
สำหรับสถานการณ์ในปัจจุบัน ไม่ว่าจะเป็นการขับ ไล่เธอ หรือเธอออกมาเอง ไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะจัดการ
ทำไมเธอยอมอยู่ในคฤหาสน์ลดเกียรติตัวเอง? แต่เพราะไม่กล้าฝ่าฝืนแรงกดดันมหาศาลของเขา
คิดถึงเรื่องพวกนี้แล้ว ฉู่ลั่วหานก็ยิ้มขึ้นมาช้าๆ จริงๆ การตอบสนองนั้นกลับเหมือนอ่อนเพลีย “ฉัน? ยังไงก็ได้มั้งคะ ตอนนี้ฉันแค่อยากให้การคัดเลือกราบ รื่น มีคนบอกว่าผิดหวังในความรักจะภาคภูมิใจในการ ทำงาน แต่อยากให้เป็นแบบนี้จริงๆ”
ถังจิ้นเหยียนยิ้มอย่างสบายๆ “ไม่คิดว่าเธอจะเปิด ใจกว้างแบบนี้ ผู้หญิงทั่วไปเจอเรื่องแบบนี้ก็คงร้องไห้ตี โพยตีพายไปแล้ว บุคลิกง่ายๆ ของเธอทำให้ฉัน ประหลาดใจมาก”
ฉูลั่วหานลุกขึ้นจากเก้าอี้ “ไม่ต้องชมฉันหรอกค่ะ
ขอบคุณรองคณบดีมากๆ ที่ช่วยฉันแก้วิทยานิพนธ์ ฉัน ไปก่อนนะคะ” ถังจิ้นเหยียนก็รีบลุกขึ้นทันที “ในเมื่อตอนนี้เป็น
เวลาพักร้อนของเธอ ตอนกลางวันไปกินข้าวด้วยกัน
ไหม?”
กินข้าวเหรอ? สภาพเธอในตอนนี้ไม่มีอารมณ์ไปกินข้าวกับเขาหรอก “วันอื่นดีกว่าค่ะ รองคณบดีไม่ต้อง ไปส่ง ฉันออกไปเองก็ได้ค่ะ”
ถังจิ้นเหยียนก้าวออกไป เธอหยุดการเคลื่อนไหว เขาไว้ด้วยประโยคเดียว ในที่สุดเขาก็ยังพูดสิ่งที่ติดอยู่ ปลายลิ้นออกมา “คุณหมอฉู่ ฉันอยากให้ต่อไปนี้เธอ อย่าเรียกฉันว่ารองคณบดีอีก”
เขาอยากได้ยินเธอเรียกชื่อเขา เขาไม่ได้หวังให้ เธอเรียกจิ้นเหยียนสองคำนี้ตรงๆ แม้ว่าจะเป็นชื่อเต็ม ถังจิ้นเหยียนก็ยังดี
ฉู่ลั่วหานหยิบกระเป๋าดำใบเล็กสะพายไหล่ พูดขึ้น ด้วยรอยยิ้ม “ฉันจะรอวันที่รองคณบดีเลื่อนขั้นนะคะ”
เธอรู้ว่าเขาไม่ได้หมายความอย่างนี้
อย่างไรก็ตาม เธอจะทำตามความคิดเขาได้ อย่างไร?
สิ่งที่ทำให้ฉู่ลั่วหานประหลาดใจก็คือหลังจากที่โม่ หรูเฟยย้ายเข้ามาในคฤหาสน์ได้สองสามวัน หลงเซียว ก็ไม่กลับมาเลยสักครั้ง และไม่รู้ว่าเขาไปทำอะไรบ้าง
โม่หรูเฟยตื่นตรงเวลาทุกวัน กางเสื่อโยคะเพื่อเล่น โยคะที่ห้องรับแขกขนาดใหญ่ที่ชั้นหนึ่ง เปิดเพลงเปีย โนคลาสสิกให้ดังที่สุด คฤหาสน์ที่เสียงดังไม่สามารถ อยู่ร่วมกันได้อย่างสงบ
ฉู่ลั่วหานเขียนวิทยานิพนธ์ทั้งวันทั้งคืน ตอนกลาง คืนหลับดึกมาก ตอนเช้าอยากจะนอนสักหน่อยก็ทำไม่ได้
“เล่นโยคะจำเป็นต้องให้ทุกคนรู้ไหมเนี่ย? เปิด เพลงดังขนาดนี้ตั้งแต่เช้า คนอื่นจะพักผ่อนยังไง?”
