ประธานหยิ่งยโสของฉัน - ตอนที่ 695
แต่บางเรื่องเราก็ไม่มีไฟล์แล้วเหมือนกัน
ตอนที่ 695 แผนร้าย
ลั่วหานมองไปที่หลงเซียวอย่างกังขา เพื่ออยากจะเห็นดอกไม้ผุดออกมาจากใบหน้าของเขา “คุณชายกู้ไปสวิตเซอร์แลนด์ไม่ใช่เหรอ ทำไมถึงอยู่ที่อเมริกาล่ะ แล้วก็พรุ่งนี้คุณไปเมืองเจียงเฉิงกับไป๋เวย อย่าบอกนะว่าคุณชายกู้ยังไม่รู้”
หลงเซียวไม่ค่อยชอบถูกเธอมองทะลุสักเท่าไหร่นัก แต่เธอฉลาดมากขนาดนี้ เขาก็อดดีใจเสียไม่ได้ “ตอนแรกอยู่ที่สวิตเซอร์แลนด์ พอเห็นข่าวก็ร้องอยากจะกลับมา แต่ถูกผมเบรกไว้ ให้ไปเยี่ยมพ่อแม่คุณแทนผม……จึงดีใจได้ชั่วขณะ และในเวลานั้นก็เป็นสถานการณ์จำเป็นด้วย”
คำอธิบายค่อนข้างตรงไปตรงมา
สาวใช้เข้ามาบอกว่าอาหารเย็นพร้อมแล้ว เริ่มรับประทานได้ ทั้งคู่จึงเดินไปที่ห้องรับประทานอาหาร
เนื้อสัตว์และผักหกอย่างบนโต๊ะเข้ากันได้ดีเป็นอย่างยิ่ง อาหารประเภทเนื้อไม่มันเยิ้ม และผักก็เขียวสดดี ดูเหมือนแค่แช่อยู่ในน้ำ แต่รสชาติกลับไม่ยิ่งหย่อนไปกว่าเชฟระดับห้าดาว
แน่นอนว่าอาหารเหล่านี้ยังคงถูกจัดเตรียมตามหลักโภชนาการสำหรับหญิงตั้งครรภ์โดยอยู่ในความดูแลของหลงเซียว
ลั่วหานคีบผักสีเขียวเข้าปากอย่างรวดเร็ว จากนั้นจึงพูดต่อว่า “ที่คุณไม่ให้คุณชายกู้รู้ เพราะกลัวเขาจะบุกมาฆ่าคนกลางคันใช่ไหม เขาเกลียดเสิ่นเหลียวเข้ากระดูก คุณกลับจะพาไป๋เวยไปเจียงเฉิงเพื่อต่อกรกับเสิ่นเหลียวคุณชายกู้ไม่ฆ่าคนสิแปลก”
นิ้วของหลงเซียวคลึงถ้วยโบนไชน่าไปมา ถ้วยเล็กๆ ถูกเขาคลึง จนเมล็ดข้าวอวบอ้วนเปล่งประกายน่ามอง “ใช่ ผมเกรงว่าคุณชายกู้ คงอดที่จะฆ่าผมไม่ได้แน่ ดังนั้นผมจึงไม่กล้าให้เขารู้ ขอเพียงฆ่าคนได้ก่อนแล้วค่อยบอก เดี๋ยวค่อยซ้อมมวยเป็นเพื่อนเขาทีหลัง”
ปากหลงเซียวพูดเช่นนี้ แต่ใบหน้ากลับมองไม่เห็นถึงแววเสียใจเลยแม้แต่น้อย คีบข้าวเข้าปาก แล้วค่อยละเลียดชิมรสชาติของมัน
ลั่วหานถูกเขาทำให้สำลักอาหารเสียแล้ว “ตามความเห็นฉันคุณชายกู้ต้องไม่ใช่แค่ให้คุณทำเรื่องง่ายๆ อย่างการซ้อมมวยกับเขาหรอก เขาน่าจะยิงคุณตายในนัดเดียวมากกว่า”
หลงเซียวพยักหน้า “อืม อันนี้ก็มีความเป็นไปได้ ดังนั้น คืนนี้ผมถึงต้องมาอยู่เป็นเพื่อนคุณไงล่ะ ตกลงแล้วว่าพรุ่งนี้จะไปเมืองเจียงเฉิง ผมก็……”
“พอเลย! อย่าพูดนะ! ” ลั่วหานเอื้อมมือไปตีที่โต๊ะ เพื่อหยุดสิ่งที่หลงเซียวยังพูดไม่จบ เขาน่าจะพูดอะไรประมาณว่าอาจจะไม่ได้กลับมาอีก เธอไม่อยากฟัง จึงไม่ให้เขามีโอกาสพูด
หลงเซียวกลับยิ้มแทน “ผมแค่อยากจะบอกว่า พรุ่งนี้ผมอาจจะไม่ไปเจียงเฉิงก็ได้ ผมอดใจกลับมากลางคันไม่ไหว”
ใบหน้าของลั่วหานปรากฏเส้นสีดำขึ้นแถบหนึ่ง น้องสาวคุณ เมื่อกี้ตื่นเต้นไปฟรีๆ เสียแล้ว แถมยังตกใจไม่น้อยเลยด้วย
ทานข้าวหมดไปครึ่งนึง โทรศัพท์ของหลงเซียวก็ดังขึ้น ซึ่งเป็นสายที่เขารออยู่พอดี
พอรับสายแล้ว ก็มีเสียงตื่นเต้นของกู้เยนเซินดังมาจากปลายสาย “คุณชายหลง ตอนนี้ฉันรู้สึกตื่นเต้นนิดหน่อย ทำยังไงดี พอคิดถึงปฏิกิริยาที่ตู้หลิงเซวียนอาจจะมี ฉันก็อดหัวเราะไม่ไหวแล้ว ฮ่า ๆ ๆ!”
หลงเซียววางโทรศัพท์บนโต๊ะอาหาร แล้วเปิดไมโครโฟน ลั่วหานจึงได้ยินเสียงหัวเราะทุ้มต่ำของกู้เยนเซินอย่างชัดเจน “แสดงว่า นายเตรียมพร้อมเสร็จแล้ว” หลงเซียวกินข้าวไปด้วยคุยกับเขาไปด้วย ลั่วหานกินข้าวแต่ละคำเบาเป็นพิเศษ พลางเหลือบตามองหลงเซียว ความลำพองใจที่ปรากฏบนหน้าของเขาหมายความว่าอย่างไร?
กู้เยนเซินนั่งอยู่ในรถเฟอร์รารีสีแดงด้วยท่าทางเจ้าชู้ ในตอนเช้าที่ฝั่งนิวยอร์ก แสงทองยามเช้าส่องไปทางทิศตะวันออก แสงแดดในยามรุ่งอรุณทั้งสวยงามและวิจิตรตระการตา แต่สิ่งเหล่านี้ก็ไม่สวยงามเท่าภายในใจของกู้เยนเซิน
“แน่นอน คุณชายอย่างฉันเมื่อคืนวานก็ตรวจตราดูเรียบร้อยแล้ว รับรองว่าพอขึ้นสังเวียน จะไม่มีเรื่องผิดพลาดแน่นอน วันนี้ฉันเฝ้ารอท่าทางหมากินอึของตู้หลิงเซวียนมากเลย”
ลั่วหานมองไปที่หลงเซียวอย่างไม่เข้าใจ พลางใช้สายตาถามเขา คุณชายกู้หมายความว่ายังไง?
หลงเซียวยิ้ม “งั้นต้องรบกวนคุณชายกู้แล้ว ขอบใจมาก กลับมาแล้วฉันจะตอบแทนนายอย่างงาม”
แย่แล้ว.…..