ในที่สุดเธอก็ทนไม่ไหว ยกผ้าห่มออกแล้วสวม รองเท้าสลิปเปอร์เดินไปที่ห้องรับแขก เธออยู่ชั้นหนึ่ง เดินอ้อมทางเดินยาวเห็นโม่หรูเฟยสวมชุดออกกำลัง กายเอวลอยวางขาสองข้างให้อยู่ตำแหน่งที่อ่อนนุ่ม มากที่สุด
หุ่นของดาราก็คล้ายๆ กัน ต้องยอมรับว่าหุ่นดีมาก
โม่หรูเฟยแสยะยิ้ม “คนอื่น? สายป่านนี้แล้ว คน ที่นอนหลับขี้เกียจอยู่ก็มีแค่เธอคนเดียวปะ? อ้อ จริงสิ เธออยู่ที่นี่ก็เป็นคนอื่นแล้วใช่ไหม? และเดี๋ยวก็จะ กลายเป็นคนนอก”
ลั่วหานนอนไม่พอ เวียนศีรษะ เธอนวดขมับ “โม่ หรูเฟย เธอก่อความวุ่นวายแบบนี้สนุกไหม? ฉันกับหลง เซียวยังไม่หย่ากัน อย่างมากสุดเธอก็เป็นได้แค่นกใน กรงทอง”
โม่หรูเฟยเปลี่ยนท่า สองมือพนม หายใจเข้าลึกๆ “ก็ดีกว่าเธอ เธอจะอาศัยข้อผูกมัดกระดาษของตัวเอง กับเขา ตัวเองก็เป็นแค่อีกาดำชั้นต่ำ!”
ฉู่ล้วหานปฏิเสธ ป้าเฉินกล่าวด้วยรอยยิ้ม “คุณนาย ตอนกลางคืนคุณไม่ได้พักผ่อน ฉันต้มซุปให้ คุณ มันทำให้จิตใจสงบ คุณมาชิม”
ป้าเฉินกำลังไกล่เกลี่ย ฉู่ลั่วหานรู้สึกตื้นตันใจมาก
โม่หรูเฟยจบลงอย่างเร่งรีบ “ป้าเฉิน เธอเพิ่งเรียก มันว่าอะไรนะ? คุณนาย?! เพื่อหลีกเลี่ยงการเรียก คุณนายตัวจริงผิดต่อไปเรียกชื่อเธอนะ! และฉันก็คือ คุณนาย คุณนายที่ตั้งท้องของคุณชายตระกูลหลง!”
ป้าเฉินไม่ได้ตอบโดยตรง และไม่ได้ปฏิเสธ โดยตรง รับใช้ตระกูลหลงมาหลายปี เธอรู้ดีว่าสภาพ เหตุการณ์แย่งชิงครอบครัวคนรวยเป็นอย่างไร เรื่องที่ เกิดในตระกูลหลงเมื่อยี่สิบปีก่อน เธอจำได้ทั้งหมด ดัง นั้นเธอจึงยิ้มสุภาพมาก “คุณโม่ ฉันไม่เรียกผิดหรอก ค่ะ สถานะแบบไหนต้องเรียกแบบไหน ถ้าคุณผู้หญิง จะอยู่ ก็ต้องพูดเหมือนเดิม”
โม่หรูเฟยกัดฟัน รอเธอแต่งงานกับหลงเซียวก่อน ตัวซวยพวกนี้จะต้องโดนไล่ออกจากตระกูลหลงอย่าง แน่นอน!
ลั่วหานนั่งอยู่ในห้องอาหาร ยิ้มเล็กน้อย
“ขอบคุณค่ะป้าเฉิน”
แปลกมาก ฉู่ลั่วหานที่มักจะไม่พูดมากและไม่ หัวเราะ วันนี้ยิ้ม ยิ้มขึ้นมาแล้วดูดีมาก
“ไม่เป็นไรค่ะ คุณนายค่อยๆ ทานนะคะ”
“เพล้ง!”