กู้เยนเซินสงสัยว่าตัวเองได้ยินผิดไปหรือเปล่า ถึงกับมีรางวัลด้วยหรือ เขากับหลงเซียวรู้จักกันมาตั้งหลายปี เพราะไอคิวกับสมรรถภาพทางกายที่อยู่ในเกณฑ์ฆ่าเขาได้ในพริบตาเดียว ดังนั้นจึงชินกับการวิ่งเต้นให้หลงเซียว กอปรกับเขามักทำตัวเป็นธรรมชาติทุกครั้ง โดยไม่รู้ตัว กู้เยนเซินจึงกลายเป็นน้องชายของหลงเซียวไปเสียแล้ว แถมนับวันยิ่งใช้ยิ่งคล่องมือมากขึ้น
เพียงแต่ เขาเคยพูดขอบคุณตั้งแต่เมื่อไหร่?
ได้……เหลือเชื่อ!
ใบหน้าของกู้เยนเซินร้อนจัด พลางกัดฟันพูด “รางวัลอะไร นายพูดออกมาตอนนี้เลยได้ไหม ฉันจะได้มีแรงจูงใจในการวางยาตู้หลิงเซวียนมากขึ้น อย่างไรฉันก็เป็นดอกผักกวางตุ้งอยู่แล้ว”
หลงเซียวกล่าวว่า “เสร็จเรื่องนี้ค่อยว่ากัน แต่รับรองว่านายชอบ”
เขาทำปากยื่น
กู้เยนเซินกลืนน้ำลายอย่างคาดหวัง หลงเซียวถึงกับออกปากว่าเขาต้องชอบเชียวนะ? จุ๊ ๆ ๆ ต้องไม่ใช้แค่คุยโม้ธรรมดาแน่ กู้เยนเซินจึงไม่อาจไล่ความคิดออกไปได้ง่ายๆ
เขาตั้งตาคอยเชียวล่ะ!
กู้เยนเซินเปิดคอมพิวเตอร์อย่างมีความสุข พร้อมกับส่งสัญญาณไปยังโทรศัพท์มือถือของหลงเซียว “อีกเดี๋ยวฉันจะให้พวกนายดูกล้องวงจรปิด จะว่าไป พวกนายคงไม่ได้กำลังคิดจะกินข้าวอยู่หรอกนะ รสชาติหนักไปหน่อย อย่าเพิ่งกินล่ะ”
ลั่วหานกำลังอมข้าวไว้ในปากยังไม่ได้กลืนลงไป พลางกลั้นหัวเราะ “คุณชายกู้ คุณคิดจะทำอะไรกันแน่? ”
“โอ้! หมอฉู่คุณก็อยู่ด้วยเหรอ คือว่า
จากที่ผมรู้มา ตอนนี้พวกคุณหย่ากันแล้ว ไม่ใช่ต้องแยกกันอยู่หรอกเหรอ ข่าวยังบอกอีกว่าคุณชายหลงถูกคุณตะเพิดออกไปกลางดึกด้วย ฮ่า ๆ ๆ ผมพลาดอะไรไปหรือเปล่า”
กู้เยนเซินใจคอไม่ดี ถ้าวิดีโอถูกลั่วหานเห็นเข้า แค่ก ๆ ๆ มันคงไม่ดีอย่างยิ่ง
“คุณชายกู้ ไปเยี่ยมพ่อแม่ของฉันที่อเมริกา แถมยังออกศึกแก้แค้นให้ฉันด้วยตัวเอง ฉันก็ต้องอยู่ด้วยน่ะสิ ไม่อย่างนั้นฉันจะชื่นชมความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่ของคุณชายกู้ ได้อย่างไร”
หลงเซียวไม่พูดไร้สาระกับเขา “ฉันจะกินข้าวให้เสร็จก่อน แล้วค่อยไปที่ห้องหนังสือ นายเชื่อมสัญญาณไปที่คอมพิวเตอร์ของฉันแล้วกัน”
“ตกลง! พวกนายทานต่อเลย ฉันขอลองสัญญาณก่อน”
กู้เยนเซินวางสายโทรศัพท์ สูดอากาศในอเมริกาที่อยู่ห่างไกลเข้าไปลึกๆ มองท้องฟ้าโปร่งที่อยู่หมื่นลี้ด้วยสายตาที่คลุมเครือ “ไม่คิดว่าหมอฉู่จะอยู่ที่นั่นด้วย มันวิเศษมากจริงๆ! ”
……
ตู้หลิงเซวียนในชุดสูทเรียบกริบไม่มีแม้แต่ริ้วรอยใดๆ ก้าวเท้าเดินออกมาจากบ้านด้วยความสุขุมและมั่นใจ คนขับรถเปิดประตูรอด้วยความเคารพ
ตู้หลิงเซวียนเข้าไปในรถ จากนั้นคนขับก็เอาหนังสือพิมพ์เศรษฐกิจประจำวันให้เขาดู ทั้งหน้าหนังสือพิมพ์ท้องถิ่นของอเมริกา กลับมีใบหน้าของชายชาวตะวันออกที่คุ้นเคยประทับอยู่
พาดหัวข่าวในหน้าแรกคือเสิ่นเหลียว มาตรฐานของชาวอเมริกันมักใหญ่กว่าประเทศจีน ดังนั้นภาพถ่ายจึงไม่ใช่ภาพโมเสค ความอัปลักษณ์ของเสิ่นเหลียว ปรากฏอยู่ในสายตาของสาธารณชน
ตู้หลิงเซวียนขมวดคิ้วไม่ได้ ใบหน้าที่เรียบเฉยปรากฏรอยยิ้มเยาะหยันขึ้น “หนนี้เสิ่นเหลียวพลาดท่าไม่น้อย เขาอยู่ ตำแหน่งใน เมืองเจียงเฉิงคงได้แต่สั่นคลอน”
คนขับรถติดตามตู้หลิงเซวียนมาตลอดทั้งปี จึงรู้จักนักธุรกิจในปัจจุบันเป็นอย่างดี เขาพยักหน้าและกล่าวว่า “เป็นไปได้ครับ ระยะนี้นี้ข่าวของเสิ่นเหลียว ดูเหมือนจะกลบข่าวของหลงเซียวกับภรรยา ตอนนี้ทุกคนกำลังคุยกันเรื่องของเสิ่นเหลียว และยังมีคนเปิดโปงอยู่เรื่อยๆ จนดูไม่ดีเป็นอย่างมาก”
หลงเซียว……กับภรรยาอย่างนั้นเหรอ?
ตู้หลิงเซวียนพลิกเปิดหนังสือพิมพ์ ไม่ได้มองภาพที่ทำร้ายสายตาอีก ข่าวในเชิงลบเกี่ยวข้องกับบริษัทเฉียวซื่อบริษัทเฉียวซื่อประกอบธุรกิจเกี่ยวกับอุตสาหกรรมสิ่งพิมพ์แบบดั้งเดิม และกำลังจะเปลี่ยนไปสู่โลกไซเบอร์ นิตยสารอิเล็กทรอนิกส์ฉบับแรกกำลังจะเปิดตัวในเดือนนี้
บริษัทเฉียวซื่อยังคงเจรจาอย่างแข็งขันกับแพลตฟอร์มออนไลน์ในประเทศ เพื่อแนะนำวัฒนธรรมออนไลน์ของจีน และดำเนินการเผยแพร่เข้ามาในอเมริกาเป็นจำนวนมาก
ไม่ต้องสงสัยเลยว่า นี่เป็นการเคลื่อนไหวครั้งใหญ่ของบริษัทเฉียวซื่อและตู้หลิงเซวียนยังไม่รู้เรื่องนี้
คราวก่อนเฉียวหย่วนฟานได้รับเงินทุนก้อนใหญ่จำนวนหนึ่ง ตอนนี้ดูเหมือนเขากำลังรู้ตัว จึงพยายามผลักดันบริษัทเฉียวซื่อต่อไป
คนๆ นี้ … ดูเหมือนจะรับมือไม่ง่ายอย่างเมื่อก่อนอีกแล้ว
ตู้หลิงเซวียนพลิกดูหนังสือพิมพ์ไปเรื่อยๆ ดวงตาดำมืด
เมื่อวานเขาไปเยี่ยมเฉียวหย่วนฟานโดยใช้เรื่องของแอนน่ามาเป็นเหตุผล ความจริงเขามีจุดประสงค์อื่น เพื่อไปสอบถามเกี่ยวกับความเคลื่อนไหวในระยะนี้ของบริษัทเฉียวซื่อแต่น่าเสียดายที่กู้เยนเซินบุกเข้ามากลางคัน!