โม่หรูเฟยหยิบซุปชามนั้นขึ้นมาโยนลงพื้น ซาม กระเบื้องสีขาวแตกเพราะเธอ น้ำซุปกระเด็นลงพื้นเปียกเป็นวงกว้าง
“ฉู่ ลั่วหาน ฉันจะเตือนให้เธอแน่ใจในสถานการณ์ ตัวเอง นี่แค่เริ่มต้นเท่านั้น!”
โม่หรูเฟยกอดอกด้วยความภาคภูมิใจ การต่อสู้ สถานะนี้ เธอคิดว่าตัวเองมีโอกาสชนะ
บู่ลั่วหานไม่สนใจ “ชุนชุน มาทำความสะอาด หน่อย”
สิ้นเดือนมาถึงในพริบตาเดียว
การมาถึงของสิ้นเดือน ฤดูร้อนเริ่มต้นอย่างเป็น ทางการ ฤดูใบไม้ผลิผ่านไปแล้ว ดอกไม้และต้นไม้ใน สวนที่สนามหญ้าอุดมสมบูรณ์ สิ่งเดียวที่น่าเสียดายคือ แม้ว่าจะมีดอกไม้และต้นไม้นานาชนิดในสวนนี้ แต่ก็ ล้วนเป็นสายพันธุ์ที่มีค่า แต่ไม่มีดอกพุดเลย
วิทยานิพนธ์แก้ไขสามสี่ครั้ง ในที่สุดก็ตีพิมพ์ออก มาสำเร็จ ในขณะเดียวกัน แขนของเธอก็ฟื้นคืนสู่สภาพเดิม
บอกกับโรงพยาบาลว่าจะไปทำงานหลังวันหยุด
และหลงเซียว ไม่มีข่าวใดๆ เลย
ไม่มีโทรศัพท์และข้อความเลยสักนิด
คิดขึ้นมาแล้วก็ไม่แปลกใจ สามปีแห่งการละเลย และเพิกเฉย เพราะมีความผันผวนระยะสั้นโผล่มาก ลางทาง ในความเป็นจริงความสัมพันธ์ที่มั่นคงในระยะยาวไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้
เขาไม่เป็นห่วงเธอ ไม่สนใจเธอ แน่นอนว่าเขาจะ ไม่บอกเธอว่าตัวเองไปไหน
ฉ่ลั่วหานไม่คิดเลยว่าเธอกลับมาทำงานที่โรง พยาบาลอีกครั้ง สิ่งที่ทักทายตัวเองคือคำสาปแช่งและ เรื่องอื้อฉาวที่เงียบหายไปนาน
“เธอเป็นกิ๊กของหลงเซียวจริงๆ เหรอ? ครั้งนี้ได้รับ การยืนยันแล้ว หลงเซียวนั่งเฮลิคอปเตอร์ไปที่หมู่บ้าน เอดส์เพื่อรับเธอด้วยตัวเอง เอิกเกริกอะไรขนาดนั้น!”
“ยิ่งไปกว่านั้นนะ! ล่าสุดมีคนถ่ายภาพเธออยู่ที่ รีสอร์ทหยีจิ่งด้วย! พวกเธอคิดดูสิ รีสอร์ทหยีจิ่งน่ะ เป็นที่ที่คนดังและนักการเมืองอยู่ ถ้าไม่ใช่คนแบบหลง เชียวใครจะไปมีปัญญาอยู่?”
“ดังนั้นบอกว่ารักษาบาดแผล จริงๆ แล้วกำลัง….
ฮ่าๆๆ!”
พูดยังไม่ทันจบ! เรื่องไร้สาระก็ถูกเปิดเผยออกมา อีกแล้ว!
อย่างไรก็ตามมันเหมือนกับทฤษฎีผีเสื้อขยับปีก เธอคิดว่าเป็นการนินทาที่น่าเบื่อ แต่มันส่งผลร้ายแรง
มันเกี่ยวข้องโดยตรงกับการประเมินตำแหน่งงาน
ของเธอ
ฉู่ลั่วหานได้รับแจ้งให้ไปที่ห้องทำงานรองคณบดี พอเข้าประตูไปก็เห็นผู้นำโรงพยาบาลสองสามคนนั่งอยู่ด้านใน ถังจิ้นเหยียนเป็นหนึ่งในนั้น
รองคณบดีเฉินถอนหายใจ ถือประวัติย่อของฉู่ ลุ่ วหานพร้อมส่ายศีรษะ
“คณบดี เมื่อกี้ท่านหมายความว่าไง ผลการเลือก ของผมไม่ได้มาตรฐาน?”
คณบดีดันแว่นขึ้น พูดขึ้นอย่างเสียใจ “เสี่ยวฉู่ ฉัน รู้ว่าความสามารถและทักษะของเธอไม่ได้ด้อยไปกว่า ใคร ตรงตามกำหนดข้อคัดเลือกอย่างแน่นอน แค่…. ศาสตราจารย์ควรเป็นแบบอย่างให้ผู้อื่น ศาสตราจารย์ ในโรงพยาบาลของเราต้องเป็นผู้นำนักศึกษาระดับ บัณฑิตและปริญญาเอก ….ชื่อเสียงของศาสตราจารย์ เป็นสิ่งสำคัญอยู่เสมอ”
ความหมายชัดเจนมาก ตอนนี้ชื่อเสียงเธอดัง กระฉ่อน โดนหาว่าเป็นชู้ เป็นเมียน้อยและชื่อที่รับไม่ ได้อื่นๆ ทั้งทางโรงพยาบาลและโรงเรียนก็ต่างกังวล
เธอไม่ได้ต่อสู้ครั้งแล้วครั้งเล่า และไม่ได้ฝืนใจ อธิบาย สิ่งที่ยิ่งมืดมนขึ้นเรื่อยๆ ยิ่งพูดก็ยิ่งผิด เธอเอ่ย ขอบคุณอย่างสุภาพและออกจากห้องทำงานมา
เธอเดินไปที่ระเบียง ขาอ่อนเล็กน้อย ช่วงนี้เธอ โชคร้ายเหรอ? ทำอะไรก็ไม่ราบรื่น
ลมหายใจอุ่นของถังจิ้นเหยียนผ่านมาจากด้าน หลัง ลมในฤดูร้อนพัดใบหน้ารู้สึกร้อนอบอ้าว แต่ลม หายใจของเขาสะอาดสดชื่นมาก
“ขอโทษนะที่ฉันช่วยเธอไม่ได้”
คำขอโทษของเขาอ่อนโยนจนทำให้เธอรู้สึกผิด
มาก
“นี่ไม่ใช่ความรับผิดชอบของคุณ คุณช่วยฉันแล้ว
ฉันขอบคุณมากๆ” เธอตอบอย่างเหนื่อยล้า อ่อนเพลีย
ไปทั้งร่างกาย
ถังจิ้นเหยียนอยากพูดอะไรบางอย่างอีก แต่เธอ ไม่อยากฟังแล้ว “รองคณบดี ให้ฉันอยู่คนเดียวสักพัก ได้ไหมคะ?”
เพราะเธอขมขื่นในใจมากเกินไป เสียงเธอจึงเย็น ชาและทุ้มต่ำ
“โอเค..ถ้ามีอะไรให้ฉันช่วยก็บอกได้ตลอดเลย
นะ”
เป็นห่วงที่เธออยู่คนเดียว แต่ก็ไม่กล้าขัดคำพูด
เธอ
ฉู่ลั่วหานจัดการอารมณ์ตัวเองให้เร็วที่สุด สิบกว่า นาทีต่อมาก็กลับไปที่ห้องทำงาน
จ้าวเหมียนเหมียนและจี้ซือหยู่ได้ยินเรื่องการคัด เลือกก็รู้สึกเสียใจแทนเธอมาก “คุณหมอฉู่ไม่ต้อง เสียใจไปนะ ห่างบนหัวสามฟุตมีเทพเจ้าอยู่ ความ พยายามของเธอจะต้องได้รับรางวัลแน่ๆ!”
“แต่ซุนเจียลี่ไม่ควรได้ประโยชน์เลย ระดับอย่าง เธอได้เป็นศาสตราจารย์ที่ได้รับคัดเลือก! ต่อไปต้องทำร้ายนักเรียนรุ่นน้องนะแน่ๆ”
“คุณหมอฉู่เก่งกว่า! ไพ่คิงตัวจริง!”
เธอยิ้มออกมาเล็กน้อย “ไม่ต้องปลอบฉันหรอก ฉันไม่เป็นไร OK มีงานเยอะมากต้องทำ ไม่มีเวลาไปคิด อะไรมาก”
เธอไม่มีเวลาจมอยู่กับความเศร้าโศกจริงๆ เพราะ สัญญาณแผนกฉุกเฉินดังขึ้น!