ระยำ!
พอนึกถึงความโชคร้ายของเมื่อวานตู้หลิงเซวียนก็รู้สึกไม่สบายตัวขึ้นมา
เมื่อรถแล่นมาถึงบริษัทหลันเทียน ตู้หลิงเซวียนจึงจัดชุดสูทให้เข้าที่พลางเดินขึ้นบันไดไป จากนั้นก็ลงไปที่ห้องประชุมที่รายล้อมไปด้วยกลุ่มคน เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการประชุมระดับสูงครั้งแรกของวันนี้
……
ทางด้านกู้เยนเซินกำลังดูข่าวบนมือถือ ชื่นชมข้อความและวิดีโอ ที่ด่าซุนปิงเหวินเสียเละเทะ แล้วก็ท่าทางน่าเวทนาของเสิ่นเหลียว ที่ถูกแฮ็กอย่างไม่มีชิ้นดี
โถๆ ตลกชะมัดเลย พักนี้ในประเทศครึกครื้นขนาดนี้เชียว เขารู้สึกคันหัวใจยุบยิบจนยากจะทนไหว
ทว่าอเมริกาก็สามารถสนุกได้เหมือนกัน
เขาผิวปากหวือ ได้ยินเสียงเตือนจากคอมพิวเตอร์ดังขึ้น
ตู้หลิงเซวียนเริ่มเชื่อมต่อโทรศัพท์กับคอมพิวเตอร์แล้ว สุดยอด!
ขณะเดียวกัน ในห้องหนังสือของหลงเซียว คอมพิวเตอร์ปรากฏรูปภาพแบบเดียวกันกับของกู้เยนเซิน ลั่วหานหัวเราะแห้งๆ “คุณชายกู้จะเล่นแผลงๆ กับตู้หลิงเซวียนยังไง”
“ผมก็ไม่รู้เหมือนกัน แต่มันน่าจะสนุกดี” หลงเซียววางลั่วหานลงบนเก้าอี้ เอาตัวเองแนบไหล่เธอจนแทบจะสิงร่าง ลมหายใจอุ่นร้อนเป่ารดที่คอของลั่วหาน
“คุณชายหลง ฉันใช้เงินไปมากโขเลย ของเจ้าเดียวด้วย” กู้เยนเซินยังคงโฆษณาให้ตัวเองอยู่อย่างนั้น
หลงเซียวคลิกเมาส์ แขนของเขายื่นจากด้านหลังลั่วหานมาอยู่ข้างหน้า หลังมือกดแนบกับหน้าอกลั่วหาน ทำให้ร่างกายของลั่วหานสั่นสะท้านขึ้นมาทันที
ให้ตายเถอะ ตอนนี้เธอกำลังถูกล่อลวงอยู่สินะ
หลงเซียวรับรู้ถึงปฏิกิริยาของเธอ เขายิ้มออกมา เช่นนี้ดูท่า คนที่ทนความเหงาไม่ไหว คงจะเป็นเธอแล้วล่ะ
“ปรากฏตัวแล้ว”
ในภาพกล้องวงจรปิด ตู้หลิงเซวียนกำลังยืนอยู่ในห้องประชุมขนาดใหญ่ด้วยมาดสูงสง่า เงาทอดลงบนผนังด้านหนึ่ง เขาเพิ่งจะเปิด PPT ข้อมูลกับภาษาอังกฤษในนั้น เป็นแผนการทำงานประจำเดือนของบริษัทหลันเทียน