“ผู้ป่วยเป็นเด็กหญิงวัยห้าขวบ ตกจากตึกโดยไม่ ได้ตั้งใจทำให้หัวใจคั่ง! ต้องปฐมพยาบาลเบื้องต้น!”
ฉู่ลั่วหานไม่สนใจเรื่องแผนกอายุรกรรมหรือ ศัลยกรรม หยิบอุปกรณ์ช่วยฟังขึ้นมาและวิ่งไปอย่าง รวดเร็ว สาวน้อยหน้าซีดนอนอยู่บนเปล หน้ากาก ออกซิเจนปกคลุมไปมากกว่าครึ่งหน้า
“คุณหมอฉู่ หัวใจคนไข้เต้นลดลงฮวบ! ความดัน เลือดไม่คงที่!” สองมือฉู่ลั่วหานจับใบหน้าของเด็กหญิง เรียกเธอ
อย่างอ่อนโยน “สาวน้อย ได้ยินฉันพูดไหม?” น้ำตาเด็กหญิงร่วงลงมาอาบแก้ม..เปล่งเสียงไม่ ออก แค่น้ำตาไหล
“คนไข้ยังมีสติ อาการไม่ได้เลวร้ายที่สุด”
“สาวน้อย ไม่ต้องกลัวนะ เดี๋ยวคุณลุงคุณป้าจะรีบ รักษาเธอ พอตื่นขึ้นมาก็จะดีขึ้น ไม่ต้องกลัวนะ เชื่อฟังนะ”
ฉ่ลั่วหานพูดเสียงทุ้ม “เลือดออกภายในพร้อมลิ้น หัวใจแตก เตรียมการผ่าตัดทันที!”
ใครจะรู้ว่าขณะที่กำลังจะเข็นเปลออกไป มือเด็ก หญิงก็จับนิ้วหนึ่งเธอไว้ ด้วยพลังที่เหลืออยู่ ฉู่ลั่วหาน ได้รับแรงสั่นสะเทือนอย่างมาก โน้มตัวลงไปสัมผัส ศีรษะเธอ “ไม่ต้องกลัวนะ คุณป้าสัญญาว่าตื่นขึ้นมา แล้วจะอยู่ข้างๆ หนู”
เด็กหญิงตัวน้อยจึงปล่อยมือ
การผ่าตัดดำเนินไปมากกว่าครึ่งวัน ฉู่ลั่วหานทำ ตามสัญญา เมื่อเธอถูกส่งไปที่ห้องผู้ป่วย รู้เวลา ประมาณในการพักฟื้น ก็วางเคสผู้ป่วยในมือแล้วเดิน ไปหา
คุณแม่ของเด็กหญิงตัวน้อยร้องไห้ เมื่อเห็นฉู่ลั่ วหานเดินมาก็กอดและเอ่ยขอบคุณ
“นี่คือความรับผิดชอบของเรา คุณไม่ต้องทำแบบ นี้หรอกนะคะ ฉันไม่ได้เป็นคนผ่าตัด คนที่คุณต้อง ขอบคุณก็คือหมอที่ทำงานผ่าตัด”
“ไม่ว่ายังไง ที่ลูกสาวฉันรอดมาได้ก็ต้องขอบคุณ พวกคุณ! ขอบคุณนะคะ! ขอบคุณจริงๆ!”
ฉ่ลั่วหานตรวจอาการหลังผ่าตัดแล้ว ไม่เลวร้าย ไม่นานมากนัก เด็กหญิงตัวน้อยก็ตื่นขึ้น ลม หายใจและหัวใจที่อ่อนแอของเธอน่าสงสารมาก
เด็กน้อยดึงนิ้วของเธอไว้ ยิ้มอย่างอ่อนแรง “หนู คิดว่าป้าจะไม่มาหาหนูแล้ว ก็เหมือนตอนนั้นที่ คุณพ่อจากไป..” คุณพ่อเธอทิ้งแม่ลูกไปเมื่อไม่กี่ปีก่อน ไม่มีข่าว
คราว
เด็กหญิงเห็นร่างที่คุ้นเคยที่ระเบียงคิดว่าเป็นคุณ
พ่อจึงกระโดดลงไปทันที….