ลั่วหานไม่ได้สนใจกราฟหรืออะไรเลย แต่หลงเซียวมองแวบเดียวก็เข้าใจ แผนของตู้หลิงเซวียนในเดือนหน้าช่างใจกล้าอย่างมาก
จากนั้น ตู้หลิงเซวียนก็กดเล่นวิดีโอบนโทรศัพท์ “มาดูกันชัดๆ ด้านล่าง นี่คือลักษณะพิเศษของโฆษณาที่เรากำลังจะทำ”
ชาวอเมริกันผมบลอนด์กลุ่มหนึ่งในห้องประชุม จ้องที่หน้าจออย่างเชื่อฟัง รอให้เซอร์ไพรส์ปรากฏขึ้น
ตู้หลิงเซวียนนั่งลง หยิบกาแฟบนที่นั่งขึ้นมาจิบ พลางค่อยๆ ชื่นชมกับมัน
มีเสียงเหมือนของตกพื้น
วิดีโอเล่นอย่างเป็นทางการ แต่ภาพกลับมืดไม่ชัดเจน หลังผ่านไป 2 วินาที ปรากฏภาพแสงสีเขียวจางๆ ที่มาจากโคมไฟในตอนกลางคืน ในแสงสีเขียวนั้น คิดไม่ถึงว่าจะเป็นห้องนอนห้องหนึ่ง
มีชายคนหนึ่งนอนอยู่ในห้องนอน และมีเสียงกรนดังไปทั่วทั้งห้อง
“……” เกิดอะไรขึ้น นี่คือผลโฆษณาใช่ไหม
“……” อะไรน่ะ? พวกมันน่าจะเป็นวิดีโอโฆษณาอสังหาริมทรัพย์ที่ยิ่งใหญ่สิ อะไรกัน บนภาพเป็นโฆษณาเบาะที่นอนหรือไร ถึงนอนได้หลับพริ้มขนาดนั้น
ตู้หลิงเซวียนรับรู้ได้ว่ามีบางอย่างผิดปกติ ดวงตาของเขาเบิกกว้าง ห้องนอนนี้คุ้นตามาก มันคือบ้านของเขา!
แล้วคนบนเตียงก็คือเขาเอง!
ตู้หลิงเซวียนรีบจัดการโทรศัพท์เพื่อปิดวิดีโอ แต่เขาพยายามหลายครั้งก็ปิดไม่สำเร็จ ทันใดนั้นหน้าจอก็กะพริบ ปรากฏผู้หญิงเซ็กซี่หลายคนอยู่ในภาพ ภายใต้แสงไฟยามค่ำคืน คนสามคนบิดร่างอ้อนแอ้นไปมา เต้นรำอยู่ในห้องของเขา
นี่มันเกิดอะไรขึ้น!
คนในที่ประชุมกลั้นหายใจ มองไปที่ตู้หลิงเซวียน ราวกับเห็นตัวประหลาด คิดไม่ถึงว่าประธานจะมีงานอดิเรกพิเศษเช่นนี้ด้วย มันช่าง……
เซอร์ไพรส์มาก!
ลั่วหานสีหน้าค่อยๆ มืดมนลง “นี่คือ……”
หลงเซียวยิ้ม “คนที่นอนหลับอยู่คือตัวแสดงแทนเป็นตู้หลิงเซวียน ผู้หญิงเป็นสเปเชียลเอฟเฟค สเปเชียลเอฟเฟคของคุณชายกู้ อยู่ในระดับมืออาชีพของฮอลลีวูด เมื่อก่อนเขาเคยใช้วิธีเดียวกันนี้ในการแกล้ง……ผม”
ลั่วหาน “.…..”
ทำไมถึงอยากหัวเราะล่ะ
แล้วก็ฉันอยากรู้จริงๆ ว่าคุณชายกู้แกล้งอะไรเขา